หากแอป Google Maps ในโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตเกิดข้อขัดข้องหรือปัญหาอื่นๆ ที่ส่งผลต่อประสบการณ์ในการใช้งาน Google Maps ให้ลองทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ Show
อัปเดต Google Maps
เคล็ดลับ: ป้อน Apple ID และรหัสผ่านหากระบบแจ้งให้ป้อน จากนั้นระบบจะดาวน์โหลดและติดตั้งอัปเดต ติดตั้ง Google Maps อีกครั้งวิธีลบแอป
หากต้องการติดตั้งแอปอีกครั้ง ให้ดาวน์โหลดจาก App Store ส่งความเห็นหากยังคงพบปัญหาดังกล่าว โปรดส่งความคิดเห็นให้เรา ข้อมูลนี้มีประโยชน์ไหมเราจะปรับปรุงได้อย่างไร สำหรับผู้ใช้งานอุปกรณ์ของ Apple อย่าง iPhone/iPad คงมีจำนวนไม่น้อยที่พบเจอปัญหา “เข้า App Store ไม่ได้” หรือ “ไม่สามารถเชื่อมต่อกับ App Store ได้” โดยผู้ใช้งาน iPhone/iPad ต่างบอกว่า หลังจากอัปเดตระบบ iOS/14/15/16 หรือ 17 Beta ทำให้เข้า App Store ไม่ได้ ดังนั้นมาดู 7 วิธีแก้ภายในบทความนี้ ซึ่งแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาติดตามพร้อม ๆ กันเลย สาเหตุของปัญหาที่ว่า ทำไมเข้า App Store ไม่ได้ หรือ ไม่สามารถเชื่อมต่อกับ App Store ได้ อาจมีปัจจัยหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดปัญหานี้ คือ
วิธีแก้ปัญหา [ไม่สามารถเชื่อมต่อกับ App Store ได้]ถ้าคุณเกิดปัญหา App Store เข้าไม่ได้ ไม่ต้องกังวลไป เพราะเราจะมานำเสนอ 7 วิธีแก้ปัญหา ซึ่งคุณสามารถอ่านข้อมูล และทำตามขั้นตอนในแต่ละวิธีได้ง่าย ๆ จะมีวิธีแก้ไขอย่างไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย 1 ตรวจสอบสถานะระบบของ Appleหากผู้ใช้งานจำนวนมากได้รับการแจ้งเตือนว่า ไม่สามารถเชื่อมต่อกับ App Store ได้ เป็นไปได้ว่าสถานะระบบของ Apple ล่ม หรือเกิดข้อผิดพลาดบางประการ ดังนั้นคุณสามารถเข้าไปตรวจสอบ “สถานะระบบ” ของ Apple เพื่อตรวจสอบสถานะและความคืบได้แบบ Real-Time โดยมีขั้นตอนในการตรวจสอบ ดังต่อไปนี้ ขั้นตอนที่ 1:เข้าไปที่หน้า “สถานะระบบ” ของ Apple โดยใช้เว็บบราวเซอร์จากมือถือหรือคอมพิวเตอร์ ขั้นตอนที่ 2: จากนั้นกดเครื่องหมาย “+” และหาหัวข้อ “ App Store” ตรวจดูว่าขึ้นสถานะเป็นสีเขียวหรือไม่ หากเป็นสีเหลืองหรือสีแดง หมายถึงเกิดข้อผิดพลาด ทาง Apple กำลังปรับปรุง 2 ออกจากระบบและลงชื่อเข้าใช้ Apple ID ใหม่อีกครั้งหาก Apple ID เกิดปัญหาลงชื่อเข้าใช้ App Store ไม่ได้ เราขอแนะนำให้คุณทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ ขั้นตอนที่ 