โยเกิร์ตพร้อมดื่ม เป็นอีกประเภทของโยเกิร์ตที่ได้รับความนิยมมาอย่างช้านาน เนื่องจากรับประทานง่ายและมีประโยชน์ไม่แพ้โยเกิร์ตทั่วไป แถมมีรสชาติที่อร่อยอีกด้วย ซึ่งหากว่ากันตามจริงแล้ว คงมีหลายๆ คนสงสัยว่าเจ้าโยเกิร์ตชนิดนี้ต่างจากโยเกิร์ตทั่วไปอย่างไร เมื่อมีคำว่า “พร้อมดื่ม” เข้ามา จะมีลักษณะเหมือนกับนมเปรี้ยวหรือไม่ ในบทความนี้ Butterfly Organic มีคำตอบมาให้ทุกคนได้หายข้องใจกัน Show
โยเกิร์ตพร้อมดื่ม คือ อะไร เหมือนโยเกิร์ตทั่วไปหรือไม่ มีประโยชน์อย่างไรบ้าง?โยเกิร์ตแบบพร้อมดื่ม หรือที่เราคุ้นชินกันดีว่า “นมเปรี้ยว” นั่นเอง นมชนิดนี้ก็คือ นมสดที่นำมาหมักด้วยจุลินทรีย์หลายชนิด ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น แลคโตบาซิลลัส และ สเตรปโทค็อกคัส เทอร์โมฟิลัส เป็นสำคัญ ซึ่งจุลินทรีย์ดังกล่าวจะช่วยย่อยสารอาหารที่มีอยู่ในน้ำนมให้มีขนาดเล็กลง ทำให้ร่างกายของเราสามารถดูดซึมสารอาหารไปใช้ประโยชน์ได้ง่ายขึ้นนั่นเอง อย่างไรก็ดี โยเกิร์ตนั้นมีหลายประเภทมากๆ เรามาดูกันว่าแต่ละประเภทต่างกันอย่างไร ประเภทของโยเกิร์ตจากที่กล่าวไปว่าโยเกิร์ตแบบพร้อมดื่มคือหนึ่งในประเภทที่ได้รับความนิยม นั่นเป็นเพราะว่าโยเกิร์ตนั้นมีหลายประเภทนั่นเอง เช่น โยเกิร์ตแท้ ชนิด แข็งตัว (Set yogurt)เนื้อครีมกึ่งแข็งกึ่งเหลว รสชาติอมเปรี้ยว ทำจากนมทั้งชนิดไขมันปกติ ไขมันต่ำ โยเกิร์ต แท้ ชนิด คน (Stirred yogurt)เนื้อโยเกิร์ตจะมีลักษณะเหลวกว่าโยเกิร์ต ชนิดแข็งตัว และอาจมีการเติมเนื้อผลไม้เชื่อม และมีการเต่งกลิ่นรสต่างๆ เข้าไปเพิ่ม แล้วคนให้เข้ากัน รสชาติอมเปรี้ยว หรือเป็นไปตามรสชาตของผลไม้ที่เติมเข้าไป สามารถทำจากนมทั้งชนิดไขมันปกติ หรือไขมันต่ำ โยเกิร์ตปรุงแต่งชนิดดื่มโยเกิร์ตที่มีเติมน้ำหรือของเหลวอื่นเช่นน้ำหวาน น้ำผลไม้เข้าไป มีรสชาติหวาน และมีน้ำตาลมากกว่าโยเกิร์ตทั่วไป กรีกโยเกิร์ตกรีกโยเกิร์ต นั้นเนื้อโยเกิร์ตจะมีลักษณะเข้มข้นกว่าโยเกิร์ตแท้ และมีโปรตีนสูงกว่าโยเกิร์ตปกติถึงสองเท่า เนื่องจากมีการกรองน้ำเวย์ออกบางส่วนทำให้เนื้อโยเกิร์ตเข้มข้นขึ้น โยเกิร์ตที่ไม่ได้ทำมาจากนมทำมาจากนมถั่วเหลือง น้ำนมข้าว หรือกะทิ สำหรับคนที่เป็นมังสวิรัติ รสชาติแตกต่างจากโยเกิร์ตทั่วไป (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความ : นม-โยเกิร์ต จากแพลนต์เบส ทางเลือกใหม่สำหรับคนรักสุขภาพ) โยเกิร์ตแบบไหนเหมาะกับใครบ้าง?