อาการเลือดออกผิดปกติจากช่องคลอด Show เลือดออกจากช่องคลอดอย่างไรที่เรียกว่าผิดปกติ ?
อาการเลือดออกผิดปกติจากช่องคลอดมีสาเหตุจากอะไร ?
โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ป่วยมักมีปัญหาจากการตกเลือดที่มีสาเหตุมาจากภายในโพรงมดลูกมากกว่านอกโพรงมดลูก และมีสาเหตุจากโรคทางกายอื่นๆ ที่มีผลกระทบต่อการมีเลือดออกผิดปกติได้ เช่น โรคเลือด โรคตับ โรคไต โรคต่อมธัยรอยด์ เป็นต้น ซึ่งแพทย์ผู้ดูแลจะเป็นผู้ที่ให้คำปรึกษาและแนะนำการตรวจต่างๆ ที่เหมาะสมให้แต่ละท่าน เมื่อสงสัยว่ามีอาการเลือดออกผิดปกติจากช่องคลอด ควรปฏิบัติตัวอย่างไร ?
นอกจากนี้ แพทย์อาจแนะนำการตรวจเพิ่มเติมอื่นๆ เช่น การตรวจเลือดเพื่อหาระดับฮอร์โมน การตรวจอัลตร้าซาวน์ การขูดมดลูกเพื่อ นำชิ้นเนื้อในโพรงมดลูกมาตรวจ หรือการส่องกล้องตรวจภายในโพรงมดลูกหรือภายในช่องท้อง เป็นต้น อาการเลือดออกผิดปกติจากช่องคลอดรักษาอย่างไร ?
หากมีภาวะเลือดออกจากช่องคลอดที่ไม่เข้ากับลักษณะประจำเดือน ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและทำการรักษา เพื่อความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น “เริ่มต้นสวย ชีวิตก็ไปได้สวยจริงไหม?” เพราะจุดเริ่มต้นที่สำคัญของผู้หญิง คือ การก้าวเข้าสู่วัยเริ่มสาว ซึ่งเป็นช่วงวัยที่พบการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สรีระ ฮอร์โมน ไปจนถึงด้านอารมณ์ สาวๆ หลายคน อาจรู้สึกกังวลกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้และมีจำนวนไม่น้อย ที่พบปัญหาเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์ในเพศหญิงอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันพบมากขึ้นในวัยเริ่มสาว ที่เป็นเช่นนี้เพราะเกิดจากปัจจัยหลายอย่าง ได้แก่
ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใดก็แล้วแต่ หากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี ปล่อยทิ้งไว้นานๆ อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพในระบบสืบพันธุ์ของสาวๆ ซ้ำร้ายอาจส่งผลต่อการมีบุตรยากตามมาอีกด้วย ประจำเดือนมาไม่ปกติอีกเรื่องที่สาวๆ ห้ามละเลย ถ้าไม่อยากมีบุตรยาก “เป็นเรื่องใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม” กับปัญหาสุดคลาสสิคของผู้หญิงวัยเริ่มสาว ที่ส่วนใหญ่ต้องเคยผ่านประสบการณ์ “ประจำเดือนมาไม่ปกติ” แล้วทั้งนั้น แน่นอนว่าต่างคนก็ต่างอาการ แต่แบบไหนกันที่อาจส่งผลต่อการมีบุตรยากโดยไม่รู้ตัว วิธีสังเกตุอาการประจำเดือนมาไม่ปกติที่ส่งผลต่อการมีบุตรยาก 1. ความถี่ของการมีประจำเดือน ทั้งนี้ปกติธรรมชาติของผู้หญิง จะเกิดการตกไข่เพื่อแสดงความพร้อมในการตั้งครรภ์ ประมาณ 80% ของการมีประจำเดือน นั่นหมายความว่าการมีประจำเดือน 10 ครั้ง จะพบไข่ตกเพียง 8 ครั้งเท่านั้น ฉะนั้นหากจะมาวัดกันเรื่องความถี่ของการมีประจำเดือนคงต้องระวังกันให้ดี ยิ่งใครอยากมีลูกแล้วละก็ยิ่งต้องระวังกันไปใหญ่ โดยอีกปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้เกิดความผิดปกติ คือ ความเครียด ที่ส่งผลต่อการตกไข่ ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติเสี่ยงต่อการมีบุตรยากได้เช่นกัน 2. ปริมาณและระยะเวลาของเลือดประจำเดือนที่ออก 3. อาการปวดประจำเดือน
