Olympus m.zuiko digital ed 14-150mm f4.0-5.6 ii ด ม ย

โอลิมปัส รุกตลาดกล้องเปลี่ยนเลนส์ ส่งกล้องใหม่ตระกูลเพน เพนอี พีแอล 8 (Pen E-PL 8) ซึ่งเป็นกล้องมิร์เรอร์เลส ตอบโจทย์กระแสเซลฟี่ กะทัดรัดเหมาะมือผู้หญิง และเลนส์คุณภาพสูงพร้อมกัน 3 ตัว หวังดันมาร์เกตแชร์กล้องเปลี่ยนเลนส์เป็น 20% ภายในสิ้นปีหน้า

มร.ชินโช อิเคดะ กรรมการบริษัทและผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์กล้องถ่ายภาพและอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ บริษัท โอลิมปัส (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่า “ปีนี้มีแผนรุกตลาดกล้องเปลี่ยนเลนส์อย่างหนัก จากสถิติในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา ตลาดกล้องเปลี่ยนเลนส์โดยเฉพาะมิร์เรอร์เลส เติบโตสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็น 75.7% จากเดิม 52.4% ในขณะที่กล้องเอสแอลอาร์ SLR อยู่ในช่วงขาลง 24.3% จากเดิม 47.6% ด้วยเทรนด์ของผู้บริโภคที่ต้องการกล้องขนาดเล็กที่มีคุณภาพทัดเทียมกล้องฟลูเฟรม และเพื่อตอบโจทย์ความต้องการตลาดและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป จึงเปิดนวัตกรรมใหม่กล้องโอลิมปัส เพน อี พีแอล 8 เหมาะมือผู้หญิง ฟังก์ชั่นเชื่อมสมาร์ทโฟนที่ใช้เซลฟี่ได้ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ ตั้งเป้ายอดขาย 50,000 ยูนิตภายใน 1 ปี นอกจากนี้ ยังเปิดตัวเลนส์คุณภาพสูง 3 ตัว ทั้งเลนส์ไวแสงสูง เลนส์ซูมกำลังขยายสูง และเลนส์มาโครพรีเมี่ยม กำลังขยายสูงที่สุดในคลาสเดียวกัน หวังสร้างยอดขายเลนส์เพิ่มขึ้นเทียบเท่ายอดขายกล้องภายใน 2 ปี โดยคาดว่า ปีนี้จะมีรายได้ยอดขายธุรกิจกล้องถ่ายภาพและอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ประมาณ 1.3 – 1.4 พันล้านบาท และตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาได้ใช้งบการตลาดกว่า 120 ล้านบาท เพื่อทำตลาดและจัดกิจกรรมเข้าถึงลูกค้าทั้งออฟไลน์และออนไลน์”

พร้อมกันนี้ ยังเผยโฉมนวัตกรรมใหม่ที่อยู่ในระหว่างขั้นตอนการพัฒนา “โอลิมปัส โอเอ็ม-ดี อี-เอ็มวัน มาร์คทู” Olympus OM-D E-M1 Mark II กล้องถ่ายภาพที่ระดับมือโปรตั้งตาคอย และคาดว่าจะนำออกสู่ตลาดภายในสิ้นปี โดยที่ผ่านมาในปี 2016 โอลิมปัสได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ไปแล้ว ได้แก่ กล้องเพน-เอฟ, เลนส์ 300, กล้องแอ็คชั่นคาเมร่าทีจีแทรกเกอร์, กล้องเพนอี พีแอล 8 และเลนส์ใหม่ 3 ตัว

โอลิมปัสเปิดตัว Mirrorless รุ่นที่ 2 OM-D E-M10 Mark II ที่มาพร้อมกับระบบป้องกันการสั่นไหวของภาพแบบ 5 แกน

Olympus m.zuiko digital ed 14-150mm f4.0-5.6 ii ด ม ย

บริษัท โอลิมปัส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวกล้องรุ่นที่ 2 ที่จัดอยู่ในระดับเริ่มต้นของกล้องกลุ่ม OM-D โดยกล้องรุ่น E-M10 Mark II ตัวใหม่นี้มาพร้อมคุณลักษณะพิเศษของโอลิมปัส ไม่ว่าจะเป็น ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบ 5 แกน ช่องมองภาพ OLED viewfinder ที่มีความละเอียดถึง 2.36 ล้าน-ดอท ฟังก์ชั่นแชร์ภาพสุดแอดวานซ์ พร้อมรูปลักษณ์ดีไซน์สุดโมเดิร์น-คลาสสิค เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นการถ่ายภาพด้วยกล้องแบบ SLR นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ และกลุ่มครอบครัว

กล้องรุ่น E-M10 Mark II ระบบ 5-Axis IBIS ช่วยให้ผู้ถ่ายสะดวกในการเคลื่อนไหวและอิสระในการถ่ายภาพได้มากขึ้นเมื่อเทียบกับกล้องที่เปลี่ยนเลนส์ได้ซึ่งจัดอยู่ในระดับเริ่มต้นและระดับกลางของกล้องตัวอื่น ๆ ในกลุ่มนี้ พร้อมด้วยความคมชัดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ได้ภาพที่สวยงามคมชัดเป็นธรรมชาติโดยไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้อง และยังมอบความยืดหยุ่นในการถ่ายให้แก่ผู้ที่สนใจถ่ายภาพหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพภูมิทัศน์ในมุมกว้าง การถ่ายภาพบุคคล การจับภาพเคลื่นไหว วีดีโอ การเดินทาง การถ่ายภาพขนาดเล็กในระยะใกล้ ตลอดไปจนถึงการถ่ายภาพกิจกรรมกีฬาในระยะไกล ด้วยเทคโนโลยี 5-Axis IS ที่สามารถป้องกันการสั่นไหวแบบ 5 แกนของโอลิมปัส ที่มอบภาพคมชัดสวยงามแม้มือสั่น

