2.ใช้ปากกาเขียนเส้นบริเวณปลายขวด จากนั้นก็ใช้หัวแร้งใบมีดตัดออก (ต้องเสียบหัวแร้งทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีค่ะ)
3.เช็ดขวดให้แห้งสนิท ลงมือวาดลายกันเลย วาดลายลงในกระดาษ ตามแบบที่ให้นะคะ จากนั้นก็สอดเข้าไปในขวด ใช้ปากกาวาดตามลายที่เขียนไว้
4.ตัด ขวดด้วยหัวแร้งใบมีด ตามลายที่วาดไว้ เทคนิคง่าย ๆ ตัดกลีบดอกให้ขาด เว้นช่วงก่อนถึงเกสรไว้ ยึดไม่ให้ดอกไม้หลุดจากขวด ส่วนใบไม้ให้ตัดเว้นเป็นช่วง ๆ เพื่อยึดติดกับขวด
โครงงานโคมไฟไม้ไอติม from Supaluck
บทที่3 วัสดุอุปกรณ์และการดำเนินงาน วัสดุอุปกรณ์ 1.กาวร้อน 2.หนังสือพิมพ์ 3.ไม้ไอติม 4.กาวทีโอที 5.สายไฟ 6.หลอดไฟ 7.กรรไก...
Posted by โคมไฟไม้ไอติมหรรษา on Monday, December 19, 2016บทที่ 3
บทที่ 3
วิธีการจัดทำโครงงาน
วัสดุและอุปกรณ์
วัสดุและอุปการณ์ที่ใช้ในการจัดทำโครงงานได้แก่
- ไม้ไอติม
- กาว
- หลอดไฟ
วิธีการจัดทำโครงงาน
- นำไม้ไอติมติมมาต่อเป็นกล่อง โดยใช้กาวยึดติดกัน
- หลังจากที่กาวแห้งแล้ว ให้นำกล่อม ไม้ไอติมมาวักกับหลอด
- ถ้าขนาดพอดีแล้ว นำหลอดไฟมาติดกับกล่อง เพื่อความสวยงาม
- ต่อสายไฟที่หลอดไฟ
- ทดสอบ
โครงงานคอม เรื่อง ไม้ไอติมสารพัดประโยชน์ได้รับความกรุณาจากคุณครูทุกท่าน ผู้ปกครองของนักเรียนที่ได้ให้คำแนะนำและสนับสนุนในการจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์คณะผู้จัดทำขอขอบคุณเป็นอย่างสูง
ณ โอกาสนี้ ขอขอบคุณครูและนักเรียนทุกคนที่ได้ให้ข้อมูลและมีสวนร่วมในการดำเนินกิจกรรมโครงงานคอมพิวเตอร์ทำให้เกิดประโยชน์ต่อตัวเองและคนอื่นๆขอขอบคุณคณะคุณครูและผู้ปกครองของนักเรียนที่ให้การสนับสนุนที่ได้ให้คำแนะนำและร่วมมือในการจัดโครงงานฟิสิกส์จนสำเร็จลุล่วงด้วยดี
หากมีข้อผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย
คณะผู้จัดทำ
1
บทที่ 1
ที่มาและความสำคัญของโครงงาน
ที่มาและความสำคัญของโครางงาน
พบว่าในปัจจุบันเรานั้นในสังคมไทยส่วนใหญ่เวลาต้องการสิ่งของสิ่งหนึ่งนั้นเราก็จะไปซื้อตามที่ต่างๆที่มีสิ่งของเหล่านั้น แต่พบว่ามีราคาสูงมาก กลุ่มของข้าพเจ้าเลยตั้งโครงงานชิ้นนี้ขึ้นมาเพื่อ คนที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อสิ่งของที่ต้องการ โดยกลุ่มของข้าพเจ้านั้นจะประดิษฐ์สิ่งของที่อยู่ใกล้ตัวเรา