สำหรับในเรื่องของแอปพลิเคชัน จาก mac OS นั้นสามารถเข้าถึงแอปได้อย่างทั่วไปและหลากหลาย แต่ซึ่งส่วนใหญ่แล้วคนที่เลือกใช้ระบบปฏิบัติการนี้นั้นมักจะเป็นผู้ที่ต้องการแอปเฉพาะทางที่มีความเสถียรสูงสุดบนระบบปฏิบัติการนี้ เช่นในกลุ่มของสายผู้ผลิตเพลงซึ่งทาง mac OS นั้นก็ให้ซอฟต์แวร์ Logic Pro ระดับไฮเอนด์จากแบรนด์ Apple เอง รวมถึงแอป GarageBand ที่ใช้งานง่ายในระบบปฏิบัติการนี้ หรือจะเป็นสายงานของกราฟิกและตัดต่อ ที่ต้องใช้โปรแกรมตัดต่อรูปภาพและวิดีโอ ก็สามารถใช้งานแอปยอดนิยมของ Apple เท่านั้น เช่น Final Cut Pro และ Pixelmator ได้อีกด้วย และอย่างที่บอกไปข้างต้นด้วยความรวดเร็วของระบบนี้ ผู้คนจำนวนมากในสายงานกราฟิกจึงเลือกระบบนี้มาใช้งานมากกว่าระบบปฏิบัติการ Windows เสียอีก
แต่สำหรับระบบปฏิบัติการ Windows นั้นตัวแอปพลิเคชันที่ทำออกมาเพื่อรองรับการทำงานของสายงานอื่น ๆ ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีพอสมควรซึ่งไม่ว่าจะซื้อไปเพื่อใช้ทำงานอะไรนั้นก็สามารถทำได้อย่างสบาย ๆ แต่ถ้าจะมีเรื่องของแอปที่สามารถเอาชนะระบบ mac OS แบบขาดรอยนั้นก็ต้องเรื่องของแอปพลิเคชัน เกม นั่นเอง เพราะตัวของระบบ Windows นั้นเรียกได้ว่าสามารถรองรับและเล่นเกมได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเกมระดับทั่วไปจนไปถึงเกมระดับ AAA ก็สามารถหาซื้อ หาโหลดมาเล่นกันได้อย่างสบาย เรียกได้ว่าใครที่กำลังอยากจะหาซื้อระบบปฏิบัติการเพื่อนำมาเล่นเกม รวมไปถึงการเอาดีทางด้านของการสตรีมมิ่งนั้น ระบบปฏิบัติการอย่าง Windows นั้นคือสิ่งที่คุณต้องเลือกมาใช้งานเลยล่ะครับ
3. เรื่องของงบในกระเป๋า
และที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการตัดสินใจซื้อนั้นก็ต้องเป็นเรื่องของ งบในกระเป๋า ว่าเรานั้นมีต้นทุน หรือเงินเก็บที่จะนำไปซื้อนั้นมีเท่าไหร่ โดยตัวของ Macbook ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ mac OS นั้น ราคาเริ่มต้นก็อยู่ที่ราว ๆ สองหมื่นบาทขึ้นไป ซึ่งทางด้านของระบบปฏิบัติการอย่าง Windows นั้นที่มีอยู่ในโน๊ตบุ๊คของทุกแบรนด์นั้นก็สามารถเลือกใช้งานได้ตั้งแต่ราคาหลักพันไปจนถึงหลักแสน ซึ่งก็ต้องตรวจสอบเงินในกระเป๋าของเราให้ดี ๆ ว่าสามารถซื้อมาใช้งานได้หรือไม่ หรือว่าเมื่อซื้อมาแล้วสามารถตจ่อยอดงานที่เราทำให้ผลกำไรนั้นงอกเงยตามมาหรือไม่ ซึ่งหากงานที่ทำนั้นต้องการระบบแบบใดก็ลงทุนครั้งเดียวให้ได้ที่ต้องการกับงานของตัวเอง เรียกว่าเจ็บแต่จบ ครั้งเดียวคุ้มใช้ยาว ๆ ไปเลยครับ
เป็นยังไงกันบ้างครับกับ macOS vs Windows ระบบปฏิบัติการไหนน่าใช้กว่ากัน ที่ทาง Mercular นั้นได้นำมาเสนอให้แก่ทุกคน ซึ่งการเลือกซื้อทั้งสามปัจจัยนี้ก็ถือว่าเป็นปัจจัยใหญ่ ๆ ที่เอามาลองช่างน้ำหนักดูเพื่อช่วยในการตัดสินใจซื้อระบบปฏิบัติการทั้งสองนี้มาใช้งาน ใครที่สะดวกและจำเป็นแบบไหนนั้น ก็จัดระบบฏิบัติการที่ชอบมาใช้งานกันเลยครับ