นอกจากนั้นกล้องรุ่น E-M10 Mark II ยังช่วยส่งเสริมการจัดองค์ประกอบภาพที่สร้างสรรค์ ด้วยระบบป้องกันภาพสั่นไหวอันสุดยอดนี่เองที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถถือกล้องและจัดวางภาพก่อนกดถ่ายได้อย่างเป็นอิสระ พร้อมกับการใส่กลไก IS ที่ประกอบมาพร้อมกับตัวกล้อง ทำให้ไม่ว่าจะเปลี่ยนใส่เลนส์ตัวไหนก็สามารถใช้ประโยชน์จากความนิ่งของกล้องรุ่น E-M10 Mark II นี้ได้ จึงเป็นการเพื่อทางเลือกที่หลากหลายในการเลือกใช้เลนส์แก่ผู้ใช้อีกด้วย

สำหรับการมองภาพ กล้องรุ่น E-M10 Mark II ใช้ช่องมองภาพแบบดิจิตอลความละเอียด 2.36 ล้าน ดอท OLED ที่ยอดเยี่ยมสามารถทำให้มองเห็นภาพได้แบบเรียลไทม์ พร้อมครอบคลุมการมองได้ถึง 100% ทำให้สามารถควบคุมกระบวนการถ่ายภาพได้ทั้งหมดด้วยการดูภาพที่ต้องการควบคุมค่าแสง ณ ขณะนั้น รวมทั้งการตั้งค่าอื่นๆ ซึ่งจะช่วยทำให้คอนเซ็ปการเรียนรู้การถ่ายภาพง่ายมากขึ้น และยังช่วยให้ผู้ถ่ายภาพสามารถสร้างสรรค์ภาพในแบบใหม่ๆ ได้อีกด้วย

พร้อมกันนี้ ชิ้นแก้วพิเศษ (advanced aspherical optics) ในช่องมอง จะช่วยให้ไม่เกิดการบิดเบี้ยวของภาพที่เห็นด้วยกำลังขยายถึง 1.23 เท่า พร้อมช่องมองกระจกขนาด 19.2 มม. ที่สบายตา ส่วน S-OVF ซึ่งเป็นการตั้งค่าช่องมองภาพ ’จำลอง’ แสงแบบพิเศษจะช่วยเลียนแบบการมองเห็นประหนึ่งใช้กล้อง SLR แบบดั้งเดิม การใช้เทคโนโลยี HDR เพื่อเสริมช่วงการรับแสง Live View ช่วยมอบประสบการณ์การมองเห็นที่สมจริง ทั้งนี้ S-OVF Live View ยังช่วยปรับการมองเห็นให้ดียิ่งขึ้นเมื่อถ่ายย้อนแสง และยังมอบองค์ประกอบของการสร้างสรรค์รูปแบบใหม่ๆ อย่างเป็นธรรมชาติสำหรับกล้อง SLR

Olympus m.zuiko digital ed 14-150mm f4.0-5.6 ii ด ม ย
สำหรับการบันทึกวีดีโอแบบ Full HD นั้นได้รวมเทคโนโลยี ‘OM-D Movie’ ของโอลิมปัสซึ่งเคยมีในกล้องรุ่น E-M5 Mark II สู่กล้องระดับเริ่มต้น โดย OM-D Movie ได้รวมกลไกการทำงานขั้นสูงและระบบป้องกันภาพสั่นแบบ 5 แกน ไว้ด้วยกันเพื่อช่วยให้จับภาพได้ง่ายอย่างไร้กังวล ซึ่งการสั่นไหวในการถ่ายวีดีโอด้วยมือเปล่า นอกจากนั้นยังมีโหมด “CLIPS” พิเศษ ที่จะทำให้คุณสามารถสร้างหนังสั้นคุณภาพสูงได้ในเวลาจำกัด พร้อมกลุ่มวีดีโอที่วางแผนไว้ล่วงหน้าซึ่งสามารถนำไปใช้รวมกับกล้องได้อย่างสะดวก

กล้อง E-M10 Mark II ออกแบบมาเพื่อให้เชื่อมต่อกับโลกโซเซียลได้เป็นอย่างดี พร้อมการรวมกับสมาร์ทโฟนขั้นล่าสุด และด้วยแอพพลิเคชั่น OI.Share ของโอลิมปัส (สำหรับ iOS และ Android) คุณสามารถส่งรูปภาพและวีดีโอแบบไร้สายจากกล้องสู่มือถือ และโพสลงกลุ่มสังคมออนไลน์ได้ทันที โดย OI.Share เพิ่มความสามารถในการแนบ geotags และการควบคุมกล้องจากระยะไกล (ด้วย Remote Live View)

นับได้ว่า OM-D E-M10 Mark II รุ่นใหม่นี้ ได้สร้างมาตรฐานใหม่สำหรับกล้องในระดับแรกเริ่มของกลุ่มกล้องเปลี่ยนเลนส์ได้เลยทีเดียว

กล้อง E-M10 Mark II มีกำหนดเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่ 26 สิงหาคม 2558 โดยวางราคา (รวม VAT) ไว้ดังนี้ E-M10 Mark II Body 24,990 บาท , E-M10 Mark II 14-42EZ Kit 29,990 บาท และ E-M10 Mark II DZ (14-42EZ + 40-150R) Kit 34,990 บาท

