1.ทำความเข้าใจกับการสอบครูผู้ช่วย
ปัจจุบันการสอบเพื่อรับเข้าเป็นข้าราชการครูมีหลายสังกัด ทั้ง สพฐ กทม หรือ ท้องถิ่น
-ภาค ก. วิชาความสามารถทั่วไป-วิชาความรอบรู้ -วิชาอุมดมการณ์ความเป็นครู -ภาค ข. วิชาการศึกษา และ วิชาชีพเฉพาะ/วิชาเอกที่เราเรียนมา
-ภาค ค. ความเหมาะสมสำหรับตำแหน่ง ง่ายๆ คือ สัมภาษณ์
โดยการคัดเลือกครูคืนถิ่น จะคัดเอาคนที่มีเกรด 3.00+ ขึ้น ได้แก่ วิชาเอก 3.00+ วิชาชีพครู 3.00+ และ เกรดเฉลี่ยสะสม 3.00+ จึงจะมีสิทธิ์สอบ ไม่มีขึ้นบัญชี
เอาเฉพาะคนที่สอบได้แล้วจะได้รับการบรรจุทันที
2.เลือกหนังสือที่เป็น “สรุป”สำหรับสอบครูผู้ช่วย
เลือกหนังสือที่อ่านสรุปแล้ว เข้าใจง่าย จบครบในเล่มเดียว
3.ติวเตอร์ สู่เส้นทางสอบครูผู้ช่วย
ทั้งนี้หากมีติวเตอร์จะช่วยให้เรารุ้แนวข้อสอบได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้คะแนนเราถึงเป้าได้ง่าย แต่หากมีเวลามากพอก็สามารถอ่านหนังสือเพื่อทำการสอบเองได้ครับ
4.จัดลำดับการอ่านหนังสือสอบ เตรียมพร้อมลุยสนามสอบครูผู้ช่วย
4.1 วิชาเอก
โดย 5 วิชาหลักสามารถหาโหลดได้จาก เว็บ สทศ. และ ตามเว็บไซด์ที่เกี่ยวข้องกับการสมัครสอบครูผู้ช่วย
4.2 ความสามารถทั่วไป
เน้วิชาคณิตศาสตร์ให้มากๆ
4.3 กฏหมาย ให้ทำความเข้าใจพอสังเขป ให้รับรู้เป็นพื้นฐาน
4.4 ความรอบรู้ ติดตามข่าวสาร อัพเดทสถานการณ์ส่วนตัว
4.5 วิชาชีพครู
เป็นวิชาที่เราสามารถทำคะแนนได้ง่าย ให้อ่านไปให้เยอะเพื่อเก็บคะแนนให้เต็ม
4.6 วิชาการศึกษา
ที่ให้อ่านสุดท้าย เพราะเนื้อหาค่อนข้างตายตัวไม่เปลี่ยนแปลง จะเน้น ทฤษฎีต่างๆ ของนักวิทยาการจัดการเรียนรู้ รูปแบบการสอน และ
งานวิจัย ( CIPPA model มักออกบ่อย )
4.7 ส่วนของครูคืนถิ่น ให้อ่านภาอังกฤษเยอะๆ แนะนำให้ อ่านเป็นแบบ reading และหัดจับใจความสำคัญ หัดเขียน writing บ่อยๆ
5.แบ่งเวลาในการอ่านหนังสือและทบทวน
6.เริ่มอ่านสอบทำความเข้าใจอย่างจริงจัง
7.ทำข้อสอบพร้อมลุยสนามสอบครูผู้ช่วย เพราะหากยิ่งเราฝึกทำข้อสอบบ่อยๆ จะยิ่งทำให้เกิดความชำนาญและไม่ตื่นสนามสอบด้วย
8.ลงติวกับติวเตอร์รอบสุดท้าย (สำหรับบางท่านที่อาจจะยังมีเวลาอ่านไม่พอ หรืออยากได้สรุปกระชับเนื้อหา ทำความเข้าใจ อัพเดทแนวข้อสอบจากติวเตอร์เพิ่มเติม)
