FORD RANGER D-CAB 3.2 WILDTRAK 4WD A/T 2015 สีส้ม (LL0343) Show ราคา 559,000 บาท
อ ย า ก อ อ ก ร ถ ป รึ ก ษ า ไ ด้ ง่ า ย นิ ด เ ดี ย ว Line official : คลิก >> https://lin.ee/9Gn1JRq ➥••MONGKOLCARCENTER•• สอบถามเพิ่มเติม ☎️ คุณ ส.ศักดา 0 8 4 - 0 3 6 - 9 9 9 9 แอดไลน์ง่ายกว่า คลิก>> https://line.me/ti/p/25to8DRyeq ☎️ คุณนิธิศ 0 6 3 - 6 9 3 - 0 0 0 0 แอดไลน์ง่ายๆ คลิก>> https://line.me/ti/p/maQqtkgZLe ☎️ คุณ สายลม 0 8 4 - 0 3 7 - 9 9 9 9 แอดไลน์ง่ายกว่า คลิก>>https://line.me/ti/p/2_yL54TWN8 ☎️ แอดมินนุ่น 0 9 0 - 5 2 1 4 4 4 4 นึ ก ถึ ง ร ถ มื อ ส อ ง ส ภ า พ ดี นึ ก ถึ ง เ ร า ⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀ 1.ออกรถง่าย ได้รถไว ด้วยเงื่อนไขที่คุณต้องการ 2.รถทุกคันผ่านการคัดสรร เช็คสภาพให้เหมือนใหม่ ใส่ใจทุกรายละเอียด 3.ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ มีรถให้เลือกหลากหลาย ตามใจที่คุณต้องการ⠀ *เงื่อนไขเป็นไปตามข้อกำหนดของบริษัท พูดถึงกระบะอย่าง Ford Ranger ทุกคนก็นึกถึง Raptor แน่นอนเพราะกระแสบนโลกโซเชียลค่อนข้างดีใช้ลุยได้สบายๆ แล้วรุ่นรองอย่าง Wildtrak ใช้ลุยไม่ได้หรือ? จำเป็นต้องซื้อ Raptor หรือเปล่า มาหาคำตอบกัน Ford Ranger Wildtrak ดีไหม?หลายคนที่ยังสงสัยว่า Ford Ranger Wildtrak นั้นดีไหม ก็ต้องบอกว่าในราคารุ่นปัจจุบันที่เปิดตัวมา 1-1.2 ล้าน เป็นรถกระบะที่ทำออกมาได้ค่อนข้างดีเยี่ยมไม่แพ้ Ranger Raptor ที่มีค่าตัว 1.7 ล้านเลยทีเดียว ค่อนข้างคุ้มค่ากับราคา ด้านขุมพลังทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ใช้เครื่องยนต์เหมือนกัน แต่ในรุ่นใหม่จะมีการปรับรายละเอียดอื่นๆ ให้ดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเครื่องยนต์ที่ใช้จะมีทั้งหมด 2 แบบ คือ
ในรุ่นเก่าจะมีให้เลือกแค่แบบขับเคลื่อน 4 ล้อ แต่รุ่นปัจจุบันมีให้เลือกทั้งขับเคลื่อน 2 ล้อ และ ขับเคลื่อนแบบ 4WD พร้อมโหมดการขับขี่และปรับเปลี่ยนโหมดขับเคลื่อนได้ 3 แบบ คือ 2H ขับเคลื่อนสองล้อ 4H ขับเคลื่อน 4 ล้อ และ 4L ขับเคลื่อน 4 ล้อสำหรับใช้งานลุยๆ เรื่องการใช้งานทั้ง Ford Ranger Wildtrak ทำได้ดีพอกันทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ แต่สิ่งที่รุ่นใหม่ทำได้ดีกว่านั่นก็คือเรื่องการจัดเรียงอะไหล่บางชิ้นใหม่ทำให้ตัวรถนั้นขับได้ดีกว่าเดิม