ว ธ การกดเบอร ต อภายใน โทรศ พท ม

การเขียนเบอร์โทรที่ประกอบด้วยหลายเลขหมาย (Multiple numbers) นั้น มาตรฐาน ITU-T Recommendation E.123 แนะนำให้ใช้เครื่องหมายทับ (/) ระหว่างตัวเลข

เช่น

* เลขหมายที่ไม่ติดกัน 0 2123 4567 / 3456 7890 / 4567 8901

* เลขหมายที่ติดกัน สามารถย่อเป็น 0 2123 4567 / 8 / 9

  • เลขหมายโทรศัพท์ในประเทศ

ให้เขียนเลขศูนย์นำหน้า ตามด้วยเลขหมาย 8 หลัก

ซึ่งเป็นไปตามหลักของการเขียน Trunk prefix + Subscriber numbers

เช่น 0 2345 6789 หรือ 0 5345 6789

เบอร์โทรศัพท์บ้าน 0 2 123 4567 ถ้าแจ้งชาวต่างชาติ ต้องเพิ่มรหัสประเทศ +66 2 123 4567

เบอร์มือถือ 08 1123 4567 ถ้าแจ้งชาวต่างชาติ ต้องเพิ่มรหัสประเทศ +668 1123 4567

เบอร์บ้านเชียงใหม่ 0 5312 3456 ถ้าแจ้งชาวต่างชาติ ต้องเพิ่มรหัสประเทศ +66 53 12 3456

  • เลขหมายโทรศัพท์สำหรับติดต่อกับ ต่างประเทศ

ให้เขียนรหัสประเทศตามด้วยเลขหมายโทรศัพท์

ซึ่งเป็นไปตามหลักของการเขียน Country code + Subscriber numbers

เช่น +66 2345 6789 หรือ +66 5345 6789

ข้อมูลโดย กฤษฎา คงช่วย ครู ปวช.คอมพิวเตอร์


แก้ไขล่าสุด ( วันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 2013 เวลา 18:19 น. )

ประกาศช่องทางอิเล็กทรอนิกส์สำหรับติดต่อ ธ.ก.ส. ติดต่อธนาคาร : เวลาทำการ จันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.30 - 15.30 น. วันหยุด เสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนขัตฤกษ์ ( โปรดตรวจสอบ เวลาทำการของสาขา ที่ค้นหาจุดบริการ ) จดหมาย : ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เลขที่ 2346 ถนนพหลโยธิน แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทรศัพท์ : ธ.ก.ส. Call Center 0-2555-0555 บริการ 24 ชั่วโมง ทุกวัน ศุนย์บริการลูกค้า 1593 บริการ ในวันและเวลาทำการ สำนักงานใหญ่ 0-2558-6555 โทรสาร : 0-2558-6341 SWIFT CODE/BIC : BAABTHBK กล่องรับความคิดเห็น : ธ.ก.ส. สาขาทุกสาขา พบด้วยตนเอง : ธ.ก.ส. สาขาทุกสาขา E-mail : [email protected] Website : www.baac.or.th Facebook : Facebook ธ.ก.ส. บริการด้วยใจ * ให้บริการตอบข้อสอบถาม ในวันและเวลาทำการ (08.30-16.30 น.) สำหรับนอกเวลาทำการและวันหยุดราชการ/นักขัตฤกษ์ หรือกรณีเรื่องเร่งด่วนกรุณาติดต่อ ธ.ก.ส. Call Center 0-2555-0555 ตลอด 24 ชั่วโมง

บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (บริษัทฯ) เป็นผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2544 (“พ.ร.บ. ประกอบกิจการฯ”) และเป็นผู้ให้บริการโทรคมนาคมตามความของประกาศคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (“กทช.”) เรื่อง มาตรฐานของสัญญาให้บริการโทรคมนาคม พ.ศ. 2549 (“ประกาศฯ”) โดย พ.ร.บ. ประกอบกิจการฯ และประกาศฯดังกล่าวกำหนดให้ผู้ให้บริการจัดทำแบบสัญญาให้บริการโทรคมนาคมซึ่งประกอบด้วยข้อกำหนดหรือเงื่อนไขเกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการไว้ล่วงหน้าเพื่อประโยชน์ในการจัดทำสัญญา ดังนี้

1. ข้อกำหนดเกี่ยวกับลักษณะและประเภทของบริการ ประเภทของกิจการโทรคมนาคม 1. เสียง 2. ข้อมูล 3. พหุสื่อ หรือสื่อผสม

บริการโทรคมนาคม 1. บริการโทรศัพทเคลื่อนที่ 2. บริการพหุสื่อความเร็วสูง (Public Broadband Multimedia Service) 3. บริการมูลค่าเพิ่ม (Value-added Service)

2. ข้อกำหนดเกี่ยวกับมาตรฐานการให้บริการของผู้ให้บริการ บริษัทฯ ตกลงจัดให้มีคุณภาพและมาตรฐานการให้บริการไม่ต่ำกว่าหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช) ประกาศกำหนด และตาม ที่ได้โฆษณาไว้ หรือตามที่ได้แจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบ

3. ข้อกำหนดเกี่ยวกับสิทธิหน้าที่และความรับผิดของผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ 3.1 สิทธิ หน้าที่ และความรับผิดของบริษัทฯ 3.1.1 ในกรณีที่เกิดเหตุขัดข้องทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถให้บริการแก่ผู้ใช้บริการได้ตามปกติ หรือตามที่ได้โฆษณาไว้ บริษัทฯ ตกลงไม่เรียกเก็บค่าบริการกับผู้ใช้บริการจนกว่าบริษัทฯ จะสามารถ ให้บริการได้ตามปกติ เว้นแต่เหตุขัดข้องดังกล่าวเกิดจากความผิดของผู้ใช้บริการ ทั้งนี้ บริษัทฯ จะให้มีการดำเนินการแก้ไขเหตุขัดข้องดังกล่าวโดยเร็ว 3.1.2 นอกเหนือจากที่ได้ระบุไว้ข้างต้นแล้ว สิทธิและหน้าที่ของบริษัทฯให้เป็นไปตามที่ กสทช.ประกาศกำหนด 3.1.3 ในกรณีที่บริษัทฯ ได้ส่งมอบเครื่องอุปกรณ์หรือสิ่งอื่นที่เกี่ยวข้องให้แก่ผู้ใช้บริการโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายหรือคิดค่าใช้จ่ายในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาดในขณะที่ส่งมอบเพื่อประโยชน์ ในการใช้บริการโทรคมนาคมนั้น ผู้ให้บริการจะถือเอาเหตุดังกล่าวมากำหนดเป็นเงื่อนไขอันก่อให้เกิดภาระแก่ผู้ใช้บริการหรือเรียกเก็บค่าปรับหรือค่าเสียหายจากการที่ผู้ใช้บริการยกเลิกสัญญา ก่อนกำหนดมิได้ ทั้งนี้ผู้ใช้บริการที่ได้รับมอบเครื่องอุปกรณ์ หรือสิ่งอื่นที่เกี่ยวข้องไป จะต้องใช้ความระมัดระวังในการใช้เครื่องอุปกรณ์ดังกล่าว และต้องส่งคืนให้แก่บริษัทฯ เมื่อสัญญาสิ้นสุดลง และหากผู้ใช้บริการก่อให้เกิดความเสียหายแก่เครื่องอุปกรณ์นั้น บริษัทฯ มีสิทธิเรียกให้ผู้ใช้บริการรับผิดชดใช้ค่าเสียหายตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงแก่เครื่องอุปกรณ์ดังกล่าวได้ แต่ทั้งนี้ ไม่เกินกว่าราคาตลาดของค่าอุปกรณ์ดังกล่าวขณะนั้น อนึ่ง ในการส่งมอบคืนเครื่องและอุปกรณ์นั้น บริษัทฯ จะคิดค่าใช้จ่ายในการ ตรวจสภาพสำหรับการส่งมอบเครื่องอุปกรณ์หรือสิ่งอื่นที่เกี่ยวข้องคืนจากผู้ใช้บริการในอัตราที่ไม่เป็นภาระแก่ผู้ใช้บริการจนเกินไป ซึ่งได้รับความเห็นชอบจาก กสทช. หรือคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) แล้ว โดยบริษัทฯ จะแจ้งให้ทราบในเวลาที่บริษัทฯ ได้ส่งมอบเครื่องและอุปกรณ์นั้นให้แก่ผู้ใช้บริการ 3.1.4 บริษัทฯ มีสิทธิปฏิเสธการเปิดใช้บริการหรือการขอใช้บริการแก่ผู้ใช้บริการได้ในกรณีดังต่อไปนี้ (1) ผู้ใช้บริการในนามบุคคลธรรมดา ก. ผู้ใช้บริการส่งมอบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชน บัตรข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ สำเนาหนังสือเดินทาง และเอกสารหลักฐานอื่นใดเพิ่มเติมที่จำเป็นตามที่บริษัทฯ ร้องขอไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วน หรือไม่สมบูรณ์ ข. ผู้ใช้บริการมีหนี้ค้างชำระ หรือมีประวัติค้างชำระค่าบริการ และ/ หรือค่าธรรมเนียมต่อบริษัทฯ ค. มีเหตุอันควรเชื่อว่า ผู้ใช้บริการมีสภาวะทางการเงินขัดข้อง หรือมีเหตุอื่นใด ซึ่งอาจไม่สามารถชำระค่าบริการ และ/ หรือค่าธรรมเนียม ง. มีเหตุอันเชื่อได้ว่าหากบริษัทฯ เปิดให้ผู้ใช้บริการได้ใช้บริการแล้ว ผู้ใช้บริการอาจกระทำการใดๆ อันก่อให้เกิดความเสียหายแก่บริษัทฯ หรือบุคคลอื่นใด และ/ หรือมีเหตุที่ส่อไปในทางที่ไม่สุจริต และ/ หรือก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อบริษัทฯ และ/ หรือใช้บริการโดยผิดวัตถุประสงค์ผิดศีลธรรม ฉ้อฉล หรือผิดกฎหมาย (2) ผู้ใช้บริการในนามนิติบุคคล ก. ผู้ใช้บริการส่งมอบสำเนาเอกสารดังต่อไปนี้ 1. หนังสือรับรองบริษัท ซึ่งออกโดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า 2. สำเนาบัตรประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจลงนามหรือสำเนาหนังสือเดินทาง และใบอนุญาตทำงาน กรณีกรรมการเป็นชาวต่างชาติ 3. สำเนา ภ.พ.20 (ใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม) 4. หนังสือมอบอำนาจ (กรณีกรรมการไม่สามารถลงนามได้ด้วยตนเอง) พร้อมด้วยสำเนาบัตรประชาขนของผู้รับมอบอำนาจ และ 5. หลักฐานอื่นใดตามที่บริษัทฯ ร้องขอซึ่งหลักฐานดังกล่าวข้างต้นทั้งหมดไม่ถูกต้อง ไม่ครบถ้วน หรือไม่สมบูรณ์ทั้งหมด หรือบางส่วน ข. ผู้ใช้บริการ หรือกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนมีหนี้ค้างชำระ หรือมีประวัติค้างชำระค่าใช้บริการต่อบริษัทฯ หรืออยู่ระหว่างการฟื้นฟูกิจการ หรือมีประวัติว่าเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ มักประสบกับปัญหาการติดต่อกับผู้ใช้บริการ ไม่ว่าจะด้วยวิธีการส่งไปรษณีย์ หรือทางโทรศัพท์ เป็นต้น ค. มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าผู้ใช้บริการไม่มีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ได้ดำเนินธุรกิจตามปกติ ง. ผู้ใช้บริการมีประวัติไม่ส่งงบการเงินติดต่อกันเป็นระยะเวลามากกว่า 2 ปี จ. ผู้ใช้บริการหรือกรรมการผู้มีอำนาจกระทำการแทนมีประวัติว่าเคยถูกฟ้องร้องในคดีล้มละลาย หรือถูกยึดทรัพย์เพื่อขายทอดตลาด ฉ. มีเหตุอันควรเชื่อว่า ผู้ใช้บริการมีสภาวะทางการเงินขัดข้อง หรือมีเหตุอื่นใด ซึ่งอาจไม่สามารถชำระค่าบริการ และ/ หรือค่าธรรมเนียมตามดุลยพินิจของบริษัทฯ ได้ ช. มีเหตุอันควรเชื่อว่าหากบริษัทฯ เปิดให้ผู้ใช้บริการได้ใช้บริการแล้ว ผู้ใช้บริการอาจกระทำการใดๆ อันก่อให้เกิดความเสียหายแก่ บริษัทฯ หรือบุคคลอื่นใด และ/ หรือมีเหตุที่ส่อไปในทางที่ไม่สุจริต และ/ หรือก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อบริษัทฯ และ/ หรือใช้บริการโดยผิดวัตถุประสงค์ ผิดศีลธรรม ฉ้อฉล หรือผิดกฎหมาย 3.1.5 บริษัทฯ จะร่วมรับผิดกับผู้ร่วมให้บริการเสริมต่อผู้ใช้บริการในความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการให้บริการเสริมด้วย 3.2 สิทธิ หน้าที่ และความรับผิดของผู้ใช้บริการ 3.2.1 ผู้ใช้บริการตกลงให้ข้อมูลส่วนตัวที่จำเป็นในข้อ ก. และ ข. พร้อมทั้งส่งมอบสำเนาเอกสารหรือหลักฐานซึ่งยืนยันข้อมูลส่วนตัวดังกล่าวให้แก่บริษัทฯ เพื่อการปฏิบัติตามสัญญาทั้งนี้ บริษัทฯ สามารถขอตรวจสอบต้นฉบับของเอกสารหรือหลักฐานดังกล่าวได้ด้วย ก. ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ/ นามสกุล สถานภาพ สัญชาติ วันเดือนปีเกิด เป็นต้น ข. ข้อมูลเกี่ยวกับที่อยู่สำหรับติดต่อการจัดส่งใบแจ้งหนี้ค่าใช้บริการและเอกสารอื่นๆ รวมทั้งเบอร์โทรศัพท์เพื่อใช้ในการติดต่อและรายละเอียดเกี่ยวกับที่พักอาศัยในปัจจุบัน เป็นต้น อนึ่ง บริษัทฯ รับรองว่าจะไม่นำข้อมูลดังกล่าวไปใช้เพื่อประโยชน์อื่นใดโดยไม่ได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากผู้ใช้บริการ เว้นแต่ข้อมูลนั้นจะถูกนำไปส่งให้แก่ กสทช. หรือหน่วยงานของรัฐตามที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการสามารถเพิกถอนความยินยอมที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นลายลักษณ์อักษรต่อบริษัทฯ เมื่อใดก็ได้ 3.2.2 ผู้ใช้บริการตกลงไม่ใช้บริการโทรคมนาคมของบริษัทฯ ผิดวัตถุประสงค์ ผิดศีลธรรม ฉ้อฉล หรือผิดกฎหมาย หรือเพื่อการติดต่อสื่อสารใดๆ ที่เป็นการล่วงละเมิด หลอกลวงหยาบคาย ลามก หรือข่มขู่ 3.2.3 ผู้ใช้บริการจะต้องไม่ก่อให้เกิด หรืออนุญาตให้ผู้อื่นกระทำการใดๆ อันเป็นการก่อกวน รบกวน หรือเกิดความไม่สะดวก ทั้งต่อบริษัทฯ ผู้ใช้บริการอื่นของบริษัทฯ หรือบุคคลอื่นใด 3.2.4 ผู้ใช้บริการต้องไม่ใช้เครือข่ายของบริษัทฯ เพื่อให้บริการส่งข้อมูลหรือการติดต่อสื่อสารที่มีลักษณะดังต่อไปนี้ โดยปราศจากความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากบุคคล หรือนิติบุคคลอื่นใดที่เกี่ยวข้อง ก. หยาบคาย ลามก อนาจาร ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ข. ข่มขู่ รบกวน คุกคาม ล่วงเกิน หรือเป็นการกระทำละเมิดต่อสิทธิในความเป็นส่วนตัว หรือทำให้บุคคลอื่นเสื่อมเสียชื่อเสียง ค. ละเมิดสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา ง. เพื่อสร้างความเข้าใจผิด และ/ หรือหลอกลวงประชาชน จ. ต้องห้ามหรือขัดต่อกฎหมาย ระเบียบ จรรยาบรรณ หรือประกาศใดๆ ที่ใช้บังคับ ฉ. แทรกแซงการใช้บริการของผู้ให้บริการรายอื่น หรือบริษัทฯ ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อบริษัทฯ หรือโครงข่ายโทรคมนาคมอื่น ๆ 3.2.5 ไม่กระทำการในลักษณะที่เป็นการลดประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของเครือข่าย หรือส่วนใดๆ ของเครือข่าย หรือกระทำการอันมีลักษณะเป็นอันตรายต่อเครือข่าย เว้นแต่เป็นการใช้บริการตามสัญญาหรือการส่งเสริมการขายของบริษัทฯ นอกจากนี้ ผู้ใช้บริการยังจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการใช้เครือข่ายทั้งหมด และปฏิบัติตามคำแนะนำที่เหมาะสมของบริษัทฯ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการให้บริการ และร่วมมือกับบริษัทฯ ในด้านการรักษาความปลอดภัย และการตรวจสอบอื่นๆ ด้วย 3.2.6 ในกรณีที่บริษัทฯ ได้กำหนดรหัสประจำตัวของผู้ใช้บริการหรือรหัสส่วนตัวใดๆ เพื่อใช้บริการโทรคมนาคมของบริษัทฯ ผู้ใช้บริการตกลงที่จะเก็บรักษารหัสดังกล่าวไว้เป็นความลับโดยจะไม่เปิดเผยให้บุคคลภายนอกทราบ 3.2.7 ผู้ใช้บริการจะโอนสิทธิการใช้บริการตามสัญญาให้แก่บุคคลอื่นมิได้ เว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากบริษัทฯ ทั้งนี้ บริษัทฯ สงวนสิทธิในการคิดค่าธรรมเนียมในการดำเนินการดังกล่าวข้างต้นตามอัตราที่กำหนดในสัญญานี้ หรือตามที่จะได้กำหนดในภายหลัง ภายใต้อัตราที่ กสทช. เห็นชอบแล้ว 3.2.8 ผู้ใช้บริการตกลงชำระค่าธรรมเนียมและค่าบริการภายใต้เงื่อนไขและตามอัตราที่บริษัทฯ กำหนด ในกรณีผู้ใช้บริการมีความประสงค์จะขอยกเลิกการใช้บริการ ผู้ใช้บริการจะต้องชำระค่าบริการ และ/ หรือค่าธรรมเนียมที่ค้างชำระให้แก่บริษัทฯ 3.2.9 สิทธิของผู้ใช้บริการ มีรายละเอียดดังนี้ (1) บริษัทฯ จะจัดให้มีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามมาตรการคุ้มครองสิทธิของผู้ใช้บริการโทรคมนาคมเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิในความเป็นส่วนตัว และเสรีภาพในการสื่อสารถึงกันโดยทางโทรคมนาคมที่ กสทช. ได้ให้ความเห็นชอบ (2) ผู้ใช้บริการมีสิทธิขอข้อมูลเกี่ยวกับการใช้บริการของตนผ่านช่องทางที่บริษัทฯ กำหนดไว้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ (3) ผู้ใช้บริการมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อบริษัทฯ หากผู้ใช้บริการได้รับความเดือดร้อนเสียหายจากการให้บริการของบริษัทฯ ได้ภายใต้หลักเกณฑ์ของประกาศ กทช. เรื่องกระบวนการรับเรื่องร้องเรียนและพิจารณาเรื่องร้องเรียนของผู้ใช้บริการ พ.ศ. 2549