ปีนี้ค่อนข้างแหวกแนว เพราะข้อสอบที่วัดความจำแทบไม่ค่อยมีค่ะ ส่วนมากเป็นการวิเคราะห์ สิ่งที่ควรทราบคือหลักเศรษฐกิจพอเพียง เทคนิคการวิเคราะห์ คือ การตัดตัวเลือกที่ไม่ถูกออกก่อน จะทำให้มีโอกาสทำถูกมากขึ้นค่ะ การฝึกวิเคราะห์สามารถฝึกทำได้ในชีวิตประจำวันของเรา ไม่ว่าเรื่องอะไรเราอย่ามองเพียงมุมเดียว ให้วิเคราะห์ก่อน ไม่ด่วนสรุปถูกผิด ฝึกการใช้เหตุผล ในวิชานี้ ผู้เขียนใช้วิธีการอ่านข้อสอบเก่าที่มักออก โดยอ่านโจทย์และอ่านเฉลยค่ะ แล้วจด keyword เพื่อเป็นการประหยัดเวลาที่สุด หากมีเวลาเหลือให้อ่านสรุปตามเว็บต่างๆค่ะ
3) ความรอบรู้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานและแนวทางปฏิรูปการศึกษา 25 คะแนน
สำหรับวิชานี้เช่นเดียวกัน ผู้เขียนใช้วิธี อ่านโจทย์และอ่านเฉลย แล้วจด keyword เช่นกันค่ะ การเตรียมตัวคล้ายการสอบวิชาความรู้และลักษณะการเป็นข้าราชการที่ดีเนื่องจากการอ่านหลายตัวเลือก อาจทำให้สับสนเวลาทำข้อสอบจริง
หนังสือที่ใช้อ่านและฝึกทำโจทย์
ผู้เขียนใช้เพียงเล่มเดียวค่ะ โดยใช้ปากกาเน้นข้อความ เน้น keyword ที่สำคัญแล้วจดสรุปอีกที ภาค ก วิชาความรู้ความสามารถทั่วไป แนะนำให้ฝึกทำโจทย์ ส่วนมาตรฐานความรู้ทั่วไปในการจัดการเรียนการสอนและวิชาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย แนะนำให้อ่านโจทย์ และเฉลย แล้วจด keyword ลงในสมุดค่ะ
ภาพถ่ายโดยผู้เขียน
เตรียมตัวก่อนเข้าห้องสอบ
ก่อนเข้าห้องสอบ ให้อ่านสรุปที่เราจดไว้ค่ะ ติวกับเพื่อน สำหรับสายไฟไหม้แบบเรา ทุกนาทีมีค่ามาก (หากมีเวลาในการเตรียมตัวมากพอ หน้าห้องสอบไม่ควรอ่านค่ะ เพราะจะทำให้ลน) สำหรับสายมูสามารถหาบทสวดมนต์ต่างๆ สามารถทำให้สงบ สบายใจขึ้นได้ค่ะ
ขณะสอบจริง
เนื่องจากเวลาในการทำข้อสอบค่อนข้างน้อย จึงควรทำให้ไวที่สุด ข้อไหนใช้เวลานานหรือรู้ตัวว่าทำไม่ได้ ให้ข้ามไปทำข้ออื่นโดยทำสัญลักษณ์ไว้ เมื่อทำข้อที่ทำได้ครบจึงค่อยกลับมาทำข้อที่ข้ามไป
เทคนิคเดาข้อสอบ
สำหรับข้อที่ทำไม่ทัน หรือทำไม่ได้แล้วเว้นไว้ ให้ลองสังเกตว่าเราตอบตัวเลือกใดน้อยที่สุด (ก ข ค ง) ให้เราฝนดิ่งข้อนั้น เนื่องจากข้อสอบที่มีคุณภาพ มักมีการเฉลี่ยคำตอบในแต่ละตัวเลือกที่เท่าๆกัน
การเตรียมตัวสอบภาค ความเหมาะสมกับตำแหน่ง วิชาชีพ และการปฏิบัติงานในสถานศึกษา (100 คะแนน)
