ประว ต พระอาจารย บ ญอ ม อาภ สสโร

เผยแพร่: 18 เม.ย. 2561 05:04 ปรับปรุง: 18 เม.ย. 2561 11:53 โดย: นกหวีด

ข่าวปนคน คนปนข่าว

**มาก่อนได้ก่อน!! “พลังดูดประชารัฐ”ต้อน “นักเลือกตั้ง”ต่อเนื่อง รายล่าสุด“บ้านใหญ่เมืองชล”ที่ประเคน 2 เก้าอี้ใหญ่ให้“เสี่ยแป๊ะ - เสี่ยติ๊ก”ทายาท “กำนันเป๊าะ”ที่เพิ่งได้พักโทษเมื่อปลายปีก่อน เลิกเหนียมแผนต่อท่ออำนาจ ที่“บิ๊กตู่”เลือกแล้วต้อง“นายกฯคนใน”เท่านั้น

ดูดกันต่อเนื่อง..คราวนี้ล็อกเป้าไปที่ “บ้านใหญ่เมืองชล”ประเคนให้ 2 เก้าอี้รวด ทั้ง“เสี่ยแป๊ะ”สนธยา คุณปลื้ม อดีตรมต.หลายสมัย ที่เป็นที่ปรึกษานายกฯ ฝ่ายการเมือง .. ส่วนน้องชาย“นายกฯติ๊ก”อิทธิพล คุณปลื้ม อดีตนายกเมืองพัทยา ก็ได้เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำกระทรวงท่องเที่ยวฯ .. อ่านไม่ยาก ไม้นี้ก็เป็นไปตามโมเดล“พลังดูดประชารัฐ”เหมือนครั้ง ตั้ง“หนุ่มจั้ม”สกลธี ภัทธิยกุล เป็นรองผู้ว่าฯกทม. พ่วงอดีตส.ส.กทม.อีก 2-3 หน่อ .. คราวนี้เบอร์ใหญ่ระดับ “เสี่ยแป๊ะ”นักการเมืองจอมเก๋า เลยต้องทุ่มกันเป็นพิเศษ ตั้งแต่คิวที่“กรมราชทัณฑ์”พักโทษ “กำนันเป๊าะ”สมชาย คุณปลื้ม ที่เหลือโทษจำคุกอีกราว 20 กว่าปี เมื่อปลายปีกลาย ทั้งที่เคยมีพฤติกรรมหลบหนี .. ก่อนมาจัดหนักให้ไปอีก 2 เก้าอี้ บิ๊กเบิ้ม ที่เป็นแค่“ออร์เดิร์ฟ” ซื้อใจกันไปก่อน หลังเลือกตั้งหากมาตามนัด คงเปย์กันหนักหน่วง .. การแผ่อิทธิพลของ“พรรคทหาร”ในนาม “พรรคประชารัฐ”งวดนี้ ก็ไม่เล็งเป้าแค่ “ขาใหญ่เมืองชลฯ”ที่มีเก้าอี้ ส.ส.ในมือ 6-7 ที่นั่ง รวมทั้งภาคตะวันออกอีกบางส่วนเท่านั้น .. ยังเป็นการส่งสัญญาณ“ก๊วนการเมืองอื่นๆ”ต้องรีบตัดสินใจ ไม่งั้นมีหวัง“ตกรถ”พร้อมโปรฯเสริม “มาก่อนได้ก่อน”เหมือน “ก๊วนเมืองชลฯ”และ“ก๊วน กทม.”ของอดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ ก่อนหน้า ..