1: ไปที่ “การตั้งค่า” > แตะ “ชื่อบัญชี Apple ID” ด้านบนสุดของหน้าจอ ขั้นตอนที่ 2:เลื่อนลงไปด้านล่าง กดแตะ “ลงชื่อออก” เพื่อออกจากระบบ ขั้นตอนที่ 3: เมื่อออกจากระบบเรียบร้อยแล้ว ให้กรอกข้อมูลบัญชีและรหัสผ่าน Apple ID เพื่อเข้าสู่ระบบใหม่อีกครั้ง เป็นเสร็จสิ้น 3 ตรวจสอบวันที่และเวลาถ้าอุปกรณ์ iOS ของคุณ มีวันที่และเวลาไม่ตรงกับความเป็นจริง จะส่งผลให้ไม่สามารถเชื่อมต่อกับ App Store ได้ ดังนั้นคุณควรตรวจสอบวันที่และเวลาให้ถูกต้อง หรือจะใช้ฟังก์ชันซิงค์โครไนซ์กับเขตเวลา เพื่อตั้งวันที่และเวลาอัตโนมัติ ขั้นตอนที่ 1: ไปที่ “การตั้งค่า” > “ทั่วไป” > “วันที่และเวลา” ขั้นตอนที่ 2: ตรวจสอบดูว่า คุณได้เลือกไทม์โซนเวลาถูกต้องหรือไม่ และหากต้องการตั้งวันและเวลาอัตโนมัติ ให้กดแตะ “ตั้งค่าโดยอัตโนมัติ” 4 ตรวจสอบการเชื่อมต่อเครือข่ายสำหรับการเชื่อมต่อ App Store เข้าไม่ได้ เป็นไปได้ว่าการเชื่อมต่อเครือข่าย เกิดข้อผิดพลาด หรือไม่มีความเสถียร ดังนั้นคุณควรตรวจสอบระบบเครือข่าย และตรวจสอบบริการมือถือ ตามขั้นตอนต่อไปนี้ ตรวจสอบและซ่อมแซมการตั้งค่า Wi-Fi คุณสามารถเปิดเว็บบราวเซอร์ เพื่อตรวจสอบว่า มีความล้มเหลวหรือไม่ หากล้มเหลว แสดงว่าเครือข่ายของคุณไม่เสถียร หรือการเชื่อมต่อ Wi-Fi และอินเทอร์เน็ตบนมือถือไม่ถูกต้อง แก้ไขตามได้ง่าย ๆ ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1: ไปที่ “การตั้งค่า” > “Wi-Fi” แล้วแตะสัญลักษณ์ “i” ที่คุณเชื่อมต่อ Wi-Fi นั้น ๆ ขั้นตอนที่ 2: แตะ “กำหนดค่าพร็อกซี่” > เลือก “กำหนดเอง” ขั้นตอนที่ 3:จากนั้นป้อนข้อมูลเกี่ยวกับ “เซิร์ฟเวอร์และพอร์ต” ให้ถูกต้อง และกด “บันทึก” เป็นอันเสร็จสิ้น ขั้นตอนที่ 4: หากคุณสามารถเข้าเชื่อมต่อกับ App Store ได้แล้ว ให้กลับไปที่ “การตั้งค่า” และไปปิดฟังก์ชันกำหนดค่าพร็อกซี่ เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลรั่วไหล ตรวจสอบบริการมือถือ หากคุณเป็นคนที่ใช้บริการมือถืออย่าง “เซลลูลาร์” หรือ “Cellular” ในการท่องอินเทอร์เน็ต และนำไปใช้เล่น Social Media อาจเป็นไปได้คุณได้ใช้บริการมือถือหมดไปแล้ว มาดูขั้นตอนในการตรวจสอบบริการมือถือ ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1: ไปที่ “การตั้งค่า” > “เซลลูลาร์” ขั้นตอนที่ 2: จากนั้นตรวจดูว่าแอปฯไหนที่ใช้บริการมือถือเยอะมากที่สุด อาจจะกดปิดชั่วคราวไปก่อน อีกทั้งตรวจดูว่าได้อนุญาตให้ App Store เข้าถึงบริการมือถือหรือไม่ 5 