ต วอย างป ายไวน ลงานบวชแบบไม ม เข ยน

การบวช เป็นศัพท์ที่ใช้ในทางศาสนาโดยมีขั้นตอนที่จะทำให้บุคคลธรรมดาผู้นับถือศาสนาต่างๆ กลายเป็นนักบวชของศาสนาที่ตนนับถือนั้น การบวชมักประกอบไปด้วยพิธีกรรมและแบบพิธีต่าง ๆ ซึ่งขั้นตอนการ

การบวชในศาสนาพุทธ[แก้]

ต วอย างป ายไวน ลงานบวชแบบไม ม เข ยน
การบรรพชาเป็นสามเณร ตามพระวินัยบัญญัติ อนุญาตให้พระอุปัชฌาย์สามารถทำการบรรพชาได้โดยไม่ต้องประชุมสงฆ์

ในพระพุทธศาสนา เรียกการบวชว่าการอุปสมบท (บาลี: อุปสมฺปทา) แต่เดิมนั้น การบวชเรียกว่าบรรพชา (บาลี: ปพฺพชฺชา แปลว่า เว้นทั่ว, เว้นจากความชั่วทุกอย่าง) ปัจจุบันคำว่าบรรพชาใช้กับการบวชสามเณร ในขณะที่อุปสมบทใช้กับการบวชพระภิกษุ

การบวชโดยนัยแล้วคือ การละทิ้งวิถีชีวิตความเป็นอยู่เดิม สู่ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ใหม่ ตามครรลองแห่งมรรค เพื่อเป็นการง่าย เพื่อเป็นการสะดวก เป็นทางอันปลอดโปร่ง แก่การบรรลุถึงซึ่งวัตถุประสงค์ คือ ความบริสุทธิ์หลุดพ้น ปราศจากมลทิน หมดจดจากความเศร้าหมอง และเป็นอิสระจากพันธนาการเครื่องร้อยรัดทั้งปวง

ในสมัยพุทธกาล การบวชมี 8 อย่างได้แก่ คือ

  • เอหิภิกขุอุปสัมปทา เป็นการบวชที่พระโคตมพุทธเจ้าประทานแก่พระสาวกบางองค์ด้วยพระองค์เอง ด้วยการตรัสว่า "เอหิ ภิกขุ แปลว่า เธอจงมาเป็นภิกษุเถิด" พระอัญญาโกณฑัญญะเป็นคนแรกและพระสุภัททะเป็นคนสุดท้ายที่พระพุทธเจ้าทรงบวชด้วยวิธีนี้
  • ติสรณคมนูปสัมปทา เป็นการบวชโดยให้ผู้ขอบวชเปล่งวาจาต่อหน้าพระสาวกว่าขอพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งสามครั้ง ปัจจุบันวิธีนี้ใช้ในการบรรพชาสามเณร
  • ญัตติจตุตถกัมมอุปสัมปทา เป็นการบวชโดยให้คณะสงฆ์ประชุมกันในอุโบสถ โดยมีพระภิกษุรูปหนึ่งแจ้งว่ามีผู้ขอบวช เมื่อประกาศครบสี่ครั้งไม่มีพระรูปใดคัดค้าน ถือว่าผู้ขอบวชได้รับการยอมรับให้เป็นพระภิกษุ
  • ครุธัมมปฏิคคหณูปสัมปทา เป็นการบวชโดยที่พระพุทธเจ้าประทานครุธรรม 8 ประการ แก่พระนางมหาปชาบดีและสตรีชาวสากยะ 500 คน เมื่อพวกนางยอมรับครุธรรมก็ได้รับสถานะเป็นภิกษุณี
  • อัฏฐวาจิกาอุปสัมปทา เป็นการบวชภิกษุณีโดยให้รับญัตติจตุตถกัมมอุปสัมปทาจากภิกษุณีสงฆ์ก่อนครั้งหนึ่ง และจึงรับญัตติจตุตถกัมมอุปสัมปทาจากภิกษุสงฆ์อีกครั้ง เมื่อผ่านการอุปสมบททั้งสองครั้งแล้วจึงเป็นภิกษุณี
  • โอวาทปฏิคคหณูปสัมปทา เป็นการบวชโดยพระพุทธเจ้าประทานพระโอวาทแก่พระมหากัสสปะ เมื่อท่านรับโอวาทแล้วก็เป็นพระภิกษุ
  • ปัญหาพยากรณูปสัมปทา เป็นการบวชโดยพระพุทธเจ้าทรงตอบปัญหาของสามเณรโสปาก
  • ทูเตนอุปสัมปทา เป็นการบวชโดยพระพุทธเจ้าทรงส่งทูตของพระองค์ไปบวชหญิงโสเภณีชื่ออัฑฒกาสี
    ต วอย างป ายไวน ลงานบวชแบบไม ม เข ยน
    การบวชของประเทศฝรั่งเศส

การบวชในศาสนาคริสต์[แก้]

โรมันคาทอลิก[แก้]

ในคริสตจักรโรมันคาทอลิก การบวชคือพิธีรับศีลอนุกรมซึ่งมีอยู่ 3 ขั้น คือ พันธบริกร บาทหลวง และมุขนายก พิธีบวชมุขนายกเรียกว่าการอภิเษก (consecration)

กฎเกณฑ์การบวชในนิกายโรมันคาทอลิกคริสตจักรละตินถูกกำหนดไว้ในประมวลกฎหมายพระศาสนจักร ค.ศ. 1983 เช่นผู้บวชต้องเป็นบุรุษที่บรรลุนิติภาวะแล้ว ไม่เบี่ยงเบนทางเพศ สมัครใจถวายชีวิตรับใช้พระเจ้าด้วยการทำงานในคริสตจักร และต้องถือโสดตลอดชีพ ผู้ที่บวชแล้วไม่ว่าในขั้นใดเรียกโดยรวมว่าเคลอจี เคลอจีแต่ละประเภทจะมีหน้าที่แตกต่างกันในพิธีมิสซา

โปรเตสแตนต์[แก้]

ในคริสตจักรฝ่ายโปรเตสแตนต์เรียกการบวชว่าการสถาปนา มีเฉพาะในบางคริสตจักร เช่น แองกลิคัน มีการสถาปนา 3 ขั้นเช่นเดียวกับนิกายโรมันคาทอลิก แต่บัญญัติศัพท์ต่างกัน โดยเรียกว่า มัคนายก ปุโรหิต และบิชอป ในคริสตจักรฝ่ายแองกลิคันอนุญาตการสถาปนาสตรีเป็นเคลอจีในทุกระดับขั้น เมื่อรับการสถาปนาถือว่าเป็นศาสนาจารย์ และใช้คำว่าศาสนาจารย์นำหน้าชื่อ

การบวชในศาสนาอิสลาม[แก้]

การบวชในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู[แก้]

การบวชในศาสนาซิกข์[แก้]

การบวชในศาสนายูดาห์[แก้]

อ้างอิง[แก้]

  • ราชบัณฑิตยสถาน, พจนานุกรมศัพท์ศาสนาสากล อังกฤษ-ไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน, ราชบัณฑิตยสถาน, 2548, หน้า 606-7
  • Code of Canon Law, Can. 1009 §1 การสถาปนาของคริสตจักรแองลิกัน 2 เก็บถาวร 2012-01-10 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, คริสตจักรไคร้สตเชิช กรุงเทพฯ. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี โปรดเกล้าฯ ให้ นายดำรง รัตนพานิช รองประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ฝ่ายกิจกรรมพิเศษ อันเชิญพานดอกบัวพระราชทาน ถวายเข้าเยี่ยมอาการอาพาธพระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ภายในห้องผู้ป่วยพิเศษ วีไอพี 9821อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น 8 โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โดยมีดร.วินัย บัวประดิษฐ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายสุชาติ นพวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช ผู้อำนวยการ รพ.มหาราช นครราชสีมา หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ตั้งแถวต้อนรับโดยพร้อมเพรียง

เครือข่าย5ศาสนา-คนพิการเดินเทิดพระเกียรติในหลวง

บรรยากาศการจัดกิจกรรมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิม พระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2555 เมื่อช่วงเช้าวันที่2 ธ.ค.2555 เวลา 06.30 น. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ เป็นผู้แทนพระองค์เป็นองค์ประธานในพิธี เดินเฉลิมพระเกียรติ "5 ธันวามหาราช" โดยนายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนา (ศน.) กล่าวว่า ศน. ได้ร่วมกับมูลนิธิ 5 ธันวามหาราช และศาสนิกสัมพันธ์ 5ศาสนา ได้แก่ พุทธ คริสต์ อิสลาม พราหมณ์-ฮินดู และซิกข์ จัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้น โดยมีตัวแทนองค์กรเครือข่ายทั้ง 5 ศาสนา5,000 คน หน่วยงานภาครัฐ เอกชน รวมทั้งสิ้นกว่า 10,000คน ผู้พิการ 80 คน ร่วมเดินขบวนเฉลิมพระเกียรติ ณ บริเวณเวทีกลางมณฑลพิธีท้องสนามหลวง รอบพระบรมมหาราชวัง และท้องสนามหลวง นอกจากนี้ ศน. ได้จัดสรรงบประมาณไปยังสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด จำนวน 50,000 บาท ดำเนินการจัดกิจกรรมเดินเทิดพระเกียรติ และกิจกรรมทางศาสนาร่วมกับจังหวัดทั่วประเทศ พร้อมทั้งจัดทำเสื้อตราสัญลักษณ์ สีเหลือง แจกให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมเดินเทิดพระเกียรติทุกคน

ทิพยสถานธรรมภิกษุณีเกาะยอเปิดโครงการกอดคอกันทำดี

วันนี้ (2 ธันวาคม 2555) ที่ทิพยสถานธรรม ภิกษุณีอาราม ต.เกาะยอ อ.เมือง จ.สงขลา ได้มีพิธี เปิดโครงการ "กอดคอกันทำดี บรรพชาสามเณรี มหากุศล ครั้งที่ 2" ซึ่งทิพยสถานธรรม ภิกษุณีอาราม จัดขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวามหาราช รวมทั้งให้ลูกผู้หญิงที่เข้าร่วมโครงการฯได้เรียนรู้หลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ด้วยการบวชเรียนเพื่อทดแทนบุญคุณของบิดามารดาและผู้มีพระคุณ อีกทั้งยังเป็นการสร้างเสริมความดีงามให้เกิดขึ้นแก่สังคมประเทศและเป็นการเติมเต็มพุทธบริษัท4 คือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ในปีเฉลิมฉลอง พุทธชยันตี นี้ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการ"กอดคอกันทำดี บรรพชาสามเณรี มหากุศล ครั้งที่ 2" จำนวน 29 คน เป็นเวลา10 วัน

พระอาจารย์ธัมมทีปา เจ้าอาวาส ทิพยสถานธรรม ภิกษุณีอาราม เปิดเผยว่า ในวันที่ 4 ธันวาคม 2555 สามเณรีที่ทำการบรรพชาถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในครั้งนี้ ทั้ง 29 รูป จะเดินทางไปลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 5 ธันวาคม 2555ซึ่งเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวามหาราช

กรมการศาสนา ร่วมจัดพิธีเดินเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2555 โดยมี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธี

