How to train your dragon ม ก ภาค pantip

"แหม.......อีกตั้งนานแน่ะค่ะกว่าได้ฉาย = =" สำหรับเพื่อน ๆ ที่ชอบดูเรื่องนี้ก็คงต้องอดใจรอไปอีก 1 ปี 4เดือน...เฮ้อ....ถ้าโลกมันไม่แตกซะก่อนเราก็คงได้ดูอ่ะเน๊อะ ๆ ๆ อยากให้ภาคสองนี้มันส์กว่าเดิม และจบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง ดีไม่ดีสร้างภาคสามมารอฉายไว้เลยก็ยิ่งดีนะ (ฮา)"

การเล่าเรื่องราวของ How To Train Your Dragon 2 ตัวละครอย่างฮิคคัพก็ยังคงมีปมในชีวิต เมื่ออายุของเขาย่างเข้า 20 ขวบปี พ่อของเขาจึงเล็งเห็นว่าถึงเวลาอันสมควรแล้ว ในการที่ฮิคคัพจะต้องสืบทอดตำแหน่งหัวหน้าหมู่บ้านเบิร์กเสียที แต่ด้วยความที่เขายังรักในอิสรภาพและการผจญภัยในการค้นหาดินแดนใหม่ๆอยู่ ฮิคคัพรู้สึกว่าตัวเองยังไม่พร้อมในการรับภาระอันหนักอึ้งในครั้งนี้ และโลกกว้างก็ยังรอคอยเขาอยู่

How To Train Your Dragon 2 อาจจะเดินเรื่องตามสไตล์หนังผจญภัย วันรุ่นขี่มังกรและออกไปเจอภัยอันตรายมากมายตามสูตรสำเร็จตามแอนิเมชั่นทั่วไป เปล่าเลยหนังกลับแทรกสอดความรู้สึกของตัวละครที่บางครั้งพวกเขาก็เปราะบางและต้องการความเข้าอกเข้าใจ ฮิคคัพก็เหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วไป พวกเขายังรู้สึกว่า “ความหนุ่มสาว” ของตัวเองนั้นยังต้องการความตื่นเต้น ท้าทายและพบเจอสิ่งใหม่ๆ เปรียบเปรยดังเช่นการค้นหาดินแดนใหม่และการทำแผนที่ที่ไกลออกไปจากหมู่บ้านเบิร์ก แทนที่จะต้องคอยมานั่งดูแลสารทุกข์สุขดิบของคนในหมู่บ้าน

อย่างไรก็ตามปมปัญหาที่ทำให้หนังภาคนี้บอกเล่าถึงตัวละครของ ดราโก้ บลุควิสท์(พากย์เสียงโดยไจมอน ฮอนชู) นักรบผู้คลั่งไคล้ในการสะสมมังกร เขาจึงออกรุกรานหมู่บ้านต่างๆเพื่อรวบรวมมังกรมาไว้เป็นของตนเอง และตัวละครนี้เป็นตัวละครที่ทำให้ในอดีตนั้นครอบครัวของฮิคคัพนั้นต้องแตกซ่านกระเซ็นไปคนละทิศละทาง และทำให้ สโตอิค(พากย์เสียงโดยเจอราร์ด บัตเลอร์) หัวหน้าหมู่บ้านเบิร์กถึงกับใจสลายเพราะเข้าใจว่า วาลก้า(พากย์เสียงโดยเคต แบลนเช็ทท์) ภรรยาและแม่ของฮิคคัพถูกลักพาตัวไปและถูกเข้าใจว่าเสียชีวิตแล้ว

หลังจากที่ฮิคคัพได้หนีออกมาจากหมู่บ้าน เพื่อออกตามหาความจริงเกี่ยวกับดราโก้ บลุควิสท์ทำให้เขาและเจ้ามังกรคู่ใจอย่างเจ้าเขี้ยวกุดโดนจับตัวไป แต่แล้วฮิคคัพก็ได้พบว่าแท้ที่จริงแล้วบุคคลภายใต้หน้ากากอันน่ากลัวนั้น แท้ที่จริงเป็นแม่ของเขาเองอย่างวาลก้า เธอจึงได้พาฮิคคัพเข้าไปในหุบเขาที่เป็นที่อยู่อาศัยของมังกรนานาพันธุ์และมีเจ้าแห่งมังกรอย่างบีไวด์เดอร์บีสต์ที่สามารถพ่นไอน้ำแข็งได้คอยปกครองมังกรตัวอื่นๆในอาณาจักร