ทำความสะอาดพื้นที่จัดเก็บข้อมูล iPhoneแน่นอนว่า App Store จำเป็นต้องใช้พื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลพอสมควร ถึงจะสามารถทำงานเป็นปกติได้ ดังนั้นคุณควรตรวจสอบว่า พื้นที่จัดเก็บข้อมูลเพียงพอหรือไม่ หากไม่เพียงพอ ก็สามารถทำความสะอาดได้ตามขั้นตอนด้านล่าง เพื่อแก้ไขปัญหาที่ไม่สามารถเชื่อมต่อกับ App Store ได้ ขั้นตอนที่ 1: ไปที่ “การตั้งค่า” > “ทั่วไป” > “พื้นที่จัดเก็บข้อมูลของ iPhone” ขั้นตอนที่ 2:คุณสามารถเลือกแอปพลิเคชันที่ไม่ได้ใช้งาน หรือแอปฯที่มีพื้นที่เยอะจนเกินไป จากนั้นกด “ลบแอป” เพื่อถอนการติดตั้ง และกู้คืนพื้นที่ข้อมูลให้เยอะขึ้น 6 อัปเดตซอฟต์แวร์ iOSเป็นไปได้ว่าที่คุณประสบปัญหา App Store เข้าไม่ได้ เพราะ iPhone ของคุณมีระบบ iOS ที่ล้าสมัยจนเกินไป เราขอแนะนำให้คุณทำการอัปเดต iOS ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด เพื่อการใช้งานที่เสถียรและมีประสิทธิภาพ ขั้นตอนที่ 1: ไปที่ “การตั้งค่า” > “ทั่วไป” > “รายการอัปเดตซอฟต์แวร์” ขั้นตอนที่ 2: หากมีเวอร์ชันใหม่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ ให้กด “ดาวน์โหลดและติดตั้ง” 7 รีเซ็ต Apple IDในกรณีที่คุณลืมรหัสผ่าน Apple ID จะทำให้ลงชื่อเข้าใช้ App Store ไม่ได้ และนำไปสู่ปัญหาเข้า App Store ไม่ได้ ซึ่งแน่นอนว่าการรีเซ็ต Apple ID ส่งผลต่อข้อมูลภายใน iCloud หรือภายใน iPhone หากไม่ได้สำรองข้อมูล จะทำให้ข้อมูลสูญหาย ไม่สามารถนำกลับคืนมาได้ ดังนั้นหากใครที่ต้องการรีเซ็ต Apple ID เราขอแนะนำเครื่องมือ “iMyFone LockWiper” ช่วยแก้ปัญหาลืมรหัสผ่าน Apple ID ข้อมูลปลอดภัย และแก้ปัญหาลงชื่อเข้าใช้ App Store ไม่ได้ นอกจากนี้ยังนำไปใช้แก้ปัญหาด้านอื่น ๆ ได้อีก เช่น ลืมรหัสล็อคหน้าจอไอโฟน ลืมรหัส Touch ID/Face ID เป็นต้น แก้ปัญหาการซื้อเครื่องมือสองด้วย Apple ID เดิมแต่ไม่สามารถเชื่อมต่อกับ App Store ได้ง่ายๆ ทดลองใช้ฟรี ทดลองใช้ฟรี ขั้นตอนที่ 1: ดาวน์โหลดและติดตั้ง “iMyFone LockWiper” บนคอมพิวเตอร์ > คลิกเลือก “ปลดล็อก Apple ID” ขั้นตอนที่ 2:เชื่อมต่ออุปกรณ์ iOS เข้ากับคอมพิวเตอร์ > คลิก “เริ่มการปลดล็อก” ขั้นตอนที่ 3: โปรดทำตามคำแนะนำบนหน้าจอ คุณจะเห็นได้ว่า Apple ID จะถูกลบออกสำเร็จ และกดคลิก “ปลดล็อกรหัสผ่าน” จากนั้นเลือก “ใช้รหัสผ่านอุปกรณ์” คุณสามารถรีเซ็ต Apple ID ใหม่ได้สำเร็จ ตั้งค่า App Store ไม่ต้องใส่รหัสปกติแล้วการดาวน์โหลดแอปฯภายใน App Store