ถ าถามว าย งคงโกรธไหม ตอบเธอได ว าไม ม

ในการจะมีความสัมพันธ์แบบคนรักที่ดีนั้น ไม่ได้จำเป็นว่าคุณกับแฟนมีแต่โมเมนต์หวานๆ กันตลอดเวลา โดยไม่เคยมีเรื่องผิดใจหรือทะเลาะกันเลย อย่าลืมว่าเป็นเรื่องปกติทั่วไปของความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคน โดยเฉพาะอย่างแฟนหรือคนรักกันย่อมก็ต้องมีการงอนกัน ไม่เข้าใจกัน หรือโกรธกันบ้าง แต่เมื่อได้มีการปรับความเข้าใจกัน หลังจากจบการทะเลาะกันลงไปได้ด้วยดี ก็จะช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ให้ดีขึ้นได้

แต่เมื่อแฟนของคุณโกรธหรืองอนขึ้นมา แต่ละคนคงจะมีวิธีการง้อแฟนที่ต่างกันไป ซึ่งวิธีง้อแฟนนั้นมีอยู่หลายแบบด้วยกัน จะมีวิธีง้อแฟนยังไงให้หายโกรธได้บ้าง เพื่อที่จะรักษาความสัมพันธ์นี้ให้อยู่ไปได้ยาวๆ ไปดูกันเลย

สารบัญ 9 วิธีง้อแฟนยังไงให้หายโกรธ

1. ขอโทษอย่างจริงใจ

วิธีง้อแฟนวิธีแรกที่ถือได้ว่าเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดที่จะทำให้แฟนหายโกรธได้ ทั้งเป็นวิธีที่ไม่ต้องเสียทั้งแรงหรือเสียค่าใช้จ่ายใดๆ สิ่งสำคัญ คือ เพียงแค่มีความจริงใจในการขอโทษเท่านั้น แน่นอนว่าการขอโทษอย่างจริงใจนั้นเป็นสิ่งที่จะช่วยให้แฟน รวมไปถึงหลายๆ คนคลายความโกรธลงได้ ซึ่งลักษณะของการขอโทษอย่างจริงใจนั้น จะประกอบไปด้วยลักษณะดังนี้

• ขอโทษให้เร็วที่สุด

การขอโทษให้เร็วที่สุดถือเป็นสิ่งที่ควรทำในการง้อแฟน บางคนอาจจะมัวแต่รอเวลา ไม่กล้าพูดขอโทษออกไปตรงๆ หรือคิดว่าหากปล่อยไว้สักพักแฟนก็คงหายงอน หายโกรธไปเอง แต่การขอโทษให้เร็ว ได้พูดคุยเคลียร์ปัญหากันอย่างทันเวลา จะสามารถช่วยให้แฟนหายโกรธได้

เนื่องจากการขอโทษที่เร็ว ไม่ช้าเกินไปนั้น จะทำให้แฟนของคุณรู้สึกว่าได้รับความใส่ใจและมีความสำคัญ แต่ที่สำคัญ คือ ก่อนจะขอโทษนั้น คุณต้องตระหนักถึงความผิดของตัวเองก่อน ไม่ใช่แค่คิดว่าอยากรีบขอโทษให้มันจบๆ ไป ซึ่งอาจจะทำให้การขอโทษกลายเป็นการขอโทษที่ไม่จริงใจได้

• ยอมรับว่าตัวเองผิด

การที่จะขอโทษ เพื่อง้อแฟนให้หายโกรธนั้น คุณจำเป็นจะต้องยอมรับในความผิดของตัวเองก่อน จึงจะถือได้ว่าเป็นการแสดงถึงการขอโทษอย่างจริงใจ เพราะก่อนที่จะยอมรับว่าตัวเองผิด แสดงว่าคุณได้มีการพิจารณาถึงสาเหตุ และผลของสิ่งที่ทำแล้วว่า

ใครก็ตามหากขอโทษโดยมีความจริงใจ ยอมรับว่าตัวเองผิดไปตรงๆ ไม่ไปพูดโทษ หรือโยนความผิดให้คนอื่น โดยสามารถบอกได้ว่าสิ่งใดบ้างที่ทำผิดไป จะทำให้คำขอโทษนั้นดูจริงใจ น่าเชื่อถือ และช่วยให้แฟนรับรู้ได้ถึงความจริงใจและให้อภัยได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