อย่างเช่นการจัดวางต่ำแหน่งของโช้คใหม่และเพิ่มระยะตัวถังที่กว้างขึ้น ระยะฐานล้อของ Ford Ranger Wildtrak Generation ใหม่ จะยาวขึ้น 50 มม. ความกว้างเพิ่มขึ้น 50 มม. ขยับฐานล้อหน้าขึ้นมาด้านหน้าอีก 50 มม. เพื่อการลุย Off-Road เพราะมีระยะ Overhang ที่สั้น ย้ายช็อคอัพหลังมาไว้ด้านนอกเพลา ซึ่งวิศวกรบอกว่าการย้ายโช้คมาด้านข้างจะทำให้นุ่มขึ้น ซึ่งน่าแปลกในมาก เพราะไม่ได้ปรับอะไรมากมายแค่เปลี่ยนตำแหน่งโช้คอัพและปรับค่าแหนบใหม่ ก็ทำให้รถกระบะที่มักจะมีอาการกระเด้งท้ายหรือขับแล้วรู้สึกรถโยนๆ ก็หายไป จนให้ความรู้ความรู้สึกคล้ายคลึงกับตอนขับรถเก๋งหรือรถ SUV เลย จากที่เรากล่าวมาทั้งหมดและการทดลองขับจริงๆ จึงสรุปได้ว่า Ford Ranger Wildtrak เป็นรถรถยนต์ที่สามารถใช้งานได้หลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็นทั้งการบรรทุกหนัก การขับขี่ในเมือง หรือ การใช้ลุยหนักๆ ในสภาพเส้นทางแบบ Off-Road พร้อมสัมภาระเยอะๆ Wildtrak ลุยไหวไหม ต้องข้ามไป Raptor หรือเปล่า?จากที่อ่านมาทุกท่านน่าจะมีความรู้สึกที่คล้ายๆ กันว่า Wildtrak มันเป็นรถกระบะที่ค่อนข้างมีความอเนกประสงค์มาก แล้วมันจะใช้ลุยหนักๆ เท่ากับพี่ใหญ่อย่าง Raptor ได้ไหม? ต้องบอกว่าแค่ Wildtrak ก็เพียงพอแล้ว แถมยังใช้งานอเนกประสงค์และใช้งานทั่วๆ ไปได้มากกว่า Raptor ด้วย ราคาก็ถูกกว่าทั้งมือหนึ่งและมือสอง เหตุผลที่ลุยได้สบายๆ นั่นก็เพราะว่า Ford Ranger Wildtrak เป็นกระบะที่มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนที่สามารถเลือกปรับได้และเครื่องยนต์ดีเซลที่ทรงพลัง แค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำให้ Wildtrak สามารถใช้งานลุยได้แล้ว แต่เขาก็ยังเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่ด้วยโหมดการขับขี่ที่หลากหลาย
นี่จึงเป็นคำตอบให้กับทุกคนได้ว่าความจริงแล้วเราไม่จำเป็นต้องข้ามไปซื้อ Ford Ranger Raptor แต่ใช้แค่ Ford Raner Wildtrak ก็ตอบโจทย์การใช้งานแบบลุยๆ ได้แล้ว Ranger Raptor หรือ Wildtrak ดี?สำหรับผู้ที่เล่นโซเชียลมีเดียบ่อยๆ ก็จะรู้จักกับไวรอล “ดุดันไม่เกรงใจใคร Ford Ranger Raptor” ที่ทำให้ Raptor เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางและได้รับความนิยมมากขึ้นเป็นเท่าตัว แม้จะเป็นรถกระบะพรีเมียมที่มีราคาสูงถึง 1.9 ล้าน แต่ก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ด้วยกระแสที่โด่งดังมากๆ เลยอาจจะทำให้บางคนนั้นเลือกที่จะมองข้าม