ครอบครัวของระบบปฏิบัติการแมคอินทอชพัฒนาโดยแอปเปิ้ลอิงค์รวมถึงอินเตอร์เฟซผู้ใช้แบบกราฟิก -based ระบบปฏิบัติการมันได้รับการออกแบบสำหรับการใช้งานกับเครื่องแมคอินทอชชุดของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลตั้งแต่ปี 1984 เช่นเดียวกับการที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์ระบบที่มันเคยสร้างขึ้นสำหรับการเข้ากันได้ของบุคคลที่สามระบบต่างๆ
ในปี 1984 แอปเปิ้ลออกมาระบบปฏิบัติการที่เป็นที่รู้จักกันในขณะนี้เป็น"คลาสสิก" Mac OSกับการเปิดตัวของเดิมซอฟต์แวร์ระบบ Macintoshระบบซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็น "Mac OS" ในปี 1996 ได้รับการติดตั้งล่วงหน้าใน Macintosh ทุกเครื่องจนถึงปี 2002 และนำเสนอบนMacintosh โคลนในช่วงเวลาสั้นๆ ในปี 1990 สังเกตได้จากความสะดวกในการใช้งาน และยังถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยเมื่อเทียบกับคู่แข่ง[1] [2]
ระบบปฏิบัติการ Mac ปัจจุบันคือmacOSซึ่งเดิมชื่อ "Mac OS X" จนถึงปี 2012 และต่อมาเป็น "OS X" จนถึงปี 2016 [3]พัฒนาขึ้นระหว่างปี 1997 และ 2001 หลังจากที่ Apple ซื้อNeXT Mac OS X ได้นำสถาปัตยกรรมใหม่ทั้งหมดมาใช้NeXTSTEPซึ่งเป็นระบบ Unixที่ขจัดความท้าทายทางเทคนิคมากมายที่ Mac OS แบบคลาสสิกต้องเผชิญ macOS ปัจจุบันได้รับการติดตั้งไว้ล่วงหน้ากับ Mac ทุกเครื่องและมีการอัพเดททุกปี[4]มันเป็นพื้นฐานของระบบซอฟต์แวร์ของ Apple ปัจจุบันสำหรับอุปกรณ์ของอื่น ๆ - iOS ของคุณ , iPadOS , watchOSและtvOS [5]
ก่อนที่จะมีการเปิดตัวของระบบปฏิบัติการ Mac OS X, แอปเปิ้ลทดลองกับแนวความคิดอื่น ๆ อีกหลายปล่อยผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันออกแบบมาเพื่อนำอินเตอร์เฟซแมคอินทอชหรือประยุกต์ใช้ในการUnix เหมือนระบบหรือในทางกลับกันA / UX , แม่และMkLinuxความพยายามของ Apple ที่จะขยายและพัฒนาทดแทนสำหรับ Mac OS คลาสสิกในปี 1990 นำไปสู่การยกเลิกโครงการไม่กี่รหัสชื่อStar Trek , TaligentและCopland
แม้ว่าจะมีสถาปัตยกรรมที่แตกต่างกัน แต่ระบบปฏิบัติการ Macintosh ก็ใช้หลักการGUIร่วมกันรวมถึงแถบเมนูที่ด้านบนของหน้าจอ Finder เปลือกเนื้อเรื่องอุปมาสก์ท็อปที่แสดงถึงไฟล์และการใช้งานโดยใช้ไอคอนและเกี่ยวข้องกับแนวคิดเช่นไดเรกทอรีและลบไฟล์ไปยังวัตถุที่แท้จริงของโลกเช่นโฟลเดอร์และถังขยะ ; และหน้าต่างที่ทับซ้อนกันสำหรับการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน
"คลาสสิก" Mac OSเป็นต้นฉบับระบบปฏิบัติการแมคอินทอชที่ถูกนำมาในปี 1984 ควบคู่ไปกับครั้งแรกแมคอินทอชและยังคงอยู่ในการใช้งานหลักใน Macs จนการแนะนำของMac OS Xในปี 2001 [6] [7]
