2024 สายงาน f&b ทำไม hotel manager ต องส มภาษณ ด วย

HR ของโรงแรมแห่งหนึ่งประกาศรับสมัครพนักงานในตำแหน่ง Waiter และ GSA คะ ส่ง Resume Online ไปในตำแหน่ง GSA แต่โดนเรียกสัมภาษณ์งานในตำแหน่ง F&B Attendant เพราะเขาบอกว่ามีประสบการณ์ร้านอาหารมากกว่า โรงแรม ทีนี้อยากทราบว่า ตำแหน่ง F&B Attendant คือพนักงานเสิร์ฟใช่ไหมคะ หรือ หัวหน้า HR พูดไม่เข้าใจอ่ะคะ เหมือนต้องทำทุกอย่าง ถ้าอย่างไรแล้ว

อย่างไรแล้วรบกวนพี่ ๆ ที่เคยทำด้านโรงแรม หรือ F&B ช่วยอธิบายให้ฟังทีคะว่า หน้าที่ของแผนกนี้ ต้องทำอะไรบ้างคะ ขอบคุณคะ

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์ฝึกงานโรงแรม 5 ดาว ซึ่งโรงแรมที่เลือกก็คืออยู่ไกลบ้านมากแต่ที่อยากไปเพราะว่าอยากไปอยู่ทะเลค่ะ 55555 ขอไม่เอ่ยชื่อโรงแรมน้า (โรงแรมติดกับทะเล)

เริ่มแรกเลย เรากับเพื่อนๆสมัครอีกที่นึงไปแต่ที่นั่นเด็กฝึกงานครบแล้ว เขาเลยแนะนำให้โรงแรมที่เราได้ฝึกมา ซึ่งพวกเราก็ติดต่อทางโรงแรมไป แล้วทาง HR ก็เรียกสัมภาษณ์ทุกคนเลย สัมภาษณ์ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษนะคะ คำถามภาษาอังกฤษค่อนข้างยากสำหรับเรา เพราะว่าเราเตรียมคำตอบไป แต่แต่!! เขาไม่ได้ถามอะไรแบบที่เบสิคๆในการสัมภาษณ์ทั่วไปเลย5555555 คิดว่าการเตรียมตัวตอบคำถามสัมภาษณ์ไปไม่ได้ช่วยอะไรเลย ด้นสดอย่างเดียว ไอเราก็ปูปลาๆไปอะตื่นเต้นมากตอนนั้น อันนี้ไม่รู้โรงแรมอื่นแบบนี้มั้ยนะ แต่เราเจอมาแบบนี้🥹 พอสัมภาษณ์เสร็จเขาก็แจ้งเลยว่าผ่านนะมาฝึกงานได้เลย แล้วก็ให้เอกสารมาเซ็น ไปตรวจสุขภาพก่อนเริ่มทำงานจริง

ฝึกกี่เดือน?✨

เราฝึกทั้งหมด 4 เดือนเต็มน้า

ฝึกอะไรบ้าง?✨

เริ่มฝึกวันแรก ไม่มีอะไรมาก แค่อบรมเกี่ยวกับโรงแรม เกี่ยวกับแผนกต่างๆ เราฝึกแผนก Food and Beverage (F&B) ซึ่งจะต้องทำงานร่วมกับ แผนกครัวเป็นหลัก โรงแรมของเรามีทั้งหมด 3 ห้องอาหาร ซึ่งเรากับเพื่อนๆโดนแยกกันหมดเลย คนนู้นไปห้องอาหาร1 อีกคนไปห้องอาหาร2 ส่วนเราอยู่อาหาร3(ได้ติดกับทะเลสมใจเลยจ้า อยากบอกว่าร้อนมากแม่เอ้ย) ทำงานโรงแรมก็ไม่พ้นการทำงานเป็นกะนะคะ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ 06.00-16.00 และ 13.00-23.00 ทำวันละ 10 ชั่วโมง ซึ่งแต่ละวันจะไม่เป๊ะในการเลิกงาน คือต้องทำงานให้เสร็จไม่งั้นไม่ได้กลับ🥴 2 เดือนแรกเราประเดิมด้วยการเข้างานบ่ายโมงเลยจ้า ได้อยู่ห้องอาหารดินเนอร์ (เย็น) ข้อดีคือไม่ต้องตื่นสาย ข้อเสียเลิกงานดึกมากก

หน้าที่หลักของห้องอาหารดินเนอร์ (ทุกวัน)

-ดูสต็อกเครื่องดื่มว่าพอมั้ย แล้วนำมาเติมให้เต็มจำนวน

-ตักน้ำแข็งมาสแตนบายรอที่บาร์

-เตรียมผ้าเช็ดโต๊ะ+น้ำยาฆ่าเชื้อไว้ตามจุดต่าง

-เซ็ทอัพหน้าโต๊ะอาหาร (คือการจัดวางจาน ช้อน ส้อม มีด แก้วน้ำ เป็นต้น)

