การต่อวงจรภายในแผ่นโพโตบอร์ด (Breadboard) จะเป็นดังรูปกล่าวคือ ด้านบนและด้านล่างจะใช้สำหรับต่อไปเลี้ยงวงจรซึ่งวงจรด้านล่างจะต่อถึงกันทั้งแถว ส่วนการต่อวงจรด้านใน จะต่อถึงกันตามแนวตั้งดังภาพ และรูปด้านล่างคือรูปของการต่อวงจรด้วยอุปกรณ์ต่างๆบน Breadboard การต่อไม่จำเป็นต้องต่อตามภาพ สามารถจะตอเป็นรูปแบบไหนก็ได้ ขอเพียงให้ถูกต้องตามวงจร ก็จะสามารถทำงานได้เช่นเดียวกัน Arduino UNO มีขาที่เป็นแบบดิจิตอลให้เราใช้งานได้เบื้องต้นอยู่ 13 ขา ในกรอบสีเหลี่ยมสีแดงตามที่เห็นในรูปด้านล่าง ขาดิจิตอลของ Arduino สามารถส่งค่าที่เป็นดิจิตอลออกมาได้ โดยสัญญาณดิจิตอลนั้นถ้าอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ มีอยู่ 2 รูปแบบคือ HIGH (มีไฟ) และ LOW (ไม่มีไฟ) • pinMode(xx, OUTPUT); คือการตั้งค่าให้ให้ขาอะไรเป็นเอาท์พุท เช่น ขา 11 , 12 , 13 เป็นต้น • digitalWrite() คือคำสั่งที่ใช้ควบคุมการจ่ายไฟ สำหรับแบบ Digital จะมีอยู่ 2 ค่าคือ HIGH (มีไฟ) และ LOW (ไม่มีไฟ) • delay() คือคำสั่งที่ใช้หน่วงเวลา หรือนับเวลานั่นเองโดยจะมีหน่วยเป็น มิลลิวินาที (1 วินาที = 1000 มิลลิวินาที) 500 จึงเท่ากับ ครึ่งวินาที เปิดโปรแกรม Arduino (IDE) เขียน โค้ดดังนี้ void setup() { pinMode(11, OUTPUT); pinMode(12, OUTPUT); pinMode(13, OUTPUT); } void loop() { digitalWrite(11, HIGH); delay(500); digitalWrite(11, LOW); delay(500); digitalWrite(12, HIGH); delay(500); digitalWrite(12, LOW); delay(500); digitalWrite(13, HIGH); delay(500); digitalWrite(13, LOW); delay(500); } เมื่อเขียนเสร็จแล้วให้เรากด Upload เพื่อตรวจสอบโค้ดโปรแกรมที่เราเขียนว่าถูกต้องหรือไม่พร้อมทั้งส่งโค้ดโปรแกรมที่เราเขียนไปยังบอร์ด Arduino UNO ผ่านทางสาย USB ถ้าวงจรที่เราต่ออยู่ถูกต้อง จะพบว่าหลอด LED ที่เราต่อนั้นสว่าง และ กระพริบ เรียงกันตามลำดับ (ถ้า LED ไฟไม่ติด .ให้ตรวจสอบการต่อวงจร หรือ ลองกลับขั้ว LED ซึ่งอาจจะต่อผิดอยู่) และในหัวข้อนี้มาเรียนรู้ตัวแปรภาษา C เพิ่มเติมด้วยครับ ตัวแปร (Variables) จะเป็นชื่อที่ใช้ในการบอกจำนวนหรือปริมาณ ซึ่งสามารถที่จะทำการเปลี่ยนแปลงจำนวนได้ด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ การตั้งชื่อตัวแปร จะต้องตั้งชื่อให้แตกต่างไปจากชื่อของตัวแปรอื่นๆ ยกตัวอย่างชื่อของตัวแปร