เสียงเห่าปนคำรามดังก้องออกมาจากห้องกระจกติดแอร์ เมื่อก้าวเข้าไป จะเห็นสุนัขสายพันธุ์ราคาแพง รวมถึงพ่อพันธุ์ “หมายักษ์” อย่างคอเคเชียน เชพเพิร์ด ราคาหลายแสนบาท ไม่นับแมวสายพันธุ์ต่างประเทศหน้าตาน่ารัก นิสัยขี้อ้อน ชอบเข้ามาคลอเคลียผู้มาเยี่ยมเยียนตลอด Show อ่านเพียงเท่านี้ อาจคิดว่านี่เป็นคาเฟ่หมา-แมว สายพันธุ์ยอดนิยมที่มักเห็นตามโลกโซเชียล แต่ห้องกระจกที่ว่านี้ เป็นกุฏิสงฆ์ในวัดแดงธรรมชาติ จ.นนทบุรี ส่วนสัตว์เลี้ยงสายพันธุ์ยอดฮิตราคาสูงเหล่านี้ ก็เป็น "หมาวัดแมววัด" ที่ฟาร์มเพาะพันธุ์สัตว์และประชาชนทั่วไปเลี้ยงต่อไม่ไหว จนต้องหันมาพึ่งพุทธศาสนสถานให้ดูแลต่อ “วัดเนี่ยเป็นที่พึ่งทั้งมนุษย์และสัตว์เดรัจฉานอยู่แล้ว” พระมหาศรัณย์ณัชชนม์ ชินวโร หรือที่ญาติโยมรู้จักในชื่อ “พระปอณ” กล่าวกับบีบีซีไทย วัดแดงธรรมชาติ มีจุดเด่นอยู่ที่ประติมากรรมพญานาคขนาดใหญ่หันเศียรไปยังแม่น้ำเจ้าพระยา แต่สำหรับญาติโยมผู้รักสัตว์แล้ว นอกเหนือจากการมาทำบุญไหว้พระ อีกความมุ่งหมายก็คือการมาเล่นกับสุนัขและแมวเหล่านี้ ซึ่งนับวันมีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ “หมาเนี่ยช่วงที่พีคสุดก็มี 11 ตัว แมว 21 ตัว แต่ก็ต้องหาบ้านกระจายออกไป” พระปอณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัย 34 ปี ระบุ บีบีซีไทยขอให้หลวงพี่ทวนชื่อสายพันธุ์หมา-แมว ที่ได้ดูแล พระปอณ นิ่งไปครู่หนึ่งแล้วตอบว่า “คอเคเชียน เชพเพิร์ด, เชาเชา, โกลเดน รีทรีฟเวอร์, ไซบีเรียน, ชิวาวา, ปอมเมอเรเนียน” ส่วนแมวนั้นก็มี “สฟิงค์, เอ็กซ์โซติก ขนสั้น-ขนยาว, อเมริกัน เคิร์ล, และเมนคูน” คำบรรยายวิดีโอ, สัตว์เลี้ยงยอดนิยม ทำไมกลายมาเป็นหมาวัด-แมววัด สถานการณ์โควิดที่นำมาสู่ปัญหารายได้ของครัวเรือน นำมาสู่ปรากฏการณ์ที่หมา-แมว สายพันธุ์สุดฮิต กลายมาเป็น หมาวัด-แมววัด ได้อย่างไร บีบีซีไทยพาไปสำรวจ พระผู้รักสัตว์ กับ “บ่วง” ที่ไม่คาดฝันพระปอณ ในสมัยเป็นฆราวาส มีพื้นเพอยู่ใน จ.นนทบุรี เป็นคนรักสัตว์ตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นอายุ 14 ปี “เลี้ยงทุกอย่างจริง ๆ ทั้งสัตว์ปกติ สัตว์เอ็กซ์โซติก (สัตว์เลี้ยงชนิดพิเศษ) แล้วก็เลี้ยงเยอะมากด้วย เพราะที่บ้านมีบริเวณเลี้ยง บางทีก็ทำเป็นสวนบ่อปลาด้วยซ้ำ จนเรามีประสบการณ์และมีความรู้ในการเลี้ยงสัตว์แต่ละชนิดในระดับหนึ่ง” จนเมื่อ 8 ปีก่อน จากฆราวาสย้อมผมทอง ผู้มีสวนสัตว์ขนาดย่อมในบ้าน พระปอณตัดสินใจเข้ามาอยู่ใต้ร่มกาสาวพัสตร์ หันหน้าสู่การปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรมะ และละทิ้งบ่วงกรรมต่าง ๆ แต่ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผลกระทบจากโควิด-19 ที่ระบาดในไทยและทั่วโลก เกิดปรากฏการณ์ทำให้ “หมาวัด-แมววัด” ที่ผู้คนมักมีภาพจำว่ามักเป็นพันธุ์ไทย ถูกแทนที่ด้วยหมา-แมว สายพันธุ์ยอดนิยม รวมถึงวัดแดงธรรมชาติแห่งนี้ด้วย