เช่น ประดิษฐ์สิ่งของจากไม้ไอติเพราะไม้ไอติมสามารถนำมาประดิษฐ์สิ่งของได้หลายอย่าง กลุ่มข้าพเจ้าเลยต้องการที่จะทำที่ผู้ซื้อสั่ง หรือทำตามความคิดของคนในกลุ่ม แล้วนำมาจำหน่ายให้กับคนที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายบางส่วนลง ต้องการความทนทาน คุ้มค่ามากที่สุด และสามารถนำไปใช้ชีวิตประจำวันมากที่สุด
วัตถุประสงค์
1.จัดทำมาเพื่อให้ได้ใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ
2.งานแต่ละชิ้นมีราคาไม่สูง ประหยัดต่อผู้ซื้อ
3.สามารถใช้งานได้นานกว่าอุปกรณ์บางชนิด
สมมุติฐานของการศึกษาค้นคว้า
เศษวัสดุเหลือใช้เช่นไม้ไอศกรีม สามารถนำมาดัดแปลง ตกแต่งให้เกิดประโยชน์ได้
ขอบเขตการศึกษา
- อำเภอกระสัง จ.บุรีรัมย์
- สมาชิกในกลุ่มทุกคน
2
ระยะเวลาในการดำเนินการ
ประมาณ 2-3 เดือน (30พฤษภาคม- 30สิงหาคม2556 )
เริ่มตั้งแต่การทำงาน จนเสร็จ และสำเร็จ
ประโยชน์ที่ได้รับ
1.ได้ปฏิบัติกิจกรรมตามความถนัดและความสนใจของตนเอง
2.ได้รับการฝึกทักษะและความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
3.ได้รู้จักการนำเศษวัสดุเหลือใช้มาดัดแปลง ประดิษฐ์ ตกแต่งให้เกิดประโยชน์
บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
ประวัติไม้ไอติม
เล่ากันว่า”ไอติม”มีต้นกำเนิดมาจากดินแดนในต่างประเทศ ทั้งนี้ได้แพร่กระจายเข้ามาในประเทศไทยเมื่อสมัยรัชกาลที่ 5 ในสมัยนั้นส่วนใหญ่จะใช้รับประทานกันแต่ภายในวังเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากไอศกรีมเป็นอาหารหวานที่ทันสมัยหรืออาจจะเรียกได้ว่าเป็นนวัตกรรมให้มาก็ว่าได้ ใครได้ลองรับประทานไอศกรีมในสมัยนั้นก็ถือว่า เป็นคนที่ก้าวล้ำนำสมัยไปโดยปริยาย
สืบสาวต้นกำเนิดไอศกรีมยุคโบราณ
จุดเริ่มต้นของไอศกรีมในระดับสากล นายโทมัส อาร์ควินนี่ เล่าว่า การรับประทานไอศกรีมน่าจะเริ่มต้นกันมาตั้งแต่สมัยจักรพรรดิเนโรห์ แห่งอนาจักรโรมันที่ได้พระราชทานเลี้ยงไอศกรีมแก่เหล่าทหารหาญที่อยู่ในกองทัพของพระองค์ แต่ในขณะนั้นไอศกรีมเกิดจากเป็นการนำหิมะมาผสมเข้ากับน้ำผึ้งและผลไม้ ต่อมาเรียกไอศกรีมประเภทนี้ว่า เชอร์เบ็ท(Sherbet)นั่นเอง แต่ตำนานนี้ก็หาได้เป็นแค่ตำนานเดียวที่เล่าสืบต่อกันมาถึงต้นกำเนิดของไอศกรีมไม่ หากแต่บางกระแสก็ระบุว่าบรรพชนของคนจีนค้นพบไอศกรีมเป็นครั้งแรก เมื่อประมาณ 4,000 ปีที่ผ่านมา ซึ่งลักษณะของไอศกรีมในประเทศจีนทำมาจากข้าวบดผสมกับนมสดที่เย็นจนเป็นนำแข็ง และได้มีการสอนให้ทำไอศกรีมให้กับคนอินเดียและชาวเปอร์เชียอีกด้วย การก่อกำเนิดไอศกรีมตาม
