100 2.8 macro canon ถ ายคนด ม ย

เลนส์ Canon 100 f2.8L macro is usm สามารถใช้ถ่าย Portrait ได้ไหม บนกล้อง FF ครับ

อยากซื้อ Canon 100 f2.8L macro is usm มาถ่ายเครื่องประดับชิ้นเล็กๆ พระเครื่อง แหวน แต่ก็อยากได้เลนส์ที่ถ่าย Portrait แล้วละลายฉากหลังได้ดีพอสมควร แต่ถ้าซื้อเลนส์นี้แล้ว ก็ซื้อ 135 f2 ไม่ได้แล้ว เกินงบ ต้องรอเก็บตังค์เพิ่ม

ขอความคิดเห็นหน่อยนะครับ

เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2021 Canon ได้เปิดตัว RF100mm f/2.8L Macro IS USM ซึ่งเป็นเลนส์มาโครแท้ๆ รุ่นแรกสำหรับเมาท์ RF การออกแบบเลนส์อาศัยความยืดหยุ่นจากเส้นผ่านศูนย์กลางเมาท์ขนาดใหญ่และระยะแบ็คโฟกัสที่สั้นของเมาท์ RF เพื่อความเป็นไปได้ใหม่ๆ เช่น กำลังขยายสูงสุด 1.4 เท่า และวงแหวนควบคุมความคลาดทรงกลม (SA) ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้เอฟเฟ็กต์ซอฟต์โฟกัสได้ อ่านต่อเพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเลนส์มาโครเทเลโฟโต้ระยะกลางรุ่นเส้นแดง (ซีรีย์ L) ใหม่นี้ ซึ่งให้ทั้งคุณภาพของภาพที่ยอดเยี่ยมและประสิทธิภาพการทำงานที่สูงอย่างไม่เคยมีมาก่อน

100 2.8 macro canon ถ ายคนด ม ย

คุณสมบัติที่สำคัญของเลนส์

  • -
  • -
  • -
  • -
  • -
  • -
  • -
  • -

RF100mm f/2.8L Macro IS USM เป็นเลนส์มาโครเทเลโฟโต้ระยะกลาง 100 มม. เลนส์มาโครในกลุ่มนี้มักจะมีกำลังขยายสูงสุดที่ 1 เท่า (ขนาดจริง) ซึ่งหมายความว่า ตัวแบบที่มีความยาว 1 ซม. จะมีขนาด 1 ซม. เมื่อแสดงบนเซนเซอร์ภาพ

ในการถ่ายภาพตัวแบบระยะใกล้เพื่อให้กินพื้นที่ในเฟรมมากขึ้น สิ่งแรกที่คุณจะทำคือขยับเข้าไปใกล้ตัวแบบให้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม เลนส์ทุกรุ่นจะมีระยะโฟกัสใกล้สุด ซึ่งหมายถึงขีดจำกัดว่าคุณสามารถเข้าใกล้ได้เพียงใดก่อนที่เลนส์จะไม่สามารถโฟกัสได้ สำหรับเลนส์ RF100mm f/2.8L Macro IS USM ระยะโฟกัสใกล้สุดที่ว่านี้คือ 26 ซม. ซึ่งใกล้กว่าระยะ 30 ซม. ของเลนส์ EF100mm f/2.8L Macro IS USM จึงทำให้ได้กำลังขยายสูงสุดที่มากกว่าถึง 1.4 เท่า ซึ่งใหญ่กว่าขนาดจริง แม้จะใช้ทางยาวโฟกัสเท่าเดิม

100 2.8 macro canon ถ ายคนด ม ย

สำหรับเลนส์ RF100mm f/2.8L Macro IS USM คุณสามารถใช้กำลังขยายเท่าขนาดจริง 1.0 เท่าได้จากระยะโฟกัส 28 ซม. และเมื่อขยับให้เข้าใกล้ระยะโฟกัสใกล้สุด 26 ซม. ขึ้นอีกเพียง 2 ซม. คุณก็จะได้กำลังขยาย 1.4 เท่า ระยะการทำงานสำหรับอัตราส่วนของกำลังขยายทั้งสองแบบคือ 11.2 ซม. และ 9.2 ซม. ตามลำดับ ซึ่งจะเหลือพื้นที่ระหว่างตัวแบบมากพอที่จะได้รับแสงอย่างเพียงพอ

1.0 เท่า

1.4 เท่า

Canon สร้างเลนส์มาโคร 100 มม. ที่มีกำลังขยายสูงสุด 1.4 เท่าเป็นรุ่นแรกของโลก* ได้อย่างไร คำตอบอยู่ที่คุณสมบัติของเมาท์ RF ซึ่งได้แก่ เส้นผ่านศูนย์กลางเมาท์ขนาดใหญ่และระยะแบ็คโฟกัสที่สั้น ซึ่งให้ความยืดหยุ่นที่มากขึ้นในการออกแบบออพติคอล การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับการออกแบบและกลไกการขับเคลื่อน AF ของโฟกัสและกลุ่มชิ้นเลนส์แบบลอยตัวทำให้สามารถทำการโฟกัสได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำจากระยะที่ใกล้ขึ้น