Apple เปิดตัวMacintosh ดั้งเดิมเมื่อวันที่ 24 มกราคม 1984; ของซอฟแวร์ระบบต้นถูกบางส่วนขึ้นอยู่กับลิซ่า OSและXerox PARC Altoคอมพิวเตอร์ซึ่งอดีตซีอีโอแอปเปิ้ลสตีฟจ็อบส์ตัวอย่าง[6]เดิมชื่อ "ซอฟต์แวร์ระบบ" หรือเพียงแค่ "ระบบ"; Apple เปลี่ยนชื่อเป็น "Mac OS" ในปี 1996 เนื่องจากส่วนหนึ่งมาจากโปรแกรมโคลน Macintoshที่สิ้นสุดในอีกหนึ่งปีต่อมา[8]
Classic Mac OS โดดเด่นด้วยการออกแบบแบบเสาหิน ซอฟต์แวร์ระบบเวอร์ชันเริ่มต้นจะเรียกใช้แอปพลิเคชันครั้งละหนึ่งรายการ ระบบ 5 แนะนำสหกรณ์หลายภารกิจ System 7 รองรับการกำหนดแอดเดรสหน่วยความจำ32 บิต และหน่วยความจำเสมือนซึ่งช่วยให้โปรแกรมขนาดใหญ่ขึ้น การอัปเดตระบบ 7 ในภายหลังทำให้สามารถเปลี่ยนไปใช้สถาปัตยกรรมPowerPCได้ ระบบจะได้รับการพิจารณาที่ใช้งานง่ายแต่ข้อ จำกัด ของสถาปัตยกรรมถูกวิเคราะห์เช่น จำกัดจัดการหน่วยความจำขาดของหน่วยความจำที่มีการป้องกันและควบคุมการเข้าถึงและความไวต่อความขัดแย้งระหว่างส่วนขยาย[2]
เผยแพร่
โลโก้แบบข้อความเท่านั้นสำหรับClassic Mac OS ที่เริ่มด้วยMac OS 7.6เปิดตัวในปี 1997
Mac OS แบบคลาสสิกทั้งเก้าเวอร์ชันหลักได้รับการเผยแพร่แล้ว ชื่อ "คลาสสิก" ที่ตอนนี้มีความหมายถึงระบบโดยรวมคือการอ้างอิงถึงเลเยอร์ความเข้ากันได้ที่ช่วยให้การเปลี่ยนไปใช้Mac OS Xง่ายขึ้น [9]
- ซอฟต์แวร์ระบบ Macintosh – "System 1" เปิดตัวในปี 1984
- ซอฟต์แวร์ระบบ 2, 3 และ 4 – เปิดตัวระหว่างปี 1985 และ 1987
- ซอฟต์แวร์ระบบ 5 – เปิดตัวในปี 2530
- ซอฟต์แวร์ระบบ 6 – เปิดตัวในปี 1988
- ระบบ 7 / Mac OS 7.6 – เปิดตัวในปี 1991
- Mac OS 8 – เปิดตัวในปี 1997
- Mac OS 9 – เวอร์ชันหลักสุดท้าย เปิดตัวในปี 1999
macOS Mojave วางจำหน่ายในปี 2018
macOS (เดิมชื่อ "Mac OS X" จนถึงปี 2012 และตามด้วย "OS X" จนถึงปี 2016) [10]เป็นระบบปฏิบัติการ Mac ปัจจุบันที่สืบทอดต่อจาก Mac OS แบบคลาสสิกอย่างเป็นทางการในปี 2544
แม้ว่าเดิมระบบจะวางตลาดเพียง "เวอร์ชัน 10" ของ Mac OS แต่ก็มีประวัติที่เป็นอิสระจาก Mac OS แบบคลาสสิกเป็นส่วนใหญ่เป็นระบบปฏิบัติการที่ใช้Unix [11] [12]สร้างขึ้นบนNeXTSTEPและเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่พัฒนาที่NeXTตั้งแต่ปลายทศวรรษ 1980 จนถึงต้นปี 1997 เมื่อ Apple ซื้อบริษัทและSteve Jobsซีอีโอของบริษัทกลับมาที่ Apple [13]ยุ่งกับรุ่นเดิมของ Mac OS X รวมถึงOpenStep , แอปเปิ้ลผสมโครงการและMac OS X เบต้าสาธารณะ
MacOS ทำให้การใช้BSD codebase และXNUเคอร์เนล, [14]และหลักของชุดของส่วนประกอบจะขึ้นอยู่กับแอปเปิ้ลมาเปิด ระบบปฏิบัติการดาร์วิน
MacOS เป็นพื้นฐานสำหรับบางส่วนของแอปเปิ้ลของระบบปฏิบัติการอื่น ๆ รวมทั้งiPhone OS / iOS ของคุณ , iPadOS , watchOSและtvOS
เผยแพร่
โลโก้ "X" สำหรับMac OS Xเวอร์ชัน10.0 "Cheetah"และ10.1 "Puma"เปิดตัวในปี 2544