อ่านเกมต่อ ว่าการที่ “นายกฯตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และชาวคณะ ที่เคยทำท่ารังเกียจ“นักการเมือง”เข้าไส้ .. ก่อนจะมา “พลิกลิ้น”ยอมรับว่าตัวเองก็เป็น“นักการเมือง”กับเขาด้วย แถมลดระยะห่าง ดึง“นักเลือกตั้ง”มาทำงานข้างกาย .. เข้าทำนอง“เลิกเหนียม”เอาแน่ “ต่อท่ออำนาจ”แบบไม่กลัวครหา แล้วมาถึงขั้นนี้แล้ว คงไม่ทะเล่อทะล่าไปพึ่ง“พรรคส.ว.”เพื่อลอยมาเป็น “นายกฯคนนอก”อีกแล้ว .. ก็ด้วยมีข้อจำกัดว่า พอเข้าโหมดทำงาน เจอฝ่ายเสียงข้างมากใน“สภาล่าง”เตะตัดขาวุ่น ก็ทำงานไม่ได้อยู่ดี .. เสมือนเป็นการปักป้ายโฆษณาล่วงหน้า “นายกฯคนใน”ต้องอยู่ในลิสต์รายชื่อพรรคการเมืองเท่านั้น แล้วถ้าจะเอาเท่ๆ ก็ต้องไม่ใช่“พรรคไก่กา”ที่ไหน .. จึงได้เห็นการเร่งสปีดปั้น“พรรคทหาร”ที่คาดกันว่าคงหนีไม่พ้น “พรรคพลังประชารัฐ”ของ “ทีมเฮียกวง”ที่เผยไต๋ออกมาเรื่อยๆ .. ล่าสุด อุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม ก็ไม่ปฏิเสธตำแหน่งหัวหน้าพรรค ตามกระแสข่าว .. ช่วงนี้ “พลังดูดประชารัฐ”ก็เลยรุนแรงเป็นพิเศษ เพื่อกวาดต้อน“นักการเมืองมีชื่อ”เข้ามาสวามิภักดิ์ ไม่ต้องไปฝากเลี้ยงที่ไหนให้วุ่นวาย

**อัปลักษณ์ทุกมิติ!! “รัฐบาล คสช.”ทำนิ่ง ทั้งที่อุ้ม“ระเบิดเวลา” ด้าน“นิสิตเก่า มก.ภาคเหนือ”ตอกลิ่ม “หมู่บ้านป่าแหว่ง”เละ จุดพลุ“มิติเศรษฐศาสตร์”ต้องเสียงบฯป้องกันภัยพิบัติ “ดินถล่ม-ไฟป่า”อีกมหาศาล เชื่อหากรื้อถอนโดยเร็ว จะกู้ศรัทธา“องค์กรตุลาการ”กลับมาได้

น่าแปลกใจไม่น้อย .. ที่การประชุม“ครม.ประยุทธ์”เปิดหัวปีใหม่ไทย ไม่มีประเด็นการแก้ข้อพิพาท“หมู่บ้านป่าแหว่ง”บ้านพักตุลาการ ศาลอุทธรณ์ภาค 5 เชิงดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ ออกมาแม้แต่น้อย ที่ทาง“ฝ่ายตุลาการ”โยนลูกมาให้รัฐบาลตัดสินใจ .. ทั้งที่“บิ๊กรัฐบาล”น่าจะรับรู้ถึงกระแสคัดค้านที่ขยายวงกว้างมากขึ้นทุกขณะ แล้วการที่ “ฝ่ายบริหาร”ไม่คิดที่จะรีบหาทางลง ก็เหมือนกับซุก“ระเบิดเวลา”ไว้กับตัวเอง ท้าทายความรู้สึกประชาชนไปเรื่อยๆ .. ด้วยปมปัญหา ที่เกี่ยวเนื่องกับ “ความรู้สึก”บวกกับความเสียหายของธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าข่าย“ละเอียดอ่อน”เช่นนี้ ครั้นจะคิดตื้นๆว่า ให้เวลาเยียวยาทุกสิ่ง ก็คงคิดผิดมหันต์ .. ยิ่งนานวันก็ยิ่งมีข้อมูล-ข้อคิดเห็น จากภาคส่วนต่างๆ ออกมาใน “เชิงลบ”ต่อโครงการคฤหาสน์สุดหรูกลางป่าใหญ่หนักข้อยิ่งขึ้น .. อย่างแถลงการณ์ของ “สมาคมนิสิตเก่า ม.เกษตรฯภาคเหนือ”ก็น่าสนใจไม่น้อย นอกจากแสดงจุดยืนว่า“ต้องรื้อเท่านั้น”สำหรับ “บ้านพักตุลาการ”ที่อยู่บริเวณ“ป่าแหว่ง”และต้องฟื้นฟูให้คืนสภาพป่าธรรมชาติดังเดิม .. ส่วน “สำนักงาน”ที่ตั้งอยู่ด้านล่างนั้น ก็เห็นควรให้อยู่ในดุลพินิจของ“สำนักงานศาลยุติธรรม”ตามที่เห็นสมควร ..

