ประว ต ตำรวจท องเท ยวสนามบ นส วรรณภ ม

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของการแข่งขันแบดมินตันรายการใหญ่ระดับนานาชาติ ในศึก “ปริ้นเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส 2024″ (Princess Sirivannavari Thailand Masters 2024) ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทัวร์นาเมนต์เก็บคะแนนสะสมคะแนนอันดับโลกระดับบีดับเบิลยูเอฟ เวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 300 ชิงเงินรางวัลรวม 210,000 เหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 7,245,000 บาท ที่จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 30 มกราคม – 4 กุมภาพันธ์ 2567 ที่อาคารนิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ

ศึก “ปริ้นเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส 2024″ นับเป็นหนึ่งในทัวร์นาเมนต์เก็บคะแนนสะสมคัดเลือกไปโอลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024 ซึ่งจะทำให้การแข่งขันสนุกเข้มข้นมากขึ้น แน่นอนว่าจะได้รับความสนใจจากนักกีฬา ผู้ฝึกสอนจากทั่วโลก ที่จะเดินทางมาแข่งขันในปีนี้

โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. 66 ที่ผ่านมาจะมีการประกาศรายชื่อนักกีฬาที่ส่งรายชื่อมาเข้าร่วมการแข่งขันออกมาเป็นที่เรียบร้อย ประเภทชายเดี่ยวมีนักกีฬาชั้นนำของโลกอาทิ แอนเดร์ส แอนทอนสัน มืออันดับ 9 ของโลกจากเดนมาร์ก, โลว เคียงยิว มืออันดับ 10 ของโลกจากสิงคโปร์, ลี ซีเจี๋ย มืออันดับ 11ของโลกจากมาเลเซีย, อึ้ง ซื่อหยง มืออันดับ 15 ของโลกจากมาเลเซีย, เคนตะ นิชิโมโตะ มืออันดับ 12ของโลกจากญี่ปุ่น, คันตะ สึนิยามะ มืออันดับ 13 ของโลกจากญี่ปุ่น, เคนโตะ โมโมตะ มืออันดับ 38 ของโลกจากญี่ปุ่น , โจว เทียนเฉิน มืออันดับ 14 ของโลกจากไต้หวัน ส่วนนักกีฬาแบดมินตันไทยนำมาโดย “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มืออันดับ 7 ของโลก ,”กัน” กันตภณ หวังเจริญ มืออันดับ 36 ของโลก

ประเภทหญิงเดี่ยวแน่นอนว่านักกีฬาสาวไทยพาเหรดลงสนามกันเต็มอัตราศึก ไล่เรียงจากพี่ใหญ่ของทีม “เมย์” รัชนก อินทนนท์ มืออันดับ 13 ของโลก,”หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ มืออันดับ 14 ของโลก,”เมย์” ศุภนิดา เกตุทอง มืออันดับ 16 ของโลก,”ครีม” บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ มืออันดับ 19 ของโลก, “จิว” ลลินรัศฐ์ ไชยวรรณ มืออันดับ 38 ของโลก,”แครอท” พรพิชชา เชยกีวงศ์ มืออันดับ 43 ของโลก,”พิงค์” พิชฌามลณ์ โอภาสนิพัทธ์ มืออันดับ 55 ของโลก ส่วนคู่แข่งของสาวไทยนั้นจะมี คิม กาอึน มืออันดับ 12 ของโลกจากเกาหลีใต้, อายะ โอโฮริ มืออันดับ 15 ของโลกจากญี่ปุ่น, โนโซมิ โอกูฮาระ มืออันดับ 26 ของโลกจากญี่ปุ่น อดีตเหรียญทองแดงโอลิมปิกเกมส์ 2016 และ แชมป์โลกปี 2017 , มิเชล ลี มืออันดับ 24 ของโลกจากแคนาดา, เหยา เจียหมิน มืออันดับ 22 ของโลกจากสิงค์โปร์ ที่เดินทางมาร่วมชิงชัย