-ยืนต้อนรับลูกค้าห้องอาหาร

-แนะนำเมนูอาหารให้กับลูกค้า

-พาลูกค้าไปนั่งโต๊ะ

-นำเมนูน้ำและอาหารให้ลูกค้า

-รับออเดอร์

-นำน้ำและอาหารไปเสิร์ฟลูกค้า

-คอยยืนมองเวลาลูกค้าต้องการความช่วยเหลือต่างๆ

-เช็คบิลให้ลูกค้า

-เคลียร์จานบนโต๊ะลูกค้าหลังทานอาหารเสร็จ

-เช็ดโต๊ะ และเซ็ตอัพหน้าโต๊ะให้เหมือนเดิม

-เรียกรถกลับห้องพักให้ลูกค้า

-ช่วงเลิกงาน เก็บหน้าโต๊ะ เก็บบาร์

-แยกเครื่องมือที่ล้างแล้ว ( ช้อน ส้อม มีด ) และนำไปจุ่มน้ำร้อน แล้วใช้ผ้าสะอาดเช็ดให้แห้ง

-นำแก้วใส่เครื่องล้าง แล้วเช็ดให้เรียบร้อย

-ถูพื้นบาร์ให้สะอาด

-ปิดห้องอาหาร

หน้าที่หลักก็จะมีประมาณนั้นเลย พี่ๆเขาคอยสอนงานตลอด ไม่เข้าใจตรงไหนสามารถถามได้เลยอย่าไปกลัว เพราะไม่งั้นเราจะงงอยู่อย่างนั้น อะไรทำไม่เป็นก็ค่อยๆเรียนรู้ไป อย่าไปกดดันมาก คิดไว้เสมอว่าเราทำได้ เราทำได้ เฮ้เฮ้5555 ตอนฝึกเราก็ได้มีเรียนรู้และได้ลองทำเครื่องดื่มต่างๆ และ เครื่องดื่ม Signature ของทางโรงแรมด้วยนะ ไม่ง่ายและไม่ยากเท่าไหร่ เน้นจำสูตรให้ได้ มีทำให้ลูกค้าดื่มบ้างแต่ไม่บ่อยเพราะไม่ได้คล่องมาก การทำงานต้องรวดเร็วเพราะเราปล่อยให้ลูกค้ารอนานไม่ได้เน้อ เรายังได้เรียนรู้การพับผ้าเป็นรูปร่างต่างๆ เช่น รูปดอกกุหลาบ รูปเสื้อ เป็นต้น ส่วนเดือนที่ 3-4 เราได้ย้ายห้องอาหารไปอยู่เป็นห้องอาหารเบรคฟาส (เช้า) ซึ่งต้องเข้างาน 06.00 เป็นอะไรที่เช้ามากกกกกกก แต่ทำๆไปก็ชินเอง😖 ห้องอาหารเช้าเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ ลูกค้าสามารถบริการตักอาหารเองได้เลย

หน้าที่หลักของห้องอาหารเช้า (ทุกวัน)

-เข้างานมา นำนม โอวัลติน กาแฟจากตู้เย็นที่ทำไว้วันต่อวัน ไปเติมในเครื่องเพื่อบริการลูกค้า

-นำน้ำเปล่า และนมใส่กา แล้วเปิดเครื่องทำน้ำร้อน

-ตักน้ำแข็งใส่ถังแล้วนำไปวางตามจุด

-นำถาดไปวางเพื่อเอาไว้รอเคลียร์จานจากโต๊ะลูกค้า

-เตรียมผ้าเช็ดโต๊ะ+น้ำยาฆ่าเชื้อไว้ตามจุดต่าง ๆ

-ยืนรับลูกค้า ถามเลขห้องพัก

-พาลูกค้าเข้าห้องอาหาร

-พาลูกค้าไปนั่งโต๊ะ

-คอยยืนมองเวลาลูกค้าต้องการความช่วยเหลือต่างๆ

-เคลียร์จานบนโต๊ะลูกค้าหลังทานอาหารเสร็จ

-เช็ดโต๊ะ และเซ็ตอัพหน้าโต๊ะให้เหมือนเดิม

-หลังหมดช่วงเวลาอาหารเช้าแล้ว ยกเครื่องทำกาแฟไปล้าง

-แยกเครื่องมือที่ล้างแล้ว ( ช้อน ส้อม มีด ) และนำไปจุ่มน้ำร้อน แล้วใช้ผ้าสะอาดเช็ดให้แห้ง