กรมการศาสนา ร่วมจัดพิธีเดินเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5ธันวาคม 2555 โดยมี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธี พร้อมด้วยนักกีฬา ข้าราชการ และประชาชนทั่วไป บรรยากาศพิธีเดินเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2555บริเวณมณทลพิธีท้องสนามหลวง เช้าวันนี้(2 ธ.ค.)โดยมีพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธี ในกาลนี้ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดงาน นายสนธยา คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ประธานคณะกรรมการจัดงาน พร้อมด้วยคณะกรรมการเดินเฉลิมพระเกียรติฯ นักกีฬา ข้าราชการ พลเรือน นักเรียน นักศึกษา ตลอดจนประชาชนทั่วไป ร่วมเดินเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอย่างพร้อมเพรียง พร้อมรับเสด็จบริเวณเวทีกลางมณทลพิธีท้องสนามหลวง จากนั้นพระเจ้าวรวงค์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ในสมเด็จพพระบรมโอรสาธิราชฯสยามกุฎราชกุมาร ทรงเปิดกรวยดอกไม้ถวายเคารพพระบรมสาทิสลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประทานของที่ระลึกแก่ผู้ให้การสนับสนุนการจัดงาน ตัดแพรเปิดการเดินเฉลิมพระเกียรติ5 ธันวามหาราช พุทธศักราช 2555 นำขบวนผู้ร่วมเดินเฉลิมพระเกียรติรอบพระมหาราชวังและสนามหลวง เป็นระยะทาง 3 กิโลเมตร จากนั้น จึงเสด็จประทับรถยนต์พระที่นั่ง แล้วเสด็จพระดำเนินกลับ ทั้งนี้ ยังมีการแสดงกลางแจ้งและการแสดงบนเวทีของนักศึกษาและสถาบันต่างๆ หลังจากการเดินเฉลิมพระเกียรติด้วย เลขา ป.ป.ส.ร่วมตักบาตรพระสงฆ์บรรพชาอุปสมบทตามโครงการ "ชุมชนอุ่นใจได้ลูกหลานกลับคืน"เลขา ป.ป.ส.ร่วมตักบาตรพระสงฆ์บรรพชาอุปสมบทตามโครงการ "ชุมชนอุ่นใจได้ลูกหลานกลับคืน" พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส.พร้อมด้วยประชาชนจำนวนมาก ร่วมตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์ 86 รูป เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 85 พรรษา ในวันที่ 5ธันวาคม 2555 ณ ศูนย์ประสานโครงการฯบ้านอุ่นใจ ชุมชนคลองเตย โดยกล่าวว่า เป็นอีกกิจกรรมที่ ป.ป.ส.ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชน ร่วมตักบาตรแด่พระสงฆ์ซึ่งบรรพชาอุปสมบทตามโครงการ "ชุมชนอุ่นใจได้ลูกหลานกลับคืน" นอกจากนี้ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ที่ยังติดยาเสพติด ได้เห็นตัวอย่างที่ดีและได้กลับตัวเข้าสู่กระบวนการบำบัดต่อไป สำหรับศูนย์ประสานโครงการบ้านอุ่นใจชุมชนคลองเตย เปิดเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2555 มีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ตามแผนปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดอย่างยั่งยืน ซึ่ง ป.ป.ส.ได้ขับเคลื่อนแนวทางดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง อาทิ มีการนำผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด ซึ่งเป็นคนในชุมชนเข้ารับการบำบัดรักษา ก่อนส่งกลับคืนสู่ครอบครัว และการจัดพิธีบรรพชาอุปสมบทพระภิกษุสงฆ์ตามโครงการ "ชุมชนอุ่นใจได้ลูกหลานกลับคืน" 86 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 85 พรรษา ในวันที่ 5ธันวาคม 2555

ข่าวต่างศาสนา

กงสุลใหญ่มาเลเซียประจำภาคใต้ จ.สงขลาพร้อมครอบครัวเจ้าหน้าที่สถานกงสุลฯ นำเด็กกำพร้า 16 คน จากมูลนิธิลุกมานูลฮากีม จ.ยะลา เที่ยวสวนสัตว์สงขลา หลังรับเป็นลูกอุปถัมภ์

วันนี้ (2 ธ.ค. 55) ที่ สวนสัตว์สงขลา ต.เขารูปช้าง อ.เมือง จ.สงขลา นายมูฮัมหมัด ไพซอล บิน ราซาลี กงสุลใหญ่ สถานกงสุลใหญ่มาเลเซียประจำภาคใต้ จังหวัดสงขลาพร้อมด้วยครอบครัวเจ้าหน้าที่สถานกงสุลฯ ได้นำเด็กกำพร้าที่นับถือศาสนาอิสลามและต่างศาสนาจากมูลนิธิลุกมานูลฮากีม จังหวัดยะลา จำนวน 16 คน ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังรับเป็นลูกอุปถัมภ์ มาเที่ยวชมสวนสัตว์สงขลา โดยเด็กๆ ทุกคนมีความร่าเริงแจ่มใสที่ได้มาท่องเที่ยว ซึ่งครอบครัวของท่านกงสุลใหญ่และครอบครัวเจ้าหน้าที่ในสถานกงสุลฯ ต่างให้ความรัก ความอบอุ่น ดูแลเอาใจใส่เด็กๆ เหล่านี้เป็นอย่างดี รวมทั้งความสนุกสนานจากการได้มาท่องเที่ยวด้วย ถึงแม้ว่าจะมีเวลาจำกัดที่จะดูแลเด็กกำพร้าเหล่านี้ เพียง 3 วัน สำหรับในช่วงเย็นทางสถานกงสุลใหญ่มาเลเซียฯก็จะกิจกรรมบาบีคิวและเกมต่างๆในรูปแบบของชาวมาเลเซีย ให้เด็กๆ ได้แสดงความสามารถและมีการให้รางวัลด้วย สำหรับเด็กกำพร้า 16 คน จากมูลนิธิลุกมานูลฮากีม จังหวัดยะลา เป็นเด็กกำพร้าที่นับถือศาสนาอิสลามและต่างศาสนาจากมูลนิธิลุกมานูลฮากีม จังหวัดยะลา ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ มาเป็นลูกอุปถัมภ์ดูแลโดยครอบครัวของท่านกงสุลใหญ่และครอบครัวเจ้าหน้าที่ในสถานกงสุลฯ เป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างสถานกงสุลใหญ่มาเลเซียฯ กับชุมชนท้องถิ่น ทางสถานกงสุลใหญ่มาเลเซียฯหวังว่า กิจกรรมต่างๆ เหล่านี้ คงมีค่าสำหรับเด็กๆ และจะช่วยให้เขาสามารถเข้มแข็งขึ้น มีความมั่นใจขึ้นในการใช้ชีวิตและเจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต และงานวันนี้ถือว่า เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมพัฒนาสังคมสืบต่อไป

ข่าววัฒนธรรม

วัฒนธรรมจังหวัดตรังจัดกิจกรรม ชมจวน ดวลเพลง ละเลงสี กวีศิลป์ ตามโครงการส่งเสริมการเรียนรู้สู่เด็กและเยาวชนตรัง (Trang B-boy battle 2012)ที่บริเวณลานตราสัญลักษณ์ อ.เมือง จ.ตรัง นายธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการส่งเสริมการเรียนรู้สู่เด็กและเยาวชนตรัง (Trang B-boy battle 2012) โครงการส่งเสริมการเรียนรู้สู่เด็กและเยาวชนตรัง เกิดขึ้นเนื่องจากเห็นว่าเด็กและเยาวชนเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่าสูงสุดเหนือทรัพยากรใดในโลก จึงต้องได้รับการดูแลทั้งร่างกายและจิตใจ ปัจจุบันปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของเด็กและเยาวชน เกิดจากสภาพครอบครัวที่ไม่มีเวลาให้บุตรหลาน และการเลี้ยงดูในรูปแบบที่ไม่เหมาะสม ทะนุถนอมจนกลายเป็นคนอ่อนแอ หรือควบคุมมากเกินไปจนขาดอิสระในการตัดสินใจ ปล่อยปละละเลยทอดทิ้ง สิ่งเหล่านี้เป็นผลกระทบต่อการพัฒนาบุคลิกภาพของเด็กและเยาวชน ดังนั้นเพื่อลดพฤติกรรมดังกล่าว จึงได้เกิดโครงการนี้ขึ้นในรูปแบบการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนมีพฤติกรรมที่รักการเรียนรู้ ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ เปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนได้รวมกลุ่มอย่างเข้มแข็ง เปิดพื้นที่สร้างสรรค์ให้เด็กและเยาวชนมีโอกาสแสดงความสามารถและความถนัดของเด็กแต่ละคน สำหรับวันนี้ได้เปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนได้มาเรียนรู้ร่วมกัน โดยใช้ชื่อกิจกรรม ?ชมจวน ดวลเพลง ละเลงสี กวีศิลป์? ซึ่งจะมี การเต้น B-boyที่วัยรุ่นทั้งชายและหญิงนิยมกันมาก ในการจัดโครงการครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้เด็กและเยาวชนเกิดความเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญของ การพัฒนาตนเองตลอด จนมีบทบาทในการทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อตนเอง ชุมชน สังคม และประเทศชาติ

ผู้ว่าฯพะเยา เผยจะยึดหลักธรรมาภิบาลและเน้นการทำงานเป็นทีม เพื่อขับเคลื่อนพัฒนาจังหวัดพะเยาไปสู่ความสำความสำเร็จนายชูชาติ กีฬาแปง ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา กล่าวในรายการผู้ว่าฯพบประชาชน ผ่านทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดพะเยาเป็นครั้งแรก ว่า การทำงานในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของจังหวัดนั้นผู้ว่าราชการคนเดียวไม่สามารถทำงานคนเดียวได้ ต้องอาศัยข้าราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคประชาสังคมและพี่น้องประชาชน ช่วยกันกำหนดแผนงาน ผลักดันนโยบาย โครงการต่างๆ ให้สอดคล้องเหมาะสมกับความต้องการของประชาชนในแต่ละพื้นที่ให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน โดยแนวทางการทำงานนั้นจะใช้หลักการบริหารบ้านเมืองที่ดี หรือหลักธรรมาภิบาล 6 ประการ คือ 1.หลักนิติธรรม ต้องยึดความถูกต้องตามระเบียบกฎหมาย 2.หลักคุณธรรม จะต้องมีคุณธรรม จริยะธรรม ทำในสิ่งที่ดีงามและไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อนเสียหาย 3.หลักความรับผิดชอบ จะต้องรู้จักรับผิดชอบต่อตำแหน่งหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด 4.หลักความคุ้มค่า ต้องใช้ทรัพยากรต่างๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและคุ้มค่า 5.หลักความโปร่งใสในการทำงาน ต้องทำงานอย่างตรงไปตรงมาสามารถตรวจสอบได้ และ 6.หลักการมีส่วนร่วม ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนและสามารถบูรณาการการทำงานไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยาและหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งออกเยี่ยมเยือนหน่วยงานต่างๆ เพื่อรับฟังปัญหาและความต้องการของประชาชนในแต่ละพื้นที่ เพื่อร่วมกันพัฒนาขับเคลื่อนจังหวัดพะเยาไปสู่ความสำความสำเร็จต่อไป

ข่าวสังคม+

ดัชนีความสุขคนไทยเดือน พ.ย.หลายด้านพุ่งขึ้น

ศูนย์วิจัยความสุขชุมชน มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เสนอผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่องความสุขประเทศไทยกับความสำนึกรู้คุณแผ่นดิน ประจำเดือนพฤศจิกายน 2555: กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนในพื้นที่18 จังหวัดของประเทศ

เนื่องจากความสุขของประชาชนในแต่ละสังคมขึ้นอยู่กับปัจจัยที่แตกต่างกัน ความสุขของประชาชนบางประเทศขึ้นอยู่กับวัตถุนิยมความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจเป็นหลัก ในขณะที่ความสุขของประชาชนในบางประเทศขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมจารีตประเพณีอันดีงามเป็นสำคัญ สำหรับสิ่งที่ทำให้ประชาชนคนไทยมีความสุขมีเอกลักษณ์เฉพาะของประเทศไทยอยู่หลายประการ

ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยความสุขชุมชน มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ จึงได้ทำการศึกษาวิจัย เรื่อง ความสุขประเทศไทยกับความสำนึกรู้คุณแผ่นดิน ประจำเดือนพฤศจิกายน 2555 กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนในพื้นที่ 18 จังหวัดของประเทศ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ราชบุรี อยุธยา สุพรรณบุรี ชลบุรี เชียงใหม่ แพร่ นครสวรรค์ ขอนแก่น หนองคาย มหาสารคาม สุรินทร์ อุดรธานี อุบลราชธานี นครราชสีมา นครศรีธรรมราช และยะลา จำนวนทั้งสิ้น 3,169 ตัวอย่าง โดยดำเนินการสำรวจในระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน - 1 ธันวาคม 2555 ที่ผ่านมา โดยใช้การเลือกตัวอย่างแบบแบ่งกลุ่มเชิงชั้นภูมิหลายชั้น ที่สุ่มเลือกเขต/อำเภอ ตำบล ชุมชน ครัวเรือน และประชาชนที่ตอบแบบสอบถามระดับครัวเรือน โดยมีความคลาดเคลื่อนบวกลบร้อยละ 7

จากการวัดความสุขมวลรวมของประชาชนคนไทยภายในประเทศประจำเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เมื่อคะแนนเต็ม 10 คะแนน พบว่า ความสุขมวลรวมของคนไทยเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 5.79 คะแนนในเดือนกันยายน มาอยู่ที่ 7.40 และ 7.53 คะแนนในการสำรวจครั้งล่าสุด ซึ่งเป็นระดับความสุขที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และมีค่าความสุขเกินกว่าครึ่งในทุกตัวชี้วัด โดยค่าสูงสุดอยู่ที่การเห็นความเป็นหนึ่งเดียวกันของคนในชาติแสดงความจงรักภักดีอยู่ที่9.17 คะแนน รองลงมาคือ บรรยากาศความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวอยู่ที่ 7.72 และสุขภาพใจอยู่ที่7.58