4. สิทธิและหน้าที่ในการเรียกเก็บและการชำระค่าบริการ และ/ หรือค่าธรรมเนียม 4.1 บริษัทฯ จะเรียกเก็บค่าบริการ และ/ หรือค่าธรรมเนียมไม่เกินอัตราที่กำหนดไว้ในเงื่อนไขในการอนุญาตใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สามสำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล ย่าน 2.1 GHz ของบริษัทฯ จนกว่าคณะกรรมการจะออกประกาศกำหนดอัตราขั้นสูงต่อไป และเป็นอัตราตามที่ได้มีการตกลงไว้โดยจะเรียกเก็บจากผู้ใช้บริการในอัตราเดียวกันสำหรับบริการโทรคมนาคม ที่มีลักษณะหรือประเภทเดียวกัน โดยจะไม่เลือกปฏิบัติ แบ่งแยก หรือกีดกันผู้ใช้บริการรายหนึ่งรายใด และจะไม่เรียกเก็บค่าบริการ และ/ หรือค่าธรรมเนียมนอกเหนือจากที่บริษัทฯ ได้กำหนดไว้ 4.2 เว้นแต่ผู้ใช้บริการได้ตกลงกับบริษัทฯ เพื่อยกเว้นการแสดงรายละเอียดในใบแจ้งรายการใช้บริการ หรือให้แจ้งโดยวิธีการอื่น บริษัทฯ จะจัดส่งใบแจ้งรายการใช้บริการโทรคมนาคมของผู้ใช้บริการ หรือตามวิธีการอื่นใดที่บริษัทฯ และผู้ใช้บริการตกลงร่วมกันเพื่อเรียกเก็บค่าธรรมเนียมและค่าใช้บริการให้ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้าเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่าสิบห้า 15 (สิบห้า) วัน ก่อนวันครบกำหนด ชำระ โดยการแจ้งรายการดังกล่าวจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับอัตราค่าธรรมเนียม อัตราค่าใช้บริการ และการคำนวณค่าธรรมเนียมและค่าใช้บริการที่ชัดเจนเพียงพอเพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าใจถึงที่มา ของค่าใช้จ่ายที่ปรากฏในใบแจ้งรายการนั้นได้ 4.3 ผู้ใช้บริการตกลงชำระค่าบริการ และ/ หรือค่าธรรมเนียมตามจำนวนที่บริษัทฯ ได้แจ้งไว้ในใบแจ้งรายการใช้บริการโทรคมนาคม และจัดส่งให้แก่ผู้ใช้บริการภายใต้เงื่อนไข และระยะเวลาที่บริษัทฯ หรือ กสทช. ประกาศกำหนดไว้ ในกรณีที่ผู้ใช้บริการเห็นว่า บริษัทฯ เรียกเก็บค่าบริการและ/หรือค่าธรรมเนียมของบริษัทฯ ไม่ถูกต้องบางส่วนหรือทั้งหมดหรือเห็นว่า บริษัทฯ เรียกเก็บค่าธรรมเนียม และค่าบริการสูงกว่าอัตราที่ระบุไว้ในเงื่อนไขในการอนุญาตใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สาม สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล ย่าน 2.1 GHz ของผู้ให้บริการ หรืออัตราที่ สัญญากำหนดไว้ หรือสูงกว่าอัตราขั้นสูงที่ กสทช. กำหนด หรือสูงกว่าที่เรียกเก็บจากผู้ใช้บริการรายอื่นที่ใช้บริการโทรคมนาคมในลักษณะหรือประเภทเดียวกัน ผู้ใช้บริการมีสิทธิขอข้อมูลเกี่ยวกับ การใช้บริการของตนที่บริษัทฯ เป็นผู้ให้บริการได้ และบริษัทฯ มีหน้าที่แจ้งข้อมูลให้ผู้ใช้บริการทราบภายใน 30 (สามสิบ) วัน นับแต่วันที่ผู้ใช้บริการร้องขอ หากบริษัทฯ ไม่ดำเนินการภายในระยะเวลาที่ กำหนด ให้ถือว่าบริษัทฯ สิ้นสิทธิในการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือค่าบริการในจำนวนที่ผู้ใช้บริการได้โต้แย้ง ทั้งนี้ ในกรณีที่ผู้ใช้บริการร้องขอให้บริษัทฯ รับรองข้อมูลที่ถูกต้องในเอกสาร บริษัทฯ มีสิทธิคิดค่าตอบแทนซึ่งไม่สูงกว่าความเป็นจริงจากผู้ใช้บริการได้ และให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ กสทช. กำหนด 4.4 หากปรากฏว่าบริษัทฯ เรียกเก็บค่าบริการ และ/ หรือค่าธรรมเนียมเกินกว่าจำนวนที่เกิดขึ้นจากการใช้บริการ บริษัทฯ จะคืนเงินส่วนต่างของค่าบริการ และ/ หรือค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บเกินให้แก่ ผู้ใช้บริการภายใน 30 (สามสิบ) วัน นับแต่วันที่ข้อเท็จจริงยุติและบริษัทฯ จะชำระดอกเบี้ยในส่วนต่าง ในอัตราเท่ากับที่ได้กำหนดไว้ว่าจะเรียกเก็บจากผู้ใช้บริการในกรณีที่ผู้ใช้บริการผิดนัด นับแต่วันที่ ข้อเท็จจริงยุติเว้นแต่ผู้ใช้บริการจะได้ตกลงเลือกให้ดำเนินการในการคืนเงินส่วนต่างเป็นอย่างอื่น ทั้งนี้ ตามวิธีการที่ผู้ใช้บริการและบริษัทฯ จะได้ตกลงร่วมกันต่อไป 4.5 ในกรณีผู้ใช้บริการผิดนัดชำระค่าบริการ และ/ หรือค่าธรรมเนียมเกินกว่าระยะเวลาที่กำหนดผู้ใช้บริการตกลงชำระดอกเบี้ยให้กับบริษัทฯ นับแต่วันผิดนัดในอัตราไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (กสทช.) ให้ความเห็นชอบ

