การส งผล ตเคร องสำอางค แบรนด ต วเอง ม นบ ร

สร้างแบรนด์ครีม ของตัวเองไม่ใช่เรื่องยากแต่จะทำยังไงให้แบรนด์ของเราประสบความสำเร็จและเป็นที่รู้จักต่างหากเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร ในยุคสมัยที่มีการแข่งขันทางธุรกิจที่เข้มข้นขึ้นทุกปี เนื่องจากมีผู้ค้ารายใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งแบรนด์ใหญ่ แบรนด์เล็ก ทำให้การแข่งขั้นในท้องตลาดนั้นดุเดือดขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะธุรกิจเครื่องสำอาง และอาหารเสริมที่กำลังเป็นที่เฟิ้องฟูและเป็นที่ต้องการของตลาด

ดังนั้นการทำแบรนด์ครีมให้ดีจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก เริ่มตั้งแต่กระบวนการผลิต การเลือกโรงงาน การเลือกบรรจุภัณฑ์ รวมไปถึงการทำการทำตลาด สร้างแบรนด์ครีม ให้เป็นที่รู้จัก โดดเด่น และติดตลาด และนี่คือ 8 ขั้นตอนสำคัญ สร้างแบรนด์ครีมให้ประสบความสำเร็จ ที่คุณเองก็ทำได้


1.ต้องรู้ก่อนว่าอยากผลิตครีมประเภทไหน

การส งผล ตเคร องสำอางค แบรนด ต วเอง ม นบ ร

ก่อนอื่นเราควรรู้ก่อนว่า เราอยากผลิตครีมประเภทไหน อาทิเช่น เป็นครีมสำหรับทาผิวหน้าเพื่อความขาว ครีมทาผิวเพื่อความชุ่มชื้น หรือเป็นครีมกันแดด ถ้าใครนึกไม่ออกอาจจะเริ่มจากผลิตภัณฑ์ที่คุณใช้อยู่ ๆ บ่อย ๆ หรือชื่นชอบเป็นพิเศษ เพื่อที่จะได้รู้แนวทางคร่าว ๆ หรือลองสำรวจตลาดว่าช่วงนี้ครีมประประเภทไหนกำลังเป็นที่นิยมและเป็นที่ต้องการของตลาดอยู่ตอนนี้ เมื่อได้รูปแบบครีมที่พึงพอใจแล้วก็ลองร่างแผนธุรกิจคร่าว ๆ ดูว่ากลุ่มเป้าหมายขอเราเป็นใคร อยากให้ภาพลักษณ์แบรนด์ของเราประมาณไหน เพื่อที่เราจะได้เห็นภาพรวม และสามารถอธิบาย และขอคำปรึกษากับทางโรงงานเพิ่มเติมต่อไปได้นั่นเอง


2.หาโรงงานที่ได้มาตรฐาน

การส งผล ตเคร องสำอางค แบรนด ต วเอง ม นบ ร

หลังจากตัดสินใจว่าจะผลิตครีมแบบไหนและมีไอเดียธุรกิจคร่าว ๆ แล้ว ต่อมาก็เป็นการหาโรงงานรับผลิตเพื่อผลิตครีมของเรา ให้ลองหาโรงงานประเภท ODM หรือ OEM ที่ได้มาตรฐานเพราะเป็นโรงงานรับผลิตสินค้าประเภทนี้โดยตรง ซึ่งการเช็คความน่าเชื่อถือเราสามารถทำได้โดยการเข้าไปดูผลงานของโรงงานนั้น ๆ ว่ามีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน ตรวจสอบว่าโรงงานมีใบอนุญาตไหม มีใบรับรองมาตรฐานการผลิตอะไรบ้าง แล้วลองลิสต์หลาย ๆ ที่ เพื่อเปรียบเทียบดู สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเข้าไปดูโรงงานจริงว่ามีการเปิดโรงงานตามจริงหรือไม่ ได้มาตรฐานหรือเปล่าก่อนตัดสินใจเลือก เพราะการเลือกโรงงานที่ดีเป็นก้าวแรกที่สำคัญหากได้โรงงานไม่ได้มาตรฐาน นั้นก็แปลว่าสินค้าย่อมไม่ได้มาตรฐานด้วย


3.เลือกสูตรที่ตรงใจ

การส งผล ตเคร องสำอางค แบรนด ต วเอง ม นบ ร

เมื่อเราได้โรงงานที่ถูกใจแล้ว หากคุณยังไม่มีสูตรของตัวเองก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะทางโรงงานจะมีสูตรที่เรียกว่า “สูตรกลาง” เอาไว้คอยบริการ ซึ่งสูตรนี้เป็นเป็นสูตรมาตรฐานที่ทางโรงงานคิดค้นขึ้นมาแล้ว เราสามารถใช้สูตรกลางนี้ไปรีแบรนด์เป็นของเราได้เลย แต่ถ้าหากเราไม่อยากได้สูตรกลาง แต่อยากมีสูตรที่เป็นเฉพาะของแบรนด์เราเอง เราก็สามารถจ้างทีมวิจัยของทางโรงงานให้คิดสูตรขึ้นมาให่ได้เช่นกันค่ะ เมื่อได้สูตรที่ลงตัวแล้ว ก็ต้องลองใช้จริง เพื่อที่เราจะได้ทดสอบว่าสูตรของเรานั้นได้ผลแน่ เพราะคงไม่มีใครอยากเสียเงินให้กับสินค้าที่ใช้แล้วไม่มีคุณภาพ หรือไม่ได้ผลอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังเป็นการทำความเข้าใจถึงผลิตภัณฑ์ของเราให้ถ่องแท้อีกด้วย


4.ทำเรื่องจดทะเบียนและ ขอ อย.

