คำส งอน ม ต ให ข าราชการคร ไปราชการ

  • หน้าหลัก
  • * ผู้บริหาร กกจ.
    • * ฝ่ายบริหารทั่วไป
      • กลุ่มอัตรากำลังและพัฒนาระบบงาน
      • กลุ่มพัฒนาบุคคล
      • ฝ่ายบรรจุแต่งตั้งและทะเบียนประวัติ
      • ฝ่ายสรรหาและประเมินประสบการณ์
      • กลุ่มงานเสริมสร้างวินัยและพิทักษ์คุณธรรม
      • กลุ่มงานจริยธรรม กปส.
    • อำนาจหน้าที่/วิสัยทัศน์/พันธกิจ
    • นโยบายการบริหารบุคลากร
      • HR Scorecard
      • แผนกลยุทธ์การบริหารทรัพยากรบุคคล
      • แผนเสริมสร้างความผูกพันของบุคลากร
      • หลักเกณฑ์การบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคล
      • รายงานผลการบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคลประจำปี
      • นโยบายการบริหารทรัพยากรบุคคล
      • การดำเนินการตามนโยบายการบริหารทรัพยากรบุคคล
    • หน่วยงานกรมประชาสัมพันธ์
  • บริการ
    • * การประเมินผลการปฏิบัติงาน
      • การทดลองปฏิบัติราชการ (ข้าราชการบรรจุใหม่)
      • บำเหน็จ บำนาญ
      • การประเมินผลงานวิชาการ
      • การสรรหาและเลือกสรรบุคคลเพื่อเป็นข้าราชการ
      • เครื่องราชอิสริยาภรณ์
      • กฏ ระเบียบ หลักเกณฑ์
      • แบบฟอร์มต่างๆ
      • การทำบัตรข้าราชการ
      • ขรก.ดีเด่น / จนท.ตัวอย่าง
      • เครื่องแบบข้าราชการ
    • พนักงานราชการ
      • คู่มือ / ระเบียบ
      • ประกาศคณะกรรมการบริหารพนักงานราชการ
      • หนังสือเวียน
      • แบบฟอร์มต่างๆ
      • การประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานราชการ
    • ลูกจ้างประจำ
      • กฏ ระเบียบ หลักเกณฑ์
      • สิทธิประโยชน์
      • แบบฟอร์มต่างๆ
      • การประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลการปฏิบัติงานของลูกจ้างประจำ
    • ลูกจ้างชั่วคราว
      • กฏ ระเบียบ หลักเกณฑ์
      • แบบฟอร์มต่างๆ
    • ขั้นตอนการให้บริการใน กกจ.
    • ข้อมูล / หลักเกณฑ์
      • การวางแผนกำลังคนและกรอบอัตรากำลัง
      • การสรรหาและคัดเลือกบุคลากร
      • การพัฒนาบุคลากร
      • การบรรจุและแต่งตั้งบุคลากร
      • การประเมินผลการปฏิบัติงาน
      • การให้คุณให้โทษและการสร้างขวัญกำลังใจ
    • แจ้งอีเมลลงทะเบียนเข้าใช้งาน DPIS
  • * ข่าวสารประชาสัมพันธ์ทั่วไป
    • ข่าวสารกิจกรรม
    • ประกาศจัดซื้อจัดจ้าง
    • ทุนศึกษา / อบรม
    • ประกาศ / คำสั่ง / ระเบียบ / หนังสือเวียน
    • ตำแหน่งว่าง
  • Learning Zone
  • อินทราเน็ต
  • ติดต่อเรา

11/10/2564 | 2,606 |

ตัวอย่างบันทึกขออนุญาตไปต่างประเทศ.pdf |

ใบลาไปต่างประเทศ.pdf |

กองการเจ้าหน้าที่ ชั้น 3 เลขที่ 9 กรมประชาสัมพันธ์ ซอยอารีย์สัมพันธ์ แขวงพญาไท เขตพญาไท กรุงเทพ 10400 โทรศัพท์ 02-618 2323 ต่อ 1319 Email: personnel@prd.go.th

สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ.2563 กรมประชาสัมพันธ์

กศจ. มีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาการขอบรรจุกลับเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ใน 3 กรณี ดังนี้ 1. การบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ออกจากราชการไปแล้วสมัครเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (หลักเกณฑ์และวิธีการบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ออกจากราชการไปแล้วสมัครเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.2/ว 9 ลงวันที่ 21 พฤษภาคม 2556) 2. การบรรจุและแต่งตั้งผู้ไปปฏิบัติงานตามมติคณะรัฐมนตรีกลับเข้ารับราชการ (หลักเกณฑ์และวิธีการบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ออกจากราชการไปปฏิบัติงานตามมติคณะรัฐมนตรีกลับเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.2/ว 10 ลงวันที่ 21 พฤษภาคม 2556) 3. การบรรจุและแต่งตั้งผู้ออกจากราชการเพื่อไปรับราชการทหารกลับเข้ารับราชการ หลักเกณฑ์และวิธีการบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ออกจากราชการไปรับราชการทหารกลับเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.2/ว 11 ลงวันที่ 21 พฤษภาคม 2556)

1. การบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ออกจากราชการไปแล้วสมัครเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.2/ว 9 ลงวันที่ 21 พฤษภาคม 2556)

สรุปสาระสำคัญของหลักเกณฑ์และวิธีการ หลักเกณฑ์ 1. ต้องเป็นกรณีที่มีเหตุผลความจำเป็นและเป็นประโยชน์ต่อทางราชการ 2. ผู้สมัครเข้ารับราชการต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติทั่วไปตามมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2557 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และมีคุณสมบัติเฉพาะ ตามมาตรฐานตำแหน่งหรือมาตรฐานวิทยฐานะที่บรรจุและแต่งตั้ง 3. ไม่เป็นผู้ที่ออกจากราชการในระหว่างทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการหรือเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม และจะต้องออกจากราชการไปแล้วไม่เกิน 3 ปี เว้นแต่ กรณีผู้ออกจากราชการไปดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือลาออกจากราชการเพื่อติดตามคู่สมรสที่ไปปฏิบัติหน้าที่ราชการ หรือปฏิบัติงาน ในต่างประเทศ ตามระเบียบว่าด้วยการลาของข้าราชการ 4. ต้องมีอายุไม่เกิน 50 ปี ในวันที่ยื่นคำขอสมัครเข้ารับราชการ 5. ต้องไม่มีบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ ผู้สอบคัดเลือกได้ หรือผู้ได้รับคัดเลือก ในตำแหน่งนั้นขึ้นบัญชี รอการบรรจุและแต่งตั้ง เว้นแต่ที่กรณีที่ระบุไว้ในหลักเกณฑ์นี้ 6. ตำแหน่งที่จะบรรจุและแต่งตั้ง จะต้องเป็นตำแหน่งว่างและมีอัตราเงินเดือน และมีอัตรากำลัง ไม่เกินเกณฑ์และหรือกรอบอัตรากำลังที่ ก.ค.ศ. กำหนด 7. ในการบรรจุและแต่งตั้ง ให้ได้รับเงินเดือนในอันดับและขั้นหรืออัตราที่ไม่สูงกว่าที่ได้รับอยู่เดิม ก่อนออกจากราชการ หากมีการปรับบัญชีเงินเดือนก็ปรับให้ผู้นั้นด้วย

วิธีการ 1. ผู้สมัครยื่นคำขอต่อหน่วยงานการศึกษาและส่วนราชการ พร้อมเอกสารหลักฐานตามแบบที่ ก.ค.ศ. กำหนด 2. ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 พิจารณาจากคุณวุฒิ ความประพฤติ ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ ผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมา เหตุผลความจำเป็นและประโยชน์ที่ทางราชการจะได้รับ 3. หน่วยงานการศึกษาหรือส่วนราชการนำเสนอ กศจ. พิจารณาอนุมัติ 4. ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 ดำเนินการสั่งบรรจุและแต่งตั้ง และจัดส่งสำเนาคำสั่ง จำนวน 1 ชุด ไปยังสำนักงาน ก.ค.ศ. ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ออกคำสั่ง