สโตอิคได้เดินทางมาถึงหุบเขามังกรและค้นพบความจริงว่าภรรยาของเขายังมีชีวิตอยู่ พวกเขาทั้งสามคนจึงกลับมาพบหน้ากันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง สโตอิคจึงขอร้องให้วาลก้าเดินทางกลับไปใช้ชีวิตกับเขาและลูกที่หมู่บ้านตามเดิม แต่ความสุขนั้นก็แสนสั้นเช่นกันเมื่อ ดราโก้ บลุควิสท์ บุกหุบเขาแห่งนี้และใช้มังกรที่เขามีอยู่สะกดจิตมังกรทุกตัวไปเป็นของตนเองและพยายามเดินทางกลับไปยึดหมู่บ้านเบิร์ก

เสน่ห์ประการสำคัญที่ทำให้ How To Train Your Dragon 2 ไม่อาจจะละสายตาไปจากหน้าจอได้เลยก็คือสีสันอันสดใสของตัวละคร ผนวกไปกับความน่ารักของบรรดามังกรมากมายหลายสายพันธุ์ ซึ่งตัวที่โดดเด่นที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นมังกรคู่ใจของพระเอกอย่างเจ้าเขี้ยวกุดที่ดูยังไงก็เหมือนเป็นหมาผสมแมวมากกว่าจะเป็นมังกร ส่วนมังกรตัวอื่นๆอาทิ ข้ามเมฆา, ขี้บ่น, บีบกะโหลก, ซิปสองหัวจอมอัปลักษณ์ และตัวอื่นๆ เรียกได้ว่ามีเสน่ห์และน่าจดจำเอามากๆ

เหนือสิ่งอื่นใดคือหนังก็ยังวนเวียนอยู่ในโหมดของ “การสูญเสีย” ที่ฮิคคัพยังคงต้องเผชิญและเรียนรู้เพื่อจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่อย่างเต็มตัวอีกครั้งหนึ่งเมื่อเขาต้องสูญเสียพ่อของตัวเองไปและทำให้หน้าที่ในการดูแลทุกชีวิตตกมาอยู่ที่เขา โดยปริยายสิ่งเดียวที่ฮิคคัพทำได้ก็คือการเรียนรู้ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำและรับผิดชอบในสิ่งที่จะสามารถช่วยเหลืออีกหลายชีวิตในหมู่บ้าน และถึงแม้ว่าเขาจะต้องแลกกับอิสรภาพอันหอมหวาน

ฮัคคัพก็ได้เรียนรู้ว่าบางครั้งการที่คนเราจะเติบโตขึ้นได้อย่างแข็งแกร่งนั้น ล้วนต้องผ่านหยาดเหงื่อและรอยน้ำตา เพื่อให้เขาได้เรียนรู้ว่าการจะปกครองคนอื่นนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายและต้องแบกรับความรับผิดชอบอันใหญ่หลวงเอาไว้ แต่อย่างน้อยเพื่อความสุขของคนหมู่มาก การเสียสละก็เป็นเรื่องที่จำเป็นโดยไม่อาจจะเลี่ยง

