บ านตากลาง ต.กระโพ อ.ท าต ม จ.ส ร นทร

ทีมสัตวแพทย์ จุฬาฯ สรุปผลตรวจเลือดช้างในหมู่บ้านช้าง บ้านตากลาง อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ 43 เชือก ไม่พบติดโควิด-19 สอดคล้องการระบาดในหมู่บ้านเป็นศูนย์ แต่ขอความร่วมมือควาญช้าง ดูแลอาการช้างใกล้ชิด หลังผลตรวจ พบช้างติดเชื้อ EEHV

บ านตากลาง ต.กระโพ อ.ท าต ม จ.ส ร นทร
ทีมสัตวแพทย์ ลงพื้นที่ตรวจสุขภาพ และเก็บตัวอย่างเลือดช้าง ที่หมู่บ้านช้าง บ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา

ภายหลังทีมสัตวแพทย์ นำโดย นสพ.อลงกรณ์ มหรรณพ กรรมการสมาคมป้องกันการทารุณสัตว์แห่งประเทศไทย พร้อมด้วยทีมจากภาควิชาสัตวบาล คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ลงพื้นที่ตรวจสุขภาพให้กับช้าง ซึ่งส่วนใหญ่ตกงานจากปางช้างปิดตัว เนื่องในสถานการณ์โควิด-19 ภายในศูนย์คชศึกษา และ หมู่บ้านช้าง บ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา พร้อมทั้งเก็บตัวอย่างเลือดช้าง ไปตรวจสอบความเสี่ยงการติดเชื้อโควิด-19 และ การติดเชื้อ EEHV

อ่านเพิ่มเติม : ครั้งแรก! ตรวจโควิด “ช้าง” จับตา คุมเชื้อ EEHV โรคร้าย ช้างตายฉับพลัน

“ไม่พบ” ช้าง ติดเชื้อโควิด-19

ล่าสุด นสพ.อรรณพ สุริยสมบูรณ์ จากภาควิชาสัตวบาล คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รายงานผลการตรวจจากห้องปฏิบัติการ พบว่า ในจำนวนช้าง 96 เชือก ที่เข้ามาตรวจสุขภาพ สามารถเก็บตัวอย่างเลือดมาได้ 43 เชือก ผลตรวจปรากฎ ว่า ทุกเชือกมีผลเป็นลบ ไม่พบเชื้อโควิด-19

นั่นอาจสอดคล้องกับ การไม่พบเชื้อของผู้คนภายในหมู่บ้าน และก็ต้องถือว่าคนเลี้ยงช้าง ดูแลตัวเองได้เป็นอย่างดี จนไม่มีการระบาด แม้จะมีคนที่กลับมาจากพื้นที่เสี่ยง มากักตัวในพื้นที่ แต่เชื่อว่ามาตรการคุมโรคทำได้อย่างเข้มงวด

บ านตากลาง ต.กระโพ อ.ท าต ม จ.ส ร นทร

“ถ้าย้อนกลับไปช่วงการระบาดโควิด ก็พบว่าช้างที่หมู่บ้านช้างบ้านตากลาง ได้รับการดูแล ตรวจสุขภาพจาก นสพ.อลงกรณ์ มหรรณพ เป็นประจำทุกเดือน นั่นทำให้ช้างมีสุขภาพดี ใกล้มือหมอ นอกจากนี้ยังพบว่า ช่วงก่อนหน้านี้ นสพ.อลงกรณ์ ได้ให้ช้างกินยาฟ้าทะลายโจร ซึ่งก็เป็นไปได้ที่ช้างอาจมีภูมิต้านทาน แต่ที่ทำได้ดีกว่านั้น คือการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคของชาวบ้าน และคนเลี้ยงช้าง จนไม่ทำให้พบการระบาดภายในพื้นที่”