นอกจากนี้ ความสุขของประชาชนคนไทยเพิ่มสูงขึ้นจากเดือนตุลาคมเกือบทุกตัวชี้วัดที่น่าสนใจคือ ภาพลักษณ์ของประเทศไทย คนไทย เด็กไทยในสายตาต่างชาติที่เพิ่มขึ้นจาก 6.03 คะแนนมาอยู่ที่ 6.51คะแนน เป็นผลมาจากการมาเยือนประเทศไทยของบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายเวิน เจีย เป่า นายกรัฐมนตรีของประเทศจีน การชุมนุมทางการเมืองที่ไม่ลุกลามรุนแรงบานปลาย และภาพลักษณ์ดั้งเดิมของประเทศไทยที่ดีอยู่แล้วในสายตาของชาวต่างชาติในเรื่อง การดูแลความปลอดภัย การเก็บทรัพย์สินได้แล้วส่งคืนชาวต่างชาติ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การปล่อยปละละเลยของเจ้าหน้าที่รัฐบางพื้นที่ต่อปัญหาอาชญากรรมและการไม่มีน้ำใจของคนไทยบางคนต่อชาวต่างชาติยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญต่อภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย

ยิ่งไปกว่านั้น ความสุขของประชาชนต่อตัวชี้วัดทั้งเศรษฐกิจระดับครัวเรือนและเศรษฐกิจระดับประเทศเริ่มเพิ่มสูงขึ้นจาก5.98 มาอยู่ที่ 6.21 และจาก 5.73มาอยู่ที่ 5.94 ตามลำดับ เป็นผลมาจากโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ดีของประเทศไทยและนโยบายสาธารณะของรัฐบาลในเรื่องการเพิ่มรายได้ที่กลายเป็นความหวังทางจิตวิทยาและกระตุ้นพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน เช่น นโยบายค่าแรง 300 บาท นโยบายเงินเดือน 15,000 บาท รถยนต์คันแรก บ้านหลังแรก และนโยบายจำนำข้าว เป็นต้น ในขณะที่นโยบายเดิมของรัฐบาลที่เคยทำมาในการส่งเสริมอาชีพระดับตำบล เช่น สินค้าโอท็อป เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ปัญหาค่าครองชีพ ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคและการไม่รู้จักกินไม่รู้จักใช้อย่างประหยัดของประชาชนเองยังคงเป็นตัวบั่นทอนความสุขของคนไทย

การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเดินรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซ่อน-ตลิ่งชัน ให้บริการประชาชาชนโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เป็นเวลา 3 เดือน เริ่มวันที่ 5 ธันวาคมนี้ เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรการรถไฟแห่งประเทศไทย พร้อมเปิดเดินรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซ่อน-ตลิ่งชัน ให้บริการประชาชาชนโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเป็นเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคมนี้ เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจร นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท กล่าวว่า หลังจากการรถไฟฯ ได้ก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานระบบราง ระบบอาณัติสัญญาณ สถานี และสิ่งอำนวยความสะดวกโครงการรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน เสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่สามารถเดินรถไฟฟ้าได้ เพราะติดปัญหาสถานีกลางบางซื่อยังไม่ได้ก่อสร้าง จึงแก้ไขปัญหาโดยการนำรถดีเซลรางมาวิ่งทดสอบระบบการเดินรถบนทางรถไฟสายสีแดงช่วงสถานีบางซ่อนถึงสถานีตลิ่งชัน ระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร ระหว่างเดือนเดือนสิงหาคม-เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ขณะนี้การทดสอบเดินรถได้สมบูรณ์เต็มรูปแบบ จึงพร้อมเปิดให้ประชาชนทดสอบการใช้บริการ ตั้งแต่วันที่ 5 ธันวาคมนี้ เป็นต้นไป เป็นเวลา 3 เดือน โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เบื้องต้นการรถไฟฯ จะเปิดให้บริการเส้นทางสถานีบางซ่อน-สถานีตลิ่งชัน โดยใช้รถดีเซลราง 1 ขบวน ขบวนละ 2 ตู้ ตู้ละ 76 ที่นั่ง ความจุสูงสุด 150 คนต่อตู้ ให้บริการไป-กลับ วันละ 12 เที่ยว ช่วงเวลา 06.00-09.30น.และช่วงเวลา 15.00 - 18.00 น.ใช้เวลา 15นาที เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจร และอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน สำหรับวันแรกของการเปิดให้บริการ รถขบวนแรกจะออกจากสถานีตลิ่งชันในเวลา 06.00น. นอกจากนี้ การรถไฟฯ ยังได้ประสานองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก.จัดรถโดยสารสาธารณะรับ-ส่ง ผู้โดยสารที่สถานีบางซ่อน เพื่อส่งต่อไปยังสถานีบางซื่อ โดยยืนยันว่า การเปิดเดินรถไฟชานเมืองสายสีแดง จะไม่กระทบต่อการเดินรถไฟ ที่ต้องใช้เส้นทางร่วมกันบริเวณสถานีรถไฟตลิ่งชัน ระยะทางประมาณ 800 เมตร ซึ่งการรถไฟได้จัดตารางเดินให้สอดคล้องกันแล้ว

ข่าวภัยสังคม+อาชญากรรม

หนุ่มปั่นจักรยานถูกรถตู้โดยสารพุ่งชนดับ

เมื่อเวลา 00.15 น. วันนี้ (2 ธ.ค. 55) พ.ต.ท.พลากร วีระจิตต์ สารวัตรเวรสภ.ศรีราชา รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา ว่ามีเหตุรถตู้โดยสารประจำทางชนกับคนขี่รถจักรยานปั่นเส้นทางถนนสุขุมวิท ยูเทิร์นบ้านพักไทยออยล์ หมู่ 9 ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสจึงรีบไปตรวจสอบ

ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย คือนายบุญส่ง ด่านจับกุม อายุ 34 ปี ซึ่งทางหน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชากำลังเร่งปั๊มหัวใจช่วยยื้อชีวิตอยู่ เพื่อรอรถพยาบาลออกมารับ โดยผู้บาดเจ็บสาหัสปั่นรถจักรยานมาเลนกลางถนนในจุดช่วงที่เป็นที่มืดแล้วถูกรถตู้โดยสาร ประจำทางยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน 10-3036 ระยอง ที่วิ่งตามมามองไม่เห็นพุ่งชนอย่างจังจนร่างกระเด็นไปตกกับพื้นถนนนอนหายใจรวยรินอยู่กลางถนนอาการสาหัส

หน่วยกู้ภัยต้องรีบปั๊มหัวใจช่วยยื้อชีวิตในเบื้องต้นเพื่อรอรถทางโรงพยาบาลออกมารับนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลพญาไทศรีราชาเพื่อให้แพทย์ทำการช่วยเหลือเป็นการด่วน ซึ่งนายบุญส่งผู้บาดเจ็บก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โรงพยาบาล

อังกฤษส่งผู้ร้ายข้ามแดนให้ไทยรายแรกรอบ101ปี

กรณีที่นายลองเฟลโล ดาห์ชาน (Longfellow Dashawn) อายุ 23 ปี สัญชาติอเมริกัน อดีตนาวิกโยธินประเทศสหรัฐอเมริกา และนักเรียนฝึกมวยไทย ถูกคนร้ายแทงเข้าที่หน้าอก2 แผลจนเสียชีวิต เหตุเกิดที่รีสอร์ท ยะนุ้ยพาราไดร์ บีช รีสอร์ท ห้องหมายเลข 9/35 ม.6 ซอยยะนุ้ย ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 14 ส.ค.2553 ที่ผ่านมา หลังจากเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต ได้สืบสวนจนกระทั่งทราบว่า คนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ คือนายลี ออเฮ้าส์ (Lee Aldhouse) อายุ 30 ปี สัญชาติอังกฤษ ชาวต่างชาติที่มาชกมวยไทยจนมีชื่อเสียงในจังหวัดภูเก็ต หลังจากก่อเหตุได้หลบหนีออกจากเกาะภูเก็ตทางรถยนต์โดยสารไปกับแฟนสาวชาวไทย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ไปขอออกหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต แต่นายลี ออเฮ้าส์ ได้หลบหนีไปเข้าประเทศกัมพูชา ก่อนที่จะขึ้นเครื่องบินไปที่ประเทศสิงค์โปร์ แล้วหลบหนีไปยังประเทศอังกฤษ แต่ขณะที่เครื่องบินลงจอดที่รันเวย์เจ้าหน้าที่ตำรวจของประเทศอังกฤษก็ได้เข้าควบคุมตัวนายลี ออเฮ้าส์ไว้ พร้อมทั้งประสานมายังตำรวจไทยให้ดำเนินการรับตัวมาดำเนินคดีในประเทศไทย เนื่องจากก่อคดีในประเทศไทย โดยเจ้าหน้าที่อัยการสูงสุดฝ่ายการต่างประเทศเป็นผู้ติดต่อประสานเพื่อรับตัวนายลี ออเฮ้าส์ ผู้ร้ายข้ามแดนมาดำเนินคดีในประเทศไทย ในข้อหา"ฆ่าผู้อื่นตายโดยไตรตรองไว้ก่อน" ซึ่งการติดต่อขอตัวนายลีออเฮ้าส์มาดำเนินคดีในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 2ปี ก่อนที่จะได้รับการอนุมัติส่งตัวมาดำเนินคดีในประเทศไทย ล่าสุดเมื่อเวลา 20.35 น. วันที่ 1 ธันวาคม 2555 ที่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต นางอินทรานี สุมาวงศ์ อัยการพิเศษประจำสำนักงานอัยการฝ่ายกิจการต่างประเทศ 2พร้อมด้วยนายภานุมาศ อจลบุญ อัยการพิเศษประจำสำนักงานอัยการฝ่ายกิจการต่างประเทศ 2 พ.ต.อ.สินาด อาจหาญวงศ์ ผู้กำกับการฝ่ายตำรวจสากลและประสานงานภูมิภาค 3 พ.ต.ท.เกชา สุขรมย์ รองผู้กำกับการฝ่ายตำรวจสากลและประสานงานภูมิภาค 3 ได้ควบคุมตัว นายลี ออเฮ้าส์ มาจากสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพมหานคร มายังท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ด้วยสายการบิน TG 221 โดยมี พ.ต.อ.อรุณ แกล้ววาที รองผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.อ.วันชัย ปาละวัน ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.วรพงศ์ พรหมอินทร์ สว.สส.สภ.ฉลอง เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษและเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ฉลองกว่า 30 นาย เดินทางมาร่วมรับตัวผู้ต้องหาข้ามแดนในครั้งนี้ด้วย หลังจากเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต เจ้าหน้าที่รับตัวนายลี ออเฮ้าส์ ไปยังสภ.ฉลอง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ทั้งนี้นางอินทรานี สุมาวงศ์ อัยการพิเศษประจำสำนักงานอัยการฝ่ายกิจการต่างประเทศ2 กล่าวว่า เมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา ตนพร้อมด้วย นายภานุมาศ อจลบุญ อัยการพิเศษประจำสำนักงานอัยการฝ่ายกิจการต่างประเทศ 2 พ.ต.อ.สินาด อาจหาญวงศ์ ผู้กำกับการฝ่ายตำรวจสากลและประสานงานภูมิภาค 3 พ.ต.ท.เกชา สุขรมย์ รองผู้กำกับการฝ่ายตำรวจสากลและประสานงานภูมิภาค 3 ได้ เดินทางไปกรุงลอนดอน เพื่อรับตัว นายลี ออเฮ้าส์ มาดำเนินคดีที่ สภ.ฉลอง หลังจากก่อเหตุฆ่านักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน สำหรับการดำเนินการส่งผู้ร้ายข้ามแดนจะต้องมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนต่อกัน หากไม่มีก็ต้องมีหลักการปฏิบัติต่างตอบแทนต่อกัน ซึ่งคดีดังกล่าวประเทศไทยมีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับประเทศสหราชอาณาจักร มาเมื่อ พ.ศ. 2454 จนถึงขณะนี้รวม 101 ปี ซึ่งตั้งแต่มีการทำสนธิสัญญาฯกันเราเคยขอการส่งผู้ร้ายข้ามแดนมาดำเนินคดีในประเทศไทยหลายคดี แต่ไม่เคยได้รับการส่งผู้ร้ายกลับมาให้ประเทศไทยดำเนินคดีแม้นแต่คดีเดียว ซึ่งคดีนี้ถือว่าเป็นคดีแรกใน 101 ปี ที่ประเทศสหราชอาณาจักรได้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนมาให้ประเทศไทยดำเนินคดีตามกฎหมาย หากย้อนหลังไป 3 ปี ที่ผ่านมา ทางการไทยโดยอัยการสูงสุดประสานงานร่วมกับตำรวจสากลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เราได้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปให้ประเทศราชอาณาจักรไปกว่า 20 ราย