ประเภทชายคู่อินโดนีเซียส่งรายชื่อ 3 คู่เด่นๆมาร่วมศึก ฟาร์จา อัลเฟียน กับ มูฮัมมัด ไรอัล อาเดรียนโต คู่มืออันดับ 6 ของโลกจากอินโดนีเซีย, มูฮัมหมัด โชฮีบุล ฟิครี้ กับ บากัส มัลลาน่า คู่มืออันดับ 9 ของโลกจากอินโดนีเซีย, ลีโอ โรลลี่ คานานโด้ กับ แดเนียล มาร์ติน คู่มืออันดับ 11 ของโลกจากอินโดนีเซีย, ออง ยิวซิน กับ เตียว อียี่ คู่มืออันดับ 12 ของโลกจากมาเลเซีย, เหอ จีติง กับ เหริน เซียงยู่ คู่มืออันดับ 32 ของโลกจากจีน, อากิระ โคกะ กับ ทาอิชิ ไซโตะ คู่มืออันดับ 14 ของโลกจากญี่ปุ่น ด้านนักกีฬาแบดมินตันไทยมี “เอ็ม” สุภัค จอมเกาะ กับ “สกาย”กิตตินุพงษ์ เกตุเรน คู่มืออันดับ 33 ของโลก, “ภีม” ภรัณยู ขาวสำอางค์ กับ “ทีม” วรพล ทองสง่า คู่มืออันดับ 49 ของโลก

ประเภทหญิงคู่ “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธรากุล กับ “วิว” รวินดา ประจงใจ คู่มืออันดับ 10 ของโลก และเจ้าของแชมป์ปี 2023 “อันนา”นันทน์กาญจน์ เอี่ยมสอาด กับ “มูนา” เบญญาภา เอี่ยมสอาด คู่มืออันดับ 13 ของโลก จะลงสนามประมือกับ หลิว ซวนซวน กับ หลี่ เหวินเม่ย คู่มืออันดับ 16 ของโลกจากจีน, เฟเบียน่า ดาวีพูจี กุสุมา กับ อมาเลีย คายาฮา พราตีวี่ คู่มืออันดับ 17 ของโลกจากอินโดนีเซีย, สเตฟานี่ กับ กาเบียลล่า สโตเอว่า คู่มืออันดับ 18 ของโลกจากบัลแกเรีย, กายาตี้ พูเรลล่า โกปีชาน กับ เทสซ่า โจลี่ คู่มืออันดับ 19 ของโลกจากอินเดีย, ชิน เซืองชาน กับ ลี ยูริม คู่มืออันดับ 25 ของโลกจากเกาหลีใต้ ที่มีรายชื่อมาร่วมชิงชัย

ประเภทคู่ผสม รองแชมป์ปี 2023 “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย คู่มืออันดับ 6 ของโลก จะนำน้องๆอย่าง “เอ็ม” สุภัค จอมเกาะ กับ “เฟม” ศุภิสรา เพียวสามพราน คู่มืออันดับ 20 ของโลก, “ไตเติ้ล” รุษฐนภัค อูปทอง กับ “เจน” เฌอย์ณิชา สุดใจประภารัตน์ คู่มืออันดับ 34 ของโลก ลงสนามประมือกับ ตัง ชุนมาน กับ ซื่อ หยิงซวด คู่มืออันดับ 8 ของโลกจากฮ่องกง, เฉิน ตังเจี๋ย กับ เต้า อีเหว่ย คู่มืออันดับ 9 ของโลกจากมาเลเซีย, เกา ซุนฮวด กับ เชวอน เจมี่ไล่ คู่มืออันดับ 15 ของโลกจากมาเลเซีย, มาเธียส คริสเตียนเซ่น กับ อเล็กซานดร้า โบเจ้ คู่มืออันดับ 10 ของโลกจากเดนมาร์ก, ฮิโรกิ มิโดริกาวะ กับ นัตสึ ไซโตะ คู่มืออันดับ 13 ของโลกจากญี่ปุ่น, ดีจาล เฟอร์ดีนานยาท กับ กลอเรีย เอ็มมานูเอล วิดจาจ้า คู่มืออันดับ 14 ของโลกจากอินโดนีเซีย