5. การระงับการใช้บริการและการให้บริการโทรคมนาคม 5.1 ในกรณีมีเหตุจำเป็น ผู้ใช้บริการมีสิทธิขอระงับการใช้บริการชั่วคราวได้ครั้งละไม่น้อยกว่าเจ็ด (7) วัน แต่ไม่เกินกว่าสามสิบ (30) วัน โดยแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรให้บริษัทฯ ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่าสาม (3) วัน ตามช่องทางที่บริษัทฯ กำหนด ทั้งนี้ เมื่อผู้ใช้บริการได้แจ้งขอระงับการใช้บริการชั่วคราวต่อบริษัทฯ แล้ว บริษัทฯ จะไม่เรียกเก็บค่าบริการ และ/ หรือค่าธรรมเนียม หรือค่าใช้จ่ายใดๆจากผู้ใช้บริการในช่วงระยะเวลาการระงับการใช้บริการชั่วคราว และเมื่อครบกำหนดการขอระงับการใช้บริการชั่วคราว บริษัทฯ จะเปิดให้ผู้ใช้บริการเข้าใช้บริการได้ทันทีและผู้ใช้บริการตกลงที่จะใช้บริการต่อในเวลานั้นทันทีเช่นกัน กรณีมีเหตุสุดวิสัยเกิดขึ้นกับผู้ใช้บริการ จนเป็นเหตุให้ผู้ใช้บริการไม่สามารถใช้บริการได้ ผู้ให้บริการตกลงให้ผู้ใช้บริการระงับการใช้บริการชั่วคราวได้ตามระยะเวลาที่ผู้ใช้บริการร้องขอ แต่ทั้งนี้ ไม่เกินกว่าระยะเวลาที่เหตุสุดวิสัยนั้นคงอยู่ กรณีผู้ใช้บริการประสงค์เปิดใช้บริการก่อนกำหนดระยะเวลาของการระงับการใช้บริการชั่วคราวที่ผู้ใช้บริการได้ขอใช้สิทธิไว้จะสิ้นสุดลง ผู้ใช้บริการจะต้องแจ้งให้บริษัทฯ ทราบตามช่องทางที่บริษัทฯกำหนด 5.2 ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นหรือเหตุอื่นใดภายใต้กรอบกฎหมายที่บริษัทฯ จะได้แจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบ บริษัทฯ มีสิทธิระงับการให้บริการโทรคมนาคมเป็นการชั่วคราวต่อผู้ใช้บริการได้ โดยแจ้งเป็นหนังสือพร้อมทั้งระบุเหตุในการใช้สิทธิดังกล่าวให้แก่ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้าเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่าสามสิบ (30) วัน 5.3 ในกรณีดังต่อไปนี้ บริษัทฯ สามารถระงับการให้บริการได้ทันที 5.3.1 เกิดเหตุสุดวิสัยขึ้นแก่บริษัทฯ 5.3.2 ผู้ใช้บริการถึงแก่ความตาย หรือสิ้นสุดสภาพนิติบุคคล 5.3.3 ผู้ใช้บริการใช้เอกสารปลอมในการขอใช้บริการ 5.3.4 บริษัทฯ พิสูจน์ได้ว่าบริการโทรคมนาคม และ/ หรือเลขหมายโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ให้แก่ผู้ใช้บริการถูกนำไปใช้โดยมิชอบด้วยกฎหมายหรือฝ่าฝืนต่อสัญญา 5.3.5 ในกรณีที่ผู้ใช้บริการซึ่งใช้บริการโทรคมนาคมในลักษณะที่เรียกเก็บค่าบริการและ/หรือค่าธรรมเนียมภายหลัง ได้ใช้บริการเกินวงเงินค่าบริการที่ได้ตกลงไว้ในสัญญาบริษัทฯ จะแจ้งเตือนให้ผู้ใช้บริการทราบล่วงหน้าเมื่อเห็นว่าผู้ใช้บริการได้ใช้บริการไปแล้วเป็นจำนวน 80% ของวงเงินค่าใช้บริการ (credit limit) ตามที่ผู้ใช้บริการได้ตกลงไว้ในสัญญากับบริษัทฯ 5.3.6 ผู้ใช้บริการผิดนัดชำระค่าบริการ และ/ หรือค่าธรรมเนียมเกินกว่าระยะเวลาที่กำหนดในสัญญาสองคราวติดต่อกัน 5.3.7 บริษัทฯ พิสูจน์ได้ว่าผู้ใช้บริการได้นำบริการโทรคมนาคมไปใช้เพื่อแสวงหารายได้โดยมีเจตนาจะไม่ชำระค่าธรรมเนียมและค่าบริการ 5.3.8 บริษัทฯ มีเหตุจำเป็นที่จะต้องบำรุงรักษาหรือแก้ไขระบบโทรคมนาคมที่ใช้ในการให้บริการ 5.4 ในกรณีที่ผู้ใช้บริการได้แจ้งให้บริษัทฯ ระงับการให้บริการเนื่องจากซิมการ์ด และ/ หรือโทรศัพท์เคลื่อนที่สูญหาย หรือถูกขโมย บริษัทฯ จะดำเนินการระงับการให้บริการในทันทีที่ได้รับแจ้งและผู้ใช้บริการไม่ต้องรับผิดชำระค่าธรรมเนียมและ/หรือค่าบริการที่เกิดขึ้นภายหลังการแจ้งดังกล่าว