ข่าวการศึกษา

เปิดบัญชีเงินเดือนแม่พิมพ์หลังปรับใหม่ ครูผช.แรกบรรจุเริ่ม11,920บาท

เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน นางรัตนา ศรีเหรัญ เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เปิดเผยผลการประชุม ก.ค.ศ. เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า ที่ประชุมรับทราบตามที่สำนักงาน ก.ค.ศ.เสนอการกำหนดอัตราเงินเดือนสำหรับคุณวุฒิที่ ก.ค.ศ.รับรอง เพื่อการบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งหลักการและเหตุผลของการปรับ เนื่องจากสถานการณ์สภาวะเศรษฐกิจได้เปลี่ยนแปลงไป และค่าครองชีพสูงขึ้นอย่างมาก เพื่อเป็นการสร้างแรงจูงใจและรักษาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ที่มีความสามารถไว้ในราชการ ประกอบกับนโยบายรัฐบาลกำหนดให้แรงงานมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 300 บาท/วัน และผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีมีรายได้เดือนละไม่น้อยกว่า 15,000 บาท ฉะนั้น ก.ค.ศ.จึงกำหนดอัตราเงินเดือนดังกล่าวเพื่อรองรับและปรับอัตราเงินเดือนผู้ที่ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการครูฯที่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ก่อนวันที่ 1 มกราคม 2555

ข่าวไอที

กสทช. จัดงาน มหกรรมรวมพลังผู้บริโภคสื่อวิทยุและโทรทัศน์ พร้อมเสวนาเรื่องทีวีดิจิตอล เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าแก่ผู้ประกอบการและผู้บริโภคให้เตรียมพร้อมในการเปลี่ยนผ่านโทรทัศน์ไปสู่ระบบดิจิตอลในปี2556 นี้

กสทช.จัดงาน มหกรรมรวมพลังผู้บริโภคสื่อวิทยุและโทรทัศน์ พร้อมเสวนาทีวีดิจิตอล สร้างความรู้ความเข้าผู้ประกอบการและผู้บริโภค ให้เตรียมพร้อมในการเปลี่ยนผ่านโทรทัศน์ไปสู่ระบบดิจิตอลในปี 2556 สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช.จัดงานมหกรรมรวมพลังผู้บริโภคสื่อวิทยุและโทรทัศน์ ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตต์ โดยจัดเสวนาเรื่อง Digital TV:กสทช.ควรคำนึงถึงผู้บริโภคสื่ออย่างไร เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจแก่ผู้ประกอบการ และผู้บริโภคให้พร้อมเปลี่ยนผ่านโทรทัศน์ไปสู่ระบบดิจิตอล และแลกเปลี่ยนความรู้ เรื่องอุปสรรคกลไก แก้ไข การกำกับดูแล การคุ้มครองผู้บริโภคสื่อช่วงการเปลี่ยนผ่าน จากระบบอนาล๊อกไปสู่ดิจิตอล โดยมีวิทยากร อาทิ นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสทช. นายธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ กรรมการ กสทช. และนางสาวสารี อ่องสมหวัง จากมูนิธิเพื่อผู้โภค โดยนาย ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ กรรมการ กสทช. กล่าวว่า ทีวีดิจิตอล เป็นสิ่งใหม่ที่จะเกิดขึ้นในประเทศไทย ซึ่งประชาชนจะได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนระบบทีวีจากอนาล๊อกเป็นดิจิตอล คือ การเข้าถึงประชาชนอย่างทั่วถึงมากขึ้น ระบบสัญญาณที่คมชัด ความหลากหลาย จากจำนวนช่องฟรีทีวีเพิ่มมากขึ้น คุณภาพรายการ และการดูแลป้องปรามเนื้อหาโฆษณาที่ไม่เหมาะสม หรือสิ่งที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ซึ่งจะมีการทดลองออกอากาศโทรทัศน์ระบบดิจิตอลในปี 2556 ควบคู่กับระบบอนาล๊อก ในระหว่างที่กำลังดำเนินการ ติดตั้งระบบโครงข่าย และประมูลช่องทีวี โดยภายในงานมีการจัดกิจกรรมของสื่อต่างๆ อาทิ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย สถานีโทรทัศน์เพื่อคนหูหนวก และสถาบันสื่อเด็กและเยาวชน

กสทช.เตรียม2ทางรับศาลชี้ชะตา3จี3ธ.ค.นี้

กสทช.-ผู้ตรวจการ-3 ค่ายมือถือลุ้นศาลปกครองมีคำสั่งคดีประมูลคลื่น 3 จีวันที่3 ธ.ค.นี้ "สมเกียรติ" ห่วงการให้บริการ3จีชะงักกระทบผู้บริโภค

ในเวลา13.30 น. วันที่ 3 ธ.ค.นี้ ศาลปกครองกลางได้นัดคู่กรณีทั้ง 3 ฝ่าย คือ ผู้ตรวจการแผ่นดินและ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ฟังคำสั่งคดีการประมูลใบอนุญาตให้บริการ (ไลเซนส์) 3 จี คลื่น 2.1 กิกะเฮิร์ตซ

คดีดังกล่าวผู้ตรวจการแผ่นดินได้ยื่นฟ้องศาลปกครองกลางเมื่อวันที่8 พ.ย. ให้พิจารณาและวินิจฉัยว่าการประมูล 3 จี ดำเนินการที่เป็นแข่งขันโดยเสรีตามรัฐธรรมนูญและ พ.ร.บ.กสทช. หรือไม่ พร้อมร้องขอให้ไต่สวนฉุกเฉินและขอให้ศาลมีคำสั่งมาตรการคุ้มครองชั่วคราวด้วยการระงับการให้ไลเซนส์ไว้ก่อนจนกว่าศาลจะมีคำสั่ง โดยศาลได้เรียกผู้ตรวจการแผ่นดินเข้าชี้แจงเมื่อวันที่ 14 พ.ย. และเรียกกสทช.เข้าชี้แจงในวันที่ 15 พ.ย.

นายฐากร ตันฑสิทธิ์ เลขาธิการกสทช. กล่าวว่า กรณีศาลรับเรื่องฟ้องร้องและมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว กระบวนการเรื่อง 3จี ที่ผ่านมาทั้งหมดจะยุติทันที พร้อมทั้งเริ่มกระบวนการแก้ไขประกาศ กสทช. ที่ว่าด้วยหลักเกณฑ์การประมูล 3จี โดยการแก้ไขจะเน้นให้ความสำคัญที่การพิจารณาแก้ไขในส่วนของราคาตั้งต้นเป็นอันดับแรก คาดจะใช้กระบวนการดังกล่าวประมาณ 5-6 เดือน ซึ่งขณะนี้เอง กสทช. ยังไม่มีแผนสำรอง สำหรับใช้ในการเยียวยาผู้บริโภคและความเสียที่เกิดขึ้นหากศาลรับฟ้อง แต่หากกรณีที่ศาลไม่รับฟ้อง จะเร่งออกไลเซนส์ให้ทันตามกำหนด 90 วันพร้อมเรื่องลดราคาค่าบริการ 15-20%

นายสมเกียรติ ตั้งกิจวาณิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า มีความกังวลว่า หากศาลปกครองมีคำสั่งตามคำขอของผู้ตรวจการแผ่นดินให้ระงับการออกไลเซนส์ไปก่อน จะส่งผลให้เกิดสภาวะชะงักงันในการให้บริการ 3 จีซึ่งจะทำให้ผู้ใช้บริการไม่มีทางเลือกในการรับบริการไปจนกว่าศาลจะพิจารณาคดีเสร็จ ซึ่งอาจนานเป็นปีขึ้นไป และการคุ้มครองชั่วคราวยังจะทำให้เกิดความเสียหายต่อการแข่งขัน เพราะผู้ประกอบการบางรายได้เปรียบผู้ประกอบการรายอื่นจากการให้บริการไปก่อนภายใต้สัญญาที่เต็มไปด้วยข้อสงสัย

ดังนั้น หากศาลปกครองเห็นว่าการประมูล 3 จี ของกสทช. ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลควรมีคำสั่งให้ยกเลิกการประมูลที่ผ่านมา และสั่งให้ กสทช. จัดการประมูลใหม่โดยเร็ว แทนที่จะให้ระงับการออกไลเซนส์ตามที่ผู้ตรวจการแผ่นดินร้องขอ

นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า ผลการสอบสวนเบื้องต้นเรื่องการประมูล 3 จีของดีเอสไอไม่พบการกระทำผิดแต่อย่างใด โดยเฉพาะในประเด็นการออกหลักเกณฑ์ และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ การจัดการประมูลว่าขั้นตอนต่างๆ มีการหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคา อย่างเป็นธรรมตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐพ.ศ.2542 (พ.ร.บ..ฮั้ว) หรือไม่

นายสุวิจักษณ์ นาควัชระชัย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานคณะทำงานตรวจสอบพฤติกรรมการเคาะราคาประมูล 3 จีกล่าวว่า ผลการตรวจสอบของคณะทำงานไม่พบว่าเอกชนสมยอมราคา หรือ เข้าข่ายฮั้วแต่อย่างใด เพราะเป็นการประมูลตามกติกาของ กสทช.ทุกขั้นตอน ส่วนข้อสังเกตที่ว่า หลักเกณฑ์ของกสทช.ไม่เอื้อให้เอกชนเกิดแรงจูงใจในการแข่งขันราคานั้น คณะทำงานไม่ได้มีอำนาจในการตรวจสอบประเด็นดังกล่าว

ผลของ 4G ที่โตเกียว ชีวิตการทำงานของคนรุ่นใหม่จะแข่งขันกันสูงขึ้น เร็วขึ้น และเครียดมากขึ้น โดย...โยโมทาโร่

อันที่จริงแล้วอาจไม่จำเป็นต้องเดินทางไปถึงเมืองโตเกียวประเทศญี่ปุ่นด้วยซ้ำ เพราะข้างบ้านเราก็มี 4G ให้ใช้กันแล้ว

ส่วนเหตุผลที่บ้านเรายังค้างเติ่งก็คงเป็นอย่างที่เราทราบกันดี เรื่องความขัดแย้งทางการเมืองและผลประโยชน์ที่ผูกติดกับกลุ่มธุรกิจหนุนเบื้องหลัง รวมทั้งข้อกฎหมายที่กลายเป็นดาบสองคม ด้านหนึ่งมีไว้เพื่อป้องกันการทุจริต แต่อีกด้านก็กลายมาเป็นการชะลอการพัฒนาประเทศและเป็นเครื่องมือของกลุ่มธุรกิจอื่นๆ ไปในตัว

แต่เอาล่ะ วันนี้เราจะไปกันที่โตเกียว ซึ่งทางทีโอทีจัดพาสื่อมวลชนเดินทางไปสัมผัสประสบการณ์4G ถึงประเทศญี่ปุ่น เพื่อดูว่าประเทศที่ใช้ระบบ 4Gมา 2 ปีกว่าแล้วนั้นเป็นอย่างไร เขาพัฒนาและประสบปัญหาอะไรบ้าง แต่ก่อนอื่นเรามาปรับความเข้าใจในเรื่องเทคโนโลยี 4Gกันก่อนว่า แท้จริงแล้ว 4G หรือ (Fourth Generation) นั้นคืออะไร

เทคโนโลยี4G ออกแบบมาให้ใช้งานด้วยการรับส่งข้อมูลดิจิตอลเต็มรูปแบบ100% โดยแทบจะไม่มีการส่งข้อมูลเสียงเข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้นประเทศที่หันมาใช้ระบบ 4G อย่างญี่ปุ่นนั้น จึงใช้สลับกันระหว่างระบบ 4G เพื่อส่งข้อมูลความเร็วสูง และใช้ช่วงคลื่น 3G ในแบบวอยซ์และดาตาเมื่ออยู่นอกพื้นที่ให้บริการ4G ในเขตเมือง ผ่านเครื่องสมาร์ตโฟนที่รองรับระบบ LTE (Long Term Evolution) ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ที่ให้สมาร์ตโฟนสามารถใช้งานได้ทั่วโลก แม้ว่าประเทศนั้นจะไม่มี 3G หรือ 4G รองรับก็ตาม เราถึงเห็นคำว่า 4G LTE นั่นเอง

เมื่อเทคโนโลยี4G ของญี่ปุ่นเป็นในรูปแบบการส่งข้อมูลความเร็วสูง ซึ่งตามทฤษฎีแล้วสามารถทำได้ถึง 100 เมกะบิต ในขณะที่ 3Gนั้นทำได้สูงสุดตามทฤษฎีเพียง 42 เมกะบิต 4Gจึงถูกใช้ในอุปกรณ์อย่างดอนเกิล (Dongle), ไมไฟ (MiF) สำหรับเครื่องโน้ตบุ๊กตามบ้านเป็นหลักมากกว่า เพราะความเร็วอินเทอร์เน็ตที่ได้นั้นเทียบเท่ากับการใช้อินเทอร์เน็ตผ่านสายโทรศัพท์ตามบ้านที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้เลยทีเดียว