โดยจะมีการจับสายการแข่งขันในวันที่ 9 ม.ค.67 นี้ และทางสมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จะทำการแถลงข่าวการจัดการแข่งขัน “ปริ้นเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส 2024″ ในวันศุกร์ที่ 5 ม.ค. 67 ที่ห้องอโนมา 3 โรงแรมอโนมา แกรนด์ กรุงเทพฯ เวลา 14.00 น.-614

“มหาจำลอง” ซัดตำรวจตอแหล ที่แท้เป็นนักฆ่าประชาชน

เผยแพร่: 9 ต.ค. 2551 17:11 โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

“จำลอง-ไชยวัฒน์” ออกจากคุกคลองเปรม เข้าร่วมชุมนุมกับเพื่อนพันธมิตรฯ ที่ทำเนียบรัฐบาลทันที ยันการสูญเสียถึง “เลือด-เนื้อ-ชีวิต” ตำรวจโหดร้ายทำเกินกว่าเหตุ ไม่ได้ใช้แก๊สน้ำตาอย่างเดียว ย้ำ ตร.โกหกซึ่งหน้าไม่เคยเชื่อการชี้แจงของ “สมชาย” ขณะที่ทนายพันธมิตรฯ เตรียมฟ้องกลับ สตช.

วันนี้ (9 ต.ค.) เมื่อเวลา 16.20 น. ภายหลังที่ได้รับการประกันตัว พล.ต.จำลอง ศรีเมือง และนายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำพันธมิตรฯ ได้เดินทางออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ด้วยรถเบนซ์ ทะเบียน ชร-3633 โดยได้เดินออกมาทางด้านหน้าเรือนจำ ใส่เสื้อม่อฮ่อม กางเกงสแลกสีน้ำเงิน นายไชยวัฒน์ใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวน้ำตาล สแลกสีดำ มีนายรัฐพร โตประยูร ทนายพันธมิตรฯ และพันธมิตรฯ ที่มีความใกล้ชิดบุคคลทั้งสองบางส่วนมารอรับ

พล.ต.จำลอง กล่าวว่า การให้ประกันตัววันนี้ไม่มีเงื่อนไขใด ตนและนายไชยวัฒน์ถึงได้ให้ทนายยื่นขอประกันตัว ซึ่งการที่ตนไม่มอบตัวตามข้อหากบฏก่อนหน้าที่จะถูกจับขณะไปเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เนื่องจากมองมาหมายจับดังกล่าวเลื่อนลอย หากตนยอมรับถือเป็นการทำลายกระบวนการยุติธรรม และการที่ตนเองออกไปเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เพราะเป็นความจำเป็นที่ต้องไปเลือกตั้ง เนื่องจากตนมีตำแหน่งหน้าที่สำคัญหลายอย่าง อีกทั้งเคยเป็นผู้ว่าฯ กทม.มาก่อน เคยได้รับรางวัลแมกไซไซคนแรกของเอเชีย

พล.ต.จำลอง กล่าวถึงการสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ รอบรัฐสภาเมื่อวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า เป็นเหตุการณ์ที่แย่กว่าคราวที่ตำรวจเข้าสลายการชุมนุมที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ เมื่อ 2 ก.ย. ซึ่งภาพที่ปรากฏได้เผยแพร่ไปทั่วโลก ซึ่งตำรวจบอกใช้เพียงแก๊สน้ำตาสลายนั้น ตนมองว่าไม่จริง ถ้ามีเพียงแก๊สน้ำตาจะทำให้ถึงตาย แขนขาด ขาขาดได้อย่างไร โดยเฉพาะที่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี บอกว่าการใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมเป็นการทำตามหลักสากลนั้น ยิ่งไม่เป็นความจริง