ไม่เท่านั้นยังชำแหละ “ความไม่เหมาะสม”ของโครงการในทุกมิติออกมาอย่างแจ่มแจ้ง .. ทั้ง “มิติด้านสิ่งแวดล้อม”ที่เป็นการทำลายพื้นที่ป่าเต็งรัง-ป่าเบญจพรรณ จนย่อยยับ .. “มิติทางด้านวิศวกรรม”พื้นที่ไม่เหมาะสมการตั้งที่อยู่อาศัย ด้วยมีความลาดชันสูง .. “มิติทางเศรษฐศาสตร์” นอกจากงบประมาณก่อสร้างจำนวนมากแล้ว ด้วยพื้นที่เสี่ยงดินถล่ม ไฟป่าในฤดูแล้ง รัฐยังต้องเสียงบฯ อีกมากในการป้องกัน-บรรเทาภัยพิบัติ ที่จะตามมา .. สุดท้าย“มิติทางสังคม”ที่กระทบจิตใจคนเชียงใหม่ และคนไทยทั่วประเทศเป็นอย่างมาก แล้วยังจะก่อให้เกิดภาพลักษณ์ในทางลบขึ้นกับ “องค์กรศาลยุติธรรม”อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน .. พร้อมกันนี้ ยังขมวด “7ข้อดี”หากมีการรื้อถอนโครงการฯในส่วน “ป่าแหว่ง”ไว้อย่างน่าฟัง อาทิ การช่วยลดภาพอัปลักษณ์ของดอยสุเทพ .. การที่“หมู่บ้านป่าแหว่ง”จะเป็นพื้นที่ต้นแบบในต่อต้านการบุกรุกป่าไม้ที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ไม่ถูกต้องในด้านการอนุรักษ์ฯ .. เหนือสิ่งอื่นใดคือ ข้อดีข้อสุดท้ายที่ระบุว่า “หากมีการรื้อถอนโดยเร็ว ได้จะช่วยเรียกศรัทธาและภาพลักษณ์ด้านจิตนิเวศของศาลอุทธรณ์ภาค 5 ให้กลับคืนมาได้อย่างดียิ่ง” ..ในที่นี้ก็ย่อมต้องหมายถึงการกู้ศรัทธาของ“รัฐบาล คสช.”ที่จะเป็นผู้ถอดสลักระเบิดเวลาลูกนี้ด้วย.

**เททิ้งกันอีกแล้ว!! 14 แคนดิเดต กสทช. คงต้องซดน้ำแห้ว หลังข่าวสะพัด “ล้มกระดาน”เหตุมากกว่าครึ่งมี “คุณสมบัติต้องห้าม”งัด มาตรา 44 เว้นการสรรหาไปอีกไม่ต่ำกว่าปี ส้มหล่น“ชุดรักษาการ”คุมงานใหญ่ ผลประโยชน์เพียบแบบไร้รอยต่อ