ความเร็วของเขาโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ8 เมกะบิต ไปจนถึง 24 เมกะบิต ส่วนความเร็วขณะเคลื่อนที่บนรถไฟฟ้านั้นอยู่ที่ประมาณ 1-3 เมกะบิต ผันแปรขึ้นลงตามความหนาแน่นในการใช้งานของผู้ใช้บริการ อาจจะไม่เร็วเท่าตามทฤษฎีกำหนด แต่ชาวญี่ปุ่นจึงสามารถเรียกดูคอนเทนต์บนยูทูบได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการชมภาพยนตร์ที่ความละเอียดระดับ 1080P Full HD ได้แบบไม่ต้องรอนาน ไม่มีอาการค้างหรือภาพกระตุกแม้แต่น้อย เรื่องการดาวน์โหลดมาเก็บไว้ที่ฮาร์ดดิสก์ส่วนตัว หรือการหาซื้อแผ่นเก็บไว้ดูเองก็แทบจะไม่จำเป็นอีกต่อไป เพราะเขาสามารถเรียกเนื้อหามาชมเมื่อไหร่ก็ได้

ส่วนการโทรสนทนาเสียงนั้น จากการสอบถามชาวญี่ปุ่นบอกว่าจะเป็นการใช้สลับกันระหว่าง 3G และ 4G ความเร็วที่ได้ถือว่าน่าพอใจมาก เพราะพวกเขาสามารถดาวน์โหลดคอนเทนต์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วในเวลาประมาณ 45 วินาที คลิปวิดีโอขนาด 100 เมกะไบต์ ก็ถูกโหลดมาอยู่บนเครื่องสมาร์ตโฟนของเขาแล้ว

ความเร็วขนาดนี้พวกเขาทำได้อย่างไร จุนิชิ มิยาซาวา รองประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี ซอฟต์แบงก์ โมบาย คอร์ป ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือเอกชนรายใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ บอกว่า พวกเขาทุ่มทุนติดตั้งสถานีฐานย่อยมากถึง 2,000 สถานีฐานต่อพื้นที่ 1 ตารางกิโลเมตร ในเขตโตเกียวและหัวเมืองใหญ่ต่างๆ เพื่อรองรับปริมาณรับส่งข้อมูลมหาศาลเหล่านี้ อีกทั้งยังคาดการณ์กันว่าจะมีแนวโน้มสูงขึ้นแตะระดับการใช้ปริมาณรับส่งข้อมูล 1กิกะไบต์ต่อคนต่อวัน แล้วลองคิดดูว่าผู้ใช้เกือบ 100 ล้านคนในญี่ปุ่น จะมีข้อมูลมากมายขนาดไหน โอเปอเรเตอร์ทั้งหลายต้องระดมติดตั้งสถานีฐานกระจายสัญญาณ ทั้งภายในและนอกอาคารกันชนิดที่เรียกว่า มองไปทางไหนก็เห็นแต่สถานีฐานขนาดเล็กติดตั้งอยู่เต็มดาดฟ้าแทบทุกตึก หลังคาบ้านไหนยอมให้ติดก็ต้องแย่งกันไปติดเลยทีเดียว

ส่วนโทรศัพท์มือถือที่รองรับระบบ4G LTE ที่วางขายในประเทศญี่ปุ่น ก็มีให้เลือกมากมายหลายรุ่น คนที่บอกว่าใช้ 4G แล้วมีไม่กี่รุ่นที่รองรับ ผมบอกได้เลยว่าคนไทยเราขอให้กังวลเรื่องการประมูล 3G กับ 4Gจะดีกว่า เพราะผู้ผลิตเขาก็แค่เปลี่ยนชิปที่อยู่ข้างในไม่กี่ตัว ก็ได้เครื่องรุ่นใหม่ออกมารองรับ 4G กันแล้ว

อย่างเช่น โซนี่ ก็ออกรุ่น Sony Xperia TL สเปกข้างในก็ไม่ได้ต่างจาก 3Gมาก แค่เพิ่มการรองรับ LTE พร้อมกล้อง 16ล้านพิกเซลเท่านั้นเอ๊ง...ในขณะที่ซัมซุงกับแอลจีก็ออกรุ่นที่รองรับLTE มาให้เลือกซื้อ แต่ด้วยสถานการณ์ข้อพิพาทระหว่างประเทศ ทำให้ชาวญี่ปุ่นไม่นิยมแบรนด์เกาหลีเท่าไหร่นัก อีกทั้งสินค้าแบรนด์ญี่ปุ่นเองก็ได้มาตรฐานดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาสินค้าต่างประเทศเลย

ทุกวันนี้ชาวญี่ปุ่นจึงใช้ระบบ4G กันอย่างสบายอกสบายใจ เพราะแค่เสียค่าบริการรายเดือนแบบอันลิมิตเต็ด ก็สามารถโทรหาเพื่อนที่ใช้สมาร์ตโฟนด้วยกันผ่านทางสไกป์ ไลน์ หรือโปรแกรม VOIP (Voice Over Internet Protocal) อื่นๆ ก็ได้ แต่ส่วนใหญ่หากไม่เป็นเรื่องด่วนที่ต้องคุย ณ เวลานั้น ก็จะนิยมการส่งข้อความหรืออีเมลกันมากกว่า เพราะเขาจะได้ใช้เวลาที่เหลือไปทำงานต่อ

แต่บอกไว้ก่อนเลยว่า หลังที่เราได้ใช้ 3G และ 4G ชีวิตการทำงานของคนรุ่นใหม่จะแข่งขันกันสูงขึ้น เร็วขึ้น และเครียดมากขึ้น เพราะออฟฟิศจะติดตัวเราไปทุกที่ เช่น เวลาเริ่มงานของชาวญี่ปุ่นจะเริ่มตั้งแต่เวลานั่งรถไฟมาทำงาน พวกเขาจะเช็กอีเมลและตอบกลับก่อนเวลาตอกบัตรด้วยซ้ำ และพวกเขาจะเลิกงานดึกเพื่อให้ได้งานที่มากกว่าคู่แข่งในวันถัดไป คอมพิวเตอร์จะได้รับความนิยมน้อยลง แท็บเล็ตจะเข้ามาแทนโน้ตบุ๊ก เพราะสามารถทำงานได้สะดวกกว่าในทุกๆ ที่

ข่าวสาธารณสุข

จักษุแพทย์ เผย คนไทยร้อยละ 8 ตาบอดสี แต่ไม่รู้ตัว ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเรียนและการทำงานจักษุแพทย์ประจำโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า เผย ผู้ชายร้อยละ 7 และหญิงร้อยละ 1 มีปัญหาตาบอดสีตั้งแต่กำเนิด ส่วนใหญ่ไม่รู้ตัวมาก่อนทำให้เสียโอกาสหลายด้านการมองเห็น การศึกษา และการมีงานทำ มีผลกระทบต่อจิตใจและโรคนี้เป็นกรรมพันธุ์ที่ไม่มียารักษา นายแพทย์ฐาปนวงศ์ ตั้งอุไรวรรณ จักษุแพทย์ประจำโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้มีความเป็นห่วงเด็กนักเรียนหลายคนที่ต้องพลาดโอกาสเรียนต่อในสายอาชีพที่ต้องการ เนื่องมาจากปัญหาสายตาผิดปกติ โดยเฉพาะโรคตาบอดสี (Color Blindness) ซึ่งปีนี้มีตัวอย่างเกิดขึ้นแล้ว เช่น กรณีเด็กนักเรียนอายุ 16 ปี เที่เสียเงินค่าเรียนกวดวิชาหลายหมื่นบาท สอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหารได้ แต่ไม่ทราบว่าตาบอดสี แม้สอบผ่านข้อเขียนแต่สามารถไม่ผ่านการตรวจร่างกาย นายแพทย์ฐาปนวงศ์ ยังกล่าวว่า โรคตาบอดสีไม่ใช่โรคตาบอดหรือมองไม่เห็น และโรคนี้ถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้หากมีพ่อหรือแม่เป็น ผู้ที่เป็นโรคตาบอดสีมีการมองเห็นเป็นปกติ แต่จะมีความผิดปกติเรื่องการแยกสี โดยทั่วไปจะมี 2 กลุ่ม คือ กลุ่มตาบอดสีแต่กำเนิดซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมตาบอดสีชนิดนี้พบมากในผู้ชายร้อยละ 7และผู้หญิงพบร้อยละ 1 แบ่งออกเป็น 3 ชนิด ชนิดที่พบมากที่สุดคือตาบอดสีแดง สีเขียว (red/green color blindness) ผู้ป่วยจะแยกสีแดงและสีเขียวออกจากสีอื่นๆ ค่อนข้างลำบาก โดยเฉพาะเวลาที่แสงไม่สว่างนัก ชนิดที่พบรองลงมาคือตาบอดสีน้ำเงิน สีเหลือง (blue/yellow color blindness) มีปัญหาในการแยกสีน้ำเงินและเหลืองออกจากสีอื่นค่อนข้างลำบาก ซึ่งคนที่บอดสีแดง สีเขียว มักจะมีปัญหาบอดสีน้ำเงิน สีเหลืองด้วย และชนิดสุดท้ายคือตาบอดสีทุกสี (Achromatopsia หรือ Total Color Blindness) เป็นชนิดที่พบน้อยที่สุด ผู้ป่วยจะมองไม่เห็นสีทุกสี เห็นแต่เพียงสีขาวและดำ และ2.กลุ่มตาบอดสีที่เกิดขึ้นภายหลัง จะพบในผู้ป่วยที่มีปัญหาโรคทางจอประสาทตาหรือโรคเส้นประสาทตาอักเสบ พบได้น้อย ผู้ป่วยจะมองเห็นสีต่างๆ แต่มักเรียกชื่อสีหรือเห็นสีผิดไปจากสีที่แท้จริง ส่วนใหญ่จะผิดปกติสีน้ำเงิน สีเหลือง มากกว่าสีแดงสีเขียว โดยความผิดปกตินี้อาจเป็นตาเดียวหรือเป็นทั้ง 2 ตา ปัจจุบัน วงการจักษุแพทย์ทั่วโลกยังไม่สามารถรักษาโรคตาบอดสีให้หายขาดได้ และตาบอดสีในคนไทยส่วนใหญ่จะเป็นแต่กำเนิด วิธีที่ดีที่สุดที่จะรู้ว่าตนเองมีปัญหาหรือไม่ ในกลุ่มประชาชนทั่วไปตรวจสอบการมองเห็นตนเอง หากมองแล้วแยกสีไม่ได้เหมือนคนอื่นควรพบจักษุแพทย์ โรคนี้ไม่มียารักษา สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ เลือกงานและอาชีพที่เหมาะสมได้ โดยเฉพาะคู่สามีภรรยาที่เป็นโรคนี้ มีความเสี่ยงถ่ายทอดพันธุกรรมไปสู่บุตรหลาน ขอแนะนำให้พาลูกไปพบจักษุแพทย์ เพื่อตรวจสอบว่าลูกมีปัญหาตาบอดสีหรือไม่ตั้งแต่เนิ่นๆ และให้รู้ว่าบอดสีประเภทไหน เพื่อวางแผนอนาคตของลูก ทั้งเลือกสายการเรียน อาชีพในอนาคต การใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งนี้ ผู้ที่ตาบอดสีสามารถดำรงชีวิตได้เหมือนคนปกติ เพียงแต่การแปรผลผิดไปจากความจริง จึงควรปรึกษาจักษุแพทย์ ตรวจเช็คสายตา ให้คำแนะนำในการปรับตัว และแนวทางการรักษาผู้ที่มีภาวะตาบอดสีแต่กำเนิดควรปรึกษาแพทย์ เพื่อรับคำแนะนำถึงโอกาสการถ่ายทอดทางพันธุกรรม และการหลีกเลี่ยงที่จะทำให้เกิดภาวะตาบอดสีในหมู่ญาติ ส่วนผู้ที่มีตาบอดสีภายหลังควรรับการตรวจวินิจฉัยถึงสาเหตุ และได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป

ศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ แนะ 6 วิธีให้ลูกดูแลสุขภาพให้กับคุณพ่อนายแพทย์ กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ กล่าวว่า คนไทยโชคดีที่มีพ่อถึง 2 ท่าน ถือได้ว่าเป็นมงคลอันประเสริฐแห่งชีวิต และจะยิ่งเป็นมงคลขึ้นอย่างที่สุดถ้าเราได้ดูแลพ่อของเราด้วยหัวใจ แสดงกตเวทิตาให้ท่านด้วยการดูแลจิตใจท่านในฐานะลูก คุณพ่อของเราที่บ้านท่านอาจเข้าวัยที่ต้องดูแลเป็นพิเศษก็ขอให้หาโอกาสเข้าไปดูเรื่องสุขภาพให้ท่าน สิ่งหนึ่งที่อยากฝากไว้กับลูกทุกคน ก็คือ อย่าผลัดเวลารัก ขออย่ารอเวลาบอกรักพ่อ ผลัดไปวันๆ หรืออายไปตลอดเวลาแล้วอ้างว่าไม่มีเวลาคุยกันสักครั้ง