โอลิมปัสเปิดตัวกล้องแบบมิเรอร์เลสอย่างเป็นทางการพร้อมกันทั่วโลก

Olympus m.zuiko digital ed 14-150mm f4.0-5.6 ii ด ม ย

โอลิมปัสเปิดตัวนวัตกรรมล่าสุดแห่งการถ่ายภาพ ด้วยกล้องมิเรอร์เลสรุ่น “OM-D E-M5 Mark II” ที่มาพร้อมกับระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบห้าแกนครั้งแรกของโลก เลนส์ฟิชอายชนิดเปลี่ยนได้รุ่น M.ZUIKO DIGITAL ED 8mm f1.8 Fisheye PRO เลนส์ชนิดเปลี่ยนได้รุ่น M.ZUIKO DIGITAL ED 14-150mm f4.0-5.6 II (28-300mm, 35mm equivalent) และอัพเดทเฟิร์มแวร์เป็นเวอร์ชั่น Version 3.0 สำหรับกล้อง OM-D E-M1

มร.ชินโช อิเคดะ กรรมการและผู้จัดการแผนกผลิตภัณฑ์กล้องถ่ายภาพ บริษัท โอลิมปัส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าโอลิมปัสได้เปิดตัวกล้องมิเรอร์เลสรุ่น “OM-D E-M5 Mark II” ไปเมื่อไม่นานมานี้ โดยเป็นรุ่นที่ต่อยอดมาจาก OM-D E-M5 รุ่นเดิมที่นําเสนอในรูปแบบสไตล์การใช้งานและคุณภาพในลักษณะของกล้อง SLR โดยเป็นครั้งแรกของโลกที่บรรจุระบบกันสั่นห้าแกน มาในตัวกล้องที่มีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา ระบบเลนส์ช่วยให้ถ่ายภาพได้คุณภาพสูง ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ ไม่ว่าจะในสภาพแวดล้อมใด

“OM-D E-M5 Mark II มีระบบกันสั่นห้าแกนในตัวเครื่อง มีประสิทธิภาพในการชดเชยแสงเทียบเท่ากับความเร็วชัตเตอร์ 5 สต็อป ให้ถ่ายรูปได้คมชัดในทุกสถานที่ และมีระบบ FAST AF และ C-AF ช่วยให้สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องแบบ tracking ได้โดยการโฟกัสจะเคลื่อนตามวัตถุโดยอัตโนมัติ ซึ่งถือว่าเหนือกว่ากล้องระดับไฮเอนด์รุ่นอื่นๆ ดังนั้นโอลิมปัสจึงมั่นใจว่านวัตกรรมใหม่ของเราจะชนะใจผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพได้แน่นอน”

Olympus m.zuiko digital ed 14-150mm f4.0-5.6 ii ด ม ย
นอกจาก OM-D E-M5 Mark II แล้ว โอลิมปัสยังได้เปิดตัวเลนส์รุ่นใหม่ในประเภท M.ZUIKO PRO คือรุ่น M.ZUIKO DIGITAL ED 8mm f1.8 Fisheye PRO เป็นครั้งแรกของโลกกับคุณสมบัติกันน้ํากันฝุ่นที่มาพร้อมกับเลนส์ฟิชอายไวแสงพิเศษ F1.8 หนึ่งในเลนส์ตระกูล M.ZUIKO PRO รองรับการใช้งานระดับมืออาชีพอย่างแท้จริง ด้วยชิ้นแก้วพิเศษคุณภาพสูงที่ถ่ายทอดแสงอย่างเที่ยงตรง คุณภาพการใช้งานที่เป็นเลิศในทุกสถานการณ์ อีกรุ่นหนึ่งที่เปิดตัวพร้อมกันคือ M.ZUIKO DIGITAL ED 14-150mm f4.0-5.6 II (28-300mm, 35mm equivalent) ออกแบบต่อยอดมาจาก M.Zuiko Digital ED 14-150mm f4.0-5.6 เวอร์ชั่นแรก ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2553 เพิ่มเทคโนโลยีการเคลือบผิวเลนส์ด้วย ZERO (Zuiko Extra-low Reflection Optical) เพื่อให้เห็นภาพเสมือนจริง ลดเงาสะท้อนที่ก่อให้เกิดแสงแฟลร์และภาพเงาต่างๆ รวมถึงประสิทธิภาพในการกันฝุ่นและกันละอองน้ําเทียบเท่ากล้อง OM-D E-M1 และ E-M5 Mark II

นอกจากนี้ โอลิมปัสยังได้เปิดตัวเฟิร์มแวร์เวอร์ชั่น 3.0 สำหรับกล้อง OM-D E-M1 เพิ่มประสิทธิภาพในเรื่องการถ่ายภาพลักษณะต่อเนื่องสูงสุด 9 ภาพต่อวินาทีเมื่อใช้งานร่วมกับการโฟกัสติดตามวัตถุแบบพิเศษ AF Tracking เพื่อให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพวัตถุเคลื่อนไหวได้โดยไม่พลาดช็อตสําคัญ จากการพัฒนาเซนเซอร์ Phase-Detection AF ทําให้เวอร์ชั่น 3.0 สามารถถ่ายภาพวัตถุเคลื่อนไหวแบบออโต้โฟกัสได้คมชัดทั้งเลนส์ระบบ Four Thirds และ Micro Four Thirds

