3d max 2023 render แล วไม ม ภาพ

3ds max โปรแกรมที่นักออกแบบทุกคนควรมี สำหรับคนที่ทำงานออกแบบนั้นสิ่งที่จะขาดไม่ได้เลยก็คืออุปกรณ์ไอทีดีๆ อย่างคอมพิวเตอร์ที่มีสเปกเทพๆ สักเครื่อง ซึ่งนอกจากคอมพิวเตอร์จะแรงแล้ว โปรแกรมเทพๆ ที่ควรมีและขาดไม่ได้เลยสำหรับเหล่านักออกแบบ โดยเฉพาะแนว 3D ก็คือ 3ds max โปรแกรมเจ๋งๆ ที่ช่วยสร้างงานได้ตั้งแต่งานเล็ก ไปจนถึงการใช้งานสเกลใหญ่ ในโรงภาพยนตร์เลยทีเดียว

3ds max คือโปรแกรมอะไร?

คืออุปกรณ์ไอทีประเภทโปรแกรมที่ใช้ในระบบปฏิบัติการ Window ที่จะช่วยให้การออกแบบมีประสิทธิภาพขั้นสุด ซึ่งโปรแกรม 3ds max สามารถช่วยสร้างสรรค์วัตถุหรือตัวละคร รวมทั้งสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมจำลองให้ออกมาสมจริงได้ และยังจัดแสงที่เหมือนจริงเข้าไปในการออกแบบได้ด้วย ซึ่งนอกจากจะช่วยสร้างงานออกแบบได้แล้ว ยังสามารถสร้างการเคลื่อนไหวให้กับตัวละคร และวัตถุที่สร้างได้อย่างง่ายดาย เรียกได้ว่าใครที่ชอบการทำอนิเมชั่นสักเรื่อง หรืออยากฝึกฝีมือเพื่อเป็นประสบการณ์ในการใช้สมัครงาน และทำงานในองค์กร โปรแกรม autodesk 3ds max นั่นเรียกได้ว่าครบ จบ ได้ในโปรแกรมเดียว

3ds max เหมาะกับผู้ใช้งานแบบไหน

สำหรับกลุ่มผู้ใช้งานที่เหมาะกับ autodesk 3ds max จะค่อนข้างเฉพาะทางเพราะเป็นโปรแกรมที่สร้างสรรค์งานได้เฉพาะรูปแบบเท่านั้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นโปรแกรม 3ds max นั้นก็สามารถใช้งานได้กับผู้ใช้งานดังต่อไปนี้

1. นักออกแบบ สำหรับนักออกแบบที่เหมาะกับการใช้งานก็มีทั้งนักออกแบบงาน อนิเมชั่น นักออกแบบกราฟิกที่ต้องการภาพแนวสามมิติ และนักออกแบบตัวละคร เรียกได้ว่าเป็นโปรแกรมที่ครอบคลุมทุกการทำงานของนักออกแบบเลยทีเดียว
2. นักเรียน นักศึกษา เนื่องจากโปรแกรม 3ds max เป็นโปรแกรมที่มีการใช้งานกันมากมายในหลากองค์กรทำให้นักเรียนนักศึกษาที่เรียนด้านงานออกแบบจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้ทำความเข้าใจอยู่บ้าง เพื่อโอกาสในการสร้าง Portfolio สำหรับการเรียนต่อหรือการสมัครงานได้ดีทีเดียว
3. ผู้ที่อยากหารายได้เสริม สำหรับการสร้างงานออกแบบจากโปรแกรม autodesk 3ds max นอกจากจะใช้เพื่อการทำงานและการเรียนได้แล้ว ยังสามารถทำงานเพื่อสร้างรายได้ได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่อยากทำงานฟรีแลนซ์ หรือต้องการทำงานออกแบบส่งขายตามเว็บ Stock Photo ก็เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์เอามากๆ

ทำไมนักออกแบบถึงควรใช้ 3ds max?

สิ่งที่ทำให้นักออกแบบส่วนใหญ่เลือก download 3ds max ก็เพราะมีฟังก์ชันในการใช้งานที่หลากหลาย ครบครัน และยังมีเมนูหน้าตาการใช้งานที่ง่าย สามารถทำความเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งนอกจากเหตุผลในการใช้งานง่ายแล้วฟังก์ชันของการทำงานยังเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ 3ds max คือโปรแกรมที่เหมาะกับนักออกแบบเป็นอย่างมาก คือ

