ม.หนอง อ.ห วห น จ.ประจวบค ร ข นธ

วัดเขาเต่าหัวหิน อยู่ห่างจากหัวหิน ไปทางทิศใต้ 12 กม. ตั้งอยู่ในซอยหัวหิน 101 ทางแยก ก่อนถึงอ่างเก็บน้ำเขาเต่า ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำ การชลประทานโครงการแรก ในพระราชดำริ ของล้นเกล้ารัชกาลที่ 9 ทิศตะวันออกของวัด ติดชายหาดเขาเต่า เป็นแนวยาว บนเนื้อที่ 52 ไร่ 2 งาน 71 ตารางวา พื้นที่เป็นที่ราบ

ม.หนอง อ.ห วห น จ.ประจวบค ร ข นธ

วัดเขาเต่าหัวหิน เริ่มมาจากเป็นสำนักสงฆ์ เมื่อปีพ.ศ.2477 โดยมีผู้จิตศรัทธา ร่วมถวายที่ดิน และสร้างศาลา กับที่พักสงฆ์ชั่วคราว มีหลวงพ่อเคี้ยม เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก และใช้ อุโบสถชั่วคราว ที่เรียกว่า อุทกเขปสีมา หรืออุโบสถกลางทะเล สำหรับการอุปสมบท

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้มอบพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ เป็นทุนเริ่มต้น ในการสร้างอุโบสถ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2501 ต่อมาเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2501 ได้เสด็จพระราชดำเนิน มาทรงเป็นประธาน ในการวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2502ได้เสด็จพระราชดำเนิน ในพิธีผูกพัทธสีมา และได้เสด็จมาในพิธีฉลองอุโบสถอีกครั้ง เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2504 โดยมีพระราชดำรัส ในวันนั้นว่า

“ข้าพเจ้ามีความยินดีมาก ที่ได้มาร่วม เป็นหัวหน้าของชาวบ้านเขาเต่า เพื่อทำการวางศิลาฤกษ์อุโบสถ เพราะครั้งก่อน ๆ ลำบาก ด้วยต้องทำการ อุปสมบทในทะเล เป็นการไม่สะดวก ในการอุปสมบทต่อมา เมื่อมีอุโบสถ เป็นที่ทำสังฆกรรมได้สะดวก ก็จะมีผู้อุปสมบทกันมาก เมื่อมีผู้มาบวชมาก ก็จะได้มีผู้ปฏิบัติ สืบต่ออายุพระพุทธศาสนา พระพุทธศาสนา ก็จะอยู่ได้ถาวร ข้าพเจ้ามีความยินดี ที่จะได้วางศิลาฤกษ์อุโบสถวันนี้ ขอให้ทุกคน มีความสุขความเจริญโดยทั่วกัน”

ในอุโบสถวัดเขาเต่า มีพระประธานพระนามว่า สมเด็จพระสมุทรโคดมคีรีเขตต์ เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ สมัยทวาราวดี (ก่อน ยุคสุโขทัย) อัญเชิญมาจาก วัดหลวงทุ่งบางแก้ว อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ด้วยดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9

วิหารหลวงพ่อชิต กันตสีโล ประดิษฐานพระพุทธรูป และเป็นที่ถวายสังฆทาน โดยมีรูปหล่ออดีตเจ้าอาวาสของวัดเขาเต่า พระปลัดพระปลัดสุเมธ สุเมโธ - พระราชญาณดิลก (หลวงพ่อชิต กันตสีโล) พระครูอรรถวิมล

ปัจจุบัน พระครูธรรมานุจารี (หลวงพ่อพูน ธัมมปฏิทินโน) เป็นเจ้าอาวาส และเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ธรรมยุต และยังเป็นที่ตั้งของ สถาบันพลังจิตตานุภาพ 18 วัดเขาเต่า หัวหิน เพื่อสอนหลักสูตรครูสมาธิ และหลักสูตรการทำสมาธิอื่น ๆ ตามแนวแถวของเจ้าประคุณสมเด็จพระญาณวชิโรดม (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร)

ม.หนอง อ.ห วห น จ.ประจวบค ร ข นธ

มีอาคารครูสมาธิ ติดทะเล ซึ่งเป็นความเมตตา ของพระอาจารย์หลวงพ่อ อนุญาตให้สร้างขึ้น โดยท่านได้เยี่ยมตรวจงานขณะก่อสร้าง พร้อมกับมอบเงินจำนวนหนึ่งให้ร่วมสร้างอาคารด้วย ในระหว่างการก่อสร้าง และสร้างอาคารเสร็จแล้ว ท่านพระราชปัญญาวชิโรดม ได้มาเยี่ยมเสมอ ทั้งพาหมู่คณะสมาธิสัญจร มาบรรยาย มาสวดมนต์ขึ้นบ้านใหม่ (บ้านสวนให้อ.วุฒิกร) มาเยี่ยมฯ และดำริให้ทำห้องแอร์ พร้อมมอบเงินให้ด้วย) ที่จะลืมไม่ได้คือ พี่เล็ก คุณสุพิน โรจนพฤษ์ ภรรยาของ ดร.ศิริธัช โรจนพฤกษ์ กับน้องกิ๊ก ได้มาร่วมเดินจงกรม นั่งสมาธิ และบอกกับผดล.ว่า “พี่จะขอร่วมทำบุญด้วยได้ไหม” จากนั้นดร.ศิริธัช ได้ส่งสถาปนิกมาควบคุมงานก่อสร้าง จนแล้วเสร็จสมบูรณ์ โดยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายส่วนที่ขาด