มร.ชินโช อิเคดะ กล่าวว่าในปีนี้ทางบริษัทได้เตรียมงบกว่า 150 ล้านบาทเพื่อทุ่มด้านการตลาดและการสื่อสาร ทั้งแบบ below the line และ above the line เพื่อสร้างแบรนด์ให้ผู้บริโภคไทยจดจำ โดยกิจกรรมทางการตลาดจะเน้นเวิร์กช็อป โดยโอลิมปัสเชื่อมั่ยว่านอกจากจะรักษาตำแหน่งผู้นำของตลาดไว้ได้แล้วยังจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งทางตลาดได้อย่างต่อเนื่องอีกด้วย OM-D E-M5 Mark II จะเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันยอดขายของโอลิมปัสในส่วนของกล้องเลนส์ชนิดเปลี่ยนได้ ในปีนี้โอลิมปัสจะเน้นแคมเปญทางการตลาดมากขึ้นและจะทะยอยเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ๆ สู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง

ในปีที่ผ่านมา ตลาดกล้องถ่ายรูปค่อนข้างทรงตัวเนื่องมาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจโลกหรือสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้มีผลต่อการบริโภคภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม โอลิมปัสมั่นใจว่าตลาดจะกระเตื้องขึ้นในปีนี้ เนื่องจากผู้บริโภคมีความเข้าใจสถานการณ์มากขึ้น และอำนาจในการจับจ่ายเริ่มส่งสัญญาณดีขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เซ็กเมนต์หลักทั้ง 2 เซ็กเมนต์ของตลาดกล้อง ทั้งคอมแพ็คและดีเอสแอลอาร์ ก็น่าจะกลับมาคึกคักขึ้นหลังจากที่ค่อนข้างซบเซาในปีที่แล้ว

“โอลิมปัส” ส่ง Olympus PEN Lite E-PL7 เอาใจคนชอบ “เซลฟี่”

Olympus m.zuiko digital ed 14-150mm f4.0-5.6 ii ด ม ย

โอลิมปัส ปฏิวัติวงการกล้อง ตอกย้ำความแข็งแกร่งและเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีในตลาดกล้องถ่ายภาพ เปิดตัวนวัตกรรมกล้องระดับพรีเมี่ยมใหม่ล่าสุด Olympus PEN Lite E-PL7 ยกระดับการถ่ายภาพด้วยการทำงานควบคู่กับสมาร์ทโฟน พร้อมแชร์รูปผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์คได้ทันที มั่นใจว่านวัตกรรมใหม่ล่าสุดนี้สามารถครองใจและตอบโจทย์คนรักการถ่ายภาพ ทุกกลุ่ม ทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่ช่างภาพระดับมืออาชีพจนถึงคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ มั่นใจแนวโน้มกล้องในกลุ่มมิลเลอร์เลส นี้จะเข้ามาแทนที่กล้อง DSLR อย่างแน่นอน

มร.ชินโช อิเคดะ กรรมการและผู้จัดการแผนกผลิตภัณฑ์กล้องถ่ายภาพ บริษัท โอลิมปัส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า“เพื่อตอบสนองความต้องการไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการถ่ายรูป โดยเฉพาะการถ่ายภาพตัวเองหรือเซลฟี่ (Selfie) พร้อมแชร์รูปภาพที่ประทับใจผ่านทางเว็บไซต์หรือเครือข่ายสังคมออนไลน์ต่างๆ และเพื่อเป็นการตอบโจทย์นี้ ทางโอลิมปัสจึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์กล้องระดับพรีเมี่ยมรุ่นใหม่ล่าสุด “Olympus PEN Lite E-PL7” กล้องชนิดถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ น้องใหม่ในตระกูล PEN ขนาดกะทัดรัดออกแบบสำหรับผู้ใช้งานที่มีความแอคทีฟ ชอบแชร์รูปไปยังโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค มาพร้อมกับฟีเจอร์ “touch” ทัชสกรีนแบบพลิกหมุนลงได้ 180 องศา และเทคโนโลยีการถ่ายภาพตัวเองแบบ Selfie นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนในการควบคุมการทำงานของกล้องและแชร์รูปได้เป็นอย่างดี โดยระดับราคากล้อง Olympus PEN Lite E-PL7 เริ่มต้นที่ 20,000 – 30,000 บาท

นอกจากการเปิดตัวของ Olympus PEN Lite E-PL7 โอลิมปัสได้แนะนำ เลนส์เทเลซูมระดับมืออาชีพ M.Zuiko Digital ED 40-150mm f2.8 PRO เลนส์ซูมระยะไกลระดับมืออาชีพ ครอบคลุมระยะ 80 – 300 มม.เทียบเท่าพร้อมความสว่างของรูรับแสงคงที่ f2.8 ครั้งแรกของโลกกับระบบออโต้โฟกัสแบบ twin-VCM powered AF และการออกแบบที่ทนทานต่อสภาพอากาศต่างๆ โดยสามารถใช้งานร่วมกับกล้องOM-D กล้อง PEN และกล้อง Micro Four Thirds ทุกรุ่น มีประสิทธิภาพด้านออปติคัลสูงมาก มีโครงสร้างที่ทนทานต่อสภาวะการใช้งานที่มีฝุ่นเยอะ และป้องกันละอองน้ำ เลนส์มีความทนทานสูง นับเป็นเลนส์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของช่างภาพที่มองหาเลนส์ที่อัดแน่นประสิทธิภาพและความคล่องตัว รองรับทุกการใช้งานระดับมืออาชีพได้อย่างสมบูรณ์แบบ