* จากกลุ่มเลนส์แบบถอดเปลี่ยนได้ที่มี AF ทั้งหมดสำหรับกล้องมิเรอร์เลสแบบฟูลเฟรม ข้อมูล ณ วันที่ 13 เมษายน 2021 จากผลการสำรวจของ Canon

ระบบควบคุมโฟกัสอิเล็กทรอนิกส์แบบชิ้นเลนส์ลอยตัว: ให้มากกว่า AF ที่รวดเร็วและแม่นยำ

ในเลนส์ RF100mm f/2.8L Macro IS USM โฟกัสอัตโนมัติ (AF) จะถูกขับเคลื่อนโดย Nano USM สองชิ้นที่เป็นอิสระจากกันซึ่งทำให้สามารถใช้ระบบควบคุมโฟกัสอิเล็กทรอนิกส์แบบชิ้นเลนส์ลอยตัวได้โดยที่กลุ่มชิ้นเลนส์โฟกัสและกลุ่มชิ้นเลนส์ลอยตัวถูกควบคุมแยกกัน คุณสมบัตินี้ทำให้ RF100mm f/2.8L Macro IS USM ผสมผสานประสิทธิภาพในการทำงานต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นได้อย่างสมดุล ไม่ว่าจะเป็นระยะโฟกัสใกล้สุดที่สั้นลง การควบคุมความคลาดทรงกลม รวมทั้งคุณภาพของการทำงานหลักๆ เช่น AF ที่รวดเร็วและมีความแม่นยำสูง และระบบโฟกัสอิเล็กทรอนิกส์แบบชิ้นเลนส์ลอยตัวยังช่วยลดปัญหาความยาวโฟกัสเปลี่ยนตามระยะถ่ายภาพด้วย ซึ่งทำให้มุมรับภาพเปลี่ยนแปลงไปในขณะโฟกัส

Nano USM (มอเตอร์อัลตร้าโซนิค) มีลักษณะพิเศษคือความสามารถในการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและแม่นยำ ซึ่งเป็นคุณสมบัติเฉพาะของมอเตอร์อัลตร้าโซนิคในแนวเส้นตรง ทำให้ไม่เพียงแต่สามารถจับโฟกัสที่ตัวแบบได้อย่างรวดเร็วเมื่อถ่ายภาพนิ่งเท่านั้น แต่ยังติดตามตัวแบบได้อย่างราบรื่นในขณะถ่ายวิดีโอด้วย จึงทำให้ผู้ชมไม่รู้สึกหงุดหงิดเวลาดูวิดีโอ และประสิทธิภาพ AF ของ RF100mm f/2.8L Macro IS USM ยังเหมาะสำหรับใช้เป็นเลนส์สำหรับถ่ายวิดีโอที่ดีเยี่ยมอีกด้วย

ข้อควรรู้: ระบบโฟกัสอิเล็กทรอนิกส์แบบชิ้นเลนส์ลอยตัวคืออะไร

ความสามารถในการแสดงภาพของเลนส์มักจะไม่เท่ากันที่ระยะการถ่ายภาพต่างๆ แม้แต่กับเลนส์เดี่ยวที่ขึ้นชื่อว่าให้ความคมชัดเป็นพิเศษ ในขั้นตอนการออกแบบ วิศวกรจะกำหนดระยะการถ่ายภาพที่ใช้เป็นเกณฑ์ก่อน จากนั้นจึงแก้ไขความคลาดของเลนส์เพื่อให้ได้คุณภาพของภาพสูงสุด ณ "จุดที่พอดีที่สุด" ซึ่งส่งผลให้คุณสมบัติในการแก้ไขลดลงเมื่อถ่ายภาพนอกระยะที่พอดี

วิธีหนึ่งในการแก้ปัญหานี้คือนำระบบชิ้นเลนส์ลอยตัวมาใช้ ซึ่งจะขับเคลื่อนกลุ่มชิ้นเลนส์ที่ไม่ใช่เลนส์ในกลุ่มโฟกัสในระหว่างการปรับโฟกัส ระบบเช่นนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการแก้ไขความคลาดของเลนส์และความสามารถในการถ่ายภาพระยะใกล้

เลนส์ EF100mm f/2.8L Macro IS USM มีระบบกลไกที่ใช้เฟืองลูกเบี้ยวทรงท่อซึ่งให้การเคลื่อนไหวเพียงแค่ทางเดียว แต่ Nano USM ในเลนส์ RF100mm f/2.8L Macro IS USM ซึ่งถูกขับเคลื่อนโดยไมโครโปรเซสเซอร์สมรรถนะสูงสามารถเคลื่อนตัวได้ในหลายทิศทาง คุณสมบัตินี้เมื่อรวมกับการออกแบบเมาท์ RF ที่มีพื้นที่มากขึ้นสำหรับการเคลื่อนที่ของกลุ่มชิ้นเลนส์ลอยตัว ทำให้ความสามารถในการทำงานและประสิทธิภาพของเลนส์ RF100mm f/2.8L Macro IS USM เพิ่มขึ้นอย่างมาก

