ชื่อ นามสกุล……………………………………………………………..…..……………….……………….. ……………………...……………………..…………….........................……..……………………………………….. ชนั้ ม. 6/ เลขที่ เลขประจาตวั โทร.…........…… ครูผู้สอน ………………………………………..……………….………………...............................................................…………………...………………………….........................……..……………………………………….. บทท่ี 3 : การวิเคราะหแ์ ละนาเสนอขอ้ มูลเชิงปรมิ าณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 1 สาระการเรียนรแู้ ละตัวชว้ี ัด รายวิชาคณติ ศาสตร์ 5 (รหสั วิชา ค33101) ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 6 บทที่ 3 การวิเคราะหแ์ ละนาเสนอข้อมูลเชงิ ปริมาณ สาระการเรียนรู้ : ตัวช้ีวัด : ตัดสินใจ ความรู้พื้นฐานของนกั เรียน (ท่ีตอ้ งเรียนมาแลว้ ) จุดมงุ่ หมาย : นักเรียนสามารถ จุด แผนภาพลาต้นและใบ แผนภาพกล่อง และแผนภาพการกระจาย) พร้อมทั้งสามารถสรุปผลท่ีได้จากการ 2. หาค่ากลางของขอ้ มูล (ค่าเฉลี่ยเลขคณติ มัธยฐานและฐานนิยม) พร้อมท้ังเลือกใช้ค่ากลางของข้อมูลที่ บทที่ 3 : การวเิ คราะหแ์ ละนาเสนอขอ้ มูลเชิงปรมิ าณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 2 บทท่ี 3 การวิเคราะหแ์ ละนาเสนอข้อมูลเชงิ ปริมาณ สาระการเรียนรู้ : จุดมุง่ หมาย : แผนภาพลาตน้ และใบ แผนภาพกลอ่ ง และแผนภาพการกระจาย) พร้อมทง้ั สามารถสรุปผลทไ่ี ด้จากการน า เ ส น อ ข้ อ มู ล 2. หาค่ากลางของข้อมูล (ค่าเฉลี่ยเลขคณิต มัธยฐาน และฐานนิยม) พร้อมท้ังเลือกใช้ค่ากลางของข้อมูลที่ 4. หาค่าวัดตาแหน่งท่ีของข้อมูล (ควอร์ไทล์และเปอร์เซ็นไทล์) พร้อมทั้งใช้ค่าวัดตาแหน่งที่ของข้อมูลในการ บทนา : การวเิ คราะหแ์ ละนาเสนอข้อมลู เชิงปริมาณ ข้อมูลเชิงปริมาณ ( ) เป็นข้อมูลที่พบได้มากในการดาเนินธรุ กิจ การวิเคราะห์และนาเสนอ บทที่ 3 : การวเิ คราะหแ์ ละนาเสนอขอ้ มูลเชงิ ปริมาณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 3 3.1 การวิเคราะห์และนาเสนอข้อมูลเชิงปรมิ าณด้วยตารางความถี่ ในบทเรียนท่ีผ่านนักเรียนได้ศึกษาเก่ียวกับการแจกแจงความถ่ีของข้อมูลเชิงคุณภาพมาแล้ว สาหรับในบทน้ี ตัวเลขหรือปริมาณที่สามารถนาไปบวก ลบ คูณ หรือหาร และเปรียบเทียบกันได้อย่างมีความหมาย ข้อมูลเชิงปริมาณ 1. ตารางความถีแ่ บบไมไ่ ดแ้ บง่ ข้อมูลเป็นช่วง ซง่ึ เหมาะสมสาหรับใชใ้ นกรณที คี่ า่ ท่เี ปน็ ไปได้ของข้อมลู มจี านวนน้อย ตวั อยา่ งของตารางความถ่แี บบไม่ไดแ้ บ่งขอ้ มลู เปน็ ช่วง เชน่ ในการสอบย่อยวชิ าคณิตศาสตรซ์ ึง่ มคี ะแนนเตม็ 10 คะแนน 