จะบังคับให้ใส่รหัสผ่าน Apple ID ซึ่งบางคนก็อาจจะลืมรหัสผ่านไปแล้ว หรือบางคนคิดว่าการใส่รหัสผ่านอยู่บ่อย ๆ เป็นเรื่องที่ยุ่งยาก ไม่สะดวกเท่าที่ควร ดังนั้นคุณสามารถตั้งค่า App Store ไม่ต้องใส่รหัส ใช้ Touch ID/ Face ID ช่วยให้คุณสามารถโหลด App Store ไม่ต้องใส่รหัส หมดปัญหาเรื่องลืมรหัส Apple ID ได้ดีที่สุด โดยไปที่ “การตั้งค่า” > “Face ID และรหัส” > เปิดใช้งาน “iTunes Store & App Store” ดาวน์โหลดแอปฟรี โดยไม่ต้องการตรวจสอบสิทธิ์ อีกทั้งหากใครที่มักจะดาวน์โหลดแอปฯฟรีอยู่บ่อย ๆ และไม่ต้องการใส่รหัสผ่าน สามารถตั้งค่า App Store ไม่ต้องใส่รหัส ดังนี้ โดยไปที่ “การตั้งค่า” > “ชื่อบัญชี Apple ID” ด้านบนสุดของหน้าจอ > แตะ “สื่อและสินค้าที่ซื้อ” > กดแตะ “การตั้งค่ารหัสผ่าน” > กดปิดใช้งานหัวข้อ “ต้องใส่รหัสผ่าน” เป็นอันเสร็จสิ้น สามารถโหลด App Store ไม่ต้องใส่รหัสได้แล้ว! บทสรุปเมื่อคุณทราบถึงสาเหตุเข้า App Store ไม่ได้ รวมถึง 7 วิธีแก้ปัญหา App Store เข้าไม่ได้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้แก่ผู้อ่านได้มากและไม่น้อย หากใครที่ลืมรหัสผ่าน Apple ID ทำให้ไม่สามารถลงชื่อเข้าใช้ App Store ได้ เราขอแนะนำเครื่องมือ “iMyFone LockWiper” เป็นเครื่องมือปลดล็อก Apple ID ที่ดีที่สุด และรีเซ็ต Apple ID ได้อย่างง่ายดาย ช่วยให้คุณกู้คืนรหัสผ่าน Apple ID ได้อย่างมืออาชีพ ทำไมโหลดไลน์ในไอแพดไม่ได้ก่อนอื่นเราจะอธิบายให้คุณทราบถึงสาเหตุที่อาจเป็นไปได้หากคุณติดตั้ง LINE บน iPhone/iPad ไม่ได้ สาเหตุ 1: สภาพแวดล้อมการสื่อสาร Wi-Fi ไม่ดี สาเหตุ 2: พื้นที่ว่างไม่เพียงพอในที่เก็บข้อมูล iPhone. สาเหตุ 3: คุณยังไม่ได้ลงทะเบียน Apple ID บน App Store. ไอแพดเข้าไลน์ได้ไหม1. เปิด LINE บน iPad หรือ PC. 2. กรอกหมายเลขโทรศัพท์ที่ลงทะเบียนในบัญชี LINE \> เลือกที่ "เข้าสู่ระบบด้วยสมาร์ทโฟน" 3. เปิด LINE บนสมาร์ทโฟน 4. ยืนยันตัวตนในหน้าจอยืนยันตัวตนโดยใช้วิธีปลดล็อคของอุปกรณ์ที่แสดงบนสมาร์ทโฟน ไอแพดมินิ 1 เล่นไลน์ได้ไหมเล่น line ใน iPad mini ไม่ได้ค่ะ ไอ โฟน กับ ไอ แพ ด ใช้ ไลน์ เดียวกัน ได้ ไหม1 Line id เดี่ยวนี้ใช้ล๊อกอินได้ทั้งใน iPhone กับ iPad ครับแต่ใน iPad ต้อง เป็นตัว version Line for iPad ครับถึงจะใช้เล่นพร้อมกับเครื่อง iPhone ได้ ถ้าใช้ตัว version ที่เป็นแนวตั้งนั้นมันเป็นของ iPhone อย่างเดียวครับจะใช้ พร้อมกันไม่ได้คือต้องเลือกอุปกรณ์ใดอุปกรณ์หนึ่งเท่านั้น (Line บังคับ) |