6. การเลิกสัญญา 6.1 ผู้ใช้บริการมีสิทธิบอกเลิกการใช้บริการในเวลาใดก็ได้ด้วยการแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรให้บริษัทฯ ทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 5 (ห้า) วันทำการ ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการจะต้องชำระค่าบริการครบถ้วนแล้วจนถึงวันที่การยกเลิกสัญญามีผลบังคับ ในกรณีที่มีเหตุดังต่อไปนี้ ผู้ใช้บริการอาจใช้สิทธิเลิกสัญญาได้ทันที 6.1.1 ผู้ใช้บริการไม่สามารถรับบริการจากบริษัทฯ ได้ด้วยเหตุที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอยู่นอกเหนือการควบคุมของผู้ใช้บริการ 6.1.2 บริษัทฯ ปฏิบัติผิดข้อตกลงที่เป็นสาระสำคัญของสัญญา 6.1.3 บริษัทฯ ตกเป็นบุคคลล้มละลาย 6.1.4 บริษัทฯ เปลี่ยนแปลงข้อตกลงในสัญญาหรือเงื่อนไขในการให้บริการ ซึ่งมีผลเป็นการลดสิทธิหรือประโยชน์อันพึงได้รับของผู้ใช้บริการลง เว้นแต่เกิดจากเหตุตามที่กฎหมายบัญญัติ 6.2 บริษัทฯ มีสิทธิบอกเลิกการให้บริการในกรณีดังต่อไปนี้ 6.2.1 ผู้ใช้บริการถึงแก่ความตาย หรือสิ้นสภาพนิติบุคคล 6.2.2 ผู้ใช้บริการผิดนัดชำระค่าบริการ และ/ หรือค่าธรรมเนียมเกินกว่าระยะเวลาที่กำหนดในสัญญาสองคราวติดกัน โดยบริษัทฯ ได้แจ้งให้ผู้ใช้บริการทราบถึงวันครบกำหนดที่แน่นอนเป็นการล่วงหน้าในใบแจ้งเรียกเก็บค่าบริการและ/หรือค่าธรรมเนียม และได้ทำการแจ้งเตือนล่วงหน้าตามวิธีการที่บริษัทฯ กำหนดแล้ว 6.2.3 บริษัทฯ มีเหตุผลอันเชื่อได้ว่า ผู้ใช้บริการมีพฤติกรรมฉ้อฉลในการใช้บริการหรือการชำระค่าบริการและ/หรือค่าธรรมเนียม หรือนำบริการไปใช้โดยผิดกฎหมาย หรือฝ่าฝืนข้อห้ามในสัญญา 6.2.4 บริษัทฯ ไม่สามารถให้บริการได้โดยเหตุที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัทฯ 6.2.5 เป็นการยกเลิกโดยบทบัญญัติแห่งกฎหมาย 6.3 เมื่อเลิกสัญญาหากบริษัทฯ มีเงินค้างชำระแก่ผู้ใช้บริการ บริษัทฯ จะชำระคืนเงินให้แก่ผู้ใช้บริการภายใน 30 (สามสิบ) วัน นับแต่วันเลิกสัญญา โดยการคืนเงินดังกล่าว อาจคืนด้วยเงินสด เช็คหรือนำเข้าบัญชีเงินฝากของผู้ใช้บริการหรือตามวิธีการที่ บริษัทฯ และผู้ใช้บริการได้ตกลงกันต่อไป ในกรณีที่บริษัทฯ ไม่สามารถคืนเงินดังกล่าวให้แก่ผู้ใช้บริการได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด บริษัทฯ ต้องชำระค่าเสียประโยชน์ในอัตราเท่ากับอัตราดอกเบี้ยที่บริษัทฯ คิดจากผู้ใช้บริการกรณีผู้ใช้บริการผิดนัดไม่ชำระค่าธรรมเนียมหรือค่าบริการแก่ บริษัทฯ แต่ทั้งนี้ไม่ตัดสิทธิผู้ใช้บริการที่จะเรียกค่าเสียหายอย่างอื่น