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 ในกรณีที่ค่าของคะแนนที่เป็นไปได้มีจานวนมาก เช่น ในการสอบวิชาคณิตศาสตร์ซ่ึงมีคะแนนเต็ม 100 คะแนน ในหวั ข้อน้จี ะกลา่ วถงึ เฉพาะตารางความถี่ของข้อมลู เชิงปริมาณสาหรบั ข้อมลู ทมี่ ีการแบง่ เป็นอนั ตรภาคช้นั ขน้ั ตอนการเขียนตารางความถ่ขี องข้อมลู เชงิ ปริมาณทมี่ ขี อ้ มลู ทงั้ หมดเป็นจานวนเต็ม 1. กาหนดจานวนอนั ตรภาคชน้ั เป็น k ชน้ั 2. กาหนดค่าเรมิ่ ตน้ และค่าสุดทา้ ยที่ครอบคลมุ ทกุ ค่าของข้อมูล โดยท่คี า่ เรมิ่ ต้น คือ คา่ ตา่ สดุ หรอื ค่าทน่ี อ้ ยกว่า คา่ ตา่ สุดของขอ้ มูล และค่าสดุ ท้าย คอื คา่ สงู สดุ หรอื คา่ ทมี่ ากกว่าคา่ สูงสุดของขอ้ มลู 3. คานวณความกว้างของอันตรภาคชัน้ โดยหาไดจ้ าก ความกว้างของอนั ตรภาคชน้ั (I) = ค่าสดุ ท้าย − ค่าเร่ิมตน้ 4. กาหนดอนั ตรภาคช้ันโดยท่ี 4.1 ชนั้ แรกมคี ่าเร่มิ ตน้ ท่กี าหนดในข้อ 2 ถึงจานวนทไี่ ด้จากการนาคา่ เร่ิมต้นท่กี าหนดในขอ้ 2 บวกกับ ความกว้างของอันตรภาคช้ันลบด้วย 1 4.2 ชั้นทสี่ องมีคา่ เร่มิ ต้นเปน็ ค่าสุดทา้ ยของชน้ั แรกบวกด้วย 1 ถึงคา่ เร่มิ ต้นของชนั้ ทสี่ องบวกกบั ความกวา้ งของอนั ตรภาคชน้ั ลบดว้ ย 1 4.3 ทาเชน่ นไี้ ปเร่ือยๆจนถงึ ชน้ั ท่ี k (ในกรณที ่ี คา่ สดุ ทา้ ย − ค่าเรม่ิ ตน้ เปน็ จานวนเตม็ คา่ สุดทา้ ย 5. หาจานวนขอ้ มูลทงั้ หมดท่อี ยใู่ นแต่ละอนั ตรภาคช้นั โดยทารอยขีดแทนจานวนไว้ในแต่ละอนั ตรภาคชั้น โดยปกติ มกั ใชร้ อยขดี | แทนหน่ึงคา่ และเพือ่ ความสะดวกในการนับจานวนข้อมูลทอี่ ยู่ในแตล่ ะอนั ตรภาคชัน้ เมือ่ ถงึ ทกุ ๆขอ้ มูลท่ีหา้ มกั นิยมทารอยขดี แนวเฉียงหรือแนวนอนทบั รอยขดี ทั้งสก่ี ่อนหน้านนั้ ดงั น้ี |||| หรือ |||| 6. นบั จานวนขอ้ มูลจากรอยขีดทท่ี าในขอ้ 5 แล้วบนั ทกึ จานวนขอ้ มลู ลงในช่องความถ่ขี องแต่ละอันตรภาคชนั้ บทท่ี 3 : การวิเคราะหแ์ ละนาเสนอข้อมลู เชงิ ปริมาณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 4 ตัวอย่างที่ 1 คะแนนสอบวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 6 ห้องหน่ึง จานวน 30 คน โดยคะแนนเป็น 85 112 112 123 109 85 87 123 111 112 จงเขียนตารางความถีข่ องขอ้ มลู ชดุ นี้ วธิ ีทา เขยี นตารางความถีด่ ังนี้ 1. กาหนดจานวนอันตรภาคชน้ั ทั้งหมด 5 ชน้ั 2. กาหนดคา่ เริม่ ตน้ เท่ากับคะแนนตา่ สุด ซง่ึ คือ คะแนน.............................................. และค่าสุดท้ายเทา่ กบั คะแนนสูงสดุ ซ่ึงคือ คะแนน.............................................. 3. คานวณความกวา้ งของอนั ตรภาคช้ัน ไดด้ ังนี้ ความกวา้ งของอนั ตรภาคชั้น (I) = คา่ สดุ ท้าย − คา่ เริม่ ต้น = . .