“ในฐานะลูกคนหนึ่ง จึงขอฝากสิ่งที่ลูกพอจะทำให้กับพ่อได้ เพื่อให้คุณพ่อได้หนุ่มเสมอ และอยู่กับเรานานๆ สไตล์อายุรวัฒน์ คือ 1.ให้เลี่ยงดื่ม ระวังตับ เพราะมะเร็งตับเป็นผู้ร้ายอันดับต้นของผู้ชาย คุณพ่อที่ยังดื่มไวน์, เบียร์ และเมรัยประเภทต่างๆ อยู่ ขอให้ดูแลตับไว้ด้วยอาหารบำรุงตับง่ายๆ อย่าง ขมิ้นชัน, เห็ดหอม, เห็ดหลินจือ,หัวบีทรู้ท และบร็อกโคลีครับ ส่วนคุณพ่อที่ไม่ชอบกินผัก ก็ขอให้ลูกหาวิตามินมาให้กินแทนอย่าง ซีลีมาริน หรือวิตามินน้ำมันบำรุงตับอื่นๆ 2.ขอให้พ่อระวังยา คุณพ่อพอถึงวัยหนึ่งอาจมีทั้งต่อมลูกหมากโต, ความดันขึ้น, ไขมันสูงและเบาหวาน การหายาให้คุณพ่อรับประทานเป็นเรื่องดี แต่ขอให้ลูกช่วยดูจำนวนของยาที่กินด้วยว่ามากเกินไป จนทำให้คุณพ่อตับพัง หรือเสี่ยงไตวายหรือไม่ หรือถ้าจะให้สมุนไพรคุณพ่อก็ขอให้พาคุณพ่อไปเจาะเลือดตรวจตับไว้ก่อนว่าแข็งแรงแค่ไหน3.พาพ่ออดบุหรี่ เป็นตัวที่บั่นทอนสุขภาพคุณพ่อจะทำให้อยู่กับเราได้อย่างอึดอัด ข้อนี้ผมเข้าใจ เพราะคุณพ่อผมเป็นวิศวกรสูบบุหรี่จัด ท่านจะมีอาการอึดอัดหายใจลำบาก เวลาไปวิ่งด้วยกันก็จะเหนื่อยเร็วขึ้น ว่ายน้ำก็ไม่ได้ทนเหมือนแต่ก่อน ผมเลยจัดโปรแกรมอดบุหรี่ให้พ่อ จนเลิกได้แล้ว จากนั้นมาอาการดีขึ้นเป็นคนละคนเลย ไปออกกำลังกาย ขับรถไปไหนต่อไหน เดินจงกรมได้ครึ่งค่อนวัน เลยอยากขอให้ทุกคนลองให้คุณพ่ออดบุหรี่ดู ท่านจะหนุ่มขึ้นอีกเยอะ” นพ.กฤษดา กล่าวนายแพทย์ กฤษดา กล่าวอีกว่า 4.หาวิธีลดพุงคุณพ่อทำงานมาเหนื่อยตลอดชีวิต พอถึงวัยหนึ่งก็จะเริ่มล้าไม่อยากออกกำลังกายประกอบกับความเครียดเลยเรียกพุงกะทิมาได้ง่าย การมีพุงไว้ไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่ถ้าหนักไปจะทำให้คุณพ่อเสี่ยงความดัน,มะเร็ง และแก่ก่อนวัย จึงอยากขอให้ลูกๆ ช่วยจัดโปรแกรมลดพุงให้กับคุณพ่อด่วน โดยมีเทคนิค คือ ให้คุณพ่อลดแป้งกับน้ำตาลและน้ำหวานลง อย่าให้คุณพ่อนอนดูทีวีเฉยๆ ชวนท่านไปออกกำลังกายด้วยกันก็ดี 5.ไม่ต้องเครียดมาก ดังนั้น ถ้าวันหนึ่งลูกๆ โตเป็นหลักเป็นฐานกันได้หมดแล้วก็ขอให้พากันมากราบคุณพ่อและแสดงให้ท่านเห็นว่ามีหน้าที่การงานมั่นคง มีครอบครัวอบอุ่นของตัวเองแล้ว เพื่อท่านจะได้วางใจไม่ต้องเป็นห่วงในช่วงชีวิตที่ควรได้พัก สิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้คุณพ่ออุ่นใจได้ ก็คือ การที่ลูกอาจดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายในบ้าน ค่ารักษาพยาบาลไปจนถึงมอบค่าใช้จ่ายไว้ให้ท่านใช้สอยด้วย

และวิธีที่ 6.คือ พาตรวจโรค ลูกที่ดีต้องเข้าใจสรีระของคุณพ่อด้วย เพราะมีบางโรคที่เกิดขึ้นตามวัย และบางทีคุณพ่อท่านอาจไม่อยากบอก ที่พบเจอบ่อยและขอแนะให้ตรวจ คือ ต่อมลูกหมาก, ลำไส้ และทางเดินอาหาร ท่านอาจพาคุณพ่อไปเจาะเลือดเพื่อตรวจ ต่อมลูกหมาก, สารบ่งชี้มะเร็งตับ, สารบ่งชี้มะเร็งลำไส้ และพาไปอัลตร้าซาวน์ดูช่องท้อง นอกจากนั้น คุณพ่ออาจกำลังเผชิญภาวะกระดูกพรุนซึ่งลูกสามารถพาไปสแกนกระดูกได้โดยไม่เจ็บ

ผอ.ศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ กล่าวด้วยว่า ทั้ง 6 ข้อนี้ขอให้เป็นเสมือนจดหมายเปิดผนึกจากคุณลูกถึงคุณพ่อทุกท่าน ซึ่งเป็นสิ่งที่แสดงถึงกตเวทิตาคุณอันเป็นคุณสมบัติของลูกผู้เจริญ และที่สำคัญเหนือไปกว่านั้น ก็คือ เป็นการแสดงว่าพ่ออยู่ในหัวใจลูกเสมอ ไม่ว่าจะอายุเท่าไรหรือไม่ใช่ลูกเล็กๆ ของพ่อแล้วก็ตาม แค่คำถามว่าปีนี้คุณพ่อได้ตรวจสุขภาพหรือยัง ถ้ายังลูกจะได้พาไปตรวจ แค่นี้ก็ชื่นใจของคนเป็นพ่อ แล้วสำหรับลูกที่ทำให้พ่อด้วยหัวใจก็จะได้รับความสุขใจอย่างล้นเหลือเข้ามา

สสจ.แพร่ เตือนประชาชนระวัง ?โรคระบบทางเดินหายใจ? ในฤดูหนาวนี้สสจ.แพร่ เตือนประชาชนระวังโรคระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุที่มีภูมิต้านทานต่ำ หากพบมีอาการป่วยผิดปกติให้รีบพบแพทย์ เพราะอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงถึงขั้นช็อกหมดสติเสียชีวิตได้ นายแพทย์สุรินทร์ สุมนาพันธ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด กล่าวว่า ช่วงนี้เริ่มมีอากาศเปลี่ยนแปลงย่างเข้าสู่ฤดูหนาว โดยเฉพาะในตอนเช้าเริ่มมีหมอกปกคลุมและอากาศหนาวเย็นแล้ว ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดโรคไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม และโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะในเด็กและผู้สูงอายุที่มีภูมิต้านทานต่ำ เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ง่าย หากพบมีอาการไอ เจ็บคอ จาม หรือมีน้ำมูกไหล ซึ่งเป็นอาการป่วยในเบื้องต้น ให้ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดตามร่างกาย ดื่มน้ำอุ่น นุ่งห่มเสื้อผ้าหนาๆ ไม่ควรตากแดดตากลม และหากมีอาการป่วยรุนแรงให้รีบพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจรักษาโดยเร็ว เพราะอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงถึงขั้นช็อกหมดสติเสียชีวิตได้ หากคุณพ่อ คุณแม่ และผู้ปกครองไม่อยากให้ลูกหลาน ต้องป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจ ก็ควรให้การดูแลที่เหมาะสมเพื่อเป็นการป้องกัน เช่น ทำความสะอาดบริเวณบ้านให้สะอาดอยู่เสมอ ไม่เข้าไปบริเวณที่มีคนแออัดจำนวนมาก ล้างมือก่อนรับประทานขนมหรืออาหาร ออกกำลังกายสม่ำเสมอ กินอาหารครบ 5 หมู่ รวมทั้งดื่มน้ำสะอาดก็จะช่วยให้โอกาสการติดเชื้อลดลงได้ นอกจากโรคระบบทางเดินหายใจแล้ว ยังต้องระวังโรคที่เกิดจากสภาพอากาศแห้งด้วยเช่นกัน ได้แก่ ผิวหนังแห้ง แตก คัน และอักเสบ เป็นต้น ซึ่งสามารถพบได้ทุกเพศทุกวัยแต่จะพบบ่อยในเด็กและผู้สูงอายุ เพราะเด็กเล็กผิวหนังของร่างกายยังไม่มีการพัฒนาสมบูรณ์เหมือนผิวหนังของผู้ใหญ่ จึงบางแต่จะชุ่มชื้นมากกว่าผู้ใหญ่ และในวัยผู้สูงอายุจะมีเซลล์ผิวหนังที่เริ่มเสื่อมถอยตามอายุ ทำให้ผิว มีความบางและแห้งมากขึ้น ทำให้ผิวของคนทั้งสองวัยนี้มีโอกาสแห้งและแตกได้ง่ายกว่าคนในวัยอื่น ๆ เช่น บริเวณแก้มและใบหน้า แขนและขา เป็นต้น สำหรับการดูแลผิวนั้น ถ้าผิวเริ่มแตกอากาศไม่หนาวไม่แห้งมาก ก็สามารถใช้โลชั่นหรือครีมทาผิวก็ได้ผลดี แต่ถ้ามีอาการคันและเกิดการอักเสบที่ผิวหนังอย่างรุนแรง ให้รีบพบแพทย์ทันที เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างทันท่วงที

แมววัดเขาแก้วเป็นไข้หวัดทยอยตายเกือบ100ตัว

เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (2 ธ.ค. 55) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังวัดเขาแก้ว ต.องครักษ์ อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง หลังทราบว่าแมวที่เลี้ยงไว้ในวัดทยอยตายเกือบ 100ตัว เมื่อเดินทางไปถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ก็เห็นแมวเดินและนอนอยู่เต็มบริเวณ จำนวนประมาณ 70 ตัว แต่สังเกตเห็นว่าแมวหลายตัวมีลักษณะซึมเศร้า ซึ่งผิดปกติจากแมวทั่ว ๆ ไป และมีแผลอยู่เต็มตามลำตัว

จากการสอบถามแม่ชีพะเยาว์ อินมั่น อายุ 58 ปี แม่ชีดูแลแมว กล่าวว่า แมวที่วัดที่เคยมีอยู่เป็นจำนวนมากเกือบ 200 ตัวนั้น ตอนนี้ได้ทยอยตายไปเป็นจำนวนมากแล้ว วันละ 1-2 ตัว ซึ่งเป็นอย่างนี้มากว่า 1 อาทิตย์แล้ว ซึ่งก่อนที่แมวจะตายนั้น มีจะอาการเป็นแผลตามลำตัว และตามมาด้วยอาการไอ จาม มีน้ำมูก ตาแฉะมาก และไม่กินอาหาร และก็มีอาการชัก จากนั้นก็จะตายลง ซึ่งบางตัวก็จะตายที่วัด บางตัวก็จะไปตายตามทุ่งนา

ส่วนแมวบางตัวที่คลอดลูกมา ลูกลืมตาได้เพียงไม่เท่าไหร่ ก็ทยอยตายยกคอก สำหรับสาเหตุที่แมวตายนั้น คาดว่าน่าจะมาจากโรคไข้หวัดแมว ซึ่งพอเป็นแล้วก็จะติดต่อไปยังตัวอื่น เช่นเดียวกับแผลที่เป็นตามตัว ก็เกิดจากหมัดสุนัข เพราะว่าที่วัดทั้งแมวและสุนัขจะอยู่รวมกัน หมัดจากสุนัขก็จะกระจายอยู่ตามพื้นที่ และก็ติดมายังแมว และแพร่กระจายไปยังตัวอื่น ๆ หมัดกัดจนเป็นแผลไปทั่ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสังเกต เห็นได้ว่า แมวเกือบทุกตัวจะมีอาการเป็นแผลตามลำตัว บางตัวก็เป็นน้อย บางตัวก็เป็นเยอะ และแมวส่วนใหญ่จะมีอาการซึมเศร้า หงอย ไม่เหมือนแมวปกติทั่วไป บางตัวก็จะมีอาการไอ และมีน้ำมูก สำหรับแมวที่วัดเขาแก้วนี้ที่มีจำนวนมาก ก็เนื่องจากมีชาวบ้านนำมาปล่อยไว้ ต่างคนต่างนำมาปล่อยจนแมวมีปริมาณมาก จนเป็นภาระของทางวัดที่จะต้องดูแล

