ในปัจจุบัน เคยสงสัยกันมั้ยครับว่า “Bluetooth” ที่เราใช้เชื่อมต่อเพื่อฟังเพลงกัน ผ่านลำโพง หูฟัง หรือแก็ตเจ็ตต่างๆ มันเป็นเวอร์ชั่นอะไร? แต่ละเวอร์ชั่นที่ใช้กันในปัจจุบันมีความแตกต่างกันอย่างไร? แล้วบลูทูธเวอร์ชั่น 5.1 เป็นอย่างไร? วันนี้มีบทความเล็กๆ น้อยๆ มาอัพเดทกันครับ Bluetooth มี Class ?มาทำความเข้าใจกับ Class ของ “บลูทูธ” กันก่อนครับ โดยในปัจจุบันจะมีหลักๆ ด้วยกัน 4 Class (หรือ 3 Class เนื่องจาก Class 4 ระยะการส่งสัญญาณค่อนข้างสั้นมาก จึงไม่นิยมใช้กัน) โดยประกอบไปด้วย
โดยแต่ละ Class ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป สำหรับการใช้งานฟังเพลงที่เราคุ้นเคยกันนั้น อุปกรณ์ลำโพง หรือหูฟังส่วนใหญ่จะนิยมใช้ Class 2 เพราะด้วยระยะการส่งสัญญาณประมาณ 10 เมตร ที่ไกลเพียงพอต่อการใช้งาน การใช้พลังงานแบตเตอรี่ที่ไม่มากจนเกินไป แต่อย่างไรก็ตามก็ขึ้นอยู่กับแบรนด์ผู้ผลิตลำโพง หรือหูฟังด้วยครับ ว่าแบรนด์เหล่านั้นออกแบบสเปคเลือกใช้ Class ไหน โดยเราสามารถตรวจสอบรายละเอียดได้ที่คู่มือเลยครับ แต่ในปัจจุบันนี้จริงๆ อุปกรณ์ที่ใช้ Bluetooth เวอร์ชั่นใหม่ๆ ได้เริ่มมีการเปลี่ยนมาใช้เป็น Class 1 กันบ้างแล้ว เพราะบลูทูธเวอร์ชั่น 5.0 สามารถปรับปรุงการใช้งานแบตเตอรี่ให้ใช้งานน้อยลง และได้คุณภาพของสัญญาณที่ดีมากขึ้นอีกด้วย เวอร์ชั่น ของ บลูทูธ“บลูทูธ” นั้นมีหลากหลายเวอร์ชั่น เริ่มตั้งแต่เวอร์ชั่น 1.0-5.0 ในปัจจุบัน โดยในแต่ละเวอร์ชั่นก็จะมีการอัพเดท เพื่อปรับปรุง และแก้ไขการทำงาน มีสเปคความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลที่ไม่เท่ากัน เป็นตัวชี้วัดว่าสัญญาณบลูทูธของอุปกรณ์คุณ อยู่ใน Class อะไรนั่นเอง โดยความเร็ว (Max Rate Date) ของบลูทูธเวอร์ชั่นต่างๆ จะเป็นดังนี้ และในแง่ของการใช้หูฟังหรือลำโพง ซึ่งยิ่งหากรับ-ส่งข้อมูลสัญญานได้เร็ว ก็จะได้รายละเอียดของเสียงที่มีคุณภาพดี ลดอาการดีเลย์ หรือการเหลื่อมของเสียง (Delay) ซึ่งเราจะพูดถึงเวอร์ชั่น 4.2 และ 5.0 ที่ใช้งานกันหลักๆ ในปัจจุบัน และเวอร์ชั่นล่าสุดอย่าง 5.1 ที่กำลังพัฒนาอยู่ เร็วๆ นี้ กันครับ