− . . = .............................................. 4. กาหนดอนั ตรภาคชน้ั ไดด้ ังน้ี อนั ตรภาคชั้น ค่าเร่ิมต้น คา่ สุดทา้ ย = คา่ เร่ิมตน้ + ความกว้างของอนั ตรภาคชนั้ - 1 ชั้นท่ี 1 85 ชัน้ ที่ 2 ชัน้ ท่ี 3 ชนั้ ท่ี 4 ชน้ั ที่ 5 5. หาจานวนขอ้ มูลท้งั หมดทอ่ี ยใู่ นแต่ละอันตรภาคชน้ั โดยทารอยขีด (tally) ไดด้ งั นี้ อันตรภาคชน้ั รอยขีด (tally) 85 - 93 6. นบั จานวนข้อมูลจากรอยขดี ทท่ี าในขอ้ 5 จะไดต้ ารางความถ่ี ดังน้ี อันตรภาคชั้น รอยขดี (tally) ความถี่ (frequency : f) 85 - 93 94 - 102 103 - 111 112 - 120 121 - 129 บทท่ี 3 : การวเิ คราะหแ์ ละนาเสนอขอ้ มูลเชิงปรมิ าณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 5 7. จากตารางความถ่ีในตวั อยา่ งท่ี 1 สามารถหาความถส่ี ะสมในแต่ละอนั ตรภาคชน้ั ซ่ึงกค็ ือ ผลรวมของความถ่ีของ อันตรภาคชั้น รอยขดี (tally) ความถี่ (frequency : f) ความถ่ีสะสม (F) 85 - 93 8. สามารถหาความถ่ีสัมพัทธ์และความถ่ีสะสมสัมพัทธ์ในแต่ละอันตรภาคช้ัน ซึ่งความถี่สะสมสัมพัทธ์ในแต่ละ อันตรภาคชั้น ความถี่ ความถ่สี ะสม ความถส่ี มั พัทธ์ ความถี่สะสมสัมพัทธ์ 85 – 93 94 – 102 103 – 111 112 – 120 121 – 129 รวม จากตารางอาจสรุปได้วา่ นักเรยี นท่ไี ด้คะแนน หมายเหตุ : จากตารางความถี่ ถ้าต้องการหาความกว้างของแตล่ ะอนั ตรภาคชน้ั สามารถหาได้จากค่าสดุ ทา้ ย บทที่ 3 : การวเิ คราะหแ์ ละนาเสนอขอ้ มูลเชงิ ปรมิ าณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 6 ∎ ในการกาหนดจานวนอนั ตรภาคชน้ั ความกว้างของอนั ตรภาคชัน้ มีขอ้ สังเกต ดังนี้ ในขณะท่ีคนอื่นๆได้มากกว่าหรือเท่ากบั 40 คะแนน ควรกาหนดอันตรภาคช้ันแรกเปน็ อนั ตรภาคชั้นเปดิ (open-ended อนั ตรภาคชั้น (คะแนน) ความถี่ ( f ) น้อยกว่า 40 1 40 – 49 2 60 – 69 20 80 – 89 8 2. ความกวา้ งของแตล่ ะอันตรภาคช้นั ไมจ่ าเป็นตอ้ งเทา่ กันทั้งหมด ท้งั น้ี ข้นึ อยกู่ บั วตั ถุประสงค์ของการใช้ข้อมูล และอาจขึ้นอยู่กับความแตกต่างระหว่างข้อมูลชดุ นน้ั เช่น โรงภาพยนตร์แห่งหน่ึงต้องการวิเคราะห์พฤติกรรมของการชม ภาพยนตร์ของผู้ใช้บริการแต่ละกลุ่มอายุ เพื่อวางแผนการตลาดให้สอดคล้องกับผู้ใช้บริการแต่ละกลุ่ม จึงเขียนแสดงผล สารวจจานวนผู้ใช้บรกิ าร จาแนกตามอายุ ดงั นี้ อายุ (ปี ) จานวนผู้ใชบ้ ริการ ( คน ) นอ้ ยกวา่ 12 50 12 – 17 650 มากกว่า 60 110 ในกรณีท่ขี ้อมลู ไมเ่ ป็นจานวนเตม็ การกาหนดอนั ตรภาคชนั้ อาจกาหนดให้อยใู่ นรูปชว่ ง ดังแสดงในตัวอย่างต่อไปน้ี