อำนาจหน้าที่ของ กศจ. กศจ. พิจารณาอนุมัติ/ไม่อนุมัติ หรือเสนอ ก.ค.ศ. พิจารณา กรณีที่ต่างไปจากหลักเกณฑ์นี้

ข้อพึงระวัง 1. ไม่เป็นผู้ที่ออกจากราชการในระหว่างทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการหรือเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม 2. ออกจากราชการไปแล้วไม่เกิน 3 ปี เว้นแต่ กรณีผู้ออกจากราชการไปดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือลาออกจากราชการเพื่อติดตามคู่สมรสที่ไปปฏิบัติหน้าที่ราชการ หรือปฏิบัติงานในต่างประเทศ ตามระเบียบว่าด้วยการลาของข้าราชการ 3. ต้องมีอายุไม่เกิน 50 ปี ในวันที่ยื่นคำขอสมัครเข้ารับราชการ 4. ต้องไม่มีบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ ในตำแหน่งที่ขอบรรจุกลับ เว้นแต่ เป็นกรณีออกจากราชการไปดำรงตำแหน่งทางการเมือง ไปลงรับสมัครเลือกตั้ง ติดตามคู่สมรสไปปฏิบัติหน้าที่ราชการหรือปฏิบัติงานในต่างประเทศ ตามระเบียบว่าด้วยการลาของข้าราชการ หรือเนื่องจากทางราชการเลิกหรือยุบหน่วยงาน หรือยุบตำแหน่ง กรณีนี้ ต้องยื่นสมัครเข้ารับราชการภายใน 60 วัน นับตั้งแต่วันที่พ้นจากตำแหน่ง

2. การบรรจุและแต่งตั้งผู้ไปปฏิบัติงานตามมติคณะรัฐมนตรีกลับเข้ารับราชการ (ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.2/ว 10 ลงวันที่ 21 พฤษภาคม 2556)

สรุปสาระสำคัญของหลักเกณฑ์และวิธีการ หลักเกณฑ์ 1. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหรือส่วนราชการเดิมต้องสงวนตำแหน่งไว้ 2. ผู้สมัครเข้ารับราชการต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติทั่วไปตามมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2557 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และมีคุณสมบัติเฉพาะตามมาตรฐานตำแหน่งหรือมาตรฐานวิทยฐานะที่บรรจุและแต่งตั้ง มีประวัติและผลการปฏิบัติงานที่ดีไม่มีความเสียหาย โดยมีหนังสือรับรองประวัติการปฏิบัติงานจากหัวหน้าหน่วยงานหรือผู้บังคับบัญชาระดับผู้อำนวยการกองหรือเทียบเท่าขึ้นไป 3. ยื่นคำขอต่อส่วนราชการต้นสังกัดเดิมภายในกำหนดเวลาที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ แต่ไม่เกิน 4 ปี นับแต่วันไปปฏิบัติหน้าที่ตามมติคณะรัฐมนตรี 4. บรรจุและแต่งตั้งในตำแหน่งและวิทยฐานะเดิม หรือตำแหน่งเดิมและระดับที่ไม่สูงกว่าเดิม ทั้งนี้หน่วยงานที่บรรจุแลแต่งตั้งต้องมีอัตรากำลังไม่เกินเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ. กำหนด 5. การให้ได้รับเงินเดือน หากในระหว่างที่ผู้นั้นออกจากราชการไป มีการปรับบัญชีเงินเดือนปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุตามคุณวุฒิใหม่ และมีการปรับเงินเดือนชดเชยสำหรับผู้ที่รับราชการอยู่ก่อนการปรับเงินเดือนแรกบรรจุในช่วงเวลาใด ก็ให้ผู้นั้นได้รับการปรับเงินเดือน ปรับเงินเดือนชดเชยเช่นเดียวกันด้วย โดยคำนวณเป็นอัตราเงินเดือนการบรรจุและแต่งตั้ง