Ford Ranger Wildtrak ไป เพราะคิดว่าถ้าใช้ลุยจริงๆ ก็ต้อง Raptor หรือเปล่า ความจริงไม่ใช่เลย Wildtrak ก็ใช้งานลุยๆ ได้เช่นกัน แถมราคายังถูกกว่า Raptor ตั้ง 7-8 แสนบาท ที่ 1.2 ล้านบาท ซึ่งถ้ามองว่าอยากใช้รถที่ลุยก็ได้ขับในเมืองก็ดี Wildtrak จะค่อนข้างตอบโจทย์มากกว่า เพราะอย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่า Raptor ค่อนข้างกินน้ำมัน 6-7 กิโลเมตรต่อลิตรเลย แต่ Wildtrak ใช้งานทั้งในเมืองและขับทางไกลจะกินน้ำมันอยู่ที่ 10-12 กิโลเมตรต่อลิตร ประหยัดกว่าเยอะ แต่ถ้าต้องการรถที่ใช้ลุยแบบจริงจังใช้งานได้แบบไม่ต้องกลัวอะไร Ford Ranger Raptor ก็เป็นรถกระบะพรีเมียมที่สมคำร่ำลือ ใครได้ลองก็ต้องติดใจไปตามๆ กัน ถ้าคุณเป็นวัยรุ่นดูไบที่รับในเรื่องอัตราการสิ้นเปลืองได้ ก็แน่นอนว่าซื้อ Raptor ลุยได้ทุกทางแน่นอน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราชอบคันไหนแล้วแหละครับ Ford Ranger Wildtrak มือสองดีไหม ราคาเท่าไหร่?ด้านราคาของ Ford Ranger Wildtrak มือหนึ่งจะมีราคาอยู่ที่ 1-1.2 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ไม่ค่อยสูงมากสำหรับรถกระบะระดับนี้ แต่ในด้านราคามือสองต้องบอกว่า Ranger Wildtrak จะดูคุ้มค่ามากขึ้นไปอีกเพราะราคามือสองดีมาก Ford Ranger Wildtrak มือสองมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 478,000 บาทเท่านั้น มีรายละเอียดรุ่นย่อยและปีผลิตรถให้เลือกค่อนข้างเยอะ ราคาถูกว่าตอนออกใหม่ป้ายแดงต่ำกว่าครึ่ง สำหรับรถกระบะที่มีความอเนกประสงค์สูงแบบนี้ แต่มาในราคามือสองเริ่มต้นเท่านี้ บอกเลยว่าถูกใจสายลุย ด้านการใช้งานคงไม่ต้องเป็นห่วงเลยเพราะ Wildtrak จะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอน แม้ว่าจะเป็นรถยนต์มือสองก็ตาม โดยรวมแล้วถ้าต้องการรถกระบะสายลุยที่ให้ความรู้สึกเหมือนรถ SUV แต่มีราคาที่คุ้มค่ามากๆ Ford Raner Wildtrak มือสอง ตอบโจทย์และเป็นทางลือกที่ดี ค้นหา Ford Ranger Wildtrak กับเรา
อ่านบทความเกี่ยวกับรถกระบะ
ซื้อขายรถมือสองออนไลน์ ต้องที่ ตลาดรถมือสอง One2car ซื้อรถง่าย ขายรถไว ทั้งรถเก๋งมือสอง รถตู้มือสอง รถกระบะมือสอง ราคาดี ฟรีดาวน์ ผ่อนถูก คุณภาพพร้อมใช้งาน อัปเดตข่าวรถล่าสุด ดูรีวิวรถยนต์ รีวิวรถมอเตอร์ไซค์ ทุกยี่ห้อ โดยทีมงานมืออาชีพ เช็คราคา ตารางผ่อน พร้อมเกาะติดข่าวสารรถยนต์ไฟฟ้า EV ได้ที่ Autospinn.com |