ตำนานประเทศจีนระบุว่า เป็นเรื่องของความบังเอิญแท้ๆ ทั้งนี้เป็นที่ทราบกันดีว่าประเทศจีนในสมัยนั้นเพิ่งจะมีการรู้จักรีดนมจากสัตว์เลี้ยงที่อยู่ในฟาร์ม เมื่อรีดออกมาจำนวนมากก็บริโภคไม่หมด ประกอบกับน้ำนมเป็นสินค้าที่มีราคาแพงมากๆ คนชั้นสูงเห็นท่าไม่ดีจึงเกิดแนวคิดนำน้ำนมไปหมกซ่อนไว้ในหิมะนัยว่าเพื่อ
ต้องการที่จะถนอมน้ำนมเอาไว้รับประทานได้นานๆเกิดขึ้นด้วยความบังเอิญแท้ๆ จนกระทั่งน้ำนมที่นำไปหมกไว้ในหิมะกลายเป็นนมแช่แข็งขึ้นมาในบัดดล จากนั้นก็มีการพัฒนารูปแบบจากนมแช่แข็งที่แสนจะสุดธรรมดาให้กลายเป็นน้ำผลไม้แช่แข็ง ในส่วนของราชวงศ์โมกุลได้นำเอานมต้มมาผสมกับถั่วพิสตาซิโอจนเกิดเป็นของหวานแช่แข็งเรียกกันว่า Kulfi ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นแบบแผนของไอศกรีมในยุคโบราณ
4
จนปลายศตวรรษที่ 13 มาร์โคโปโล เดินทางไปจีน และชื่นชอบ จึงนำสูตรกลับไป อิตาลีขณะเดินทางมีการเติมนมลงไป กลายเป็นสูตร ของเขาโดยเฉพาะ และแพร่หลายไปในอิตาลี ฝรั่งเศสและข้ามไปอังกฤษ
คนอิตาลีถือว่าตนเองเป็นต้นตำรับไอศกรีมแบบที่นำมาปั่นให้เย็นจนแข็ง เรียกว่าเจลาติ (Gelati)ประเทศอิตาลีและมีการพัฒนาไปมากจนทำให้อิตาลีได้ชื่อว่าเป็นแหล่งไอศกรีมเลิศรสเลยทีเดียว ขณะเดียวกันคนอิตาลีมักจะทึกทักเอาว่าบรรพชนของตนเป็นคนค้นพบไอศกรีมเป็นครั้งแรกเสมอมา
แถบยุโรปประมาณ ค.ศ.1670 ฟรานเอสโก ได้นำไอศกรีมไปจำหน่ายภายในร้านกาแฟของเขาเพื่อให้บริการลูกค้าของเขาปรากฏว่าได้รับความสนใจกันอย่างกว้างขวางมากทีเดียวไอศกรีมได้รับการพัฒนากระบวนการผลิตขึ้น
เรื่อยๆ จนกระทั่ง ค.ศ.1846 นางแนนซี่ จอห์นสัน ก็สามารถสร้างเครื่องผลิตไอศกรีมขึ้นมาได้เป็นครั้งแรก และนับเป็นจุดที่ทำให้ไอศกรีม เผยแพร่เข้าไปทั่วโลกก็ว่าได้
เส้นทางการแพร่หลายของเจ้าไอติม ที่น่าสนใจก็คือเมื่อประมาณศตวรรษที่ 14 ไอศกรีมได้แพร่หลายเข้าไปในประเทศเทศอิตาลีและฝรั่งเศส ซึ่งในประวัติศาสตร์ ของไอศกรีมช่วงนี้ระบุว่า ในงานฉลองอภิเษกสมรสระหว่างแคเธอรีน เดอ เมดิซี แห่งเวนิชกับกษัตริย์เฮนรี่ที่ 2 ของฝรั่งเศสได้มีการนำ ของหวานกึ่งแช่แข็งมาเสริฟแขกเหรือที่มาร่วมงาน สำหรับรูปร่างหน้าตาเหมือนกับไอศกรีมไม่มีผิดเพี้ยน และนี้ก็เป็นอีกจุดหนึ่งทำให้ ไอศกรีมกลายเป็นของหวานของคนค่อนโลกไปโดยปริยาย