จานวนชั่วโมงเฉล่ียของการทางานตอ่ คนตอ่ สปั ดาห์ในแต่ละโรงงาน เขต ก ชั่วโมง เขต ข ชว่ั โมง เขต ค ชวั่ โมง คนงานเขต ก1 35.0 คนงานเขต ข1 40.0 คนงานเขต ค1 43.0 บทท่ี 3 : การวเิ คราะหแ์ ละนาเสนอขอ้ มลู เชิงปรมิ าณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 7 จงเขียนตารางความถข่ี องข้อมลู ชุดนี้ 1. กาหนดจานวนอนั ตรภาคชน้ั ท้ังหมด ................................... ชน้ั และข้อมูลมีคา่ สูงสดุ คอื ...................................................... ชว่ั โมงต่อสปั ดาห์ ความกว้างของอนั ตรภาคชน้ั (I) = ค่าสดุ ท้าย − ค่าเรมิ่ ต้น = . .− . . = ...................................................... 4. กาหนดอันตรภาคช้นั ในรปู ช่วง โดยแบ่งเป็น ...................................................... ช้ัน พรอ้ มทงั้ หาจานวนข้อมลู ทั้งหมดที่อยู่ในแตล่ ะอันตรภาคชน้ั โดยทารอยขีด ไดด้ ังน้ี จานวนชว่ั โมง (x) รอยขดี (tally) 5. นบั จานวนข้อมลู จากรอยขีดท่ที าในขอ้ 4 จะไดต้ ารางความถี่และความถ่สี ะสม ดังน้ี จานวนชัว่ โมง (x) รอยขีด (tally) ความถ่ี (frequency : f) ความถ่ีสะสม (F) รวม ∑ =1 = การกาหนดจานวนอันตรภาคช้ันในการเขียนตารางความถ่ีไม่มีกฎเกณฑ์แน่นอนตายตัว ข้ึนอยู่กับลักษณะการ แต่ในทน่ี ้จี ะเขยี นในรปู ≤ < เทา่ นนั้ บทที่ 3 : การวิเคราะหแ์ ละนาเสนอขอ้ มูลเชงิ ปริมาณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 8 แบบฝกึ หัด 3.1 การวเิ คราะหแ์ ละนาเสนอข้อมูลเชิงปรมิ าณดว้ ยตารางความถี่ 1. จานวนเซลล์เม็ดเลือดขาว (เซลล์ต่อเลือด 1 ลูกบาศก์มิลลิเมตร) ของครูระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ในภาค 9,328 8,100 9,517 8,909 9,161 จงเขียนตารางความถี่ของข้อมูลชุดน้ี โดยกาหนดให้จานวนอันตรภาคชั้นเท่ากับ 9 ชั้น ค่าเริ่มต้นและค่าสุดท้าย เทา่ กบั 8,000 และ 9,800 เซลล์ตอ่ เลือด 1 ลูกบาศกม์ ลิ ลเิ มตรตามลาดับ พร้อมทง้ั สรุปผลท่ไี ด้ วธิ ีทา เขียนตารางความถีด่ ังนี้ 1. กาหนดจานวนอนั ตรภาคชน้ั ทัง้ หมด ชนั้....................................................................... 2. เน่อื งจากข้อมลู มคี ่าตา่ สุด (Xmin) คอื เซลล์/ลบ.มม..................................................................... จึงกาหนดคา่ เริ่มตน้ (Xmin) คอื เซลล/์ ลบ.มม..................................................................... และ ขอ้ มูลมคี ่าสงู สดุ (Xmax) คือ เซลล/์ ลบ.มม..................................................................... และ ค่าสุดท้าย (Xmax) คือ เซลล/์ ลบ.