เนื่องจากผู้บริโภคที่ทานโยเกิร์ตนั้นมีหลายช่วงวัย ดังนั้นจึงอาจจะมีโยเกิร์ตที่เหมาะสมกับวัยของตนเองที่ต่างกัน เช่น โยเกิร์ตสำหรับเด็กจริงๆ แล้วสำหรับเด็กๆ สามารถทานโยเกิร์ตทั่วไปได้เลย (ในกรณีที่เป็นทารกควรพิจารณาจากอายุเดือนเสียก่อน ซึ่งขั้นต่ำต้อง 10 เดือนขึ้นไป) โดยแนะนำให้เป็นรสธรรมชาติ เพราะคุณพ่อคุณแม่สามารถเพิ่มเติมผลไม้หรือรังสรรค์เมนูได้อีก โยเกิร์ตสำหรับคนวัยทำงานคนวัยทำงานเหมาะกับกรีกโยเกิร์ตที่มีเนื้อเข้มข้นกว่าโยเกิร์ตทั่วไป โดยโยเกิร์ตชนิดนี้จะมีโปรตีนสูงเหมาะกับผู้ที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อหรือผู้ที่ต้องใช้พลังงานในแต่ละวัน แต่ก็ต้องมีความย่อยง่ายด้วยเพราะการทานแบบแน่นท้องจะทำให้อึดอัดและไม่สะดวกต่อการทำงาน โยเกิร์ตสำหรับผู้สูงวัยผู้สูงอายุเหมาะกับโยเกิร์ตพร้อมดื่ม เนื่องจากเป็นชนิดที่ย่อยได้ง่ายที่สุด ผู้สูงอายุส่วนใหญ่มักมีปัญหากับการเคลื่อนไหวและในบางท่านอยู่ในกรณีผู้ป่วยติดเตียง ดังนั้น แรงเคลื่อนไหวที่จะทำให้ลำไส้ขยับตัวจึงน้อยลงกว่าวัยอื่นๆ โยเกิร์ตพร้อมดื่มสามารถช่วยได้ โยเกิร์ตพร้อมดื่ม ประโยชน์ ที่มีต่อร่างกาย มีอะไรบ้าง?โยเกิร์ตมีประโยชน์เหมือนนมทั่วไป คือ มีแคลเซียมและโปรตีนสูง แต่สิ่งที่โยเกิร์ตพิเศษกว่านมและผลิตภัณฑ์นมประเภทอื่น เพราะมีจุลินทรีย์ แลคโตบาซิลลัส ซึ่งเป็นจุลินทรีย์สุขภาพ ที่ช่วยดูแลลำไส้และระบบขับถ่าย เป็นต้น ซึ่งสามารถแยกเป็นข้อดี-ข้อเสียได้อีก โยเกิร์ต ข้อดี ข้อเสียโยเกิร์ตมีข้อดี-ข้อเสียต่างกัน ประกอบด้วย ข้อดี
ท้องผูกเป็นอาการที่เกิดได้กับทุกคน ไม่ว่าจะเด็ก หรือผู้ใหญ่ สาเหตุเกิดมาจากการกินอาหารที่มีกากใยน้อยเกินไป ซึ่งชาวบัลแกเรียนิยมกินโยเกิร์ตเป็นประจำ เพราะช่วยปรับสมดุลของระบบทางเดินอาหาร และระบบขับถ่าย โยเกิร์ตมีแบคทีเรียที่ดีต่อลำไส้จึงสามารถช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความ : 7 สูตร “แก้ปัญหาท้องผูก-เพิ่มประสิทธิภาพระบบขับถ่าย” ด้วยผลิตภัณฑ์นม)
การรับประทานโยเกิร์ตซึ่งมีโพรไบโอติกส์อยู่ด้วย จะสามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีในร่างกายได้ โยเกิร์ตโพรไบโอติกส์จะช่วยลดคอเลสเตอรอล LDL ซึ่งเป็นไขมันชนิดเลวให้ลดลง
โยเกิร์ตอุดมไปด้วยโปรตีน จึงช่วยให้อิ่มท้อง แต่ถ้าหากต้องการลดน้ำหนัก ควรเลือกโยเกิร์ตรสธรรมชาติ หรือกรีกโยเกิร์ต เพราะมีโปรตีนสูงเป็น 2 เท่าของโยเกิร์ตทั่วไป แล้วยังให้แคลอรีต่ำ ข้อเสีย
คนไทยและคนเอเชียมากกว่าครึ่งหนึ่งแพ้โปรตีนนมวัว ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่สำคัญของโยเกิร์ต และอาจจะทำให้เกิดอาการท้องเสีย หรือผื่นแพ้ได้
