ความสำคัญของการทานอาหารให้เหมาะสมกับวัย หลัก ๆ คือ การได้รับสารอาหารเพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงาน แต่ความแตกต่างคือ ในแต่ละช่วงวัยนั้นมีความต้องการพลังงานที่แตกต่างกัน รวมถึงสารอาหาร เช่น โปรตีน และแคลเซียม เช่นกัน ที่ควรได้รับอย่างเหมาะสม ดังนั้น การรู้และเข้าใจในการเลือกทานอาหาร จะทำให้สุขภาพแข็งแรงโดยมีคำแนะนำดังนี้ Show วัยเด็ก (อายุ 1-8 ปี) มีความต้องการพลังงานต่อวันน้อยกว่าวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ และเป็นวัยที่ควรได้รับสารอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ คือ โปรตีนจากเนื้อสัตว์ ไข่และนม คาร์โบไฮเดรตจากข้าวและแป้ง วิตามินและเกลือแร่จากผักและผลไม้ รวมทั้งไขมันจากน้ำมัน หากได้รับสารอาหารไม่ครบอาจส่งผลต่อการเจริญเติบโตไม่เต็มที่ โดยแหล่งโปรตีนที่สำคัญของวัยเด็กคือ การดื่มนม ซึ่งจะทำให้เด็กได้รับทั้งโปรตีน ไขมัน และแคลเซียมที่ช่วยเสริมสร้างกระดูก ในขณะเดียวกัน ควรหลีกเลี่ยงอาหาร Fast Food และ Junk Food รวมทั้งขนมกรุบกรอบ เพราะส่วนมากอาหารประเภทนี้จะมีทั้งความหวาน ความเค็มและความมัน ซึ่งอาจทำให้เด็กเกิดภาวะอ้วนและมีความเคยชินกับอาหารรสชาติจัด เมื่อโตขึ้นจะยิ่งทำให้ทานอาหารที่มีรสชาติหวานและเค็มมากขึ้น
วัยรุ่น (อายุ 9-18 ปี) เป็นวัยที่มีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วและมีกิจกรรมเยอะ จึงต้องการอาหารพลังงานสูง และควรได้รับสารอาหารครบ 5 หมู่ โดยเฉพาะโปรตีนซึ่งพบมากในไข่ นม เนื้อสัตว์ ปลา ในส่วนของคาร์โบไฮเดรตควรทานข้าวกล้องเพราะมีใยอาหาร ที่ทำให้ระบบการย่อยช้าลง ส่งผลให้น้ำตาลค่อย ๆ เข้าสู่กระแสเลือด และไม่หิวบ่อย นอกจากนี้ควรทานผักและผลไม้ควบคู่ไปด้วย โดยอัตราส่วนที่แนะนำในปริมาณ 1 จานอาหาร คือ ผัก/ผลไม้ 2 ส่วน โปรตีนและคาร์โบไฮเดรตอย่างละ 1 ส่วน ร่วมกับการดื่มนมเป็นประจำ วัยผู้ใหญ่ (อายุ 19-60 ปี) ยังต้องการพลังงานอยู่แต่อาจจะไม่เท่าวัยรุ่น และร่างกายเริ่มเผาผลาญได้น้อยลง สิ่งที่ควรระมัดระวังคือเรื่องไขมันและคอเลสเตอรอล ที่อาจก่อให้เกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ดังนั้น วัยนี้ควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารประเภททอดเพราะมีไขมันสูงและให้พลังงานสูง ควรเลือกบริโภคเนื้อหมูที่ไม่ติดมันเลย หลีกเลี่ยงการทานหนังไก่ ส่วนไข่อาจเลือกทานด้วยวิธีการปรุงสุกด้วยการต้มแทนการทอด และเน้นเลือกทานผักผลไม้ให้มากขึ้นเพื่อลดโอกาสการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ วัยสูงอายุ (อายุมากกว่า 60 ปี) ระบบเผาผลาญลดลง ร่างกายเริ่มเสื่อมถอย ควรเลือกทานอาหารที่ย่อยง่าย เน้นอาหารที่มีใยอาหารสูง เช่น ผักและผลไม้ ธัญพืชต่าง ๆ นอกจากนี้ อาจเลือกทานปลาที่เป็นแหล่งโปรตีนที่มีโอเมก้า-3 ซึ่งเป็นไขมันชั้นดี หรือถั่วเมล็ดแห้ง สิ่งสำคัญในวัยนี้คือมีความเสี่ยงเรื่องกระดูกพรุน ปริมาณแคลเซียมที่แนะนำคือ 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน ดังนั้น ผู้สูงอายุสามารถดื่มนมพร่องมันเนยหรือนมถั่วเหลืองเพื่อให้ได้รับแคลเซียมอยู่เสมอ ควบคู่กับการออกกำลังกายเบา ๆ ทุกวัน นอกจากนี้ สิ่งที่ทุกวัยสามารถทานได้ และช่วยให้สุขภาพแข็งแรง ลำไส้ใหญ่มีสุขภาพดี คือผลิตภัณฑ์ที่มีจุลินทรีย์ประเภท Probiotic เช่น โยเกิร์ต กิมจิ และซุปมิโส ซึ่งช่วยให้มีการดูดซึมแคลเซียมกลับไปในร่างกายได้ แต่ต้องระวังในเรื่องของปริมาณน้ำตาลและโซเดียม ซึ่งทุกคนควรสามารถสังเกตได้ที่ฉลากก่อนเลือกทาน การเจริญเติบโตของลูกถือเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับพ่อแม่ที่จะต้องดูแลอย่างพิถีพิถัน ไม่ว่าจะเป็นพัฒนาการและเรียนรู้ การออกกำลังกาย