ข่าวเศรษฐกิจ

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สร้างความเข้าใจการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ให้ผู้ประกอบการและภาคธุรกิจของไทยตระหนักการใช้ประโยชน์จากข้อมูลธุรกิจ และมีความพร้อมก่อนเปิด AEC เต็มรูปแบบ

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สร้างความเข้าใจการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน กระตุ้นผู้ประกอบการและภาคธุรกิจไทย ให้ตระหนักการใช้ประโยชน์จากข้อมูลธุรกิจและมีความพร้อมก่อนเปิด AEC อย่างเต็มรูปแบบ นายบรรยงค์ ลิ้มประยูรวงศ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวในงานสัมนาโครงการเสริมสร้างความรุ้ความเข้าใจ ยุทธศาสตร์และภารกิจกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อรับ AEC ที่จังหวัดชลบุรี ว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ให้ความสำคัญอย่างมากในการขับเคลื่อนภาคธุรกิจเข้าสู่ตลาดAEC มาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิดก้าวหน้า ก้าวนำ ก้าวล้ำ ก้าวไกล โดยกระตุ้นให้ผู้ประกอบการสร้างภูมิคุ้มกัน และเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน ยกระดับธุรกิจเข้าสู่เกณฑ์มาตรฐานคุณภาพระดับสากล ส่งเสริมการสร้างตราสินค้าให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เน้นการสร้างพันธมิตรและเครือข่ายผ่านการจับคู่เจรจาธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ พัฒนาช่องทางการตลาดโดยผลักดันธุรกิจ SMEs ให้ใช้ e-Commerceเป็นเครื่องมือทางการค้า และในโอกาสที่กรมฯ จะครบรอบ 9 ทศวรรษในปี 2556 ได้ตั้งเป้าหมายเปิดให้บริการคลังข้อมูลธุรกิจอาเซียน และสร้างทางด่วนธุรกิจอาเซียน หรือ ASEAN Fast Track Lane เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบธุรกิจและนักลงทุนจากอาเซียน พร้อมทั้งยกระดับและสร้างความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจของไทยภายใต้โครงการ 1 จังหวัด 1 บริษัทธรรมาภิบาล นอกจากนี้ ยังเตรียมออกประกาศแนวทางป้องปรามนอมินีที่ช่วยเหลือธุรกิจต่างชาติหลีกเลี่ยงกฎหมายไทย ทั้งนี้ แนวทางการดำเนินงานในปี 2556 จะมีความเข้มข้นมากขึ้น เพื่อให้ภาคธุรกิจตระหนักและรับรู้เกี่ยวกับ AEC ในการใช้เป็นช่องทางและโอกาสในการขยายช่องทางการค้าที่เป็นตลาดขนาดใหญ่ขึ้นถึง10 เท่า

คณะผู้เข้าประกวดนางงามท่องเที่ยวโลก?Miss Tourism World 2012? จาก 60ประเทศทั่วโลก ใช้จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเก็บตัวและทัศนศึกษา เพื่อเตรียมเข้าประกวดรอบสุดท้ายที่ประเทศไทยคณะผู้เข้าประกวดนางงามท่องเที่ยวโลก ?Miss Tourism World 2012? จาก 60 ประเทศทั่วโลก ใช้จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเก็บตัวและทัศนศึกษา เพื่อเตรียมเข้าประกวดรอบสุดท้ายที่ประเทศไทย นายปราโมทย์ ทรัพย์เย็น ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้รับเกียรติจากคณะผู้เข้าประกวดนางงามท่องเที่ยวโลก ?Miss Tourism World 2012? จาก 60 ประเทศทั่วโลก เดินทางมาเก็บตัวและประกวดรอบสุดท้ายที่ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 1 - 16 ธันวาคม ซึ่งจะเข้าประกวดรอบสุดท้ายที่สยามนิรมิต กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 16ธันวาคม โดยเช้าวันนี้ ( 2 ธันวาคม 2555)คณะดังกล่าวได้เดินทางมาทัศนศึกษาและเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เช่น ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ ชมหอนิทรรศการประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา กิจกรรมนั่งช้างชมโบราณสถาน ฝึกทำศิลปหัตถกรรม แบบไทย ๆ และเยี่ยมชมวัดไชยวัฒนาราม การเดินทางมาทำกิจกรรมของคณะผู้เข้าประกวดครั้งนี้ เป็นการประชาสัมพันธ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยาให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ซึ่งได้มีการเผยแพร่ภาพกิจกรรมของคณะผู้เข้าประกวดผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ทางโทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อออนไลน์ ทั้งในประเทศและทั่วโลกอย่างกว้างขวาง นับเป็นผลดีต่อการที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงาน World Expo 2020 ต่อไป

ข่าวสิ่งแวดล้อม

แผ่นดินไหว อ.กัลยาณิวัฒนาไม่พบความเสียหาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยา รายงาน เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2555 เวลา 03.21 น. ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 2.8 ริกเตอร์ ที่ อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 2.8ริกเตอร์

นายอดุลย์ ฮวกนิล นายอำเภอกัลยาณิวัฒนาจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานว่าเกิดแผ่นดินไหวในพื้นที่อ.กัลยาณิวัฒนา จึงได้รีบโทร.กลับไปสอบถามในพื้นที่ เนื่องจากตนเองไม่ได้อยู่ในพื้นที่อ.กัลยาณิวัฒนา ในช่วงเวลาเกิดแผ่นดินไหว พร้อมกันนี้ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เร่งด่วนสอบถามกำนันและผู้ใหญ่บ้าน เบื้องต้นคนในพื้นที่ไม่ทราบว่าเกิดแผ่นดินไหวและไม่รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้น และยังไม่พบความเสียหายแต่อย่างใด ทั้งนี้ เป็นเพราะเป็นแผ่นดินไหวขนาดเล็กเพียง 2.8ริกเตอร์เท่านั้น ผนวกกับพื้นที่อ.กัลยาณิวัฒนา เป็นบ้านชาวบ้าน ไม่มีตึกสูง จึงไม่มีผู้ใดรับรู้ถึงการสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้น

ขณะที่นายคมสัน สุวรรณอัมพา ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าประชาชนบางส่วนในพื้นที่อ.กัลยาณิวัฒนา รับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวขนาด 2.8 ริกเตอร์ แต่ยังไม่มีรายงานความเสียหาย ขณะที่เขตอ.เมืองเชียงใหม่ จากการตรวจสอบยังไม่ได้รับความเสียหายเช่นเดียวกัน

จ.สุรินทร์เตรียมรถ 124 คัน ออกแจกจ่ายน้ำแก่ประชาชนที่ขาดแคลนน้ำครอบคลุมทุกพื้นที่จ.สุรินทร์เตรียมรถ 124 คัน ออกแจกจ่ายน้ำแก่ประชาชนที่ขาดแคลนน้ำครอบคลุมทุกพื้นที่ นายยุทธนา วิริยะกิตติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า จังหวัดสุรินทร์ประสบปัญหาภัยแล้งทำให้เกิดการขาดแคลนน้ำอุปโภค ? บริโภค และน้ำเพื่อการเกษตรโดยทั่วไป จังหวัดสุรินทร์จึงได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือด้วยการจัดกลุ่มพื้นที่ (Zoning)แบ่งเป็น 5 กลุ่มพื้นที่ ให้ส่วนราชการ อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีรถยนต์บรรทุกน้ำ แจกจ่ายน้ำแก่ประชาชนที่เดือดร้อนอย่างทั่วถึงและครอบคลุมทุกพื้นที่ โดยเฉพาะใน สถานศึกษา วัด หรือสำนักสงฆ์ ที่มีความเดือดร้อน โดยขณะนี้ได้จัดเตรียมรถ 124คัน และเครื่องสูบน้ำ 24 เครื่อง สำหรับการจัดกลุ่มพื้นที่ (Zoning) 5 กลุ่มประกอบด้วยกลุ่มที่1 พื้นที่ อ.ชุมพลบุรี ท่าตูม รัตนบุรี และอ.สนม กลุ่มที่ 2พื้นที่ อ.เมือง จอมพระ และอ.เขวาสินรินทร์ กลุ่มที่ 3 พื้นที่ อ.ศีขรภูมิ สำโรงทาบ และอ.โนนนารายณ์ กลุ่มที่ 4 พื้นที่ อ.ลำดวน .สังขะ บัวเชด และอ.ศรีณรงค์ กลุ่มที่ 5 พื้นที่ อ.ปราสาท กาบเชิง และ อ.พนมดงรัก โดยทุกกลุ่มขอรับการสนับสนุนน้ำได้ที่การประปาส่วนภูมิภาค สาขาสุรินทร์ รัตนบุรี ศีขรภูมิ สังขะ และท่าตูม สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุรินทร์ ทางโทรสาร 044-143057-9

ฟิลิปปินส์เตรียมรับมือกับพายุไต้ฝุ่น "โบพา" คาดเป็นพายุไต้ฝุ่นที่รุนแรงที่สุดของปีนี้ และจะเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งทางตอนใต้ของประเทศคืนนี้

หน่วยงานด้านอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์ ระบุว่า พายไต้ฝุ่น "โบพา" จะทำให้มีฝนตกหนัก ในเขตมินดาเนา ทางตอนใต้ของประเทศ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่้เคยได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อน "วาชิ" เมื่อปีที่แล้ว โดยมีผู้เสียชีวิต มากกว่า 1,400 คน นอกจากนั้น บางส่วนของภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ก็จะได้รับอิทธิพลจากไต้ฝุ่น "โบพา" ด้วย

พายุไต้ฝุ่นลูกนี้ จะมีความรุนแรงกว่า พายุโซนร้อนวาชิ โดยมีกำลังลมที่แรงกว่า และฝนตก ในปริมาณที่มากกว่า ทางการฟิลิปปินส์จึงขอให้ทุกๆ คนเตรียมพร้อมเผชิญกับสภาพอากาศ ลมแรง ฝนตกหนัก มีความเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วม และดินถล่ม และคาดว่า ไต้ฝุ่นโบพา จะเคลื่อนตัวเข้าสู่ฟิลิปปินส์ในคืนนี้

นอกจากภาคใต้ของฟิลิปปินส์แล้ว ไต้ฝุ่นโบพา ซึ่งมีความเร็วลมสูงสุด 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางกินพื้นที่ถึง 700 กิโลเมตร จะทำให้เกาะลูซอน ทางภาคตะวันออก ของประเทศ ได้รับผลกระทบด้วย

มีรายงานว่า ทางการเตรียมสั่งอพยพประชาชนหลายพันคน ทางภาคตะวันออกของประเทศ ไปยังพื้นที่ปลอดภัย จัดเตรียมเรื่องอาหารและเวชภัณฑ์ และเตรียมพร้อมเปิดศูนย์อพยพหลายแห่งแล้ว

"โบพา" เป็นชื่อพายุไต้ฝุ่นที่ก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกด้านตะวันตกตอนบน และทะเลจีนใต้ ซึ่งประเทศกัมพูชาเป็นผู้ตั้ง โดยเป็นชื่อดอกไม้ และชื่อของเด็กผู้หญิง