แม้ว่าอาจจะไม่ได้เกิดจากตัวโยเกิร์ตเอง แต่ก็เป็นส่วนผสมที่ทางผู้ผลิตมักเติมมาให้โยเกิร์ตมีความเหนียวข้น นั่นก็คือ แป้ง ซึ่งกินมากไปก็อาจจะทำให้อ้วนไม่รู้ตัวได้ นอกจากนี้ยังมีพวกสารแต่งกลิ่น สารแต่งสี หรือแม้กระทั่งสารกันเสียอีกด้วย โยเกิร์ตพร้อมดื่ม ยี่ห้อไหนดีณ ปัจจุบันมีโยเกิร์ตพร้อมดื่มหลายยี่ห้อตามท้องตลาดซึ่งก็มีลักษณะ รสชาติ ราคา ที่ต่างกันออกไปซึ่งจะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้บริโภคว่าชอบแบบไหน อย่างไรก็ดี สิ่งสำคัญที่มาพร้อมกับการเลือกแบรนด์ คือ หลักของการซื้อโยเกิร์ตและโยเกิร์ตพร้อมดื่มว่ามีวิธีซื้ออย่างไรบ้างให้ถูกต้อง โดยปัจจัยในการเลือกซื้อ ประกอบด้วย วันหมดอายุไม่ควรลืมเด็ดขาด ที่จะสำรวจดูวันหมดอายุ ที่ระบุไว้บนบรรจุภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ต้องอยู่ในสภาพเรียบร้อย ไม่ขาด ไม่รั่ว หรือบุบ หากมีสภาพไม่ดีก็อย่าเสี่ยงซื้อเพราะรอยตำหนิเหล่านั้นอาจส่งผลต่อคุณภาพของโยเกิร์ตที่อยู่ภายในได้ หากเป็นโยเกิร์ตชนิดครีมหากเป็นโยเกิร์ตชนิดครีม ก่อนทานต้องพิจารณาดูว่ามีลักษณะข้น ไม่แยกชั้นระหว่างน้ำกับนมหากเป็นโยเกิร์ตพร้อมดื่ม (นมเปรี้ยวแบบขวด) ต้องไม่มีตะกอนที่ก้นขวด สำรวจสี-กลิ่นแม้จะยังไม่หมดอายุ แต่ก่อนทานควรมีการสำรวจว่าผิดสี ผิดกลิ่นไปจากเดิมหรือไม่ เพราะบางครั้งอาจเกิดการผิดพลาดที่ร้านค้า เก็บไว้ในอุณหภูมิไม่เหมาะสม จนทำให้โยเกิร์ตบูดเน่าก่อนวันหมดอายุที่ระบุไว้ที่บรรจุภัณฑ์ก็เป็นได้ วันผลิตใกล้เคียงกับวันที่ซื้อควรเลือกซื้อโยเกิร์ตที่มีวันผลิตใกล้เคียงกับวันที่ซื้อมากที่สุด หรือให้วันหมดอายุเหลือเวลานานหลายวัน ซื้อรสธรรมชาติเลือกซื้อโยเกิร์ตรสธรรมชาติดีกว่าชนิดที่มีการปรุงแต่ง จะได้รับคุณค่าทางโภชนาการมากกว่า – ถ้าอยากได้คุณค่าโปรตีนหรือแคลเซียม ควรเลือกดื่มนมสด (รสจืด) ดีกว่า เพราะราคาถูกและคุณค่าทางโภชนาการดีกว่า ข้อควรระวังในการกินโยเกิร์ตส่วนใหญ่แล้วข้อควรระวังในการรับประทานโยเกิร์ตจะไม่มีอะไรมาก แต่จะเป็นในส่วนของวิธีการรับประทานที่ผู้บริโภคควรทานแต่พอดีเพราะในโยเกิร์ตมีทั้งน้ำตาล และไขมัน ยิ่งกินมากก็ยิ่งได้รับน้ำตาลและไขมันในปริมาณมากขึ้น นั่นเอง อย่างไรก็ดี นมเปรี้ยว-โยเกิร์ตพร้อมดื่ม ยังคงเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆ คนและยังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ ปัญหาสุขภาพต่างๆ ในทุกเพศทุกวัยอีกด้วย ซึ่งสิ่งสำคัญนอกจากการระมัดระวังในเรื่องของการรับประทานแล้ว ก็คือผู้บริโภคต้องพิจารณาเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดี ปลอดภัย และมีคุณภาพ ด้วย เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายอย่างแท้จริง Organic Drinking Yogurtโยเกิร์ตพร้อมดื่มออร์แกนิกจาก Butterfly Organic ผลิตภัณฑ์โยเกิร์ตออร์แกนิคของเรา ไม่ใช่แค่วัวที่เลี้ยงแบบกินหญ้า Grass Fed เท่านั้น แต่เป็นวัวที่กินหญ้าออร์แกนิค 100% (certified organic) ไม่มีการใช้ยาปฏิชีวนะะ หรือสารเคมีใดๆ ทั้งกับตัววัวและพื้นที่ในฟาร์ม เราปล่อยวัวให้เดินเล่นในทุ่งกว้าง ไม่มีการกักขัง เพื่อให้วัวของเราได้มีสุขภาพแข็งแรง อารมณ์ดี และมีความสุข ที่สำคัญมั่นใจได้ว่า โยเกิร์ตออร์แกนิคของ Butterfly Organic ไม่มีการใช้สารเคมีต่างๆ อย่างแน่นอน ซึ่งหากผู้บริโภคท่านใดที่สนใจสามารถหาซื้อได้จากห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าชั้นนำทั่วไป หรือสามารถสั่งสินค้าผ่าน LINE OFFICIAL Butterfly Organic ได้เลย FAQ : คำถามที่พบบ่อยโยเกิร์ตพร้อมดื่มเหมือนหรือแตกต่างจากโยเกิร์ตอย่างไร เนื่องจากโยเกิร์ตพร้อมดื่มมีลักษณะที่คล้ายกับนมเปรี้ยว คือมีการเพิ่มรสชาติและสารปรุงแต่งลงไปบ้าง ดังนั้นจึงให้พลังงานมากกว่าโยเกิร์ตทั่วไป นมเปรี้ยวกับโยเกิร์ตพร้อมดื่มต่างกันยังไง โยเกิร์ตพร้อมดื่มหรือนมเปรี้ยวพร้อมดื่ม (yogurt drink หรือ drinking yogurt) มีกระบวนการหมักเหมือนกับโยเกิร์ต คือใช้วัตถุดิบเป็นนมวัวและเติมหัวเชื้อ LAB ลงไป แต่อาจจะใช้ LAB เหมือนหรือต่างสายพันธุ์กับที่ใช้ผลิตโยเกิร์ตก็ได้ เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการหมักแล้วจะมีการเจือจางและปรุงแต่งกลิ่น รส สี หรือมีการเติมน้ำผลไม้หรือน้ำเชื่อมเพิ่มลงไป จะได้ผลิตภัณฑ์ที่มีลักษณะเหลว จุลินทรีย์ในโยเกิร์ตมีกี่ชนิด โดยทั่วไปในกระบวนการผลิตโยเกิร์ต จะเริ่มจากการนำนมมาให้ความร้อนเพื่อทำลายจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรค แล้วเติมแบคทีเรียที่เป็นหัวเชื้อตั้งต้นในการผลิตโยเกิร์ต ได้แก่ สเตรปโตค็อกคัส เทอร์โมฟิลัส (Streptococcus thermophilus) และ แลคโตบาซิลลัส เดลบรูคคิไอ ชับสปีชี่ส์ บัลการิคัส (Lactobacillus delbrueckii subsp. bulgaricus) แบคทีเรียทั้งสองชนิดจะช่วยกันผลิตกรดแลคติก ทำให้นมมีรสเปรี้ยวและทำให้โปรตีนในนมจับตัวเป็นก้อนจนกระทั่งกลายเป็นโยเกิร์ตในที่สุด |