How To Train Your Dragon เป็นภาพยนตร์ Animation ของค่าย DreamWorks ที่สร้างออกมาแล้วถึง 2 ภาค และมีแผนที่จะนำภาค 3 เข้าฉายประมาณปี 2018 ซึ่งไม่ว่าจะเป็นภาค 1 หรือภาค 2 ก็ล้วนสนุกและให้แง่คิดที่น่าสนใจ How To Train Your Dragon ภาค 1 นั้นเป็นเรื่องราวของเด็กน้อยชาวไวกิ้งคนหนึ่งชื่อว่า Hiccup อาศัยอยู่ในหมู่บ้านบนเกาะเบิร์ก ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีวิถีชีวิตในการต่อสู้ และกำจัดมังกรที่คอยเข้ามาขโมยสัตว์เลี้ยง โดยใครสามารถฆ่ามังกรได้ จะถือเป็นเกียรติประวัติ และได้รับการยอมรับว่าเป็นชาวไวกิ้งเต็มขั้น แต่ Hiccup นั้นกลับเป็นเด็กหนุ่มตัวเล็กขี้กลัว ไร้วี่แววของการเป็นไวกิ้งผู้กล้าหาญอย่างสิ้นเชิง ตรงกันข้ามกับ สโตอิกค์ พ่อของเขา ซึ่งเป็นถึงหัวหน้าหมู่บ้าน และผู้นำของไวกิ้งทั้งหลาย และด้วยเหตุนี้จึงทำให้สโตอิกค์ส่ง Hiccup ให้ไปเรียนรู้งานกับก๊อบเบอร์ ซึ่งเป็นช่างตีเหล็กและเป็นผู้ฝึกสอนไวกิ้งประจำหมู่บ้าน แต่ถึงแม้ว่า Hiccup จะเป็นเด็กขี้กลัว แต่ก็เป็นเด็กฉลาดและมีความคิดสร้างสรรค์ เขาพยายามจะสร้างเครื่องมือเพื่อช่วยจับมังกรโดยไม่จำเป็นต้องลงมือต่อสู้กับมัน จนกระทั่งวันหนึ่ง เจ้ามังกร Toothless บินโฉบเข้ามาขโมยสัตว์ในหมู่บ้าน Hiccup ยิงกระสุนไปถูกมังกรตัวหนึ่งจนมันร่วงลงมา และปรากฏว่าเจ้ามังกรตัวนั้นเป็นมังกรพันธุ์หายากและทรงพลังที่สุด ซึ่งหาก Hiccup ฆ่าเจ้ามังกรตัวนี้ได้ เขาต้องได้รับการยกย่องอย่างแน่นอน แต่ในที่สุด Hiccup ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะสายตาของเจ้ามังกรตัวนั้น เขาจึงตัดสินใจปล่อยมันไป แต่เจ้ามังกรบาดเจ็บจึงไม่สามารถบินได้ Hiccup จึงต้องกลายเป็นหมอรักษาให้เจ้ามังกรแทน และสร้างครีบหางเทียมให้มัน จนสามารถบินได้อีกครั้ง และทั้งสองก็กลายเป็นเพื่อนกันไปโดยไม่รู้ตัว โดย Hiccup ตั้งชื่อให้เจ้ามังกรว่า Toothless และในที่สุด คนในหมู่บ้านก็รู้เรื่องของ Hiccup กับเจ้ามังกร ซึ่งแน่นอนว่าทำให้พ่อของ Hiccup โกรธมาก ถึงกับบอกตัดพ่อตัดลูกกันเลย เมื่อ Hiccup พยายามจะขอให้ทั้งสองฝ่ายปรองดองกัน ในขณะที่เจ้ามังกร Toothless ก็ถูกบังคับให้พาไปยังรังของมังกรตัวอื่น ๆ ซึ่งทำให้ทุกคนรู้ว่าสัตว์ที่ถูกขโมยไปรวมไปถึงมังกรตัวอื่น ๆ นั้นได้ถูกนำไปสังเวยให้แก่พญามังกรแดง ซึ่งเป็นตัวร้ายของเรื่อง การต่อสู้เพื่อพิฆาตเจ้ามังกรตัวร้ายจึงเกิดขึ้น ด้วยความร่วมมือของไวกิ้งและเหล่ามังกรตัวอื่น ๆ ที่ทนเจ้าพญามังกรแดงไม่ได้ ซึ่งเป็นเหตุให้ Hiccup ได้รับบาดเจ็บและต้องเสียขาไปหนึ่งข้าง แต่ในที่สุดไวกิ้งกับมังกรก็สามารถอยู่ด้วยกันได้ How To Train Your Dragon นี้นำเสนอถึงความแตกต่างของ Hiccup กับชาวไวกิ้งคนอื่น ๆ ทั้งในด้านกายภาพและความคิดเห็น โดย Hiccup นั้นมีความคิดและแนวทางเป็นของตัวเอง ซึ่งเขาพยายามที่จะพิสูจน์ตัวเองให้เป็นที่ยอมรับในแบบของเขา ถึงแม้ว่าในตอนแรกจะไม่มีใครเข้าใจ แต่ในที่สุดเขาก็ทำสำเร็จ เฉกเช่นเดียวกับในองค์กร ความแตกต่างและความกล้าที่จะทำในสิ่งที่เป็นตัวเอง อาจจะนำมาซึ่งสิ่งดี ๆ ก็เป็นได้ค่ะ https://youtu.be/gyxwK_5-o1M?list=PLkOEj4sGyclcnAQCIxkzY0iF3KxqDi4Uj