• เครื่องมือในการสร้างรูปทรงเรขาคณิตให้เคลื่อนไหวได้อย่างเป็นธรรมชาติ
• สร้างรายละเอียดของแบบจำลองได้ด้วยเครื่องมือที่ง่าย และแม่นยำ
• การสร้างเอฟเฟ็กต์ให้ของเหลวที่มีความสมจริง
• สร้างการเคลื่อนไหวให้กับตัวละครในอนิเมชั่นได้เพียงไม่กี่ขั้นตอน
• ใช้ Arnold gpu renderer เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในเวลาจริง รวมทั้งแสงของวัสดุและกล้อง
• สร้างเกมได้อย่างสมบูรณ์แบบมีความสมจริงของการเคลื่อนไหวในตัวละคร และเพิ่มแสงเงาการจัดแสงให้กับเนื้อหาในเกมได้ง่ายดาย

ซื้อ 3ds max ได้จากไหน

สำหรับการซื้อโปรแกรม autodesk 3ds max นั้นก็มีทางเลือกให้ได้ซื้อกันได้จากหลากหลายตัวแทน รวมทั้งยังมีให้ download 3ds max จากค่ายผู้ผลิตโดยตรง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นการเลือกซื้อจากผู้ผลิตโดยตรงอาจจะมาพร้อมกับราคาที่สูงจนเกินไป ซึ่งคงต้องคิดกันหลายตลบเลยทีเดียวสำหรับผู้ใช้งานที่เป็นกลุ่มบุคคลทั่วไป และนักเรียน นักศึกษา แต่! ก็ยังมีร้านสำหรับซื้อโปรแกรม autodesk ที่มีเรทราคาที่คุ้มค่า และใช้งานกันได้ยาวๆ แบบถูกลิขสิทธิ์อย่างที่ 2beshop ร้านขายอุปกรณ์ไอทีออนไลน์ ที่มีสินค้าไอทีมากมายให้เลือกซื้อ และที่สำคัญคือโปรแกรมถูกลิขสิทธิ์ราคาเป็นมิตรอีกมากมาย

2beshop แหล่งสินค้าไอทีที่ครบครัน

ใครที่กำลังมองหาโปรแกรมลิขสิทธิ์ที่ตอบโจทย์กับการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมสำหรับ office หรือ โปรแกรมนักออกแบบอย่าง 3ds max ที่ 2beshop.com ก็มีให้เลือกซื้อได้ ที่สำคัญคือราคาที่เรียกได้ว่าคุ้มสุดๆ นอกเหนือจากเรื่องของโปรแกรมถูกลิขสิทธิ์แล้ว อุปกรณ์ไอทีอย่างคอมพิวเตอร์ ก็ยังมีให้เลือกซื้อหากันได้หลากหลายรุ่น จากหลากหลายแบรนด์ เอาเป็นว่าใครชอบซื้อสินค้าไอทีเข้าไปดูที่ 2beshop รับรองว่าได้ของที่ตามหา ในราคาที่โดนใจแบบมิตรภาพอย่างแน่นอน

จากนั้นก็คลิกขวาเพื่อยกเลิกคำสั่งเดิมไปก่อน และให้คลิกปุ่ม Sphere แล้วแดรกเม้าส์บน Viewport สร้าง Object ทรงกลมขึ้นมา

กดปุ่มคีย์ M เพื่อเรียกหน้าต่าง material Editor ขึ้นมา - คลิกที่ลูกบอลลูกแรก / คลิกปุ่ม Background เพื่อให้โชว์พื้นหลัง และคลิกปุ่ม Show Map in Viewport เพื่อกำหนดให้ภาพลวดลายแสดงผลที่หน้า Viewport (ดูตามในภาพบน ที่กรอปวงกลมสีแดง) - ที่ "- Shader Basic Parameters" เลือกชนิดเป็น Blinn - ที่ "- Blinn Basic Parameters" ที่ช่องเติมสี Diffuse ให้ใส่สีขาวล้วน ( Red = 255 / Green = 255 / Blue = 255 ) - เสร็จแล้วให้คลิกที่ลูกบอกลูกแรกค้างไว้ และลากมาปล่อยบนพื้นสี่เหลี่ยมที่หน้า Viewport

ตอนนี้พื้นฉากของเรา จะถูกใส่ Material และกลายเป็นสีขาวแล้วนะค่ะ ต่อไปค่ะ

- คลิกเลือกลูกบอลลูกที่ 2 /คลิกปุ่ม Background เพื่อให้โชว์พื้นหลัง และคลิกปุ่ม Show Map in Viewport เพื่อกำหนดให้ภาพลวดลายแสดงผลที่หน้า Viewport (ดูตามในภาพบน ที่กรอปวงกลมสีแดง)

- ที่ "- Shader Basic Parameters" เลือกชนิดเป็น Multi-Layer - ที่ "- Multi-Layer Basic Parameters" ที่ช่องเติมสี Diffuse ให้ใส่สีเหลืองเข้ม ( Red = 34 / Green = 18 / Blue = 5 ) กดปุ่ม Enter

\==========================================

ที่ First specular Layer ตรงช่องเติมสี Diffuse ให้ใส่สีเหลืองกลาง ( Red = 232 / Green = 154 / Blue = 17 ) กดปุ่ม Enter - Level = 120 - Glossiness = 35

