ปกติผมเขียนโปรแกรม มันจะมีตัวแปร static และ dynamic Show ผมตีความหมายได้ว่า static คือ สิ่งที่เป็นมาตราฐาน ที่กำหนดขึ้นมาเอง ตีกรอบสิ่งๆหนึ่ง โดยไม่สนสิ่งรอบข้าง dynamic ความยืดหยุ่น ความหลากหลาย การปรับตัว การวินิจฉัยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดต้องอาศัย ประวัติการเจ็บหน้าอก ผลเลือดที่บ่งบอกว่ามีการทำลายกล้ามเนื้อหัวใจ และการเปลี่ยนแปลงของคลื่นไฟฟ้าหัวใจ การเปลี่ยนแปลงของคลื่นไฟฟ้าหัวใจขึ้นกับกลไกการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจควรจะตรวจให้ครบทั้ง 12 leads ถึงแม้ว่าผลการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจจะปกติในการตรวจครั้งแรก เราก็ยังไม่สามารถบอกว่าไม่มีเส้นเลือดหัวใจตีบ ซึ่งอาจจะต้องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจซ้ำหรืออาจจะต้องทำการตรวจอย่างอื่นเพิ่มเติม การตรวจคลื่นไฟฟ้าหนึ่งโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงคลื่นไฟฟ้าหัวใจได้ดังนี้
การเปลี่ยนแปลงชนิด ST segment elevationผู้ป่วยที่มีภาวะหลอดเลือดหัวใจอุดตันอย่างเฉียบพลัน และกล้ามเนื้อหัวใจตายตลอดความหนาของกล้ามเนื้อหัวใจ (tranmural mi)ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดจะมีการเปลี่ยนแปลงของคลื่นไฟฟ้าหัวใจส่วนที่เรียกว่า ST segment (อ่านเรื่องคลื่นไฟฟ้าหัวใจที่นี่) มีการยกตัวสูงขึ้น 1 mm การเปลี่ยนแปลงนี้มักจะเกิดหลังจากกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ส่วนที่ระบายสีเหลืองคือ ST segment elevationที่ยกตัวสูงสีฟ้าคือ ST segment depression มีการลดของระดับ ST segment depressionหากกล้ามเนื้อหัวใจมีการขาดเลือดโดยที่กล้ามเนื้อหัวใจบางส่วนยังไม่ตายก ็จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของคลื่นไฟฟ้าหัวใจแบบนี้ การเกิดคลื่นไฟฟ้าชนิด Q weaveการเปลี่ยนแปลงนี้จะเกิดหลังจากที่กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดไปแล้วหลายวัน เป็นการแสดงว่ากล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเป็นมานานแล้ว การตรวจคลื่นไฟฟ้านอกจากจะบอกว่ากล้ามเนื้อใจขาดเลือดยังบอกว่าเป็นเฉียบพลันหรือเป็นมาหลายวัน นอกจากนี้คลื่นไฟฟ้าหัวใจยังสามารถบอกว่ากล้ามเนื้อหัวใจส่วนไหนที่ขาดเลือด การบอกตำแหน่งของหัวใจที่ขาดเลือด หัวใจของคนปกติจะมีเส้นเลือดที่มาเลี้ยงได้แก่
ผนังหัวใจที่ขาดเลือด ตำแหน่งที่มีการเปลี่ยนแปลงคลื่นไฟฟ้าST Segment Elevation เส้นเลือดหัวใจที่อุด Septal V1, V2 Left Anterior Descending (LAD) Anterior V3, V4 Left Anterior Descending (LAD) Anteroseptal V1, V2, V3, V4 Left Anterior Descending (LAD) Anterolateral V3, V4, V5, V6, I, aVL Left Anterior Descending (LAD), Circumflex (LCX), or Obtuse Marginal Extensive anterior (Sometimes called Anteroseptal with Lateral extension) V1,V2,V3, V4, V5, V6, I, aVL Left main coronary artery (LCA) Inferior II, III, aVF Right Coronary Artery (RCA) or Circumflex (LCX) Lateral I, aVL, V5, V6 Circumflex (LCX) or Obtuse Marginal Posterior (Usually associated with Inferior or Lateral but can be isolated) V7, V8, V9 Posterior Descending (PDA) (branch of the RCA or Circumflex (LCX)) Right ventricular (Usually associated with Inferior) II, III, aVF, V1, V4R Right Coronary Artery (RCA) การที่ต้องทราบตำแหน่งของกล้ามเนื้อหัวใจที่ขาดเลือดจะทำให้สามารถเลือกการรักษาที่ถูกต้อง และประเมินความรุนแรงของผู้ป่วยได้ ผู้ที่กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดจากเส้นเลือด Left main coronary artery (LCA) มักจะมีอาการที่รุนแรงกว่าเส้นเลือดอื่น Dynamic stretches : เหมือนเป็นการวอร์มเลย หมุนแขน หมุนไหล่ บิดเอว คอ ขา ต่างๆ เพื่อเพิ่มการเคลื่อนไหวของข้อต่อ ลดการบาดเจ็บ 5-10 นาที หรือพอได้อุ่นๆร้อน ก็ใส่เดี่ยวได้เลย 🔴 หลังเล่นเวท Static stretches : ยืดค้างไว้ในกล้ามเนื้อที่เราเพิ่งเวทจบไป เพื่อลดการตึงเครียดของกล้ามเนื้อ เล่นเสร็จ มายืด 2-3 ท่า สัก 2 set 15-30 นาที 🟢 ฝึกทุกวันได้ ก่อนเล่น หลังเล่น หรือก่อนนอนก็จะทำให้หลับสบาย ยืดเสร็จหลับเลย ดีจริงๆ อันนี้ลองแล้ว หรือหลังตื่น ยืดหน่อย ก็ทำให้ตื่นตัวได้ (ไม่ใช่หำเด้อ) หรือจะ วันที่เราพักเวท เราก็สามารถเพิ่มเข้าไปในตารางได้ อย่างน้อยวันพักก็ได้ยืด แถมยังใช้พลังงานอีกด้วยนะ ไม่ต้องกลัวเสียเวลาหรอก เพราะถ้าไม่ยืดเลย ในอนาคตต้องมานั่งแก้กันยากอีก เห็นแค่นี้มันส่งผลกระทบจริงๆนะ ง่ายๆเลย Office Syndrome ปวดหลัง บ่าตึง ที่เจอกันบ่อยๆเลย อายุน้อยๆนี่ละ เป็นกันเพียบ . 🔥 ข้อดีของการยืดกล้าม เพื่อคนที่จะเพิ่มกล้ามเลยนะ ถ้าเรายืดกล้ามเนื้อ เราก็จะมี Range of motions หรือระยะการเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อ ได้มากขึ้น ทำการให้การฝึกเช่น Benchpress ลงได้ได้ลึกขึ้น จากที่ลงได้ 40% เราจะลงได้มากถึง 60% เลย ซึ่งก็มีผลต่อการสร้างกล้ามได้ดีขึ้น เพราะกล้ามเนื้อได้ทำงานเต็มที่ของมัน |