จากสถิติพบว่าการปวดประจำเดือนพบได้ถึง 50% ในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ ส่วนใหญ่จะปวดท้องส่วนล่าง กระจายไปบริเวณหลังหรือต้นขา มักจะปวดในวันแรกของการมีประจำเดือน เมื่ออายุมากขึ้นอาการจะลดลง แต่ถ้าอายุมากแล้วยังมีอาการปวดมากขึ้น อาจบ่งบอกได้ว่ามีความผิดปกติบางอย่างซ่อนอยู่ โดยสังเกตได้จากอาการปวดท้องน้อยเกือบทุกครั้ง รู้สึกปวดหน่วงๆ ลงช่องคลอดหรือทวารหนัก ปวดทั้งก่อนและหลัง หรือระหว่างมีประจำเดือน ซึ่งมักจะมีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หากปล่อยทิ้งไว้อาจเป็นสาเหตุของการมีบุตรยาก ได้แก่ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่บริเวณรังไข่ หรือช็อคโกแลตซีสอีกด้วย” “ดูแลตัวเองเบื้องต้นให้ประจำเดือนมาปกติลดความเสี่ยงภาวะมีบุตรยาก” สำหรับผู้หญิงวัยเริ่มสาว สามารถดูแลตัวเองง่ายๆ เริ่มต้นที่เปลี่ยนการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งจะช่วยทำให้ระบบการผลิตฮอร์โมนเข้าสู่ภาวะปกติได้เร็วขึ้น มีประจำเดือนสม่ำเสมอมากขึ้น เช่น
การสังเกตความผิดปกติของประจำเดือนที่เกิดขึ้น จะช่วยประเมินได้ว่ามีแนวโน้ม มีบุตรยาก หรือไม่ หากพบอาการหรือกังวลสาวๆ ควรรีบปรึกษาแพทย์ เพื่อเข้ารับการวินิจฉัยและรักษาภาวะผู้มีบุตรยากต่อไป เพราะ “การดูแลตัวเองเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย” โดยเฉพาะอนาคตหากต้องแต่งงานมีครอบครัว การเตรียมตัวเพื่อลดความเสี่ยงมีบุตรยากจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
อีกเรื่องที่ทำให้สาวๆ กังวลใจในลำดับต้นๆ คงหนีไม่พ้น “อาการตกขาว” ซึ่งเป็นภาวะที่พบบ่อยและสามารถเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงทุกคน สำหรับผู้หญิงเข้าสู่วัยเริ่มสาว หลายคนสงสัยว่าอาการตกขาวเกิดจากอะไร ตกขาวผิดปกติคือแบบไหน เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าร่างกายหรือระบบสืบพันธุ์มีปัญหาหรือไม่ ถ้าแต่งงานมีครอบครัวจะส่งผลต่อการมีบุตรยากหรือเปล่า แน่นอนว่าต้องมีคำถามเกิดขึ้นมากมาย แต่ขั้นแรกควรรู้ก่อนว่าอาการตกขาวมีแบบไหนบ้าง? 1. ตกขาวแบบปกติ รู้ไว้ ไร้กังวล “ตกขาว” เป็นของเหลวที่ถูกผลิตโดยต่อมภายในช่องคลอด จะมีลักษณะใสไม่มีสี หรือเป็นสีขาวไม่มีกลิ่นเหม็น ปริมาณไม่มากและไม่ทำให้เกิดอาการคัน เพื่อนำพาเซลล์ที่ตายแล้วและแบคทีเรียในช่องคลอดออกมา เสมือนการทำความสะอาดและป้องกันการติดเชื้อในระบบสืบพันธุ์ ผู้หญิงทุกคนเป็นได้และไม่เป็นอันตราย 2. ตกขาวผิดปกติแบบนี้ อย่านิ่งนอนใจ
3. ป้องกันเบื้องต้นก่อนเป็น “ตกขาว” ได้ดังนี้
สำหรับสาวๆ ที่เกิดอาการ “ตกขาวไม่ปกติ” ต้องให้แพทย์ตรวจภายในหาสาเหตุว่าติดจากเชื้ออะไร เพื่อที่จะได้รักษาตรงตามอาการ หากไม่มั่นใจไม่ควรรักษาเอง เพราะอาจทำให้ ระคายเคือง และติดเชื้อมากกว่าเดิม หากไม่รีบทำการรักษา อาจทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์ในเพศหญิง ส่งผลต่อการเกิดอาการมีบุตรยากตามมาในไม่ช้า
พอเริ่มก้าวสู่วัยเริ่มสาวปฏิกิริยาตามธรรมชาติของร่างกาย ก็เริ่มส่งสัญญาณต่างๆ ออกมาให้เห็น เช่น
“อาการปัสสาวะมีเลือด” ที่เกิดขึ้นกับสาวคนไหน ก็คงตกใจไม่น้อย อาการแบบนี้ บ่งบอกว่าระบบสืบพันธุ์กำลังมีปัญหารึเปล่านะ? ปกติแล้วปัสสาวะจะมีสีใส สีเหลืองอ่อน หรืออาจมีสีเหลืองเข้ม ขึ้นอยู่กับว่าดื่มน้ำมากน้อยแค่ไหน หากเมื่อใดที่ปัสสาวะของเรามีสีผิดปกติ เช่น สีออกแดง นี่อาจเป็นอาการปัสสาวะเป็นเลือด Hematuria (Blood in the Urine) คือ มีเลือดออกมาพร้อมกับปัสสาวะ ซึ่งสามารถสื่อถึงโรคอันตรายต่างๆ อาจเป็นผลทั้งทางตรงและทางอ้อม นำมาซึ่งภาวะมีบุตรยากได้ด้วยเช่นกัน ปัสสาวะเป็นเลือดสามารถพบได้หลายลักษณะ หลายสี สามารถแสดงถึงบริเวณที่เกิดได้ด้วย
ผลจากการปัสสาวะเป็นเลือดบ่งบอกสาเหตุของโรคอะไรได้บ้าง?