การส งผล ตเคร องสำอางค แบรนด ต วเอง ม นบ ร

ได้สูตรที่คงที่แล้ว เราก็จะสามารถทำการขึ้นทะเบียนสินค้าครีมของเราภายใต้ชื่อแบรนด์และชื่อสินค้าที่เราต้องการได้ โดยทางโรงงานจะเป็นผู้ดำเนินในการส่งสูตรไปแจ้งขึ้นทะเบียน ขอเลขที่จดแจ้งกับ อย. ในนามแบรนด์ของเราให้ถูกต้อง โดยที่เราไม่ต้องยุ่งยากทำเองค่ะ


5.ออกแบบฉลากสินค้าและ เลือกบรรจุภัณฑ์

การส งผล ตเคร องสำอางค แบรนด ต วเอง ม นบ ร

ระหว่างที่เรารอเอกสารต่าง ๆ ในการดำเนินเรื่องขอขึ้นทะเบียนและขอ อย. เราก็สามารถทำการออกแบบบรรจุภัณฑ์ของเรารอได้ ว่าอยากได้แบบไหน ภาพลักษณ์รวมแบรนด์ของแบรนด์เราเป็นอย่างไร บรรจุภัณฑ์ของเราควรเป็นแบบไหนจึงจะเหมาะกับรูปแบบครีมของเรา พอได้อย. แล้วและ จดขึ้นทะเบียนแล้วถึงจะทำการออกแบบฉลากตาม ในส่วนนี้หากไม่มีความชำนาญก็สามารถปรึกษากับทางโรงงานได้โดยตรงเพื่อขอคำแนะนำเพิ่มเติมได้ค่ะ


6.เข้าสู่กระบวนการผลิต

การส งผล ตเคร องสำอางค แบรนด ต วเอง ม นบ ร

หลังจากได้สูตรครีม ขึ้นทะเบียนเรียบร้อย มีบรรจุภัณฑ์และฉลากพร้อมแล้วก็เข้าสู่กระบวนการผลิต ซึ่งเวลาที่ใช้ผลิตสินค้าระยะเวลาตรงนี้อาจจะอยู่ที่ราว ๆ ที่ 1 เดือน ช้าหรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยการผลิตในขั้นตอนการสกรีนขวด หรือสั่งทำกล่องบรรจุภัณฑ์ว่ามีความอยากง่ายมากน้อยแค่ไหน


7.หาช่องทางการตลาด

การส งผล ตเคร องสำอางค แบรนด ต วเอง ม นบ ร

ระหว่างที่เรารอสินค้าผลิตออกมา ก็สามารถวางแผนทาการตลาดได้เลยว่าเรากระจายสินค้าของเราเข้าสู้ตลาดอย่างไร ทำยังไงให้แบรนด์ของเราเป็นที่รู้จักและติดตลาด ซึ่งวิธีที่ง่ายและรวดเร็วมากที่สุดก็คือการใช้เทคโนลยีเครื่องมือบนโลกอินเตอร์เน็ทมาช่วยโปรโมทสินค้า ไม่ว่าจะเป็นการใช้โซเชียลมีเดียอย่าง Facebook , Instagram , Twitter หรือ Line@ เข้ามาช่วยเพื่อให้สินค้าของคุณเป็นที่รู้จักมากขึ้นก็เป็นวิธีการที่ง่ายและต้นทุนไม่สูงมา ทั้งนี้อาจจะใช้ระบบตัวแทน เพื่อช่วยกระจายสินค้า โดยสามารถสร้างแรงจูงใจด้วยการให้เปอร์เซนต์หรือส่วนลดที่น่าดึดดูดใจ เพื่อให้พวกเขาเหล่านี้ช่วยกระจายสินค้าให้คุณได้โดยไม่ต้องอาศัยหน้าร้านก็เป็นอีกวิธีที่ไม่เลวเลยทีเดียว


8.ทำบัญชี และวางแผนการสต๊อกสินค้า

การส งผล ตเคร องสำอางค แบรนด ต วเอง ม นบ ร

เมื่อสินค้าของเราเป็นที่รู้จักและติดตลาดแล้ว การทำบัญชีและการวางแผนสต๊อกสินค้าก้เป็นสิ่งที่สำคัญ ข้อดีของการทำบัญชีสินค้าจะทำให้เราเห็นภาพรวมของรายรับรายจ่ายชัดเจน รู้ว่าเรากำลังขาดทุนหรือได้กำไลเท่าไหร รวมไปถึงทำให้ได้เห็นถึงรายจ่ายที่ไม่จำเป็นและรายจ่ายที่สำคัญเพื่อเป็นการจัดสรรงบประมาณถูก ส่วนการทำสต๊อกสินค้าก้เป็นการคำนวนว่าเราควรสั่งผลิตสินค้าเพิ่มเท่าไหร เพราะถ้าหากสินค้าเป็นที่ต้องการในตลาดแต่มีสินค้าอยู่ในสต๊อกไม่เพียงพอ นอกจากทำให้เสียเวลาแล้ว ยังเสียโอกาสในการทำเงินไปด้วย