วงแหวนควบคุม SA: ถ่ายภาพด้วยซอฟต์โฟกัสได้เมื่อคุณต้องการ

คุณสมบัติอันเป็นเอกลักษณ์ของเลนส์ RF100mm f/2.8L Macro IS USM คือวงแหวนควบคุม SA (ความคลาดทรงกลม) ซึ่งใช้ประโยชน์จากระบบโฟกัสอิเล็กทรอนิกส์แบบชิ้นเลนส์ลอยตัวเพื่อให้ผู้ใช้สามารถควบคุมระดับการแก้ไขความคลาดทรงกลมได้

เรามักจะเชื่อกันว่าความคลาดทรงกลมทำให้คุณภาพของภาพด้อยลง แต่ความจริงแล้วยังส่งผลต่อการแสดงโบเก้ (ฉบับภาษาอังกฤษ) หรือที่เรียกว่า “ลักษณะ” ของโบเก้ด้วย ยกตัวอย่างเช่น "โบเก้แบบฟองสบู่" จากเลนส์วินเทจที่มีลักษณะเฉพาะคือเส้นขอบที่เห็นได้ชัดเจนซึ่งบางคนมองว่าสวยงามนั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการแก้ไขความคลาดทรงกลมที่ไม่เพียงพอเนื่องมาจากข้อจำกัดทางด้านเทคโนโลยีในอดีต ยิ่งแก้ไขความคลาดทรงกลมได้มากเท่าใด ก็จะสามารถแสดงโบเก้ออกมาได้นุ่มนวลมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งทำให้เกิดเป็นเอฟเฟ็กต์ซอฟต์โฟกัสในที่สุด

สำหรับเลนส์ RF100mm f/2.8L Macro IS USM การนำ Nano USM มาใช้ทำให้สามารถควบคุมกลุ่มชิ้นเลนส์ลอยตัวได้อย่างเป็นอิสระแยกจากกลุ่มชิ้นเลนส์โฟกัส จึงทำให้สามารถควบคุมระดับการแก้ไขความคลาดทรงกลมได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนโดยไม่ส่งผลกระทบต่อตำแหน่งโฟกัส เมื่อหมุนวงแหวนควบคุม SA ผู้ใช้จะสามารถเปลี่ยนลักษณะของโบเก้ที่อยู่ด้านหน้าและหลังระนาบภาพได้ ไม่ว่าจะเป็นโบเก้ที่ชัดเจนสไตล์วินเทจ หรือโบเก้ที่นุ่มละมุน จึงให้การถ่ายทอดภาพที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น

วงแหวนควบคุม SA

เมื่อหมุนวงแหวนควบคุม SA ไปยัง ‘+’ หรือ ‘-’ จะเป็นการขยับกลุ่มชิ้นเลนส์ลอยตัว คุณจึงสามารถสร้างความคลาดทรงกลมได้ตามต้องการ

การควบคุม SA ระดับ 0

นี่คือลักษณะมาตรฐาน ซึ่งมีความคลาดทรงกลมที่ลดลงทั่วทั้งภาพ

การควบคุม SA ระดับ -4

เมื่อหมุนวงแหวนควบคุม SA ไปยัง ‘-’ จะทำให้เส้นขอบของโบเก้ที่อยู่หลังระนาบภาพนุ่มนวลขึ้นและทำให้เส้นขอบของโบเก้ที่อยู่หน้าระนาบภาพชัดเจนขึ้น

การควบคุม SA ระดับ +4

เมื่อหมุนวงแหวนควบคุม SA ไปยัง ‘+’ จะทำให้เส้นขอบของโบเก้ที่อยู่หลังระนาบภาพชัดเจนขึ้นและทำให้เส้นขอบของโบเก้ที่อยู่หน้าระนาบภาพนุ่มนวลขึ้น

*เอฟเฟ็กต์ของวงแหวนควบคุม SA (ระดับความผันแปรของความคลาดทรงกลม) จะเปลี่ยนไปตามระยะการถ่ายภาพ เมื่อระยะการถ่ายภาพลดลงจากช่วงการโฟกัสที่ระยะอนันต์จนเลนส์สามารถใช้กำลังขยายเท่าขนาดจริง (1 เท่า) ได้ ระดับของการผันแปรจะเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม เนื่องจากปัจจัยทางด้านโครงสร้าง ความคลาดทรงกลมจะไม่เปลี่ยนไปที่ระยะโฟกัสใกล้สุด 0.26 ม.

EOS R5/ RF100mm f/2.8L Macro IS USM/ FL: 100 มม./ Aperture-priority AE (f/2.8, 1/400 วินาที)/ ISO 400/ WB: แสงแดด/ ควบคุม SA