ที่ภาพสุนัขอย่าง โกลเดน รีทรฟเวอร์ และเชาเชา สีขาวขนปุย วิ่งเล่นอยู่ใต้ช่อฟ้าใบระกา กลายเป็นภาพที่ดูแปลกตาสำหรับผู้มาเยือน แต่ชินตาไปแล้วสำหรับคนในพื้นที่ ที่มาของภาพ, Thai News Pix คำบรรยายภาพ, ภาพหลวงพี่ปอณ พาสุนัขตัวใหญ่ไปเดินเล่นในละแวกวัด เป็นภาพที่ชินตาของคนในพื้นที่ ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดแดงธรรมชาติ อธิบายว่า หมา-แมว ของทางวัด มาจาก 3 กรณีใหญ่ ๆ ด้วยกัน คือ
“การที่เราอยู่ในความเป็นพระแล้ว หลักธรรมะนั้น เราไม่ควรเอาสิ่งหนึ่งสิ่งใดมายึดติดกับตัวเอง ไม่ควรสร้างภาระให้กับความเป็นสมณะ” พระปอณ กล่าว แต่ “สุดท้ายแล้วเราก็ไม่พ้นความเมตตา เรารู้สึกว่า ถ้าเราไม่รับมา เด็ก ๆ เหล่านี้จะไปอยู่ที่ไหน” ที่มาของภาพ, Thai News Pix คำบรรยายภาพ, หมาพันธุ์เชาเชา กับโกลเดน รีทรีฟเวอร์ กลายเป็นหมาวัด ด้าน สุริณี ธนสมบัติสกุล เจ้าของเพจ “หมากระสอบ” ที่หาบ้านใหม่ให้สุนัขจรจัด ชี้ว่า ปัญหาส่วนใหญ่จริง ๆ เริ่มมาจากตัวผู้เลี้ยงเอง แบ่งออกเป็น 4 ประเด็นใหญ่ ๆ ได้ ดังนี้
ค่าใช้จ่ายที่วัดต้องแบกรับสุนัขและแมวสายพันธุ์จากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากประเทศที่มีอากาศหนาวเย็น เมื่อต้องมาอาศัยอยู่ในประเทศไทยที่มีอากาศร้อนชื้น ต้องได้รับการดูแลที่พิเศษกว่าสุนัขสายพันธุ์ไทย นี่เป็นสิ่งที่ พระปอณ ยอมรับว่าท้าทายมาก ยกตัวอย่าง หมายักษ์ คอเคเชียน เชพเพิร์ด ที่ชื่อ “ฮาร์เบอร์ จะมีปัญหาผิวหนังที่ไวต่อแบคทีเรียและอากาศของไทย ต้องดูแลเป็นพิเศษ” ดังนั้น หลวงพี่จึงต้องสร้างกรงขนาดยักษ์อยู่ในกุฏิที่ติดเครื่องปรับอากาศ “โฮ่ง” ฮาร์เบอร์ เห่าด้วยเสียงดังเหมือนสิงโตคำราม แต่ พระปอณ กล่าวต่อเหมือนคุ้นชินกับเสียงเห่าดังที่ขัดขึ้น “หมาทั่วไปจะ (กิน) 20 กิโลกรัม (ต่อเดือน) แต่ฮาร์เบอร์คูณไปอีก 5 เกือบ 100 กิโลกรัม” หมายความว่า ค่าอาหารและค่ายา ก็จะคูณ 5 เท่าไปด้วย ที่มาของภาพ, Thai News Pix คำบรรยายภาพ, เจ้าฮาร์เบอร์ สุนัขพันธุ์คอเคเชียน เชพเพิร์ด มูลค่าหลายแสนบาท เพราะมันเป็นพ่อพันธุ์ ส่วนแมวนั้น ไม่เพียงค่าอาหาร แต่ยังมีค่า “ทรายแมว” ด้วย รวม ๆ แล้ว พระปอณ มีค่าใช้จ่ายที่ต้องดูแลสัตว์หลายชีวิตเหล่านี้เดือนหนึ่งไม่ต่ำกว่า 30,000 บาท ไม่นับรวมค่าอาบน้ำ ตัดขน ค่าฉีดวัคซีนที่จำเป็น และทำหมัน ซึ่งไม่มีหน่วยงานภาครัฐมาให้ความช่วยเหลือเป็นพิเศษ หรือหากจะมีกิจกรรมทำหมันฟรี ทางวัดก็ไม่ได้มีเวลาจะพาพวกมันไป พระปอณ ยังเล่าถึงวิกฤตใหญ่เมื่อไม่นานมานี้ เมื่อแมวบางตัวป่วยหนักด้วยโรคฟิบ หรือ โรคเยื่อบุท้องอักเสบในแมว ทำให้ค่าใช้จ่ายในการรักษาเพิ่มสูงอย่างมาก “ทุกชีวิตบนโลกใบนี้มีคุณค่า หลวงพี่เอาชีวิตเขาให้รอดก่อน ทำให้ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ มีมาก ที่ต้องชำระและรักษา มันหนักมาก” พระปอณ ยอมรับ แต่ยังโชคดีที่ได้ญาติโยมผู้รักสัตว์มาให้ความช่วยเหลือ แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ขณะที่การมีญาติโยมมาเล่นกับสัตว์เหล่านี้ ทำให้ พระปอณ มีเวลาประกอบกิจอันจำเป็นของสงฆ์มากขึ้น เพราะสุนัขและแมวบางสายพันธุ์ ต้องการคนเอาใจใส่ และ “เล่น” กับมันบ่อย ๆ หมา-แมวสายพันธุ์นอกจะเกลื่อนวัด ?