มม..................................................................... 3. คานวณความกวา้ งของอนั ตรภาคชนั้ ได้ดงั น้ี ความกวา้ งของอนั ตรภาคชนั้ (I) = ค่าสุดท้าย − ค่าเรม่ิ ตน้ = . .− . . = ............................................................. 4. กาหนดอันตรภาคช้ันในรปู ชว่ ง โดยแบ่งจานวนอันตรภาคชั้นเป็น .................................................................. ชน้ั พรอ้ มท้งั หาจานวน ขอ้ มลู ทงั้ หมดท่อี ยใู่ นแต่ละอนั ตรภาคชน้ั โดยทารอยขีด ความถ่ี ( f ) และความถ่สี ะสม ( F ) ดงั น้ี จานวนเซลล์เมด็ เลอื ดขาว รอยขีด ความถ่ี ความถสี่ ะสม (F) 8,000 – 8,199 รวม ∑ =1 = บทท่ี 3 : การวเิ คราะหแ์ ละนาเสนอขอ้ มูลเชงิ ปริมาณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 9 2. จานวนอีเมลที่กนกวรรณได้รับในแตล่ ะวันต้ังแตว่ ันที่ 1 – 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 แสดงไดด้ ังนี้ วนั ท่ี จานวนอเี มลท่ไี ดร้ ับ ( ฉบบั ) วนั ท่ี จานวนอีเมลทไี่ ดร้ บั ( ฉบบั ) 1 28 17 17 16 17 2.1) จงเขียนตารางความถ่ีของข้อมูลชดุ นี้ โดยกาหนดใหจ้ านวนอนั ตรภาคชนั้ เทา่ กับ 6 ชนั้ คา่ เร่มิ ตน้ ท่ากับ 8 ฉบบั และคา่ สุดทา้ ยเท่ากบั 44 ฉบบั วิธที า เขยี นตารางความถ่ดี ังน้ี 1. กาหนดจานวนอันตรภาคชนั้ ท้ังหมด ......................................................................... ชน้ั 2. เนื่องจากขอ้ มูลมีคา่ ตา่ สุด (Xmin) คอื ฉบบั.................................................................... และ ข้อมูลมีค่าสูงสดุ (Xmax) คือ ฉบบั.................................................................... 3. คานวณความกว้างของอันตรภาคชนั้ ไดด้ ังนี้ ความกวา้ งของอนั ตรภาคชน้ั (I) = คา่ สดุ ท้าย − คา่ เรม่ิ ต้น = . .− . . = ............................................................. 4. กาหนดอันตรภาคช้ันในรูปช่วง โดยแบ่งจานวนอันตรภาคช้ันเป็น ........................................................ ชั้น พร้อมท้ังหาจานวน ขอ้ มลู ทงั้ หมด ทอ่ี ยูใ่ นแตล่ ะอันตรภาคชั้นโดยทารอยขีด ความถี่ ( f ) ความถี่สะสม ( F ) และความถส่ี ะสมสัมพัทธิ์ ดงั น้ี อันตรภาค ความถ่ี ความถี่สะสม ความถ่สี ัมพทั ธ์ ความถี่สะสมสมั พัทธ์ รวม ∑ =1 = บทท่ี 3 : การวิเคราะหแ์ ละนาเสนอขอ้ มูลเชิงปรมิ าณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 10 2.2) อันตรภาคช้นั ใดมีความถ่สี ูงทส่ี ดุ 2.3) อนั ตรภาคชัน้ ที่ 5 มคี วามถีส่ ัมพทั ธใ์ นรูปรอ้ ยละเป็นเทา่ ใด 2.4) จานวนวันท่ีกนกวรรณได้รับอีเมลน้อยกว่า 32 ฉบับ คิดเป็นร้อยละเท่าใดของจานวนวันท้ังหมดใน เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2561 ตอบ.∎ ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................ . ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................ 3. ซูเปอร์มาร์เก็ตของห้างสรรพสินค้าแห่งหน่ึงเก็บข้อมูลยอดชาระเงิน (บาท) ของลูกค้าจานวน 50 คน โดยเรียงข้อมูล 150 189 1,112 1,137 1,156 1,182 1,201 1,209 3.1) จงเขียนตารางความถ่พี รอ้ มทัง้ แสดงความถ่สี มั พทั ธ์ของขอ้ มูลชุดน้ี โดยกาหนดอนั ตรภาคชั้นเปน็ วิธีทา : พร้อมท้ังหาจานวนข้อมูลทั้งหมดที่อยู่ในแต่ละอันตรภาคชั้นโดยทารอยขีด ความถ่ี ( f ) ความถ่ีสะสม ( F ) และ อนั ตรภาคช้ัน ความถี่ ความถสี่ ะสม ความถีส่ ัมพทั ธ์ ความถีส่ ะสมสัมพทั ธ์ ต่ากว่า 1,100 (f) (F) สดั สว่ น รอ้ ยละ สัดส่วน รอ้ ยละ 1,100 - 1,199 รวม =∑ =1 บทท่ี 3 : การวเิ คราะหแ์ ละนาเสนอข้อมลู เชงิ ปรมิ าณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 11 3.2) ลูกค้ามียอดชาระเงินอยู่ในอันตรภาคช้ันใดมากที่สุด และคิดเป็นร้อยละเท่าใดของจานวนลูกค้าที่เก็บข้อมูล ตอบ.∎ ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................ 3.3) จานวนลูกค้าที่มียอดชาระเงินต่ากว่า 1,200 บาท มากกว่า น้อยกว่า หรือเท่ากับจานวนลูกค้าท่ีมี ตอบ.∎ ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................ 3.4) ผูจ้ ัดการซูเปอรม์ าร์เก็ตแหง่ นีจ้ ะสรปุ เกยี่ วกับยอดชาระเงินของลกู คา้ ได้อยา่ งไร 4. คะแนนสอบวิชาคณติ ศาสตรข์ องนกั เรียนชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 6 หอ้ งหนง่ึ จานวนทั้งหมด 60 คน ซึ่งมีคะแนนเต็ม 100 84 79 65 78 78 62 80 67 82 73 4.1) จงเขียนตารางความถ่ีพร้อมทั้งแสดงความถี่สะสม ความถ่ีสัมพัทธ์ และความถี่สะสมสัมพัทธ์ของข้อมูลชุดนี้ วธิ ีทา : วิธีทา เขยี นตารางความถีด่ งั นี้ 2. เนื่องจากขอ้ มูลมคี า่ ตา่ สดุ (Xmin) คอื ...................................................... คะแนน จึงกาหนดคา่ เรมิ่ ต้น (Xmin) คือ คะแนน...................................................... และ ขอ้ มูลมีคา่ สูงสุด (Xmax) คือ คะแนน...................................................... และ คา่ สุดท้าย (Xmax) คอื คะแนน...................................................... 3. คานวณความกว้างของอันตรภาคชั้น ได้ดังนี้ ความกว้างของอันตรภาคช้นั (I) = คา่ สุดท้าย − ค่าเรมิ่ ตน้ = . .