นอกจากนี้ยังถือเป็นการกลับมาอีกครั้งสำหรับ Flagship model รุ่น OM-D E-M1 ที่เพิ่มคุณสมบัติใหม่ๆ ตอบสนองการใช้งานในการถ่ายภาพแบบมืออาชีพ พร้อมทั้งเปิดตัวตัวกล้องสีเงินอย่างเป็นทางการ มีการอัพเกรดเฟิร์มแวร์เวอร์ชั่น 2.0 สำหรับกล้อง OM-D E-M1 จะช่วยเพิ่มคุณสมบัติใหม่ๆ เสริมประสิทธิภาพสูงสุดให้กับกล้อง ในส่วนของผู้ใช้ OM-D E-M1 เฟิร์มแวร์เวอร์ชั่นปัจจุบัน สามารถติดตั้งเฟิร์มแวร์ใหม่นี้ได้ด้วยตัวเองอีกด้วย

ด้านนางสาวภาธิณี เลี้ยงหิรัญกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท โอลิมปัส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงการเปิดตัว Olympus PEN Lite E-PL7 ว่า “ทางบริษัทฯ ได้ตั้งงบการตลาดไว้ 40% สำหรับใช้ในการสื่อสารทางการตลาดแบบครอบคลุมและครบวงจร เพื่อสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มผู้บริโภค และกลุ่มเป้าหมายคน รุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการเซลฟี่ ทั้งนี้กิจกรรมทางการตลาดจะรวมทั้งการสื่อสารผ่านสื่อต่างๆ และกิจกรรมที่ให้ความใส่ใจเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง อาทิ การจัดสัมมนาและการฝึกอบรม และหลังจากที่ได้เปิดตัวกล้องรุ่นนี้อย่างเป็นทางการแล้ว บริษัทฯ มั่นใจว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้เพิ่มขึ้นไปจนถึงสิ้นปีนี้อย่างแน่นอน”

สำหรับผลประกอบการของบริษัทในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้เติบเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมองว่าช่วงครึ่งปีหลังตลาดกล้องกลับมาคึกคักมากขึ้น หลังจากสัญญาณปัจจัยภายนอกเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น ประกอบกับหลายๆ บริษัทเริ่มที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับช่วงไตรมาส 4 ที่เป็นช่วงไฮซีซั่นของตลาดกล้องผู้บริโภคเริ่มมองหากล้องที่เทคโนโลยีล้ำสมัย ใช้งานง่าย เพื่อเก็บภาพที่ตนเองประทับใจเมื่อเดินทางออกไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ รวมถึงเทรนด์การเซลฟี่ที่หลายคนต้องมองหากล้องที่มีคุณภาพมาถ่ายรูปตัวเอง

“โอลิมปัส” ทุ่มงบ 150 ล้าน เปิดเกมรุกตลาดกล้องดิจิตอล ส่ง Mirrorless รุ่นใหม่ “OM-D E-M10”ลงตลาด

Olympus m.zuiko digital ed 14-150mm f4.0-5.6 ii ด ม ย

โอลิมปัสทุ่มงบกว่า 150 ล้านบาท เปิดเกมรุกตลาดกล้อง เปิดตัวกล้อง Mirrorless รุ่นใหม่ “OM-D E-M10” พร้อมชูจุดเด่นกล้อง Mirrorless ถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ อัดแน่นด้วยสุดยอดเทคโนโลยีระดับซุปเปอร์พรีเมี่ยม

มร.ชินโช อิเคดะ กรรมการและผู้จัดการแผนกผลิตภัณฑ์กล้องถ่ายภาพ บริษัท โอลิมปัส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯได้เปิดตัวสุดยอดนวัตกรรมกล้อง Mirrorless “OM-D E-M10” รุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็นกล้องที่สามารถถอดเปลี่ยนเลนส์ได้ในตระกูล OM-D ที่อัดแน่นไปด้วยสุดยอดเทคโนโลยีล้ำสมัยในขนาดกระทัดรัด น้ำหนักเบา ด้วยการผสมผสานคุณสมบัติเด่นๆจากรุ่นระดับสูงครบถ้วน อย่าง รุ่นE-M5 และ E-M1อาทิ ระบบเซ็นเซอร์ Live MOS ที่มีความละเอียดสูงถึง 16 ล้านพิกเซล หน่วยประมวลผลภาพ TruePic VII ที่ทำให้ภาพออกมาคุณภาพดีเยี่ยม มีความละเอียดสูง พร้อมด้วยโหมด high-sensitivity นอกจากนี้รูปทรงภายนอกยังโดดเด่นด้วยขนาดที่บางเป็นพิเศษ กระทัดรัด แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพการทำงานที่เป็นเลิศ ตอบสนองความรวดเร็ว และช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกความละเอียดสูง ให้ภาพถ่ายเสมือนจริง

“OM-D E-M10 นับเป็นกล้อง Mirrorless ระดับ SUPER PREMIUM SMALL ที่มีประสิทธิภาพสูงอยู่เหนือคู่แข่ง ด้วยความโดดเด่นเรื่องการออกแบบ สามารถจับภาพได้อย่างสมบูรณ์ที่สุดทุกช่วงเวลาเหนือกว่ากล้องรุ่นอื่น ๆ ที่เป็นไฮ-เอนด์ เชื่อว่าจะสามารถครองใจคนรักการถ่ายภาพได้ไม่ยาก”

พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัว “กล้องคอมแพ็ค OLYMPUS STYLUS SP-100 EE” คุณสมบัติเหนือกว่าด้วยเลนส์ super high-powered zoom (24 มม -1200 มม2) ออปติคัลซูม 50x และถือได้ว่าเป็นกล้องดิจิตอลรุ่นแรกในโลกที่มาพร้อมกับ built-in dot sight เพื่อให้การถ่ายภาพวัตถุระยะไกลเป็นไปอย่างสมบูรณ์แบบ มีประสิทธิภาพการถ่ายภาพดีเยี่ยมและตอบสนองรวดเร็ว ช่องมองภาพอิเล็คทรอนิก (EVF) ความละเอียดสูงและฟังก์ชั่นการถ่ายภาพยนตร์ 60 เฟรม แบบ Full HD และ Art Filter เพื่อเพิ่มพลังในการสร้างสรรค์ภาพ และ “กล้องดิจิตอลคอมแพ็คในซีรี่ส์ OLYMPUS STYLUS Tough TG-850” ซึ่งจะวางจำหน่ายในสิ้นเดือน มีนาคม 2557 เป็นกล้องที่มีคุณสมบัติพื้นฐานสำคัญด้านความทนทาน 4 ประการ ได้แก่ กันน้ำ/กันฝุ่น ทนต่อการกระแทก ทนต่ออุณหภูมิติดลบ และทนต่อแรงบีบอัด มาพร้อมกับเลนส์ super wide-angle ขนาด 21 มม และคุณสมบัติหลากหลาย เช่น จอ LCD ปรับเอียงได้แบบใหม่ เพื่อให้สนุกกับกิจกรรมกลางแจ้งได้อย่างเต็มที่ มีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล

ด้าน นางสาวภาธิณี เลี้ยงหิรัญกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท โอลิมปัส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯได้เตรียมงบประมาณทางการตลาดไว้กว่า 100 ล้านบาท เพื่อใช้ในการสื่อสารทางการตลาดและกิจกรรมทางการตลาดในรูปแบบบีโลว์ เดอะไลน์ (below the line) และอโบพ เดอะไลน์ (above the line) เพื่อสร้างการรับรู้ไปยังกลุ่มผู้บริโภค และกลุ่มเป้าหมายที่มุ่งเน้น รวมไปถึงกลุ่มลูกค้าที่ใช้งานกล้อง DSLR ทั่วๆ ไป รวมถึงการจัดกิจกรรมโรดโชว์ไปยังสถานที่ต่างๆ ตลอดทั้งปี โดยเชื่อว่าจะยังรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดเป็น อันดับ 1 และคาดว่าปีนี้เป้าหมายส่วนแบ่งการตลาดกล้องของบริษัทจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทมั่นใจว่า “OM-D E-M10” จะเป็นตัวขับเคลื่อนที่สร้างยอดขายกล้องในกลุ่ม Mirrorless เพิ่มขึ้น จากปีที่ผ่านมา ขณะที่ปีนี้บริษัทจะมุ่งเน้นการทำกิจกรรมทางการตลาดมากขึ้น และเตรียมที่จะทยอยออกผลิตภัณฑ์กล้องที่มีสุดยอดเทคโนโลยีใหม่อย่างต่อเนื่อง

สำหรับภาพรวมของตลาดกล้องในปีที่ผ่านมานับว่าอยู่ในสภาวะทรงตัว สืบเนื่องมาจากปัจจัยต่างๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมืองส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าทิศทางตลาดในปีนี้จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เพราะผู้บริโภคเริ่มเข้าใจสถานการณ์ต่างๆ และกำลังซื้อเริ่มกลับมา ถึงแม้ตลาดกล้องคอมแพ็คและDSLR อาจจะมีสัดส่วนที่ลดลงบ้าง แต่ตลาดกล้อง Mirrorless จะมีการเติบโตที่สูงขึ้น นับว่ามาเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดของ DSLR นั่นเอง”

ปัจจุบันโอลิมปัสอยู่อันดับ3ของตลาดกล้องทั้งหมด แต่ถัาเป็นกลุ่มกล้องมิลเลอเลสโอลิมปัส เป็นอันดับ 1 มีส่วนแบ่งการตลาด 8% และปีหน้าคาดว่าจะเพิ่มขึ้น สำหรับปีนี้โอลิมปัสจะเน้นออกกล้องมิลเลอเลสมากขึ้น หลังจากมองทิศทางตลาดว่ากล้องDSLR จะเติบโตลดลง10% เพราะกล้องจากสมาร์ทโฟนเข้ามาแทนที่ แต่คุณภาพความละเอียดกล้องจะไม่ชัดเท่า Mirrorless

โอลิมบัส เผยโฉม Olympus Stylus 1 สุดยอดกล้องดิจิตอล flagship model ในตระกูล Stylus