ที่ Second specular Layer ตรงช่องเติมสี Diffuse ให้ใส่สีขาว ( Red = 255 / Green = 255 / Blue = 255 ) กดปุ่ม Enter - Level = 190 - Glossiness = 80

\======================================

Note: - ค่า Level คือ ค่าความสว่าง(Highlight) ยิ่งใส่ค่าตัวเลขไว้มาก ก็จะยิ่งทำให้วัตถุมีพื้นผิวมันวาว สะท้อนกับแสงได้มาก - ค่า Glossiness คือ ใช้กำหนดขอบเขตความกว้างของ Highligh \======================================

ที่ "- Maps" ให้ติ๊กถูกหน้า Reflection ลดระดับให้เหลือ 90 แล้วกดที่ปุ่ม "None" - เลือกรูปแบบการสะท้อนเป็นแบบไล่เฉด Falloff

ปรับค่าเข้มสว่าง โดยให้ช่องสีดำ = 80 ช่องสีขาว = 30 - กดปุ่ม None กำหนดคุณสมบัติเป็น Raytrace - ที่ Falloff Type กำหนดคุณสมบัติเป็น Fresnel

\======================================

คลิกที่ปุ่ม Go to Parent

คลิกลูกบอล Material ลูกที่สองค้างไว้ และลากมาปล่อยที่ Object ทรงกลมบน Viewport

กดปุ่ม F10 หรือไปที่คำสั่ง Rendering > Render Setup... - ที่ "- Assing Renderer" ตรง Production: ใช้การ Render แบบ Default Scanline Renderer ( เปลี่ยนชนิด Render ได้โดยการกดปุ่ม ที่ด้านหลัง) - คลิกปุ่ม Render ที่ด้านล่างขวาของหน้าต่าง Render Setup (หรือ กดปุ่ม F9)

ผลลัพธ์ที่ได้...

---------

- คลิกเม้าส์ที่หน้า Viewport แล้วแดรกเม้าส์ ลากลงมาที่ Object เพื่อกำหนดทิศทางให้แสง

- ที่ "- General Parameters" ตรง Shadow ติ๊กถูกที่ On

- ที่ "- Intensity / Color / Attenuation" ปรับความเข้มของแสงตรง Multiplier ให้ลดลงเหลือ =0.8 (ถ้าเป็น 1 มันจะสว่างจ้าเกินไป)

- "ที่ - Shadow Parameters" ปรับความเข้มของเงาตรง Density = 0.8 (ถ้าเป็น 1 เงาจะเข้มเกินไป)

กดปุ่ม F9 เพื่อ Render แบบเร็ว ผลลัพธ์ที่ได้ จะเห็นว่าที่บริเวณด้านล่างของ Object พอมีเงาแล้ว ทำให้วัตถุดูสมจริงมากขึ้นกว่าเดิม

*ทดลองเพิ่มดวงขึ้นมาอีกเยอะๆ

ยิ่งแสงมาก Object ที่ยิ่งมีความแวววาวเป็นมากขึ้น แต่มันก็มีผลทำให้ ความเข้มของเงาที่พื้นจางลง

*ทดลองสร้าง Object ชื้นอื่นๆขึ้นมาอีกหลายๆชิ้น และเพิ่มดวงไฟรอบทิศทางให้มากขึ้นอีก (ให้แสงทุกดวงชี้ไปที่ตำแหน่งเดียวกัน)

ผลลัพธ์ที่ได้ คือ Object ดูแววาวเหมือนมีประกายในตัวเอง มองแล้วอะร้าอะราม ตาพร่ามัว (แต่เงาแทบมองไม่เห็น) (แล้วแต่คนชอบ)

*ทดลองอีกรอบ คราวนี้ใช้แสงแค่ 2 ดวงพอ ชนิดของแสงขอเปลี่ยนมาใช้ Omni (ดูภาพด้านล่างประกอบ) - ที่แสงดวงแรก ตรง "- General Parameters" ตรง Shadow ติ๊กถูกที่ On (เปิดให้แสดงเงาด้วย)

- ที่แสงดวงที่สอง ตรง "- General Parameters" ตรง Shadow เอาเครื่องหมายถูกที่ On ออก (ปิดการใช้แสดงเงา)(คลิกที่ภาพเพื่อดูแบบขนาดเต็ม) ผลลัพธ์ที่ได้.. แสงไม่เว่อเกินไป

จะเห็นได้ว่านอกจากการสร้าง Material แบบต่างๆแล้ว แสง และ เงา ก็เป็นอีกส่วนที่เราจะต้องให้สำคัญมากไม่แพ้กัน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละชนิดงาน และความต้องการของคนทำ ว่าเราต้องการให้ Object ของเราแสดงผลออกมาเป็นรูปแบบไหน