7. ข้อกำหนดเกี่ยวกับอัตราค่าบริการและ/หรือค่าธรรมเนียม การกำหนดและการเปลี่ยนแปลงอัตราค่าบริการและค่าธรรมเนียม จะอยู่ภายใต้เงื่อนไขในการอนุญาตใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สาม สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากลย่าน 2.1 GHz ของบริษัทฯ และหลักเกณฑ์หรือประกาศที่ กสทช. จะกำหนดเกี่ยวกับอัตราขั้นสูงต่อไป ทั้งนี้ ให้รวมถึงประกาศอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย อนึ่ง บริษัทฯ สงวนสิทธิในการแก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกอัตราค่าบริการและ/หรือค่าธรรมเนียมดังกล่าวข้างต้นภายใต้กรอบที่กฎหมายกำหนด ทั้งนี้ แบบสัญญาของบริษัทฯ ที่ กสทช. ได้ให้ความเห็นชอบแล้ว หากต่อมาบริษัทฯ ประสงค์จะแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดหรือเงื่อนไขเกี่ยวกับการให้บริการอันอาจมีผลกระทบต่อสิทธิและหน้าที่หรือประโยชน์อันพึงได้รับของผู้ใช้บริการ บริษัทฯจะเสนอให้ กสทช. พิจารณาให้ความเห็นชอบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 (สามสิบ) วัน เว้นแต่เป็นข้อกำหนดหรือเงื่อนไขเกี่ยวกับการให้บริการที่ กสทช. ประกาศยกเว้นให้ดำเนินการได้โดยไม่ต้องได้รับความเห็นชอบจาก กสทช. ในกรณีดังกล่าวให้ผู้ให้บริการแจ้งให้ กสทช. ทราบอย่างช้าไม่เกิน 30 (สามสิบ) วันหลังจากที่ได้ดำเนินการแล้ว การเปลี่ยนแปลงในสาระสำคัญของระบบ เทคโนโลยี หรืออุปกรณ์ใดๆ อันส่งผลกระทบทำให้ประสิทธิภาพในการให้บริการต่ำลง หรือกระทบต่อสิทธิ หน้าที่ หรือประโยชน์อันพึงได้รับของผู้ใช้บริการให้ถือว่ามีผลเป็นการ แก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดหรือเงื่อนไขในการให้บริการ และต้องได้รับความเห็นชอบจาก กสทช. ก่อน