Olympus m.zuiko digital ed 14-150mm f4.0-5.6 ii ด ม ย

บริษัท โอลิมปัส (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำกล้องดิจิตอลรุ่นใหม่ล่าสุด “Olympus STYLUS 1” มาพร้อมกับ i.ZUIKO DIGITAL สุดยอดเลนส์ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ ขนาดกะทัดรัด ให้ภาพที่มีคุณภาพดีเยี่ยม ด้วยความยาวโฟกัสระยะ 28 – 300 มม. ซูม 10.7 เท่า (เมื่อเทียบกับกล้องฟิล์ม 35 มม.) รูรับแสงคงที่ f2.8 ให้ความสว่างแม้ในที่ที่มีแสงน้อย สว่างคมชัดในทุกๆ ระยะ โดยปกติแล้วกล้องที่มีเลนส์ซูมได้มากๆ นั้นมักจะมีปัญหาจากการถ่ายภาพในระยะไกลๆ ถ่ายภาพในที่มืดมักไม่ชัด ซึ่งปัญหาเหล่าต่างๆเหล่านั้นจะหมดไปด้วยวิวัฒนาการล่าสุดของเลนส์รุ่นนี้ที่จะช่วยแก้ปัญหาภาพเบลอได้โดยที่ไม่ลดคุณภาพของภาพ และยังสามารถถ่ายวัตถุที่มีระยะใกล้มาก ห่างจากเลนส์เพียงแค่ 5 ซม. ด้วยฟังก์ชั่น Super Macro ส่งผลให้ STYLUS 1 เป็น flagship model ของตระกูล STYLUS มีจุดเด่นด้านคุณภาพของภาพที่ดีเยี่ยมและซูมได้มาก ตัวเครื่องเพรียวบาง ขนาดกะทัดรัด แต่ยังคงอัดแน่นด้วยสเปคที่ดีเยี่ยม รวมทุกฟังก์ชั่นการทำงานทีดีที่สุดของกล้อง DSLR วางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน 2556 ในราคา 24,990 บาท

โอลิมปัส ส่ง 2 ผลิตภัณฑ์ลุยตลาดครึ่งปีหลัง รักษาผู้นำตลาดมิร์เรอร์เลส 40%

Olympus m.zuiko digital ed 14-150mm f4.0-5.6 ii ด ม ย

โอลิมปัส เปิดตัว 2 ผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ล่าสุด OLYMPUS OM-D E-M 1, OLYMPUS PEN EPL6 สุดยอดนวัตกรรม พร้อมทุ่มงบการตลาด 90 ล้านบาท ลุยตลาดครึ่งปีหลีง หวังรักษาแชมป์ตลาดกล้องมิร์เรอร์เลส 40%

Olympus m.zuiko digital ed 14-150mm f4.0-5.6 ii ด ม ย
มร.ชินโช อิเคดะ กรรมการและผู้จัดการแผนกผลิตภัณฑ์กล้องถ่ายภาพ บริษัท โอลิมปัส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ล่าสุด 2 รุ่น ได้แก่ 1.โอเอ็มดี อีเอ็ม1 (OLYMPUS OM-D E-M1 ) มาพร้อมกับ Live MOS sensor ใหม่ล่าสุด ที่มี On-chip Phase Detection AF และ TruePic VII Image Processor ใหม่ล่าสุด ซึ่งจะให้ภาพที่ดีทีสุดเท่าที่เคยมีมาของโอลิมปัสเมื่อเทียบกับบรรดาเลนส์ทั้งหมดในระบบ ZUIKO นอกจากนี้ตัวกล้องก็สามารถใช้งานร่วมกันกับเลนส์ในระบบ Micro Four Thirds ได้ดีเยี่ยมทุกรุ่น โดยมีความละเอียดสูงถึง 16.3 ล้านพิกเซล น้ำหนักเบา ขนาดกะทัดรัดพกพาสะดวก โดยมีราคาจำหน่ายเริ่มต้น 4.99 หมื่นบาท และ 2.กล้องรุ่น เพนไลท์ อีพีแอล6 (OLYMPUS PEN EPL6) ซึ่งเป็นกล้องมิร์เรอร์เลส รุ่นเล็ก ราคาเริ่มต้น 2.59 หมื่นบาท ทั้ง 2 รุ่นออกมาเพื่อเจาะกลุ่มตลาดลูกค้าโอลิมปัสเดิม และผู้ใช้คอมแพ็คที่ต้องการขยับมาเล่นกล้องคุณภาพสูงขึ้น

ทั้งนี้บริษัทฯ ได้เตรียมงบประมาณทางการทำตลาดไว้ 90 ล้านบาท เพื่อใช้สื่อสารการตลาดและสร้างการรับรู้ไปยังผู้บริโภค และจัดกิจกรรมต่อเนื่องตลอด ต้อนรับช่วงปลายปียาวไปถึงช่วงสงกรานต์ โดยเชื่อว่าจะยังรักษาส่วนแบ่งการตลาด 40% และมีเป้าหมายเพิ่มส่วนแบ่งเป็น 50% ในอนาคต เพื่อเป็นอับดับ 1 ในกล้องมิร์เรอร์เลส โดยจะใช้ Olympus OM-D E-M1 เป็นหัวหอกในการเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด และคาดหวังว่าในกลุ่ม Mirrorless 60,000 ตัว และกลุ่ม DSLR 150,000 ตัว ส่วนคอมแพ็คคาดการณ์ลำบาก ซึ่งคาดว่าสิ้นปีโดยรวมจะปิดการขายได้ประมาณ 700,000-800,000 ตัว

นางสาวภาธิณี เลี้ยงหิรัญกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาดบริษัท โอลิมปัส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับภาพรวมทางการตลาดโดยรวมครึ่งปีแรกอยู่ในสภาวะทรงตัว เนื่องจากปัจจัยหลักจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวมาอย่างต่อเนื่อง กระทบต่อการใช้จ่ายของประชาชน แต่หวังว่าครึ่งปีหลังจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เนื่องจากเข้าสู่ปลายปี ซึ่งเป็นช่วงจับจ่ายใช้สอย สร้างการเติบให้ตลาดมิร์เรอร์เลสได้