• ไม่พูดขอโทษบ่อยๆ

การขอโทษเมื่อทำผิดนั้นเป็นสิ่งที่ควรทำ แต่หากว่ามีการพูดขอโทษอยู่บ่อยๆ หลายๆ ครั้ง นั่นอาจหมายความว่ามีการทำผิดอยู่ซ้ำๆ บ่อยๆ ด้วย แม้การขอโทษอย่างจริงใจนั้นเป็นวิธีง้อแฟนที่ทำได้ง่าย แต่การขอโทษซ้ำๆ โดยไม่ได้มีการปรับปรุงแก้ไขสิ่งที่ทำผิดพลาดไป จนต้องมาขอโทษเรื่องเดิมๆ อยู่บ่อยเข้า การขอโทษนั้นก็จะกลายเป็นการขอโทษที่ไร้น้ำหนัก อีกทั้งยังจะไปลดความน่าเชื่อถือของตัวเองอีกด้วย

ในบางครั้งก็มีการพูดขอโทษออกไปอย่างไม่จริงใจอยู่บ่อยๆ เพียงเพื่อต้องการจะหลีกเลี่ยงปัญหาการทะเลาะ คือ พูดเพื่อให้จบๆ ไป ซึ่งแน่นอนว่าการทำแบบนี้นอกจากจะไม่น่าให้อภัยแล้ว อาจจะไปเพิ่มความไม่พอใจของแฟนคุณอีกต่างหาก

• ขอโทษก่อนไม่ได้แปลว่าแพ้

หลายๆ ครั้งเมื่อเกิดปัญหาการทะเลาะกัน โกรธกันนั้น อาจไม่ได้เกิดจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่เกิดขึ้นจากความไม่เข้าใจกันของทั้งสองคน หรือทำผิดกันทั้งสองฝ่าย ซึ่งหากทั้งคู่มัวแต่มาเถียงกันว่าใครเป็นฝ่ายผิดฝ่ายถูก และรอให้อีกฝ่ายนั้นเป็นคนมาขอโทษก่อน แน่นอนว่าปัญหาก็คงยืดยาวไม่จบลงง่ายๆ

ดังนั้น หากคุณตัดสินใจที่จะเป็นฝ่ายขอโทษก่อน ขอบอกเลยว่าคิดถูกแล้ว เพราะการขอโทษก่อนไม่ได้แปลว่าคุณเป็นฝ่ายแพ้ หรือผิดมากกว่าแฟนของคุณ แต่มันหมายถึงการที่คุณยอมที่จะมองข้ามความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ไป และเป็นการแสดงให้เห็นถึงการคิดถึงความรู้สึกของอีกฝ่าย ไม่อยากทำให้อีกฝ่ายเสียความรู้สึก มากกว่าการอยากเอาชนะนั่นเอง

• อย่าพูดคำขอโทษที่ไม่รู้สึกผิด

การพูดขอโทษออกไปโดยที่ไม่ได้รู้สึกผิดนั้น มักจะทำให้อีกฝ่ายรับรู้ถึงความไม่จริงใจได้จากประโยคคำพูดที่พูดออกมาในการขอโทษนั้น เช่น “ขอโทษด้วยแล้วกัน” “ขอโทษนะ แต่…ก็…” “ก็ขอโทษนะ ถ้าทำให้เข้าใจผิด” หรือประโยคอื่นๆ ที่ฟังดูเป็นการพูดขอโทษแบบส่งๆ ไม่ได้แสดงความรู้สึกผิด หรือเสียใจในสิ่งที่ทำ

รวมทั้งการที่พูดขอโทษ แต่ยังแอบมีการพูดโทษคนอื่นหรืออีกฝ่ายไปด้วย เพราะฉะนั้น อย่าเผลอไปพูดคำหรือประโยคแนวนี้ในการง้อแฟนเชียว แทนที่จะหายโกรธอาจจะกลายเป็นเพิ่มความไม่พอใจกันขึ้นอีกก็ได้

2. ซื้อของที่แฟนชอบ

การซื้อของที่แฟนชอบให้เพื่อเป็นการง้อจะช่วยให้แฟนหายโกรธได้ เพราะไม่ว่าใครก็ตามที่ได้รับของที่ชอบ ก็จะทำให้เกิดความพอใจ อารมณ์ดีขึ้นได้ ยิ่งหากเป็นสิ่งของที่ชอบมาก หรือกำลังอยากได้อยู่พอดี ยิ่งจะเพิ่มความประทับใจ และทำให้ลดความโกรธลงได้อีก