เล่ากันว่าในช่วงแรกๆที่มีไอศกรีมต้องผ่านการผลิตที่ค่อนข้างจะยุ่งยากเนื่องจากต้องใช้เวลาและต้องลงแรงตามสมควร เมื่อได้ผลิตผลจากการลงแรงที่เป็นไอศกรีมเย็นเฉียบแล้ว ก็ต้องเกณฑ์คนมาช่วยกันรับประทานให้หมดมิเช่นนั้นแล้วไอศกรีมก็จะละลายกลายเป็นน้ำไปในเวลาอันรวดเร็ว กลายเป็นการลงทุนที่สูญเปล่าในที่สุด
การแพร่หลายของไอศกรีมจากฝรั่งเศสเข้าไปอเมริกา ในช่วงต้นศตวรรษที่ 17 จนไอศกรีมกลายเป็นของหวานที่ผู้คนชื่นชอบกันมากในช่วงนี้ ตำนานไอศกรีมในสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะ “ไอศกรีมซันเดย์” ได้ถือกำเนิดขึ้นท่ามกลางความอึมครึมเนื่องจากยังไม่มีข้อสรุปที่แน่ชัดว่าเกิดขึ้นในรัฐไหนกัน
แน่ แต่ที่แน่ๆในราวๆปี พ.ศ. 2435 ไอศกรีมซันเดย์ได้ถือกำเนิดขึ้นท่ามกลางความตื่นเต้นของอเมริกันชนสมัยนั้นอย่างถ้วน
5
ความรู้เกี่ยวกับไอศกรีมชนิดต่างๆ
ไอศกรีม เป็นของหวานแช่แข็ง มีส่วนประกอบสำคัญ คือ นม ไขมัน น้ำตาล ผสมกับเครื่องปรุงรสอื่นๆไอศกรีมมีหลายชนิดสามารถแบ่งตามชนิดต่างๆ ได้ดังนี้
- ไอศกรีม ( lce Cream ) มีส่วนผสมของนม น้ำตาล ไขมันและเครื่องปรุงรส อื่นๆเช่นช็อกโกแลตวานิลลากาแฟหรือผลไม้เช่นสตรอเบอร์รี่ข้าวโพดเผือกเป็น ส่วนประกอบไอศกรีมพรีเมี่ยม มีส่วนผสมของไขมันมากที่สุด ในประเภทของ ไอศกรีมทุกชนิด การบริโภคไอศกรีมทั่วโลกคิดเป็น 70%ของบริมาณของหวาน แช่แข็งทั้งหมด
- ไอศกรีมหวานเย็นผสมนม ( Milk lce or lce Milk) มีปริมาณไขมันน้อยกว่า ไอศกรีมมีส่วนผสมของนม น้ำตาลและเครื่องปรุงรสอื่นๆสามารถผลิต ไอศกรีม ชนิดนี้ใด้ทั้งแบบเนื้อนุ่มและแบบเนื้อแข็ง
- เชอร์เบท (Sherbet) ไม่มีไขมัน มีส่วนผสมสำคัญคือน้ำผลไม้และน้ำตาล มีนมเป็นส่วนประกอบเพียงเล็กนัอยรสชาติออกเปรี้ยวและหวาน เนื้อไอศกรีม เชอร์เบทเหนียว เนียนละเอียด สีสวยสดใส
- ซอร์เบท์ (Sorbet) ไม่มีไขมัน มีส่วนผสมสำคัญ คือ ผลไม้(น้ำผลไมัหรือชิ้น เนื้อผลไม้บด) และน้ำตาล ซอร์เบท์มีปริมาณน้ำตาลมากที่สุดเนื้อไอศกรีมมี ลักษณะเป็นเกล็ดละเอียด นุ่มได้รสชาติผลไม้เข้มข้น