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ บช.น.สาธิตวิธีการยิงแก๊สน้ำตาเพื่อแสดงให้เห็นถึงการเข้าสลายการชุมนุมนั้น พล.ต.จำลอง กล่าวว่า ตำรวจควรลองจ่อยิงแบบประชั้นชิด น่าจะสาธิตเช่นนี้ การที่ออกมาสาธิตวิธีการและอธิบายรายละเอียดต่างๆ ตนมองว่าเป็นเรื่องโกหก ยิ่งผู้เชี่ยวชาญบอกตรงกันว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้แก๊สน้ำตาอย่างเดียว นอกจากนี้การที่นายสมชาย วงศ์สวัดิ์ นายกรัฐมนตรี ออกมายืนยันว่าแก๊สน้ำตาไม่เป็นอันตรายนั้นก็ควรลดลองยิงแก๊สน้ำตากับนายสมชายเอง และการที่ให้ร้ายพันธมิตรฯ พกอาวุธหนักไปชุมนุมด้วย ยิ่งเป็นเรื่องที่แย่ที่สุด ตนมองว่าเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเรื่องที่แย่ โหดที่สุด ไม่คาดคิดจะเกิดขึ้นอีกหลังจากเหตุการณ์พฤษาทมิฬ

พล.ต.จำลอง กล่าวด้วยว่า การสสายการชุมนุมที่ตำรวจทำลายเต็นท์ และยกกล่องบริจาคเงินที่สะพานมัฆวานฯ ทางเรายังฟ้องร้องเอาผิดยังไม่หมดเลย นอกจากนี้ พล.ต.จำลอง บอกว่า ในส่วนของการเข้ามอบตัวของแกนนำพันธมิตรฯ อีก 7 คน ตนจะหารือและแนะนำทั้งหมดอีกครั้งว่าถ้ามอบตัวแล้วได้รับการประกันตัวถึงทำ แต่ถ้าไม่แน่ใจจะได้ประกันตัวก็ไม่ควรเข้ามอบตัว เพราะไม่คุ้ม

“เหตุการณ์รุนแรงครั้งนี้ตำรวจบอกเป็นมือที่ 3 ทำ ผมมองว่าเป็นมือตำรวจ เป็นมือของรัฐบาลทำ การสูญเสียครั้งนี้ให้ประชาชนดูว่าเกิดจากใครเป็นคนทำ ให้สังคมมองคนตายตายเพราะใคร มันไม่ใช่เพราะพันธมิตรฯ เพราะคนมาชุมนุมมาด้วยความสมัครใจ เราไม่เคยไปบังคับขู่เข็ญให้ออกมา” พล.ต.จำลองกล่าว

พล.ต.จำลอง กล่าวต่อไปว่า ตนและนายไชยวัฒน์ไม่รู้สึกอะไรกับการต้องอยู่ในเรือนจำ เพราะเคยติดคุกมา 3 คุกแล้ว ทั้งคุกตำรวจ คุกทหาร และคุกพลเรือน เมื่อออกจากเรือนจำคลองเปรมแล้วจะเดินทางไปทำเนียบรัฐบาลเพื่อเข้าร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ ต่อไป

ทางด้าน นายรัฐพร โตประยูร ทนายพันธมิตรฯ กล่าวว่า จะฟ้องร้องกลับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ดำเนินคดีเอาผิดต่อผู้เกี่ยวข้องกับการออกหมายจับ 9 พันธมิตรฯ แน่นอน โดยจะหารือกับ 9 แกนนำว่าจะฟ้องกลับเมื่อใด และการตั้งข้อหากบฏถือเป็นข้อหาที่รุนแรงเกินไป ซึ่งแนวทางต่อสู้จะเป็นไปตามกฎหมาย

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ ผบก.น.1 กล่าวว่าว่า ได้รับการประสานจากกลุ่มแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อติดต่อขอเข้ามอบตัวจริง ในวันที่ 10 ต.ค. แต่ยังไม่ทราบเวลาที่แน่ชัด ว่าจะเป็นที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) หรือ สน.นางเลิ้ง ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุและขออนุมัติหมายจับ อย่างไรก็ตามจะจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อสมทบกับพนักงานสอบสวน สน.นางเลิ้ง หากมีการเข้ามอบตัวที่นั่นจริง ซึ่งขั้นตอนก็คงสอบปากคำ ทำประวัติ ลงบันทึกประจำวัน และแจ้งข้อหา โดยเชื่อว่าสถานการณ์ไม่น่าจะวุ่นวาย และไม่น่าจะกดดัน เพราะเป็นการติดต่อขอมอบตัวเอง