ข่าวภูมิภาค

อบจ.สุรินทร์ เตรียมเปิดโครงการโลกของช้าง (Elephant World) แหล่งท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่ของโลกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ เตรียมเปิดโครงการโลกของช้าง (Elephant World) แหล่งท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่ของโลก พร้อมจัดประกวดออกแบบตราสัญลักษณ์โครงการฯ ชิงเงินรางวัลชนะเลิศ 10,000 บาท นายกิตติภัทร์ รุ่งธนเกียรติ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ได้จัดทำโครงการโลกของช้าง (Elephant World) แหล่งท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่ของโลก เพื่อเป็นการสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศและกลิ่นอายของวัฒนธรรมระหว่างคนกับช้างได้ใกล้ชิด สามารถเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ ที่เกี่ยวกับช้างได้อย่างครบวงจร และสื่อให้เห็นถึงการก่อสร้างโบราณสถานต่าง ๆ ของอารยธรรมขอม โดยมีช้างเป็นจุดเชื่อมโยงระหว่างโครงการฯ กับนครวัด-นครธม ในประเทศกัมพูชา อีกทั้งยังแก้ไขปัญหาช้างเร่ร่อนให้หมดไปจากสังคมไทยอย่างยั่งยืน ซึ่งภายในโครงการ ประกอบด้วย พิพิธภัณฑ์ช้าง อาคารสำนักงาน ลานวัฒนธรรมโรงเรียนฝึกช้าง หมู่บ้านช้างน้อย จุดแสดงช้างเล่นน้ำ สุสานช้าง ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก เป็นต้น ทั้งนี้ จะได้ระดมสรรพกำลังจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้มาร่วมพัฒนาโครงการโลกของช้าง ให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมให้ได้ภายใน 3 ปี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า เพื่อให้การประชาสัมพันธ์โครงการโลกของช้าง มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและสามารถสื่อให้เห็นถึงวัตถุประสงค์และกรอบแนวคิดของโครงการโลกของช้าง (Elephant World) แหล่งท่องเที่ยวที่ยิ่งใหญ่ของโลก จึงจัดให้มีการประกวดออกแบบตราสัญลักษณ์โครงการฯ ชิงเงินรางวัลชนะเลิศ 10,000บาท โดยเปิดรับผลงานจากนักเรียน นิสิต นักศึกษา และบุคคลทั่วไป ร่วมประกวดการออกแบบตราสัญลักษณ์และส่งผลงานได้ตั้งแต่บัดนี้ จนถึงวันที่ 15ธันวาคม 2555 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ 0-4451-1975

ข่าวการเมือง+ความมั่นคง

นายกรัฐมนตรี ร่วมพิธีซ้อมใหญ่การถวายสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ ในพระราชพิธีเสด็จออกมหาสมาคม เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2555

นายกรัฐมนตรี ร่วมพิธีซ้อมใหญ่การถวายสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ ในพระราชพิธีเสด็จออกมหาสมาคม เนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2555 นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา นายไพโรจน์ วายุภาพ ประธานศาลฎีกา ผู้บัญชาการเหล่าทัพ คณะรัฐมนตรี และทหารกว่า 2,000นาย ร่วมพิธีซ้อมใหญ่เสมือนจริง การถวายสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ ในพระราชพิธีเสด็จออกมหาสมาคม เนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2555ในวันที่ 5 ธันวาคมนี้ ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม พระราชวังดุสิต โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ จะเสด็จฯ ไปในพิธี และในเวลา 10.30 น.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จออกมหาสมาคมสีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม นางบุญถึง อินทรทัต ประชาชนที่ร่วมชมการฝึกซ้อม กล่าวว่า รู้สึกประทับใจที่ร่วมชมการฝึกซ้อมครั้งนี้ และวันที่ 5 ธันวาคม อยากมาชื่นชมพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมขอให้ชาวไทยทุกคนมีความสามัคคีปรองดอง มอบเป็นของขวัญให้กับพระองค์ ขณะที่นายวรพงษ์ วัชรีวงศ์ กล่าวว่า เป็นครั้งหนึ่งในบั้นปลายชีวิต ที่ร่วมชมการฝึกซ้อม และเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปีนี้ ขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อยู่เป็นมิ่งขวัญปวงชนชาวไทยตลอดไป การซ้อมใหญ่เสมือนจริงในวันนี้ มีการปิดถนนบริเวณลานพระราชวังดุสิต และถนนอู่ทองใน ตั้งแต่ 05.00 น.-12.00 น.ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงใช้เส้นทางบริเวณดังกล่าว สำหรับพระราชพิธีเสด็จออกมหาสมาคม เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา5 ธันวาคม 2555 จะมีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย และระบบโกบอลเน็ตเวิร์คอีก 170 ประเทศ เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมเฉลิมพระเกียรติและชื่นชมพระบารมี

ข่าวประชาสัมพันธ์

การรถไฟแห่งประเทศไทย นำรถไฟพระที่นั่งจัดแสดงในงาน ?มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา5 ธันวา มหาราช? วันที่ 3-5 ธันวาคมนี้ บริเวณโถงกลางสถานีรถไฟกรุงเทพการรถไฟแห่งประเทศไทย นำรถไฟพระที่นั่งจัดแสดงในงาน?มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวา มหาราช? วันที่ 3-5 ธันวาคมนี้ บริเวณโถงกลางสถานีรถไฟกรุงเทพ เพื่อแสดงความจงรักภักดี เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท กล่าวว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2555การรถไฟฯ ได้จัดงานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติฯ และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณพระองค์ท่าน โดยใช้ชื่องาน ?มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวา มหาราช? ระหว่างวันที่ 3-5 ธันวาคมนี้ บริเวณโถงกลางภายในสถานีกรุงเทพ หรือหัวลำโพง ภายในงานมีการจัดแสดง นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติเรื่องความพอเพียง พระราชประวัติ การเสด็จพระราชดำเนินทางรถไฟ เป็นต้น พร้อมจัดแสดงรถไฟพระที่นั่ง ให้ประชาชนได้ชื่นชมบารมี และในวันที่ 5 ธันวาคมนี้ เวลา 08.00น.จะมีพิธีปล่อยขบวนรถจักรไอน้ำเฉลิมพระเกียรติ เส้นทางกรุงเทพ-อยุธยา เพื่อร่วมแสดงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ

มหัศจรรย์ ?ทะเลสาบทุ่งกุลา ตำบลไพรขลา แม่น้ำสีคราม ?สุดยอดแหล่งท่องเที่ยว แห่งใหม่ของจังหวัดสุรินทร์มหัศจรรย์ ?ทะเลสาบทุ่งกุลา ตำบลไพรขลา แม่น้ำสีคราม?สุดยอดแหล่งท่องเที่ยว แห่งใหม่ของจังหวัดสุรินทร์ นางคำแปลง ลุนนุ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลไพรขลา อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ เปิดเผยว่า ?ทุ่งกุลาร้องไห้?คนที่ไม่เคยมาสัมผัส ได้วาดในจิตนาการไปถึงความแห้งแล้ง ความร้อน ไม่มีน้ำ ไม่มีต้นไม้ต้นหญ้า เวิ้งว้างสุดลูกหูลูกตา นั้นคืออดีตที่ผ่านมา เชื่อกันว่าสวรรค์สรรสร้างให้ทุ่งกุลาร้องไห้ที่มีแต่ความแห้งแล้งนั้น มาถึงปัจจุบันสวรรค์เติมแต่งให้เป็นแหล่งที่ปลูกข้าวหอมมะลิมีชื่อเสียงทั่วประเทศและทั่วโลกไปแล้ว นั้นคือสิ่งแรกที่สวรรค์สรรสร้างให้ สิ่งต่อมา สวรรค์สร้างมหัศจรรย์แต่งแต้มสีสัน ลงบนอ่างเก็บน้ำ ได้เกิดขึ้นอีกครั้ง นั้นคือ ?ทะเลสาบทุ่งกุลา ไพรขลาแม่น้ำสีคราม?อ่างเก็บน้ำแห่งนี้ซึ่งเป็นโครงการแก้มลิงอ่างกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่ทางกรมชลประทานได้มาขุดเพื่อการเกษตร ในพื้นที่รอยต่อตำบลไพรขลา อำเภอชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ และ อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด มีความลึกตั้งแต่ 1-4 เมตร จำนวน 150ไร่ รอบบริเวณอ่างเก็บน้ำมีพื้นที่ทั้งสิ้น 750 ไร่ ซึ่งกรมชลประทานหลังจากขุดเสร็จได้โอนความรับผิดชอบให้กับองค์การบริหารส่วนตำบลไพรขลา อ.ชุมพลบุรี จังหวัดสุรินทร์ เมื่อต้นปี 2555 ที่ผ่านมา เมื่อแรกขุดน้ำก็ขุ่นตามธรรมชาติ แต่ไม่ถึงปีน้ำแห่งนี้เป็นสีครามอย่างไม่น่าเชื่อ น้ำแห่งนี้เป็นน้ำกร่อย เชื่อกันว่าในอดีตบริเวณนี้เป็นแหล่งผลิตเกลือสินเทา ทำให้เป็นตัวกลั่นกรองน้ำให้ใสสีฟ้า สวยงามเหมือนดั่งน้ำทะเลไม่ผิดเพี้ยน นางคำแปลง ลุนนุ กล่าวถึงงบประมาณว่า ในส่วนงบประมาณ ที่จะนำพัฒนาอ่างเก็บน้ำ ?ทะเลสาบ แม่น้ำสีคราม? แห่งนี้ ขณะที่ทางจังหวัดสุรินทร์ ได้ทุ่มงบประมาณปี 2555 ส่วนหนึ่ง และงบประมาณจากอีกหลายหน่วยงาน ปี 2556 เพื่อบำรุงปรับปรุงและพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์ พร้อมกันนี้ของบประมาณจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต3 จังหวัดสุรินทร์ เพิ่มเติม เพื่อให้โครงการแก้มลิง ที่ได้ออกแบบสถานที่หลายอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว สวยงาม คาดว่ากลางปี 2556 จะดำเนินโครงการได้ทันที เพื่อรองรับการท่องเที่ยวต่อยอดจากนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมการแสดงของช้างที่ศูนย์คชศึกษา ที่บ้านตากลาง เสร็จจะเดินทางต่ออีก 20 กิโลเมตรมาถึงที่ทะเลสาบ แห่งนี้ ซึ่งตรงนี้จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ จุดประสงค์คือสถานที่ตรงนี้เป็นส่วนหนึ่งในการจัดกิจกรรมของพี่น้องชาวตำบลไพรขลาได้ร่วมกันจัดกิจกรรมไม่ว่าเป็นการปล่อยพันธุ์ปลาเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยว มาชมความงดงาม มหัศจรรย์กับ ?ทะเลสาบ ไพรขลา สีคราม?

ข่าวต่างประเทศ

สหรัฐ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้วิตกหนัก หลังเกาหลีเหนือประกาศจะปล่อยจรวดครั้งใหม่สหรัฐ ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ต่างมีความวิตกอย่างยิ่งต่อแผนการปล่อยจรวดครั้งใหม่ของเกาหลีเหนือ หลังคณะกรรมาธิการด้านเทคโนโลยีอวกาศเกาหลี ออกแถลงการณ์ เมื่อวานนี้ว่าจะทำการปล่อยจรวดพิสัยไกลระหว่างวันที่ 10-22 ธันวาคมนี้ โดยสหรัฐและเกาหลีใต้เรียกร้องให้เกาหลีเหนือล้มเลิกแผนการดังกล่าว ขณะที่โฆษกต่างประเทศสหรัฐแถลงว่า แผนปล่อยจรวดของเกาหลีเหนือซึ่งถือเป็นการกระทำที่ยั่วยุ จะยิ่งบ่อนทำลายเสถียรภาพในภูมิภาค อีกทั้งการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และจรวดพิสัยไกลจะทำให้ เกาหลีเหนือถูกโดดเดี่ยวมากขึ้น ด้านญี่ปุ่นเลื่อนการเจรจากับเกาหลีเหนือที่กำหนดมีขึ้นในกรุงปักกิ่งสัปดาห์หน้า และรัฐมนตรีกลาโหมมีคำสั่งให้กองกำลังญี่ปุ่นเตรียมพร้อมยิงสกัดจรวดเกาหลีเหนือทันทีหากจำเป็น.

กังนัม สไตล์ได้รับรางวัลใหญ่การประกวดชิงรางวัลเอ็มเน็ท เอเชียน มิวสิค อวอร์ดส2012รายงานข่าวจากเขตบริหารพิเศษฮ่องกงแจ้งวานนี้ว่า นายปาร์ค แจ-ซังหรือไซได้นำเอาเพลงยอดนิยมกังนัมสไตล์เข้ารับรางวัลใหญ่จากงานประกาศรางวัลเอ็มเน็ทเอเชียน มิวสิคอวอร์ดส ประจำปีนี้ ซึ่งจัดขึ้นที่เกาะฮ่องกง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา งานดังกล่าวเป็นงานประกาศผลรางวัลประจำปีงานหนึ่งของศิลปินเกาหลีที่ยิ่งใหญ่ที่สุด โดยมีศิลปินเพลงเกาหลี หรือเค-ป๊อบ เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง ไม่ว่าจะเป็น ซูเปอร์ จูเนียร์ ซิสตาร์ ไอยู วันเดอร์ เกิร์ลส และทงบังชินกิแน่นอนว่า ไซ หรือ ปาร์ค แจ-ซัง วัย 34 ปี คือศิลปินผู้ได้รับรางวัลรางวัลกลับบ้านมากที่สุดในปีนี้ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นรางวัลใหญ่แทบทั้งสิ้นซึ่งได้แก่ เพลงแห่งปี มิวสิควีดีโอยอดเยี่ยม เพลงเต้นยอดเยี่ยม และรางวัลศิลปินได้รับความนิยมสูงสุดจากแฟนเพลงทั่วโลก