“ตลาดดีเอสแอลอาร์ ถือว่าไม่เติบโตอยู่แล้ว เพราะไม่มีเทคโนโลยีใหม่ ขณะที่ตลาดคอมแพ็คลดลงกว่า 30% เพราะโดนตีตลาดโดยสมาร์ทโฟน ส่วนตลาดมิร์เรอร์เลส ต้องบอกว่ามีการเติบโตมาตลอดเพราะผู้ใช้ดีเอสแอลอาร์ ก็ใช้ได้ หรือผู้ใช้คอมแพ็คก็ขยับขึ้นมาใช้งาน เช่นกัน ทำให้คาดว่าปีนี้จะมีจำนวนกล้องมิร์เรอร์เลสในตลาดไม่ต่ำกว่า 6 หมื่นตัว”

โอลิมปัส ได้ฤกษ์เผยโฉมกล้องมิลลอร์เลส เฟล็กชิปโมเดล PEN E-P5

Olympus m.zuiko digital ed 14-150mm f4.0-5.6 ii ด ม ย

โอลิมปัส ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดกล้องมิเลอร์เลสในประเทศไทย ด้วยผลงานมาสเตอร์พีชในซีรี่ส์ PEN ที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้ใช้กล้องในรุ่น Hi-End ด้วยฟังก์ชั่นสุดล้ำ ดีไซน์และคุณภาพระดับพรีเมี่ยม พร้อมเปิดกลยุทธ์เตรียมรุกกิจกรรมทางการตลาดทั้งปี พร้อมตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาดมากถึง 50%

มร.ชินโช อิเคดะ ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์กล้องถ่ายภาพ บริษัท โอลิมปัส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การเปิดตัว OLYMPUS PEN E-P5 ในครั้งนี้ถือเป็นความภูมิใจครั้งล่าสุดที่เราสามารถพัฒนานวัตกรรมสุดล้ำจากซีรี่ส์ PEN เพื่อรองรับความต้องการกลุ่มผู้ใช้กล้องในรุ่น Hi-End นอกจากนั้นยังเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดของกล้องมิลเลอร์เลส (Mirrorless) ที่สูงเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทยด้วยส่วนแบ่งการตลาด 35% หากเปรียบเทียบจากจำนวนหน่วยสินค้า หรือ 40% เมื่อเทียบจากมูลค่าทั้งหมด โดยในครึ่งปีหลังโอลิมปัสมีแผนการบุกตลาดในประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบพร้อมตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาดที่ 50% สำหรับปีนี้

สำหรับการเปิดตัว OLYMPUS PEN E-P5 ในประเทศไทย เรามีกลยุทธ์ในการสร้างการจดจำและตอกย้ำความพรีเมียมของสินค้าด้วยแคมเปญ “SHARE BEAUTIFULLY” ที่ต้องการสื่อสารอารมณ์ และภาพถ่าย ด้วยการเชื่อมต่อผู้คนเอาไว้ด้วยกัน โดยใช้ฟังก์ Built-in Wi-Fi ที่มีมาพร้อมในตัวกล้อง ช่วยในการแชร์ภาพถ่ายสู่ Social Network เป็นไปได้ง่ายขึ้นด้วยกล้อง PEN E-P5

อิเคดะ กล่าวถึงการวิจัยและพัฒนาของ Flagship Model ในซีรี่ส์ PEN นี้ว่า ในปี 2552 โอลิมปัสได้เปิดตัว OLYMPUS PEN E-P1 กล้องดิจิตอลเลนส์สะท้อนเดี่ยวซึ่งได้รับการยอมรับและตอบรับที่ดีมากทั้งในด้านรูปลักษณ์ที่โดดเด่น และความสะดวกในการพกพา พร้อมทั้งพลังสร้างสรรค์ผ่านภาพถ่ายที่สวยงาม โดยหลังจากนั้นโอลิมปัสจึงได้เพิ่มรุ่น OLYMPUS PEN Lite เพื่อรองรับความต้องการของผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพแบบแอคทีฟ ตามมาด้วยรุ่น OLYMPUS PEN mini ซึ่งจัดเป็นกล้อง PEN ที่เล็กที่สุดซึ่งได้นำมาสู่ระดับใหม่ของการถ่ายภาพง่ายๆ สบายๆ

ในขณะเดียวกันโอลิมปัส ก็ยังคงไม่หยุดยั้งในการพัฒนากล้องดิจิตอลเพื่อให้เป็นอุปกรณ์ที่บ่งถึง ความรู้สึกของผู้ใช้งานออกจากการใช้งานแบบเก่าด้วยกล้องแบบเลนส์สะท้อนเดี่ยวที่ “ใหญ่ หนัก และยาก” ได้อย่างชัดเจน ทำให้กล้องในเวอร์ชั่นดิจิตอลจากซีรี่ส์ OLYMPUS PEN นี้นำมาซึ่งความสุขในการถ่ายภาพและนำเสนอความรู้สึกด้วยแนวทางใหม่ ๆ โดยในปีนี้นับเป็นปีที่ห้าของ PEN Series สู่การปรับโฉมครั้งใหม่ ให้ OLYMPUS PEN E-P5 เป็น Flagship Model ในซีรีส์ PEN ที่มาพร้อมกับคุณภาพระดับพรีเมี่ยม

OLYMPUS PEN E-P5 กล้องมิลเลอร์เลส (mirrorless) ระบบ Micro Four Thirds กล้องระดับ Flagship Model ใน OLYMPUS PEN รุ่นใหม่ ที่ผสานขีดสุดของเทคโนโลยีกล้องพกพาคุณภาพระดับพรีเมี่ยมและคุณค่าอันโดดเด่นจากกล้องตระกูล PEN ที่มีเอกลักษณ์ด้านดีไซน์ ได้ลงตัวอย่างปราณีต