1200 โทรได้ถึงกี่โมง

วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 08:30 – 16:30 น. ติดต่อด้วยตนเอง

เบอร์โทร 1200 คือเบอร์อะไร

สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง รับแจ้งเหตุด่วน โทร 1178. ศูนย์ข้อมูลและรับเรื่องร้องเรียน กทช. โทร 1200.

เมื่อประสบปัญหาจาการใช้บริการ โทรศัพท์บ้าน มือถือ โทรศัพท์สาธารณะและอินเทอร์เน็ต สามารถร้องเรียนผ่านช่องทางของหน่วยงานใด

Call Center 1200 ( โทรฟรี ) E-mail : [email protected].

กสทช จะโทรหาเราไหม

สำนักงาน กสทช. ขอเรียนว่า สำนักงานฯ ไม่มีนโยบายโทรศัพท์ไปหาประชาชนเพื่อแจ้งตัดสัญญาณ ดังนั้น จึงขอให้ประชาชนระมัดระวัง และอย่าหลงเชื่อโทรศัพท์หลอกลวง ดังกล่าวโดยอย่าให้ข้อมูลส่วนตัว อย่ากดลิ้งก์ที่แนบส่งมาให้ หากพบการโทรในลักษณะนี้ขอให้แจ้งเบาะแสมาที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียน กสทช. Call Center 1200 (โทรฟรี)