ท่าจะไม่รอดสันดอน .. วาระโหวต“กสทช.ชุดใหม่”รอบไฟนอล ที่ “สภาฝักถั่ว”นัดหมายกันในวันที่ 19 เม.ย.นี้ ทำท่าจะเป็นหมันซะแล้ว .. ก็อย่างที่“ข่าวปนคนฯ”จุดพลุไปเมื่อวันก่อนว่า ช่วงนี้ “ขาใหญ่”กำลังวิ่งขาขวิดให้มีการล้มกระดานสรรหาทั้งหมด .. แต่ก็มีออปชั่น“พบกันครึ่งทาง”คว่ำการสรรหาแค่บางด้าน อาทิ “กฎหมาย-เศรษฐศาสตร์-คุ้มครองผู้บริโภค”ด้วยอ้างว่า ผู้ผ่านเข้ารอบหลายคนมี “คุณสมบัติต้องห้าม”.. แต่ทำไปทำมา เมื่อเช็กกันละเอียดแล้ว ปรากฏว่า มี 8 ใน 14 รายชื่อรอบสุดท้ายที่“คุณสมบัติต้องห้าม”จนน่าแปลกใจไม่น้อยว่า เหตุใดคณะกรรมการสรรหาฯในรอบแรก ถึงปล่อยผ่านมาทั้ง 86 ราย ที่สมัครเข้ารับการสรรหา .. เสมือนจงใจ“วางยา”ไว้ เพื่อมาใช้เป็น“ข้ออ้าง”ล้มกระดานในชั้น สนช.นี่เอง .. แล้วที่มาแรงในตอนนี้ก็คือ ออปชั่น “ล้มกระดาน”เพื่อให้สะเด็ดน้ำ ไม่ค้างคาใจกันไปเลย หากแต่ติดที่ข้อกฎหมาย กำหนดให้สนช.ต้องเลือก 1 ใน 2 ผู้ที่ได้รับการสรรหาในแต่ละด้านเท่านั้น .. เมื่อกฎหมายปกติไม่เปิดช่องให้ ก็เลยต้องหวังพึ่ง “อภินิหาร”จากกฎหมายพิเศษ ที่เป็นอื่นไม่ได้นอกเสียจาก “ยาสามัญประจำบ้าน”อย่าง“มาตรา 44” ..

เป็นเหตุให้หลังการประชุมครม. ฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. ต้องถูกเรียกตัวด่วนเข้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อรายงานเรื่องด่วน ที่คาบเกี่ยวกับภารกิจของกสทช. .. ทั้งการออกคำสั่ง มาตรา 44 ช่วยเหลือ “ทีวีดิจิทัล-ค่ายมือถือ”และก็ยังพ่วงด้วยการรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์การเลือก“กสทช.ชุดใหม่”ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (19 เม.ย.) ด้วย .. ขณะเดียวกัน ก็มีข่าวจากฝั่ง สนช.ว่ากำลังชั่งน้ำหนัก ระหว่าง 2 ออปชั่น โดยต้องรอฟังคำชี้แจงของ กมธ.ตรวจสอบประวัติฯ ในการประชุมลับ ช่วงเช้าวันที่ 19 เม.ย. เสียก่อน .. แต่นั่นเป็นเพียงหน้าฉาก เพราะหลังฉากรู้กันอีกว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับ“ใบสั่ง”ที่จะยิงตรงจาก“ตีกไทยฯ”ไปยัง “สนช.สายล็อบบี้”ทั้งหลายต่างหาก .. ล่าสุดแว่วมาจาก“ตึกไทยฯ”แล้วว่า เริ่มเอนเอียงไปทาง “ล้มกระดาน”เพื่อให้นับหนึ่งกันใหม่หมด โดยจะมีตัวช่วยอย่างคำสั่ง มาตรา 44 ออกมา .. เพื่อให้มีการงดเว้นการสรรหา กสทช.ไปอีกอย่างน้อยๆ 1 ปี คล้ายกับที่เคยใช้กับองค์กรอิสระหลายแห่งนั่นเอง .. สอดคล้องกับรายงานจาก“อาณาจักรซอยสายลม”ที่ว่า “บิ๊กอ้อ”พล.อ.สุกิจ ขมะสุนทร ประธาน กสทช. รักษาการ คุยฟุ้งไว้ทั่วสำนักงาน กสทช. ด้วยว่า ยังจะได้อยู่ทำงานไปอีกอย่างน้อยๆ 6 เดือน ก็เลยไม่คิดจะจัดงานเลี้ยงอำลา .. และเท่ากับว่า“บิ๊กอ้อ และชาวคณะ”จะได้กำกับ “งานใหญ่”ผลประโยชน์มหาศาลไปย่างไร้รอยต่อ .. ทั้งการวางโครงสร้าง กสทช.ใหม่ รวมไปถึงการประมูลคลื่น 900MHz และ 1800MHz ที่เพิ่งมีมติชะลอไว้เป็นพิธีเท่านั้น