เดสก์ท็อป
ครั้งแรกที่สก์ท็อปรุ่นของระบบได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2001, สนับสนุนอินเตอร์เฟซผู้ใช้น้ำ ตั้งแต่นั้นมา ก็มีการเปิดตัวเวอร์ชันอื่นๆ อีกหลายเวอร์ชันที่เพิ่มคุณลักษณะและเทคโนโลยีใหม่ๆ ตั้งแต่ปี 2011 มีการเสนอรุ่นใหม่เป็นประจำทุกปี [4]
- Mac OS X 10.0 – ชื่อรหัส "Cheetah" ออกให้ผู้ใช้ปลายทางเมื่อวันเสาร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2544
- Mac OS X 10.1 – ชื่อรหัส "Puma" ออกให้ผู้ใช้ในวันอังคารที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2544
- Mac OS X 10.2 – วางตลาดในชื่อ "Jaguar" เช่นกัน ซึ่งออกให้ผู้ใช้ปลายทางในวันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม 2002
- Mac OS X Panther – เวอร์ชัน 10.3 ออกให้ผู้ใช้ปลายทางในวันศุกร์ที่ 24 ตุลาคม 2546
- Mac OS X Tiger – เวอร์ชัน 10.4 ออกให้ผู้ใช้ปลายทางในวันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2548
- Mac OS X Leopard – เวอร์ชัน 10.5 ออกให้ผู้ใช้ปลายทางในวันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม 2550
- Mac OS X Snow Leopard – เวอร์ชัน 10.6 เปิดตัวต่อสาธารณะในวันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน 2552
- Mac OS X Lion – เวอร์ชัน 10.7 ออกให้ผู้ใช้ปลายทางในวันพุธที่ 20 กรกฎาคม 2554
- OS X Mountain Lion – เวอร์ชัน 10.8 ออกให้ผู้ใช้ปลายทางในวันพุธที่ 25 กรกฎาคม 2555
- OS X Mavericks – เวอร์ชัน 10.9 ออกให้ผู้ใช้ปลายทางในวันอังคารที่ 22 ตุลาคม 2013
- OS X Yosemite – เวอร์ชัน 10.10 ออกสู่ผู้ใช้ในวันพฤหัสบดีที่ 16 ตุลาคม 2014
- OS X El Capitan – เวอร์ชัน 10.11 ออกให้ผู้ใช้ปลายทางในวันพุธที่ 30 กันยายน 2558
- macOS Sierra – เวอร์ชัน 10.12 วางจำหน่ายแก่ผู้ใช้ปลายทางในวันอังคารที่ 20 กันยายน 2559
- macOS High Sierra – เวอร์ชัน 10.13 ออกให้ผู้ใช้ปลายทางในวันจันทร์ที่ 25 กันยายน 2017
- macOS Mojave – เวอร์ชัน 10.14 ออกให้ผู้ใช้ปลายทางในวันจันทร์ที่ 24 กันยายน 2018
- macOS Catalina – เวอร์ชัน 10.15 ออกให้ผู้ใช้ปลายทางในวันจันทร์ที่ 7 ตุลาคม 2019
- macOS Big Sur - เวอร์ชัน 11 ออกให้ผู้ใช้ปลายทางในวันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน 2020
- macOS Monterey - เวอร์ชัน 12 จะออกสู่ผู้ใช้ในช่วงปลายปี 2021
เซิฟเวอร์
ต้นเซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์รุ่นของระบบได้รับการปล่อยตัวในปี 1999 เป็นภาพตัวอย่างเทคโนโลยี ตามมาด้วยการเผยแพร่บนเซิร์ฟเวอร์อย่างเป็นทางการอีกหลายรายการ ฟังก์ชันเซิร์ฟเวอร์ได้รับการเสนอให้เป็นส่วนเสริมสำหรับระบบเดสก์ท็อปแทนตั้งแต่ปี 2011 [15]
- Mac OS X Server 1.0 – ชื่อรหัส "Hera" เปิดตัวในปี 1999
