2024 Site pantip.com ทำไม คนสม ยก อน ถาง ขย น

ในอดีตการถางป่าทำเป็นที่อยู่อาศัยกระทำได้ลำบากมากแค่ไหนครับ และช่วงไหนที่สามารถถางป่าได้ และบุกเบิกเยอะครับ

เห็นว่าพื้นที่แถบบ้านเรามีป่าไม้เยอะ สัตว์ร้ายต่างๆ มากมาย โรคภัยไข้เจ็บก็เยอะมาก ประชากรเลยเบาบาง แตกต่างจากทั้ง จีน ญี่ปุ่น เป็นต้น เลยสงสัยว่าการบุกเบิก หรือการถางป่าในสมัยอดีตนั้นกระทำได้ยากลำบากมากแค่ไหน และช่วงยุคไหนทางบ้านเราสามารถถาง หรือบุกเบิกป่าได้มาก เพราะเห็นว่าประชากรแม้แต่ช่วงยุคคอมมิวนิสต์เฟื่องฟูประชากรไทยยังน้อยแต่ที่ดินยังมีเยอะมากเลย https://pantip.com/topic/35882798 ในความคิดเห็นที่ 6 ข้อ 1

และนอกจากทางแถบบ้านเราแล้วมีที่ไหนที่ประสบปัญหาแบบเราไหมครับ แบบป่าไม้เยอะ โรคภัยแยะ สัตว์ร้ายต่างๆ อะไรทำนองนั้นครับ

ที่ดินในสมัยโบราณแถบประเทศไทยถือเป็นที่ของกษัตริย์ หรือผู้ปกครองแว่นแคว้นนครนั้นๆ ประชากรที่ต้องการทำประโยชน์ปลูกพืชผล สร้างบ้านเรือนสามารถทำได้โดยบอกกล่าวแก่เจ้าเมือง เมื่อหักร้างถางพงปลูกพืชผลไปเท่าใด ก็ถือว่าพื้นที่ได้ลงแรงไปนั้นเป็นของตน ต้องจ่ายภาษีอากรแก่เจ้าของแคว้นแล้วแต่จะตกลงกัน เมื่อเกิดการอพยพโยกย้ายหรือละทิ้งบ้านเรือนไม่ว่าสาเหตุใดๆ ก็ตาม ที่ดินนั้นจะกลับเข้าไปอยู่ในกรรมสิทธิ์ของเจ้าของตามเดิม ผู้ปกครองสามารถจัดสรรคนกลุ่มใหม่เข้าไปอยู่และทำกินแทนได้ อีกทั้งที่ดินในสมัยก่อนมีมากมาย แผ้วถางป่าทำไร่นาตามต้องการโดยไม่ต้องแย่งกันเหมือนในปัจจุบัน

สมัยรัชกาลที่ ๕ ที่ดินเริ่มมีความสำคัญมากขึ้น เพราะการตัดถนนและคูคลองใหม่ เป็นการขยายเส้นทางการค้าขายทั้งทางบกและทางน้ำ ผู้คนจึงเริ่มต้องการจับจองที่ดินเป็นของส่วนบุคคลเพื่อทำการค้าขาย และยึดเส้นทางคมนาคมเพื่อความสะดวกในด้านการเดินทางขนส่ง อีกทั้งจับจองแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรกรรม การเปิดโอกาสให้คนจับจองที่ดินและทำโฉนดเป็นของราษฎรนี้ นับเป็นการเริ่มต้นให้อำนาจแก่ประชาชนของรัฐด้วย มิใช่ที่ดินทุกที่เป็นของหลวง จะเวนคืนเมื่อใดก็ได้เช่นยุคเก่า

************************************************************** ก่อนที่จะมีการทำโฉนด ใบสำคัญในการครอบครองที่ดินก่อนปี พ.ศ. ๒๔๔๔ มีหลายรูปแบบคือ โฉนดตราแดง โฉนดตราจอง ใบเหยียบย่ำ โฉนดสวน และโฉนดป่า

โฉนดตราแดง เป็นหนังสือการถือครองที่ดินได้ ๑๐ ปี ออกในบริเวณหัวเมืองคือ กรุงเก่า อ่างทอง สุพรรณบุรี และลพบุรี โดยให้นายแขวงเป็นผู้รับรองการเปลี่ยนแปลงสิทธิได้เพียงผู้เดียว ออกในสมัยพระยาสุรศักดิ์มนตรีดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงเกษตราธิการ ในปี พ.ศ. ๒๔๐๐ และ พ.ศ. ๒๔๒๕ เท่านั้น

โฉนดตราจอง เป็นหนังสือถือครองที่ดินได้ ๓ ปี ข้าหลวงกรมนาเป็นผู้ออกให้ เพื่อสะดวกในการเก็บค่านา

ใบเหยียบย่ำ ซึ่งเป็นเอกสารที่มีปัญหามากที่สุดเพราะไม่มีรูปแบบชัดเจน ง่ายต่อการปลอมแปลง และมีการออกใบเหยียบย่ำซ้ำซ้อนกันเป็นคดีความกันมาก มีอายุครอบครองที่ดิน ๑ ปี ถ้าเกินกว่านั้นต้องไปทำเป็นโฉนดตราจอง