- ไอศกรีมหวานเย็น (Water Ice) ไอศกรีมหวานเย็น มีส่วนผสมหลัก คือ น้ำตาล น้ำเครื่องปรุงรสและกลิ่น ไม่มีส่วนผสมของไขมันมีปริมาณน้ำมากที่สุด สีและรส เป็นส่วนผสมสำคัญเพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีสีสัน และรสชาติที่ต้องการส่วนใหญ่มี ลักษณะ เป็นแท่ง
- ไอศกรีมโยเกิร์ต (Y๐hGurt Ice Cream)มีส่วนผสมหลักคือไอศกรีมและโยเกิร์ต ซี่งจะให้รสชาติหวานกลมกล่อมแบบไอศกรีม และเปรี้ยวเล็กนัอยแบบโยเกิร์ต สามารถผลิตไอศกรีมโยเกิร์ตได้หลากหลายรสชาติเหมือนไอศกรีมทั่วไปแต่โดย ส่วนใหญ่จะใช้รสชาติผลไม้เป็นหลัก
6
บทที่ 3
วิธีการดำเนินการ
- วัสดุและอุปกรณ์
1.1ไม้ไอติม
1.2 กาว
1.3 กรรไกร
1.4 คัดเตอร์
1.5 หลอดไฟ
1.6 สายไฟ
1.7 ปลั๊กไฟ
- ขั้นตอนการทำไม้ไอติมสารพัดประโยชน์
1.ทาสีไม้ไอติม
2.แตกให้แห้ง
- นำไม้ไอติมมาประกอบกันเป็นรูปร่าง
4.ใส่หลอดไฟ
5.ตกแต่งให้สวยงาม
7
ตาราวปฏิบัติงาน
ขั้นตอนการศึกษาระยะเวลาดำเนินงาน1.กำหนดปัญหา4 / พ.ย / 562.ศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้องกับเรื่องไม้ไอติมสารพัดประโยชน์10 / พ.ย / 563.รวบรวมข้อมูลที่ได้จากการสืบค้น12 / พ.ย / 564.ศึกษาค้นคว้าจากอินเทอร์เน็ต15 / พ.ย / 568
บทที่ 4
ผลการดำเนินการ
จากที่ได้ลงมือปฎิบัติกิจกรรมตามโครางงานไม้ไอติมสารพัดประโยชน์มีการร่วมกันสืบค้นและสอบถามข้อมูลตามหมู่บ้านต่างๆจากผู้ปกครองของนักเรียน ผู้ปกครองให้ความร่วมมือในการทำการโครางงานได้ดี
9
บทที่ 5
สรุปผลการดำเนินงาน
สรุป อภิปราย และข้อเสนอแนะ
5.1 สรุปผลการศึกษา
จากการศึกษาค้นคว้าโครงงานเรื่องไม้ไอติมสารพัดประโยชน์ ผลการศึกษาพบว่า
- ไม้ไอติสามารถนำมาทำโคมไฟได้จริง
- ไม้ไอติสามารถนำใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง
- ไอติมที่กินเหลือแต่ไม้ก็สามารถนำไปประดิษฐ์ได้หลายอย่าง
จากการที่พวกเราได้ศึกษาไม้ไอติมสารพัดประโยชน์ทำให้พวกเรารู้จักใช้ไม้ไอติมให้เกิดประโยชน์ของนักเรียนในกลุ่ม ได้ผลสรุปผลการดำเนินโครางงาน ดังนี้
ในการศึกษาไม้ไอติมสารพัดประโยชน์จากผู้ปกครองของนักเรียนและประชาชนได้รู้จักการใช้
ไม้ไอติมเพิ่มมากขึ้นและวิธีการใช้ไม้ไอติมให้เกิดประโยชน์ในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่นนำไม้ไอติมมาประดิษฐ์เพื่อไว้ใช้ภายในบ้าหรือจำหน่ายเพื่อเป็นรายได้อีกทางหนึ่ง