ข้อมูลเมื่อปี 2562 ของกรมปศุสัตว์ ระบุว่า มีสุนัขและแมวจรจัดที่ไม่มีเจ้าของประมาณ 3.6 ล้านตัว โดยตั้งเป้าหมายการทำหมันให้ได้ปีละ 600,000 ตัว นับแต่ปี 2563 เป็นต้นมา กรมปศุสัตว์ยังคาดการณ์ว่า สถานการณ์สุนัข-แมวจรจัดไทย จะยิ่งเพิ่มขึ้น โดยในปี 2570 จะเพิ่มเป็น 1,920,000 ตัว และ 5 ล้านตัวภายในปี 2582 ธุรกิจขายสุนัขและแมวแบบเพาะพันธุ์ที่ดู “อิสระเกินไป” เป็นประเด็นที่ พระปอณ อยากสะท้อน ในฐานะผู้ได้รับผลกระทบที่ปลายน้ำ “ช่วงที่ฮิต มันก็ดี ใส่เต็มที่เลย แต่ในหลักธรรมะ เราไม่อาจรู้อนาคตได้ มันอาจฮิตเดือนเดียว แต่คุณเพาะพันธุ์ไว้เป็นหลักปีเลย.... พอมันไปต่อไม่ได้ เอาออกไม่หมด โอ้โห ทั้งลดทั้งแจกทั้งแถม” ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีเรื่องความไม่เข้าใจและการไม่ศึกษาในเรื่องการผสมข้ามสายพันธุ์ จนทำให้เกิดปัญหายีนเด่นยีนด้อยด้วย สัตว์เลี้ยงที่เกิดมาจึงสุ่มเสี่ยงป่วยเป็นโรคร้าย และมีชีวิตอย่างทรมาน กลายเป็นการสร้างกรรมกับสัตว์โดยใช่เหตุ ที่มาของภาพ, Thai News Pix ประกาศกรมปศุสัตว์ว่าด้วยการค้าสุนัขและแมว พ.ศ. 2563 ได้กำหนดเงื่อนไข อาทิ สถานที่ค้าสัตว์ ความสะอาด และการให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ เพื่อออกใบอนุญาตทำการค้า แต่ไม่ได้ระบุถึงการเพาะพันธุ์ ไม่เพียงเท่านั้น ในโลกสังคมออนไลน์ จะเห็นการเปิดจำหน่ายลูกสุนัขที่เพาะพันธุ์เองในครัวเรือนมากมาย ด้วยเหตุนี้ พระปอณ จึงเชื่อว่า หมา-แมว สายพันธุ์เมืองนอก จะถูกนำมาฝากเลี้ยงหรือทอดทิ้งตามวัดเพิ่มมากขึ้นอีก “ตราบใดที่ไม่มีหน่วยงานใดหรือผู้มีอำนาจใด เข้ามาช่วยเหลือเป็นกิจจะลักษณะ ให้มันชัดเจน” ในเชิงธุรกิจการเพาะพันธุ์และจำหน่ายสัตว์เลี้ยง ส่วนผู้เลี้ยงนั้น ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดแดงธรรมชาติ ขอสอนในฐานะสงฆ์ว่า “เวลาที่เรารับเลี้ยงมาอาจจะพร้อม แต่เวลามันไม่พร้อม ขอให้แก้ปัญหาให้ดีที่สุดก็พอแล้ว” คนไทยอยู่รัฐไหนมากที่สุดหากถามว่าเมืองไหนในต่างประเทศ ที่มีคนไทยอพยพไปตั้งรกรากมากที่สุด ? คำตอบคงหนีไม่พ้น เมืองใหญ่ที่สุดในรัฐแคลิฟอร์เนีย ทางตะวันตกของประเทศสหรัฐอเมริกา “ลอสแอนเจลิส” หรือนิยมเรียกย่อ ๆ ว่า แอลเอ เมืองบอสตัน น่าอยู่ไหมบอสตันเป็นอีกเมืองที่คนใจดี คุณภาพชีวิตดี สถิติการก่ออาชญากรรมต่ำ ปลอดภัยและหายห่วงแม้จะกระโจนไปอยู่ที่นั่นคนเดียว ใครไม่เคยไปอเมริกาอาจยังไม่ค่อยชินกิจกรรมที่เขาทำในช่วงแรกๆ หน่อยนะ เพราะไม่ใช่การเดินห้างและนั่งกินบิงซูอ่ะ – สายลม แสงแดด และเพื่อนต่างหากที่สิ่งที่ทุกคนต้องการ! |