รวมถึงเรื่องที่สำคัญที่สุดคือการจัดเตรียมอาหารและโภชนาการวัยเรียนและปลูกฝังพฤติกรรมการกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ ไม่เลือกกิน เพื่อให้ลูกสามารถเติบโตสมวัย พร้อมต่อการเรียนรู้ที่จะนำไปสู่การสร้างพื้นฐานที่ดีซึ่งจะส่งผลต่อไปได้ในอนาคต อาหารและโภชนาการ สำหรับเด็กวัยเรียนเด็กวัยเรียนหรือเด็กในช่วงอายุ 7 – 15 ปี จะมีการเจริญเติบโตทางร่างกาย การเรียนรู้ และจิตใจ ซึ่งถือเป็นพื้นฐานสำคัญในอนาคต ดังนั้น อาหารและโภชนาการวัยเรียนเป็นสิ่งที่สำคัญที่คุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องดูแล โดยปลูกฝังให้เด็ก ๆ เลือกกินอาหารที่เหมาะสมกับวัยเรียนให้ครบ 5 หมู่ เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่มีความสำคัญต่อเด็กในวัยเรียน อย่างเช่น
ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกอาหารและโภชนาการวัยเรียนให้ได้สัดส่วนตามธงโภชนาการ เหมาะสมครบ 5 กลุ่มอาหาร ได้แก่ กลุ่มข้าว – แป้ง กลุ่มผัก กลุ่มผลไม้ กลุ่มเนื้อสัตว์ และกลุ่มนม โดยมีปริมาณที่เด็กวัยเรียนควรได้รับต่อ 1 วัน ดังนี้
รวมเคล็ดลับจัดอาหารให้เหมาะสมกับเด็กวัยเรียน1. ห้ามงดมื้อเช้า 2. กินมื้ออาหารหลักให้ถูกสัดส่วน
3. เพิ่มมื้อว่างระหว่างวัน 4. เพิ่มวิตามินและแร่ธาตุให้เติบโตสมวัย
ตัวอย่างมื้ออาหารวัยเรียนใน 1 วันแบบง่าย ๆ สำหรับเด็กที่ยังได้สารอาหารครบถ้วน
หากคุณพ่อคุณแม่คอยให้ความดูแลเอาใจใส่และปลูกฝังเรื่องอาหารและโภชนาการวัยเรียนที่เหมาะสมให้กับเด็ก ๆ ก็จะช่วยส่งเสริมพฤติกรรมการกินที่ดีในอนาคตได้ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกอาหารที่เหมาะสมกับวัยเรียน มีประโยชน์ และกินอาหารในปริมาณที่พอดีได้ เพื่อที่ให้เด็กในวัยเรียนสามารถเลือกกินอาหารที่เหมาะสมได้ด้วยตนเอง พิเศษ! หากคุณพ่อคุณแม่กำลังหาไอเดียเมนูอาหารวัยเรียน สามารถดาวน์โหลด E-Book ได้ฟรี! เมนูหนูช่วยทำ คลิก รวมสูตรอาหารพร้อมวิธีทำที่สามารถชวนเด็ก ๆ มาเข้าครัวมาทำอาหารไปด้วยกันทั้งครอบครัว เพราะเหตุใดจึงต้องเลือกบริโภคอาหารให้เหมาะสมกับวัยความสำคัญของการทานอาหารให้เหมาะสมกับวัย หลัก ๆ คือ การได้รับสารอาหารเพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงาน แต่ความแตกต่างคือ ในแต่ละช่วงวัยนั้นมีความต้องการพลังงานที่แตกต่างกัน รวมถึงสารอาหาร เช่น โปรตีน และแคลเซียม เช่นกัน ที่ควรได้รับอย่างเหมาะสม ดังนั้น การรู้และเข้าใจในการเลือกทานอาหาร จะทำให้สุขภาพแข็งแรงโดยมีคำแนะนำดังนี้
การกินอาหารที่เหมาะสมกับวัยคืออะไร1. ให้บริโภคอาหารหลายชนิด เนื่องจากไม่มีอาหารชนิดใดชนิดหนึ่ง ที่ให้คุณค่าทางโภชนาการได้ครบถ้วน 2. บริโภคอาหารในปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อให้น้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ที่ต้องการ 3. หลีกเลี่ยงการรับประทานที่มีไขมันมากเกินไป 4. บริโภคอาหารที่มีปริมาณของแป้ง และกากใยให้เพียงพอ
เพราะเหตุใด นักเรียนจึงต้องเลือกรับประทานอาหารให้เหมาะสมกับวัยของตนเองเพราะช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตเต็มที่ เพราะช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย เพราะให้พลังงานมาก เพราะช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตเต็มที่และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย
วัยผู้ใหญ่ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารจำพวกใด1. ยังคงต้องการแคลเซียมสูงประมาณ 1200-1500มิลิกรัม 2.หลีกเลี่ยงอาหารที่ให้พลังงานสูงและไขมันสูงงดอาหารประเภทของทอด 3. ไม่ควรรับประทานอาหารที่มีรสเค็มจัด เพราะจะทำให้โซเดียมสูง ส่งผลให้ความดันสูงและอาจเกิดโรคไตได้ 4.รับประทานอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลให้น้อยลงเพราะอาจส่งผลให้เกิดโรคอ้วนและนำไปสู่การเกิดโรคเบาหวานได้
|