ม.หนอง อ.ห วห น จ.ประจวบค ร ข นธ

และให้การสนับสนุนการสร้างอาคารชั้นสองจนแล้วเสร็จ และพระอาจารย์หลวงพ่อ ได้เมตตามาเปิดอาคารครูสมาธิ อย่างเป็นทางการเมื่อวัน 13 มีนาคม 2555 มีนายกอบจ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส นายอำเภอหัวหิน นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน ทหาร ตำรวจ พี่น้องประชาชนคนไทย และนักศึกษาครูสมาธิ ชาวแคนาดา อเมริกา มาร่วมเป็นจำนวนมาก

พระครูธรรมานุจารี เป็นประธานที่ปรึกษาสถาบันฯ และอุบาสิกาพธู ฮวดหิน เป็นรองประธานที่ปรึกษาสถาบันฯ อาจารย์วุฒิกร สะท้านธัมม์องอาจ เป็นผู้ดูแล นับแต่ปี 2552 เป็นต้นมา(22 กุมภาพันธ์ 2552 เปิดปฐมนิเทศรุ่น 24 รุ่นแรกสาขา 18 หัวหิน ขณะนั้นเปิดที่วัดเขาน้อย หัวหิน) ได้ย้ายมาวัดเขาเต่า ปลายปี 2552 ปีในความอนุเคราะห์ ของพระครูขจิต ฯ เจ้าอาวาสวัดสุขสำราญ และเจ้าคณะอำเภอจังหวัดหัว ในขณะนั้น ปัจจุบันลาสิกขาแล้ว เป็นอาจารย์หมึกมรรคนายกวัดสุขสำราญ และเป็นที่ปรึกษาพิเศษ ผดล.18

ในการปฐมนิเทศ ครูสมาธิ รุ่น 26 ปี 2553 ได้ใช้โรงทึม(ศาลาสวดอภิธรรม)เป็นที่จัดงาน เพราะไม่มีอาคารเรียน ท่านเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก พระองค์ปัจจุบัน ขณะทรงสมณะศักดิ์ที่ สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ ได้เมตตาเสด็จมาเป็นองค์ประธาน และกล่าวสัมโมทนียกถา ท่านพระครูธรรมานุจารี เจ้าอาวาสวัดเขาเต่า พระครูปลัดบุรมณ์ เตชธัม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดธรรมมงคล (ปัจจุบัน เป็นเจ้าอาวาสวัดธรรมมงคล และพระสุริยา ขณะนั้นปัจจุบันลาสิกขาเป็นพิธีกร วัดธรรมมงคล และวัดในเครือ )ได้มาให้การต้อนรับ ปฏิสัณฐานท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ

ในการดำเนินการ การเรียนการสอน ภายใต้การบริหารงานโดยคณะครูสมาธิ ซึ่งมีอาจารย์วุฒิกร สะท้านธัมม์องอาจ เป็นผดล.ผู้ก่อตั้ง ร่วมกับส่วนกลาง ตั้งแต่เป็น สถาบันพลังจิตตานุภาพ ร่วมกับมูลนิธิหลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร จนเป็น มูลนิธิสถาบันพลังจิตตานุภาพ หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร ถึงปัจจุบันปี 2565 ได้มีผู้จบหลักสูตรการทำสมาธิ แบบต่าง ๆ รวมกันมากกว่า สองหมื่นคน ทั้งประชาชนทั่วไป หน่วยงานราชการ นักศึกษามหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทหารจากค่ายธนรัช และโรงเรียนนายสิบทหารบก ตลอดจนชาวต่างชาติ มากกว่า 23 ชาติ

ด้วยปณิธาน จะสานต่องานพระอาจารย์หลวงพ่อ ให้เกรียงไกร “วุฒิกร เรื่องเปิดสอนฝรั่ง ที่หัวหินไปถึงไหน....”คือปัจฉิมพจน์ที่พระอาจารย์หลวงพ่อถามอ.วุฒิกร “คงต้องสร้างอาคารเรียนให้เขาใหม่ครับหลวงพ่อ อันเก่าไม่สะดวก “

“ก็พิจารณาทำไป..........” หลวงพ่อบอก 5 มกราคม 2563 แล้วหลวงพ่อไม่ได้พูดหรือสั่งงานอะไรอีกเลย จวบจน 22 ธันวาคม 2563 หลวงพ่อจากพวกเราไป วันนั้นผดล.18 ยืนสงบนิ่งอยู่ข้างล่าง ศาลาปุญญาวาส ไม่ได้ขึ้นไปข้างบนเพราะคนเต็ม สมแล้วที่ท่านเคยให้อ.ประดิษฐ์ โทรมาบอกให้ไปทำพิธีกร งานวางศิลาฤกษ์ ศาลาเมรุ แต่ได้ตอบปฏิเสธไป ทราบภายหลัง หลวงพ่อบอกกับ อ.ประดิษฐ์ว่า “งานอย่างนี้ เขาคงไม่อยากมาก”

หลวงพ่อครับ ผมไม่ทราบว่า หลวงพ่อจะมานอนที่นี่ ถ้าผมทราบผมไม่ปฏิเสธไป ในวันนั้น กราบขอขมาพระอาจารย์หลวงพ่อ ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ด้วยความโง่เขลาเบาปัญญา เห็นว่าการทำงานหาเงินสำคัญกว่า หลวงพ่อครับ ผมจะรับใช้งานหลวงพ่อตลอดไป จนจะตามหลวงพ่อไปให้ทัน ช่วยผมด้วยนะครับ น้อมกราบนมัสการ ด้วยความเคารพศรัทธา อย่างสูงสุด