โฉนดสวน ไว้สำหรับคิดอากรค่าสวนว่ามีต้นผลไม้กี่ต้นสำหรับเก็บอากร

โฉนดป่า สำหรับที่สวนซึ่งปลูกพันธุ์ไม้ขนาดเล็ก หรือไม้ล้มลุก เก็บอากรตามจำนวนเนื้อที่โฉนด

**************************************************************

การออกโฉนดที่ดิน การออกโฉนดที่ดินเริ่มทำที่เมืองกรุงเก่าก่อนเมื่อเดือนพฤษภาคม ร.ศ. ๑๒๐ มีการตั้งหอทะเบียนและนายทะเบียนจัดเก็บเอกสาร เมื่อทดลองทำที่เมืองกรุงเก่าเป็นผลแล้วก็เริ่มขยายไปยังกรุงเทพฯ และมณฑลอื่นๆ ตามลำดับ

ขั้นตอนการออกโฉนดที่ดินก็คือ ก่อนอื่นเจ้าหน้าที่จะออกวัดพื้นที่ โดยกำหนดเขตเป็นตารางเรียกว่า “แผนที่ระวาง” ช่วงแรกที่ต้องออกพื้นที่สำรวจทำระวางที่ดินนั้น มีคณะคนไทยและฝรั่งทำงานร่วมกัน คณะคนต่างชาติก็คือ นายอาร์ ดับบลิว. กิบลิน จากกรมแผนที่มีหน้าที่ทำแผนที่ระวาง จากนั้นคณะทำงานไทยนำโดย พระยาประชาชีพบริบาล (ผึ่ง ชูโต) มาจัดทำโฉนดที่ดิน โดยทำโดยระบบทอร์เรนส์ (Torrens System) ให้เจ้าของที่ดินมานำชี้เขตที่ดินของตนให้กับข้าหลวงเกษตร โดยข้าหลวงเกษตรจะปักหลักเขตพร้อมทั้งออกโฉนดที่ดินใหม่ให้ และเมื่อได้ออกโฉนดที่ดินใหม่แล้วจะประกาศยกเลิกการใช้หนังสือแสดงการถือครองที่ดินเดิม การจัดพิมพ์โฉนดกรมแผนที่เป็นคนจัดการพิมพ์เอง

เคยสงสัยไหมครับว่า ทำไม บางคนมีที่ดินเอาไว้ขายเยอะจัง , ทำไม คนนั้น มีที่มรดกอยู่กลางใจเมือง

ผมเป็นคนนึ่งที่ไม่มีสมบัติอะไร ตั้งแต่เด็ก พ่อแม่ก็เช่าที่ดิน ใน กทม แล้วปลูกบ้านอยู่ พอโตมา ก็นั่งทำงานเก็บเงิน เพื่อจะได้มีบ้านมีที่ดินสักผืนนึ่ง

จึงเกิดเป็นคำถาม ว่า ทำไมคนจำนวนมาก โดยเฉพาะ รุ่นพ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ทำไมเขามีที่ดินเป็นของตัวเอง หรือว่า สมัยก่อน รัฐ แจกที่ดินทำกินหรือเปล่า

คนรุ่นหลังๆ ถ้านับก็คงจะสัก 2-3 generation นับขึ้นไป จำนวนไม่น้อย เกิดมาก็มีที่ดินเป็นสมบัติ บางคน มี 10 ไร่ บางคนมี 100 ไร่ แล้วก็ส่งต่อกันมาทอดๆ เพื่อมาเป็นมรดกให้ลูกหลาน หรือบางท่านก็ปล่อยเช่าทำกิน บางคนโชคดี ถนนติดผ่าน ความเจริญมาถึง ก็ราคาพุ่ง

บางคนที่ดูมีฐานะ สามารถมีกำลังทรัพย์ เพื่อซื้อสะสมที่ดิน อย่างนี้ไม่สงสัย ว่าทำไมมีที่ดิน ข้อนี้ ตอบโจทย์ได้

แต่สำหรับบางคนที่เห็น ดูเป็นชาวบ้าน ชาวไร่ชาวนา กลับมีที่ดินจำนวนมาก เช่น - คนรอบปริมณฑล เช่น บางบัวทอง ที่แต่ก่อนมีที่ดินมาก แล้วก็พอเกิดช่วงอสังหาฯ บูม หมู่บ้านเกิดเป็นดอกเห็น ก็ขายที่ดิน บางคนขายเป็นสิบ เป็นร้อยไร่ ได้เงินที่เป็นกอบเป็นกำ - เคยเห็นคนเก็บของเก่า มีที่ดินเป็น อยู่กลางอำเภอเมืองในจังหวัดใหญ่ แห่งหนึ่ง - คนใน กทม ผมก็เคยเห็น ติดหนี้นอกระบบ แต่มีที่ดินกลางกทม เคยมาขอจำนองที่ผืนนี้ - บางคนเป็นชาวประมง ก็มีที่อยู่บนเกาะ , ริมหาดทราย - ถามคนต่างจังหวัด ที่ทำไร่ทำนา ก็บอกแทบทุกคน ว่า ที่บ้านมีที่นา

ผมคิดว่า คนเหล่านี้ ถ้าจะเป็นคนตั้งเดิม คนพื่นที่ คงใช้วิธีการจับจองกัน จนผ่านมาหลายชั่วคน จึงได้โฉนดมาครอบครอง หรือว่าเขาต้องทำอะไรสักอย่าง ที่จะทำให้เขาสามารถมีสมบัติมาได้ โดยที่ไม่ใช่คนที่มีฐานะร่ำรวย