ได้แก่ x, y, peter, num_of_points และ streetnum เป็นต้น โดยปกติการเขียนโปรแกรมที่ดี ควรจะตั้งชื่อตัวแปรให้สอดคล้องกับการทำงานหรือหน้าที่ของตัวแปรนั้นๆ เพราะเมื่อถึงเวลาต้องมาทำการปรับปรุงแก้ไขโปรแกรม จะสามารถทำได้โดยไม่ยากนัก int เป็นชนิดตัวแปรที่สามารถแทนค่าจำนวนเต็มได้ทั้งบวกและลบ ดังนั้นเราจะลองใช้ ตัวแปร int แทนขาดิจิตอลต่างๆ ของ บอร์ด Arduino UNO เช่น int LED1 = 13; int คือประกาศตัวแปรเป็นชนิดจำนวนเต็ม และให้ชื่อตัวแปรว่า LED1 และกำหนดค่าให้เป็น 13 ด้วย จากนั้น นำโค้ดเดิมด้านบนมาแก้ไขโค้ดดังนี้ int LED1 = 13; //เพิ่มเข้ามา เพื่อ ประกาศตัวแปร ให้ LED1 แทนด้วยตัวเลข 13 int LED2 = 12; //เพิ่มเข้ามา เพื่อ ประกาศตัวแปร ให้ LED2 แทนด้วยตัวเลข 12 int LED3 = 11; //เพิ่มเข้ามา เพื่อ ประกาศตัวแปร ให้ LED3 แทนด้วยตัวเลข 11 void setup() { pinMode(LED3, OUTPUT); //เปลี่ยนเลข 11 เป็น LED3 pinMode(LED2, OUTPUT); //เปลี่ยนเลข 12 เป็น LED2 pinMode(LED1, OUTPUT); //เปลี่ยนเลข 13 เป็น LED1 } void loop() { digitalWrite(LED3, HIGH); //เปลี่ยนเลข 11 เป็น LED3 delay(500); digitalWrite(LED3, LOW); //เปลี่ยนเลข 11 เป็น LED3 delay(500); digitalWrite(LED2, HIGH); //เปลี่ยนเลข 12 เป็น LED2 delay(500); digitalWrite(LED2, LOW); //เปลี่ยนเลข 12 เป็น LED2 delay(500); digitalWrite(LED1, HIGH); //เปลี่ยนเลข 13 เป็น LED1 delay(500); digitalWrite(LED1, LOW); //เปลี่ยนเลข 13 เป็น LED1 delay(500); } // (เครื่องหมายทับสองอัน) สิ่งที่พิมพ์ตามมาในบรรทัดนั้น จะไม่ถูกนำมาแปลภาษาเพื่ออัพโหลดให้กับบอร์ด จึงใช้เขียนอธิบายการทำงาน หรือ บันทึกช่วยจำ ต่างๆเป็นต้น Upload โปรแกรมลงบอร์ด Arduino UNO อีกครั้ง ก็จะเห็นการทำงานของวงจร ติด-ดับของหลอดไฟ LED ทำงานเหมือนกับโปรแกรมแรก แต่.. ข้อดีของการเขียนโปรแกรม แบบมีตัวแปร คือ เมื่อเราต้องการแก้ไขการต่อวงจรของเรา เช่น ต้องการแก้ไข วงจร จาก ขาดิจิตอล จาก ขา 13 เป็น ขา 5 เมื่อเราย้ายสาย การต่อวงจรเรียบร้อยแล้ว เราก็เพียงไป แก้ไข ค่าตัวแปร int LED1 = 13; เป็น int LED1 = 5; ซึ่งเป็นการแก้ไขเพียงจุดเดียว โปรแกรมก็จะทำงานตามความต้องการของเรา ต่างจากการเขียนแบบแรก ซึงต้องไปแก้ทุกจุดที่ เป็น ขา 13 และ ยังลดความผิดพลาดในการแก้ไขโปรแกรมไม่ครบทุกจุดอีกด้วย |