เฝ้าระวังช้าง 10 เชือก ติดเชื้อ EEHV

ส่วนผลตรวจความเสี่ยงติดเชื้อ EEHV โรคระบาดรุนแรงในช้าง ที่อาจทำให้ช้างตายได้อย่างฉับพลันนั้น นสพ.อรรณพ บอกว่า จากช้าง 43 เชือกที่เก็บตัวอย่างเลือด พบผลเป็นบวก หรือ ติดเชื้อ 10 เชือก จากนี้ทีมสัตว์แพทย์ จะต้องยืนยันตรวจอีกครั้ง และแจ้งให้กับควาญช้าง พยายามเฝ้าระวังสังเกตอาการช้างดังกล่าว

บ านตากลาง ต.กระโพ อ.ท าต ม จ.ส ร นทร

“อาจจำเป็นต้องพยายามไม่ให้ช้างทั้ง 10 เชือก คลุกคลีกับช้างเชือกอื่น ๆ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ แต่ที่ยังพอเบาใจได้ คือ ช้างที่พบเชื้อ ยังไม่มีตัวไหน แสดงอาการ เพราะในมุมการระบาด ก็เป็นไปได้ ที่ช้างอาจมีเชื้ออยู่ในตัว ซึ่งควาญช้าง ต้องระมัดระวังไม่ให้ช้างเครียด และ ติดตามอาการใกล้ชิด หากมีอาการผิดปกติ พบการอาการบวมน้ำ มีเลือดออกตามอวัยวะ ให้รีบแจ้งทีมสัตว์แพทย์ทันที”

“โดม ปกรณ์” ร่วมพิธีเซ่นศาลปะกำสุรินทร์ วอนงดซื้ออาหารช้างเร่ร่อน หวังให้คืนถิ่นอยู่ในระบบนิเวศเหมาะสม(ชมคลิป)

เผยแพร่: 8 พ.ย. 2559 09:30 ปรับปรุง: 8 พ.ย. 2559 11:12 โดย: MGR Online

สุรินทร์ - โดม ปกรณ์ ลัม และ หนึ่ง ETC. สองศิลปินจิตอาสา ร่วมกิจกรรม “คืนธรรมชาติให้ช้าง” น้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เผยไม่อยากเห็นช้างเร่ร่อนในเมืองใหญ่ หากรักช้างต้องช่วยกันงดซื้อและให้อาหารช้างที่เดินเร่ร่อน เพื่อให้ช้างคืนถิ่นได้อยู่ในระบบนิเวศที่เหมาะสม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (8 พ.ย.) ที่ศูนย์คชศึกษา บ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ นายศิริศักดิ์ ร่วมพัฒนา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกระโพ พร้อมด้วย โดม ปกรณ์ ลัม, หนึ่ง อภิวัฒน์ พงษ์วาท ดารานักร้องนักแสดง และนางสาวกัตติกา ตั้นจัด ผู้ช่วยผู้กำกับสารคดี “วันช้างโลก” และผู้นำกลุ่มธรรมช้าง ร่วมทำพิธีเซ่นศาลปะกำเพื่อเป็นสิริมงคล และเปิดกิจกรรม “คืนธรรมชาติให้ช้าง”

โดยการจัดกิจกรรมครั้งนี้เป็นการส่งเสริมให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวด้วยความใส่ใจสิ่งแวดล้อม สร้างความเข้มแข็งในสังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งเงินบริจาคจำนวน 30% จะนำไปสมทบให้แก่ วันช้างโลก มูลนิธิคืนช้างสู่ธรรมชาติ และช่วยเหลือช้างเลี้ยงในจังหวัดสุรินทร์ โดยความร่วมมือจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุรินทร์ และองค์การบริหารส่วนตำบลกระโพ ทั้งนี้เพื่อช่วยเหลือช้างเร่ร่อนให้ได้คืนสู่ธรรมชาติ

ขณะที่เงินอีก 70% จะนำไปช่วยเหลือช้างในจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งมีช้างเลี้ยงมากกว่า 200 เชือกในหมู่บ้านตากลาง ให้มีแหล่งอาหารและน้ำที่เพียงพอ มีสุขภาพที่ดี พัฒนาระบบนิเวศ พร้อมทั้งเผยแพร่ความรู้และการร่วมตระหนักถึงเรื่องดังกล่าวไปยังทั่วประเทศไทย

สำหรับกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7-8 พ.ย. 59 โดยวันนี้เป็นการร่วมกันปลูกพืชอาหารช้าง โดยมีศิลปินจิตอาสา ประกอบด้วย โดม ปกรณ์ ลัม, หนึ่ง อภิวัฒน์ พงษ์วาท หรือ หนึ่ง ETC. และนักเรียน นักศึกษา ประชาชน รวมไปถึงควาญช้างในพื้นที่ และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนมาก ร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี เพื่อแสดงความอาลัย ร่วมกันเลี้ยงอาหารช้าง และกิจกรรมปลูกพืชอาหารช้าง ที่บริเวณวังทะลุ บ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

โดม ปกรณ์ ลัม กล่าวว่า ควาญช้างนำช้างไปเดินเร่ร่อนในกรุงเทพฯ ตามที่เป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ และโทรทัศน์อยู่บ่อยๆ นั้น ปัจจุบันเริ่มมีการจัดระเบียบให้ช้างคืนถิ่นและมีระบบนิเวศที่เหมาะสม อยู่กันเป็นครอบครัว ช้างก็อบอุ่น ครอบครัวควาญช้างก็อบอุ่น ไม่ต้องออกเร่ร่อนไปตามต่างจังหวัด 4-5 เดือนถึงจะได้กลับบ้านที วันนี้มีกิจกรรมปลูกหญ้าอาหารช้าง ในฐานะที่ตนเป็นดารา นักร้อง นักแสดง จะให้มาพูดเรื่องช้างลึกๆ แล้วมันดูไม่น่าเชื่อ ดูแล้วอาจจะเป็นเรื่องที่ไกลตัวโดม

แต่ท้ายที่สุดแล้ว ช้างคือต้นทางของธรรมชาติ ช้างสร้างทางน้ำ ป่า และช้างยังเป็นสัญลักษณ์คู่บ้านคู่เมืองไทย เป็นสัตว์มงคล มาร่วมกันนำช้างคืนถิ่น ไม่อยากเห็นช้างเร่ร่อนในกรุงเทพฯ ต้องพยายามช่วยกันตัดวงจร งดซื้อและให้อาหารช้างที่เดินเร่ร่อน เพื่อให้ช้างคืนถิ่นได้อยู่ในระบบนิเวศที่เหมาะสมของเขา ช้างดี คนดีแน่นอน เรื่องง่ายๆ แบบนี้ตนเชื่อว่าทุกคนทำได้

ด้าน หนึ่ง อภิวัฒน์ พงษ์วาท (หนึ่ง ETC.) กล่าวว่า ช้างสุรินทร์น่ารักมาก อยากฝากถึงคนรักช้างทุกคน วันนี้อยากจะให้ทุกคนตระหนักถึงช้าง มาช่วยกันเลี้ยงช้างให้ถูกวิธี เพื่อประโยชน์ของพวกเราด้วย โดยให้ช้างอยู่ในสภาพแวดล้อมและธรรมชาติที่ถูกต้อง

ขณะที่ นายศิริศักดิ์ ร่วมพัฒนา นายก อบต.กระโพ กล่าวว่า เรื่องของช้างวันนี้นับว่าเป็นสิ่งดี ที่ศิลปินจิตอาสา โดม ปกรณ์ ลัม และ หนึ่ง อภิวัฒน์ พงษ์วาท (หนึ่ง ETC.) ได้มาปลูกป่าอาหารช้างกับเรา ซึ่งทางองค์การบริหารส่วนตำบลกระโพจะทำกิจกรรมแบบนี้ไปเรื่อยๆ หลังจากนี้ควาญช้างจะนำช้างเข้าจังหวัดสุรินทร์เพื่อร่วมกิจกรรมแสดงความอาลัยถวายแด่พ่อหลวงของเรา ในวันที่ 19-20 พ.ย. 59 นี้