แต่การที่จะรู้ได้ว่าแฟนของคุณอยากได้อะไร หรือชอบอะไร ก็อาจจะต้องอาศัยการสังเกตและการเอาใจใส่สักหน่อย อาจจะสังเกตจากทั้งในชีวิตจริง หรือในโซเชียลมีเดีย เช่น สิ่งที่แฟนเคยแชร์ เคยกดไลค์ หรือของที่แฟนมักจะมีสะสมอยู่ หรือถ้าบางคนรู้อยู่แล้วว่าแฟนชอบอะไรก็ถือว่าดีเลย นั่นแสดงให้เห็นว่าคุณเป็นคนที่ใส่ใจแฟนไม่น้อยเลย

3. พาไปทานของอร่อย

การได้ทานของอร่อย ไม่ว่าใครก็ต้องอารมณ์ดี มีความสุขขึ้นแน่นอน หากใช้วิธีนี้ง้อแฟนที่กำลังงอน เชื่อได้เลยว่าแฟนจะต้องรู้สึกดีจนหายโกรธ นอกจากการพาไปหาร้านอร่อยแล้ว ก็อาจจะเลือกเมนูโปรดของแฟน เพื่อเป็นการเพิ่มคะแนน แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในตัวอีกฝ่าย และควรเลือกร้านอาหารที่บรรยากาศดีๆ เหมาะแก่การได้นั่งพูดคุยปรับความเข้าใจกัน การได้ทานอาหารอร่อยๆ ในที่ที่บรรยากาศดีๆ ก็จะทำให้แฟนมีความสุขจนลืมเรื่องที่โกรธไปเลย

4. สกินชิพช่วยได้

การสกินชิพเป็นการสัมผัสทางกายที่จะทำให้ทั้งสองฝ่ายรู้สึกดีขึ้น ทำให้เกิดความรู้สึกอบอุ่นใจ สบายใจ เช่น การจับมือ การกอด การแตะไหล่ ดังนั้น การสกินชิพจึงสามารถช่วยคลายความเครียด ความกังวล และกระชับความสัมพันธ์ได้ ถือเป็นวิธีการแสดงความรักที่ช่วยให้แฟนหายโกรธได้

แต่มีข้อที่ควรระวังในการใช้วิธีนี้ง้อแฟน คือ อย่าเพิ่งรีบร้อนไปแตะตัวแฟน แต่ควรสังเกตท่าทีสีหน้าของแฟนที่กำลังงอนอยู่ก่อน หากอีกฝ่ายกำลังโกรธจัดจนไม่ต้องการให้ใครมายุ่งมาอยู่ใกล้ หรือแฟนเป็นคนที่ไม่ชอบการสกินชิพ ก็อาจจะต้องหลีกเลี่ยงการสกินชิพแล้วไปใช้วิธีอื่นๆ เพื่อง้อแฟนแทน

5. บอกรักให้หายโกรธ

การบอกรักแฟนก็มีผลทำให้แฟนหายโกรธได้ หากกล้าที่จะพูดบอกออกไปตรงๆ ว่า “รัก” และแสดงให้เห็นถึงความรักที่มีต่ออีกฝ่าย ไม่ว่าแฟนจะโกรธแค่ไหนแต่เมื่อได้ยินคำบอกรักของคุณยังไงก็ต้องยอมใจอ่อนกันบ้าง และยิ่งเป็นการบอกรักออกไปด้วยความจริงใจ อย่างน้อยก็ช่วยให้แฟนใจเย็น สงบลงได้ เพื่อที่จะได้ค่อยๆ คุยปรับความเข้าใจกันจนหายโกรธ แต่อย่าลืมว่าสิ่งสำคัญ คือ ต้องพูดบอกรักตามความรู้สึกจริง อย่างจริงใจให้อีกฝ่ายรับรู้ ไม่จำเป็นต้องประดิษฐ์คำให้เลิศหรูดูดีเกินจริง

6. รอเวลาให้แฟนใจเย็น

บางคนอาจจะรีบร้อนง้ออยากให้แฟนหายโกรธ จนไม่ทันได้สังเกตอารมณ์แฟนว่ามันอาจจะเดือดจนเกินกว่าที่จะรับฟังคำพูด คำแก้ตัว หรือคำขอโทษทันทีในตอนนั้น อาจจะต้องถอยออกมาสักก้าวและรอให้แฟนของคุณสงบจิตใจ ลดความโกรธลงสักเล็กน้อยก่อน เพราะแฟนของคุณอาจจะต้องการเวลาได้คิดไตร่ตรองและควบคุมอารมณ์ความน้อยใจ ความโกรธที่กำลังพลุ่งพล่านอยู่ด้วยตัวเอง ดังนั้น ควรสังเกตท่าทีและรอให้อีกฝ่ายใจเย็นลงก่อน แล้วค่อยไปง้อก็จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าแน่นอน