การป้องกันปัสสาวะเป็นเลือดโดยปกติแล้ว ไม่สามารถป้องกันได้โดยตรง แต่มีวิธีช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคที่เป็นสาเหตุได้ ดังนี้
อย่างไรก็ตามหากปัสสาวะเป็นเลือด หรือกังวลควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาสาเหตุและการรักษาที่ถูกวิธีต่อไป สำหรับการปัสสาวะเป็นเลือดที่นำไปสู่ภาวะมีบุตรยากนั้นยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจน ส่วนใหญ่พบว่าอาจเป็นผลข้างเคียงจากโรคไต ส่งผลให้เข้าสู่ภาวะมีบุตรยาก เพราะโดยทั่วไปหากไตเสื่อม รังไข่อาจจะไม่ทำงาน ทำให้ไม่มีประจำเดือน หรือประจำเดือนมาไม่ปกติ ยากแก่การตั้งครรภ์ และมีบุตรยากเป็นต้น มีอะไรกันแล้วเลือดออก เจ็บท้องการมีเลือดออก หลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ อาจเกิดจาก 1.การมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง อาจมีผลทำให้เยื่อบุช่องคลอดเกิดการฉีกขาดเล็กน้อยได้ แต่เลือดที่ออกมักมีปริมาณไม่มาก ไหลแบบซึมๆ และจะค่อยๆ หยุดไหลได้เองภายในไม่กี่วัน และไม่น่าจะมีอาการปวดท้องร่วมด้วย
คนท้องอ่อน มีเลือดออกไหมโดยทั่วไป สตรีมีครรภ์ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ มักพบเลือดออกเล็กน้อยในช่วงไตรมาสแรกประมาณ 1-2 สัปดาห์ แต่หากมีเลือดออกในช่วงไตรมาสที่สองและสามจะถือว่าเป็นเรื่องฉุกเฉินและอาจเป็นอันตรายต่อตัวคุณแม่และลูกน้อยได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีเลือดออกในปริมาณมาก จึงควรไปพบสูตินรีแพทย์โดยเร็วที่สุด
เลือดออกขณะตั้งครรภ์อันตรายไหมหากมีเลือดออกขณะตั้งครรภ์ คุณจำเป็นจะต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ คุณมีโอกาสที่จะคลอดก่อนกำหนด หรือบุตรมีน้ำหนักน้อย หรือแท้งบุตรได้ การแท้งบุตร การแท้งบุตร หมายถึง การสิ้นสุดการตั้งครรภ์ก่อนที่ทารกจะสามารถมีชีวิตรอดได้ ก่อนอายุครรภ์ 28 สัปดาห์
เลือดออกขณะตั้งครรภ์แบบไหนอันตรายเลือดออกเป็นสีแดงสด หนึ่งในสัญญาณเตือนที่ค่อนข้างอันตราย เพราะหากเป็นเลือดสีดำคล้ำ ก็อาจเป็นเลือดเก่าที่คั่งค้างอยู่หลุดออกมา แต่พอเป็นเลือดสีแดงสดอาจแปลว่าด้านในมดลูกเกิดความผิดปกติบางอย่าง เช่น การฝังตัวของตัวอ่อนยังไม่แข็งแรงเพียงพออันอาจนำมาซึ่งภาวะแท้งคุกคามได้
|