วิธีการ 1. ผู้ขอกลับเข้ารับราชการต้องยื่นคำขอต่อส่วนราชการเดิมพร้อมหนังสือรับรองประวัติการปฏิบัติงาน ก่อนสิ้นสุดวันที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ไปปฏิบัติงาน ไม่น้อยกว่า 30 วัน 2. ส่วนราชการตรวจสอบเอกสารและประวัติการปฏิบัติงาน และนำเสนอ กศจ. พิจารณาอนุมัติ 3. ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 ดำเนินการสั่งบรรจุและแต่งตั้ง และจัดส่งสำเนาคำสั่ง จำนวน 1 ชุด ไปยังสำนักงาน ก.ค.ศ. ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ออกคำสั่ง

อำนาจหน้าที่ของ กศจ. กศจ. พิจารณาอนุมัติ/ไม่อนุมัติ หรือเสนอ ก.ค.ศ. พิจารณา กรณีที่ต่างไปจากหลักเกณฑ์นี้

ข้อพึงระวัง 1. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหรือส่วนราชการเดิมต้องสงวนตำแหน่งไว้ 2. มีประวัติและผลการปฏิบัติงานที่ดีไม่มีความเสียหาย โดยมีหนังสือรับรองประวัติการปฏิบัติงานจากหัวหน้าหน่วยงานหรือผู้บังคับบัญชาระดับผู้อำนวยการกองหรือเทียบเท่าขึ้นไป 3. ยื่นคำขอต่อส่วนราชการต้นสังกัดเดิมภายในกำหนดเวลาที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ แต่ไม่เกิน 4 ปี นับแต่วันไปปฏิบัติหน้าที่ตามมติคณะรัฐมนตรี 4. การได้รับเงินเดือนให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์นี้ 5. ผู้ขอกลับเข้ารับราชการต้องยื่นคำขอต่อส่วนราชการเดิมก่อนวันสิ้นสุดกำหนดเวลาที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ไปปฏิบัติงานไม่น้อยกว่า 30 วัน

3. การบรรจุและแต่งตั้งผู้ออกจากราชการเพื่อไปรับราชการทหารกลับเข้ารับราชการ (ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ 0206.2/ว 11 ลงวันที่ 21 พฤษภาคม 2556)

สรุปสาระสำคัญของหลักเกณฑ์และวิธีการ หลักเกณฑ์ 1. หน่วยงานการศึกษาหรือส่วนราชการเดิมต้องสงวนตำแหน่งไว้ 2. ผู้สมัครเข้ารับราชการต้องเป็นผู้มีคุณสมบัติทั่วไปตามมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2557 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และมีคุณสมบัติเฉพาะตามมาตรฐานตำแหน่งหรือมาตรฐานวิทยฐานะที่บรรจุและแต่งตั้ง ในระหว่างไปรับราชการทหารมิได้กระทำการใดๆ อันเสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง หรือได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง โดยต้องมีหนังสือรับรองประวัติการรับราชการทหารจากผู้บังคับบัญชา ตั้งแต่ผู้บังคับกองพันหรือตำแหน่งที่เทียบเท่าขึ้นไป 3. ยื่นคำขอกลับเข้ารับราชการภายใน 180 วัน นับแต่วันพ้นจากราชการทหาร 4. บรรจุและแต่งตั้งในตำแหน่งและวิทยฐานะเดิม หรือตำแหน่งเดิมและระดับที่ไม่สูงกว่าเดิม ทั้งนี้หน่วยงานที่บรรจุและแต่งตั้งต้องมีอัตรากำลังไม่เกินเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ. กำหนด 5. การให้ได้รับเงินเดือน หากในระหว่างที่ผู้นั้นออกจากราชการไป มีการปรับบัญชีเงินเดือน ก็ให้ผู้นั้นได้รับการปรับเงินเดือนด้วย