- macOS Server – หลายรุ่นตั้งแต่ปี 2001
โครงการอื่นๆ
จัดส่งแล้ว
เอ/โรส
แอปเปิ้ลแบบ Real-time ระบบปฏิบัติการสิ่งแวดล้อม (A / ROSE) เป็นขนาดเล็กระบบปฏิบัติการที่ฝังตัวที่วิ่งบนตัวประมวลผลร่วมแพลตฟอร์มแมคอินทอชการขยายตัวบัตรสำหรับ Macintosh คิดว่าจะมีคนเดียว "overdesigned" แพลตฟอร์มฮาร์ดแวร์ที่ผู้ขายของบุคคลที่สามสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ใด ๆ ในทางปฏิบัติ, การลดภาระงานหนักอย่างอื่นของการพัฒนาNuBus -based บัตรขยายตัว ระบบรุ่นแรกพร้อมใช้งานในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2531 [16]
A/UX
ในปี 1988 แอปเปิ้ลเปิดตัวครั้งแรกของUNIX -based OS, A / UXซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการยูนิกซ์ระบบปฏิบัติการกับระบบปฏิบัติการ Mac OS ลักษณ์และความรู้สึก ช่วงเวลานั้นไม่มีการแข่งขันมากนัก เนื่องจากส่วนหนึ่งมาจากตลาด UNIX ที่มีผู้คนหนาแน่นและฮาร์ดแวร์ Macintosh ขาดคุณสมบัติการออกแบบระดับไฮเอนด์ที่มีอยู่ในคอมพิวเตอร์ระดับเวิร์กสเตชัน A/UX ประสบความสำเร็จอย่างมากในการขายให้กับรัฐบาลสหรัฐฯโดยที่การปฏิบัติตามPOSIXเป็นข้อกำหนดที่ Mac OS ไม่สามารถทำได้ [17]
เมย์
แมคอินทอชแอพลิเคชันสิ่งแวดล้อม (MAE) เป็นแพคเกจซอฟต์แวร์นำโดยแอปเปิ้ลในปี 1994 ว่าผู้ใช้ที่ได้รับอนุญาตของบางUnix -based คอมพิวเตอร์ลูกข่ายการเรียกใช้ซอฟต์แวร์แอพลิเคชันแอปเปิ้ลแมคอินทอช MAE ใช้ระบบX Windowเพื่อจำลองส่วนต่อประสานกราฟิกกับผู้ใช้สไตล์Macintosh Finder รุ่นสุดท้าย MAE 3.0 เข้ากันได้กับระบบ 7.5.3 แม่พร้อมใช้งานสำหรับSun Microsystems SPARCstationและHewlett-Packardระบบ ถูกยกเลิกเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 1998 [18]
MkLinux
MkLinuxประกาศในการประชุมนักพัฒนาทั่วโลกปี 1996 (WWDC) เป็นระบบปฏิบัติการโอเพ่นซอร์สที่เริ่มต้นโดยOSF Research Instituteและ Apple ในเดือนกุมภาพันธ์ 2539 เพื่อพอร์ตLinuxไปยังแพลตฟอร์มPowerPCและด้วยเหตุนี้คอมพิวเตอร์ Macintosh ในกลางปี 1998 MkLinux Developers Association ที่นำโดยชุมชนได้เข้าควบคุมการพัฒนาระบบปฏิบัติการ MkLinux สั้นสำหรับ "Microkernel ลินุกซ์" ซึ่งหมายถึงการปรับตัวของโครงการของลินุกซ์ที่จะทำงานเป็นเซิร์ฟเวอร์ที่โฮสต์บนmicrokernel Mach MkLinux ขึ้นอยู่กับเวอร์ชัน 3.0 ของ Mach (19)
ยกเลิก
สตาร์เทรค
Star Trek (เช่นเดียวกับใน "ไปอย่างกล้าหาญในที่ที่ Mac ไม่เคยไปมาก่อน") เป็นต้นแบบลับที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักซึ่งเริ่มต้นในปี 1992 โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างเวอร์ชันของ Mac OS แบบคลาสสิกที่จะทำงานบนคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลx86 ที่เข้ากันได้กับIntelในความร่วมมือกับแอปเปิ้ลและด้วยการสนับสนุนจาก