บลูทูธ 5.1บลูทูธเวอร์ชั่น 5.1 ที่พึ่งเปิดตัวเมื่อปี 2019 ใช้พลังงานน้อยกว่าบลูทูธเวอร์ชั่น 5.0 และถูกออกแบบมาให้ใช้ในการระบุหาตำแหน่ง Tracking สิ่งของต่างๆ แบบเรียลไทม์ บอกตำแหน่งของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อได้อย่างละเอียดแม่นยำในระดับเซนติเมตร! เหมาะสำหรับนำมาใช้ในสินค้าเกี่ยวกับ Smart Home และอุปกรณ์จำพวก IoT ต่างๆ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อแบบไร้สายมากยิ่งขึ้น โดยรวมก็เพื่อความสะดวกสบาย ความรวดเร็วในการเข้าถึงสิ่งต่างๆ นั่นเอง ซึ่งในปัจจุบัน ยังไม่มีอุปกรณ์ที่ใช้งานบลูทูธเวอร์ชั่นนี้อย่างแพร่หลายนัก อยู่ในช่วงของการพัฒนา และทดลองเท่านั้น โดยคาดว่าจะมีการใช้งานบลูทูธเวอร์ชั่นนี้ เพิ่มมากขึ้นในอนาคต อาจจะมีการใส่ในหูฟังไร้สาย หูฟังแบบเอียร์บัดต่างๆ ซึ่งจะทำให้อุปกรณ์นั้น ใช้พลังงานแบตเตอรี่ที่น้อยลง และมีความหน่วงลดลง บลูทูธ 5.2 และ 5.3
สิ่งหลักๆที่เปลี่ยนแปลงไปในเวอร์ชั่นนี้จะเป็นในเรื่องของการเชื่อมต่อ โดยการเชื่อมต่อด้วยบลูทูธเวอร์ชั่น 5.2 จะทำให้เราสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์มากกว่า 1 ตัวได้ หมายความว่าตามปกติบลูทูธจะเป็นการเชื่อมต่อแบบ 1 : 1 แต่หลังจากนี้ไปจะมีการเชื่อมต่อในลักษณะ 1 : 2 เปิดมิติการใช้งานบลูทูธขึ้นไปอีกระดับ แหล่งกำเนิดเสียงเดียวที่สัญญาณไปให้ผู้รับได้มากกว่า 1
โดยบลูทูธ 5.3 จะเป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดของ บลูทูธ เปิดตัวมาเมื่อกลางปี 2021 ซึ่งต้องบอกว่าเป็นเวอร์ชั่นที่ค่อนข้างน่าสนใจ ด้วยความที่ไม่ได้เพิ่มลูกเล่นอะไรเข้ามา แต่จะเป็นลักษณะของการปรับปรุงลูกเล่นเดิมๆ ที่มีอยู่ให้ดียิ่งขึ้น โดยสิ่งที่พัฒนาขึ้นมาก็จะเป็นในเรื่อง การลดเวลาหน่วง, ลดสัญญาณรบกวน และก็ในเรื่องการใช้พลังงาน ซึ่งตลาดอุปกรณ์ไร้สายในปี 2022 ที่จะถึงแบรนด์ดังหลายแบรนด์ก็หยิบตัวบลูทูธ 5.3 มาใช้กันเยอะพอสมควร ตารางเปรียบเทียบจะเห็นว่าบลูทูธเวอร์ชั่น 5.0 ล่าสุด มีความเสถียร และเร็วกว่าเป็นเท่าตัวของเวอร์ชั่น 4.2 หากพูดถึงในเรื่องของการใช้งานฟังเพลงแบบปกติทั่วไป สเปคของบลูทูธเวอร์ชั่น 4.2 ก็สุดยอด เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปแล้วครับ ส่วนเวอร์ชั่น 5.1 ที่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา เราคงได้สัมผัสกันในเร็วๆ นี้ คาดว่าปี 2022 เวอร์ชั่นนี้จะอยู่ในอุปกรณ์มากมาย ให้ได้ลองใช้งานกันเสียที สำหรับบทความนี้ก็ได้รู้จักกับบลูทูธกันไม่มากก็น้อย ดังนั้นเราควรศึกษาสเปค และเลือกซื้อลำโพง หรือหูฟังที่มีบลูทูธ Class/Version ที่อัพเดท เพื่อคุณภาพของเสียง และความเสถียรในการใช้งานเชื่อมต่อ ส่วนบลูทูธเวอร์ชั่น 5.1 จะประยุกต์นำมาใช้งานในอนาคตอย่างไร? ต้องติดตามไปพร้อมๆ ว่าจะออกมาล้ำขนาดไหน |