ซึ่งมีการให้คะแนนจาก 3 ส่วน ได้แก่ การสอบสัมภาษณ์ 25 คะแนน แฟ้มสะสมผลงาน 25 คะแนน การสาธิตการปฏิบัติการสอน 50 คะแนน
1) การสอบสัมภาษณ์
สำหรับผู้เขียน สอบวิชาเอกภาษาอังกฤษ จึงมีการสัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษและไทย (ภาษาอังกฤษเป็นส่วนใหญ่) ซึ่งควรมีคลังคำศัพท์ในหัวพอสมควร การดูซีรีส์หรือรายการภาษาอังกฤษสามารถช่วยได้ค่ะ เกร็งคำถาม แล้วลองตอบหน้ากระจก หรือฝึกซ้อมกับเพื่อน การสอบจริง เน้นการวัดไหวพริบ ควรตอบอย่างมีสติ จริงใจและเป็นตัวเองที่สุด ตัวอย่างคำถาม เช่น ทำไมถึงอยากเป็นครูอังกฤษ ภาษาอังกฤษสำคัญอย่างไร จะจัดการอย่างไรหากมีการเหยียดเชื้อชาติเมื่อไปต่างประเทศ ได้นำเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในครอบครัวอย่างไรบ้าง มีความคิดเห็นอย่างไรกับข้อความที่ว่า “เทคโนโลยีก้าวหน้า แต่ศีลธรรมต่ำลง” จัดการอย่างไรกับเด็กพิเศษ และเด็กที่เรียนพิเศษมาก่อน งานวิจัยที่เคยทำ อยากไปประเทศอะไร เพราะอะไร เป็นต้น
2) แฟ้มสะสมผลงาน
เก็บรวบรวมผลงาน รูปภาพสมัยเรียน ฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู การทำงานพิเศษ ประสบการณ์สอน ตามตัวชี้วัดที่ต้องการจะวัด ควร print สีเพื่อความปัง สามารถใช้ PowerPoint หรือ canva เป็นต้น ควรออกแบบให้สวยงาม สะดุดตา
3) การสาธิตการปฏิบัติการสอน
หากมีเวลาเตรียมตัวน้อย สามารถใช้แผนการจัดการเรียนรู้และสื่อการสอนสมัยฝึกประสบการณ์หรือสมัยที่สอนได้เลยค่ะ แผนควรมีครบองค์ประกอบ ตัวชี้วัด มาตรฐาน ขั้นการสอน การวัดประเมินผล เป็นต้น สื่อการสอนควรน่าสนใจเหมาะกับวัยค่ะ เน้นการสอนแบบ Active Learning ใช้เทคโนโลยี น่าสนใจ และรู้ลึกรู้จริงกับเรื่องที่ต้องการสอนค่ะ
ภาพข้อมูลของผู้เขียน ตกแต่งโดย canva
ทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์ตรงของผู้เขียน เนื่องจากผู้เขียนมีเวลาในการเตรียมตัวค่อนข้างจำกัด จึงใช้วิธีที่รวบรัด ประหยัดเวลาที่สุด หากใครมีเวลาในการเตรียมตัวมาก สามารถใช้เวลาให้คุ้มค่าเต็มที่ เก็บรายละเอียดจุดอ่อน พัฒนาจุดแข็งของตัวเอง เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นค่ะ แต่ละคนอาจจะมีพื้นฐานและความถนัดที่แตกต่างกัน จึงสามารถเลือกรูปแบบที่เหมาะสมกับตนเองได้ค่ะ ขอให้ทุกคนสอบผ่านและได้บรรจุเป็นข้าราชการครูนะคะ 😊