-ชง Welcome Drink และนำไปไว้หน้า Front office

-เบิกของ เช่น นม กาแฟ โอวัลติน เพื่อเอาไว้ชงให้ลูกค้า

หลักๆในแต่ละวันก็ประมาณนี้ มีทำเครื่องดื่ม ชา กาแฟให้ลูกค้าบ้างถ้าในกรณีที่ลูกค้าสั่งเพิ่ม นอกจากนี้เรายังได้ไปช่วยแผนกจัดเลี้ยงอีกด้วย เช่น งานกาล่าดินเนอร์ งานเลี้ยงบริษัทต่างๆ และการจัดงานประชุม ได้เรียนรู้เยอะมากเลยใน 4 เดือนนี้ เหนื่อยมากแต่ก็สนุกมากเช่นกัน

วันหยุดกี่วันต่อสัปดาห์?✨

การทำงานโรงแรมจะไม่เหมือนทำงานในบริษัท ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่จะมีวันหยุด 2 วัน คือ เสาร์และอาทิตย์ แต่งานโรงแรม จะเน้นทำงานเสาร์และอาทิตย์มากกว่า เพราะนักท่องเที่ยวที่ทำงานอื่นๆ ส่วนใหญ่จะมีเวลาไปเที่ยวก็ต่อเมื่อถึงวันหยุดของเขา เพราะฉะนั้นวันเสาร์และอาทิตย์ คนจะมาเข้าพักเยอะเป็นพิเศษ จะไม่ค่อยมีใครได้หยุด 2 วันนี้ จะไปหยุดวันธรรมดาแทน สลับวันกับพนักงานคนอื่น จะไม่ได้หยุดตรงกัน แม้กระทั่งเพื่อนก็ไม่สามารถหยุดตรงกันได้นะคะเพราะนี่คือการทำงาน โดยปกติแล้ว พนักงานจะได้หยุด 2 วันต่อสัปดาห์ แต่ถ้าอาทิตย์ไหนลูกค้าเยอะมากๆ ก็อาจจะได้หยุดแค่ 1 วัน หรือทำงานรวดเดียว 8-10 วันเลยก็มี แล้วค่อยไปหยุดอาทิตย์ต่อไป ซึ่งแบบนี้จะค่อนข้างเหนื่อยมากๆ เราโดน 8 วันรวดมาแล้ว ร่างแทบพังค่ะ🥺 *วันหยุดจะเปลี่ยนทุกเดือนนะคะ

สังคมการทำงานเป็นยังไง?✨ อันนี้แล้วแต่ว่าเจอคนแบบไหนด้วยนะ😅

สังคมการทำงานที่เราเจอ เพื่อนๆเทรนนีที่มาจากมหาลัยอื่น นิสัยดี มีอะไรก็คอยช่วยเหลือกันตลอด มาวันแรกๆก็เกร็งๆแต่พอได้ทำงานด้วยกันก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น เหนื่อยก็เหนื่อยด้วยกัน บ่นด้วยกัน (อยากบอกว่าไม่มีวันไหนที่ไม่บ่นเลย อันนี้เรื่องจริง เพราะเราฝึกหนักมาก) ส่วนพี่ๆพนักงานก็คอยสอนงานตลอด แบบเต็มใจที่จะสอนจริงๆ มีอะไรก็แบ่งปันกัน มีน้ำใจต่อกัน พี่ๆในครัวก็น่ารัก เดินเข้าครัวจนสนิทกับคนในครัวแล้ว55555

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ฝึกงานโรงแรมสนุกมาก แต่ก็เหนื่อยมากเช่นกัน ได้ Connection เพิ่มอีก จริงๆฝึกมากกว่านี้เยอะเลยแต่บอกไม่หมดจริงๆ แค่นี้ก็เรียงความแล้ว55555 หลายๆคนอาจจะคิดว่าแผนก F&B ที่เราฝึก ทำแค่เสิร์ฟ แต่จริงๆแทบจะทำทุกอย่างให้โรงแรมแน้วค้าบบ สุดท้ายคือเราได้เครดิตที่ดีเพราะฝึกโรงแรมระดับ 5 ดาวมา ตอนทำงานจริงเราสามารถยื่นสมัครงานโรงแรมในเครือที่ฝึก หรือโรงแรมอื่นๆ ผ่านได้ง่าย เพราะเรามีประสบการณ์มาก่อนแล้ว แถมยังได้เรียนรู้สายงานโรงแรมอีกมากมายเลย และยังได้ฝึกทักษะหลายๆด้านของเรา จากปกติที่เราคิดว่าเราจะทำได้มั้ยนะ เพราะเราเป็นคนไม่ค่อยพูด หน้าหยิ่ง แต่พอไปทำแล้วเราสามารถทำงานบริการได้อย่างราบรื่นเลยแหละอยู่ที่ตัวเราล้วนๆเลย ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีของเรามากๆเพราะเหมือนออกจากเซฟโซนตัวเองหลายๆอย่าง :)