Intel, โครงการนี้ก็บ้าจี้ตามNovellซึ่งได้รับการมองหาที่จะบูรณาการของDR-DOSกับระบบปฏิบัติการ Mac OS GUI เป็นคำตอบร่วมกันผูกขาดของไมโครซอฟท์ 's วินโดวส์ 3.0และ MS-DOS ทีมที่ประกอบด้วยสี่คนจาก Apple และสี่คนจาก Novell สามารถรับMacintosh Finderและแอปพลิเคชันพื้นฐานบางอย่าง เช่นQuickTimeทำงานได้อย่างราบรื่นบนสถาปัตยกรรม x86 โครงการนี้ถูกยกเลิกในปีต่อมาในช่วงต้นปี 1993 แต่บางส่วนของรหัสต่อมาถูกนำกลับมาใช้เมื่อ porting ระบบปฏิบัติการ Mac OS เพื่อPowerPC (20) [21]
ทาลิเจนท์
Taligent ( กระเป๋าหิ้วของ "พรสวรรค์" และ "อัจฉริยะ") เป็นชื่อของระบบปฏิบัติการเชิงวัตถุและบริษัทที่ทุ่มเทให้กับการผลิต เริ่มต้นเป็นโครงการที่อยู่ในแอปเปิ้ลที่จะให้เปลี่ยนสำหรับที่คลาสสิก Mac OSมันก็หมุนตัวออกไปภายหลังการร่วมทุนกับบริษัท ไอบีเอ็มเป็นส่วนหนึ่งของพันธมิตร AIMโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างแพลตฟอร์มการแข่งขันกับไมโครซอฟท์ไคโรและNeXTSTEPกระบวนการพัฒนาไม่เคยทำงานและ Taligent มักจะอ้างว่าเป็นตัวอย่างของหนึ่งตายโครงการในเดือนมีนาคม Apple ถอนตัวออกจากโครงการในปี 2538 ก่อนส่งรหัส[22]
คอปแลนด์
Coplandเป็นโครงการที่แอปเปิ้ลในการสร้างรุ่นปรับปรุงของคลาสสิก Mac OS มันก็จะมีการแนะนำหน่วยความจำที่มีการป้องกัน , มัลติทาสกิ้งชิงและจำนวนของคุณสมบัติใหม่ของระบบปฏิบัติการที่รองรับยังคงเข้ากันได้กับ Mac ซอฟต์แวร์ที่มีอยู่ ตามแผนเดิม การเปิดตัวติดตามผลที่เรียกว่า "Gershwin" จะเพิ่มมัลติเธรดและคุณลักษณะขั้นสูงอื่นๆ ฟีเจอร์ใหม่ถูกเพิ่มเข้ามาอย่างรวดเร็วเกินกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ได้ และวันที่สร้างเสร็จก็เลื่อนไปในอนาคตโดยไม่มีวี่แววของการเปิดตัว ในปี 1996 Apple ตัดสินใจยกเลิกโครงการทันทีและค้นหาระบบของบุคคลที่สามที่เหมาะสมมาแทนที่ การพัฒนา Copland สิ้นสุดในเดือนสิงหาคม 1996 และในเดือนธันวาคม 1996 Apple ประกาศว่ากำลังซื้อNeXTสำหรับระบบปฏิบัติการNeXTSTEP [23]
ก่อนการมาถึงของเครื่องแมคอินทอชในปี 1984 ประวัติแอปเปิ้ลของระบบปฏิบัติการเริ่มด้วยชุดแอปเปิ้ลที่สองคอมพิวเตอร์ในปี 1977 ซึ่งวิ่งแอปเปิ้ล DOS , ProDOSและต่อมาGS / OS ; แอปเปิ้ลที่สามในปี 1980 ซึ่งวิ่งแอปเปิ้ล SOS ; และแอปเปิ้ลลิซ่าในปี 1983 ซึ่งวิ่งลิซ่า OSและต่อมาMacWorks XL , แมคอินทอชจำลอง Apple ยังได้พัฒนาNewton OSสำหรับผู้ช่วยดิจิตอลส่วนบุคคลของNewtonตั้งแต่ปี 1993 ถึง 1997
ในปีที่ผ่านมาแอปเปิ้ลยังได้เปิดตัวหลายระบบปฏิบัติการใหม่บนพื้นฐานของหลักของMacOSรวมทั้งiOSในปี 2007 สำหรับiPhone , iPadและiPod Touch โทรศัพท์มือถือและในปี 2017 สำหรับด้านHomePod ลำโพงสมาร์ท ; watchOSในปี 2015 สำหรับApple Watch ; tvOSในปี 2015 สำหรับApple TV set-top กล่อง