7. อย่าทะเลาะกันข้ามวัน

ถึงแม้ว่าจะต้องรอเวลาให้แฟนใจเย็นลงก่อน แต่อย่ารอกันจนถึงขั้นข้ามวันข้ามคืน การปล่อยให้มีเรื่องทะเลาะกันค้างคาไว้จนเลยวันนั้นจะเป็นการทำให้เกิดความรู้สึกอึดอัด ความรู้สึกแย่ต่อกันเพิ่มมากขึ้นจนอาจจะแก้ไขไม่ได้ เพราะเมื่อปล่อยให้มีการทะเลาะกันค้างไว้นานๆ อีกฝ่ายอาจจะมีความคิดด้านลบต่างๆ ที่เพิ่มขึ้นมาได้ หากไม่รีบง้อและปล่อยเวลาจนผ่านไปเป็นวันๆ แล้วค่อยจะมาคิดว่าจะง้อแฟนยังไงให้หายโกรธก็อาจจะหายยาก หรืออาจไม่ทันแล้วก็ได้

8. ปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น

เมื่อขอโทษเสร็จแล้ว สิ่งสำคัญไม่แพ้กันเลยก็ คือ การปรับปรุงตัวเอง เพราะการขอโทษนั่นหมายถึงคุณได้แสดงความสำนึกต่อความผิดของตนเองแล้ว และรับรู้แล้วว่าสิ่งที่ทำให้แฟนโกรธนั้นมีความผิดอย่างไรบ้าง ก็ต้องไม่ทำสิ่งนั้นผิดอีก โดยการปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น

เมื่อแฟนได้เห็นว่าคุณได้แก้ไขในสิ่งที่ทำพลาดไปแล้วก็จะทำให้ความโกรธนั้นหายไป และแน่นอนว่าจะทำให้ความสัมพันธ์ของคุณดีขึ้นในระยะยาว การทะเลาะกันจะน้อยลง เนื่องจากเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือของคุณและความจริงใจของคำขอโทษด้วย เพราะการกระทำสำคัญกว่าคำพูดนั่นเอง

9. ลองทำสิ่งใหม่ๆ ด้วยกัน

หลังจากแฟนใจเย็นลง และได้มีการปรับความเข้าใจกันแล้ว ก็อาจจะลองชวนแฟนไปเปิดประสบการณ์ ลองทำกิจกรรมใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อนด้วยกัน เพื่อเป็นการช่วยฟื้นฟูและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เช่น ออกกำลังกาย เล่นกีฬา เข้ายิม เรียนเต้น ทำเล็บ ทำผม เข้าสปา ไปคาเฟ่ ด้วยกันกับแฟน หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ที่คุณหรือแฟนสนใจ รวมถึงเป็นการช่วยสร้างโมเมนต์หวานๆ ความทรงจำดีๆ ร่วมกันกับแฟนอีกด้วย หากเมื่อไรที่คุณกับแฟนเกิดงอนหรือทะเลาะกันขึ้นมาอีก การนึกถึงช่วงเวลาดีๆ เหล่านี้ที่ได้ทำร่วมกันก็จะช่วยให้ความโกรธของทั้งคู่เบาลงได้

ถ้าหากแฟนของคุณกำลังงอน หรือโกรธคุณอยู่ แต่ไม่รู้ว่าจะง้อแฟนยังไงให้หายโกรธ ก็สามารถนำวิธีง้อแฟนที่ได้นำมาฝากในบทความนี้นำไปปรับใช้ได้ เพื่อให้คุณ และคนรักของคุณกลับมาเข้าใจกันมากที่สุด และถ้ากำลังมองหาสถานที่สำหรับพาแฟนมาทานอาหาร หรือทำกิจกรรมใหม่ๆ ด้วยกัน ก็สามารถแวะมาได้ที่ศูนย์การค้าเดอะ สตรีท รัชดา Food Destination แหล่งรวมอาหารนานาชาติทั้งอาหารคาว และอาหารหวานที่มีให้เลือกทานอย่างมากมาย พร้อม Activity Center พื้นที่สำหรับทำกิจกรรมอย่างหลากหลาย เช่น ช็อปปิง ออกกำลังกาย หรือทำสปา เพื่อให้คุณ และคนรักของคุณได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างมีความสุขตลอด 24 ชั่วโมง