วิธีการ 1. ผู้ขอกลับเข้ารับราชการต้องยื่นคำขอต่อหน่วยงานการศึกษาเดิมหรือส่วนราชการเดิมพร้อมหนังสือรับรองประวัติการรับราชการทหาร ภายใน 180วัน นับแต่วันพ้นจากราชการทหาร 2. หน่วยงานการศึกษาหรือส่วนราชการตรวจสอบเอกสารและประวัติการรับราชการทหาร และนำเสนอ กศจ. พิจารณาอนุมัติ 3. ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 ดำเนินการสั่งบรรจุและแต่งตั้ง และจัดส่งสำเนาคำสั่ง จำนวน 1 ชุด ไปยังสำนักงาน ก.ค.ศ. ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ออกคำสั่ง

อำนาจหน้าที่ของ กศจ. กศจ. พิจารณาอนุมัติ/ไม่อนุมัติ หรือเสนอ ก.ค.ศ. พิจารณา กรณีที่ต่างไปจากหลักเกณฑ์นี้

ข้อพึงระวัง 1. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหรือส่วนราชการเดิมต้องสงวนตำแหน่งไว้ 2. ในระหว่างไปรับราชการทหารมิได้กระทำการใดๆ อันเสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง หรือได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง โดยต้องมีหนังสือรับรองประวัติการรับราชการทหารจากผู้บังคับบัญชา ตั้งแต่ผู้บังคับกองพันหรือตำแหน่งที่เทียบเท่าขึ้นไป 3. บรรจุและแต่งตั้งในตำแหน่งและวิทยฐานะเดิม หรือตำแหน่งเดิมและระดับที่ไม่สูงกว่าเดิม ทั้งนี้หน่วยงานที่บรรจุและแต่งตั้งต้องมีอัตรากำลังไม่เกินเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ. กำหนด

Toplist

โพสต์ล่าสุด

แท็ก

แปลภาษาไทย ไทยแปลอังกฤษ แปลภาษาอังกฤษเป็นไทย pantip โปรแกรม-แปล-ภาษา-อังกฤษ พร้อม-คำ-อ่าน อาจารย์ ตจต ศัพท์ทหาร ภาษาอังกฤษ pdf lmyour แปลภาษา ชขภใ ห่อหมกฮวกไปฝากป้าmv กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมฟรี 2566 ขขขขบบบยข ่ส ศัพท์ทางทหาร military words หนังสือราชการ ตัวอย่าง หยน แปลบาลีเป็นไทย ไทยแปลอังกฤษ ประโยค การไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ข้อสอบโอเน็ต ม.3 ออกเรื่องอะไรบ้าง พจนานุกรมศัพท์ทหาร เมอร์ซี่ อาร์สยาม ล่าสุด แปลภาษามลายู ยาวี Bahasa Thailand กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน อบรมออนไลน์ การ์ดจอมือสอง ข้อสอบคณิตศาสตร์ พร้อมเฉลย คะแนน o-net โรงเรียน ค้นหา ประวัติ นามสกุล บทที่ 1 ที่มาและความสําคัญของปัญหา ร. ต จ แบบฝึกหัดเคมี ม.5 พร้อมเฉลย แปลภาษาอาหรับ-ไทย ใบรับรอง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน PEA Life login Terjemahan บบบย มือปราบผีพันธุ์ซาตาน ภาค2 สรุปการบริหารทรัพยากรมนุษย์ pdf สอบโอเน็ต ม.3 จําเป็นไหม เช็คยอดค่าไฟฟ้า แจ้งไฟฟ้าดับ แปลภาษา มาเลเซีย ไทย แผนที่ทวีปอเมริกาเหนือ ่้แปลภาษา Google Translate กระบวนการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 8 ขั้นตอน ก่อนจะนิ่งก็ต้องกลิ้งมาก่อน เนื้อเพลง ข้อสอบโอเน็ตม.3 มีกี่ข้อ คะแนนโอเน็ต 65 ตม กรุงเทพ มีที่ไหนบ้าง