− . . = ............................................................. ดังน้ัน ความกว้างของอนั ตรภาคชนั้ คือ .................................................................... คะแนน บทท่ี 3 : การวเิ คราะหแ์ ละนาเสนอข้อมลู เชงิ ปริมาณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 12 4. จงเขียนตารางความถ่ีพร้อมทั้งแสดงความถ่ีสะสม ความถ่ีสัมพัทธ์ และความถี่สะสมสัมพัทธข์ องข้อมูลชุดน้ี โดย อันตรภาคชัน้ ความถี่ ความถี่ ความถส่ี มั พทั ธ์ ความถ่สี ะสมสัมพัทธ์ รวม ∑ =1 = 4.2) มนี ักเรยี นท่ไี ด้คะแนนตั้งแต่ 85 คะแนน ขนึ้ ไปกค่ี น 4.3) นกั เรียนทีไ่ ด้คะแนนน้อยกวา่ 52 คะแนน คิดเป็นร้อยเทา่ ใดของจานวนนักเรยี นทง้ั หมด 4.4) นกั เรียนทีไ่ ดค้ ะแนนตง้ั แต่ 52 ถึง 84 คะแนน คิดเป็นรอ้ ยเทา่ ใดของจานวนนกั เรยี นทง้ั หมด ตอบ.∎ ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................ บทที่ 3 : การวเิ คราะหแ์ ละนาเสนอขอ้ มลู เชงิ ปริมาณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 13 5. จานวนประชากรท่ีอาศัยอยใู่ นหมบู่ า้ นต่างๆของอาเภอหนึ่ง จานวน 66 หมบู่ า้ น แสดงได้ดงั น้ี 345 494 604 730 468 607 395 494 530 563 5.1) จงเขยี นตารางความถีข่ องข้อมลู ชดุ นี้ โดยกาหนดให้ 341 – 380 เป็นอันตรภาคชนั้ แรกและแต่ละอนั ตรภาค ชน้ั มคี วามกวา้ งเท่ากนั วธิ ที า : 1. กาหนดชว่ งอนั ตรภาคชนั้ แรกคือ 341 – 380 จะไดค้ วามกวา้ งของอนั ตรภาคชนั้ เทา่ กับ (380-341)+1 จะได้จานวนอันตรภาคชั้นเทา่ กับ .................................................................... ชัน้ โดยอันตรภาคชนั้ แรก เป็น 341 – 380 ดงั น้ี อันตรภาคช้ัน ความถ่ี ความถี่ ความถส่ี ัมพทั ธ์ ความถี่สะสมสัมพทั ธ์ รวม ∑ =1 = 5.2) มีหมูบ่ า้ นทมี่ ปี ระชากรอาศยั อย่ตู ่ากวา่ 501 คน กห่ี มู่บา้ น 5.3) มีหมู่บ้านทม่ี ปี ระชากรอาศัยอยตู่ ้งั แต่ 381 ถงึ 580 คน กหี่ ม่บู า้ น 5.4) จานวนหมูบ่ า้ นทม่ี ปี ระชากรอาศัยอยมู่ ากกวา่ 660 คน คิดเป็นร้อยละเท่าใดของจานวนหมบู่ ้านทงั้ หมด บทท่ี 3 : การวิเคราะหแ์ ละนาเสนอขอ้ มลู เชงิ ปริมาณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 14 3.2 การวิเคราะหแ์ ละนาเสนอขอ้ มลู เชิงปรมิ าณดว้ ยแผนภาพ ในการวิเคราะห์และนาเสนอข้อมูลเชิงปริมาณ นอกจากจะใช้ตารางความถี่แล้วยังสามารถใช้แผนภาพได้อีกด้วย 3.2.1 ฮสิ โทแกรม (histogram) เป็นการนาเสนอข้อมูลเชิงปริมาณที่สร้างจากตารางความถี่ โดยใช้แท่งสี่เหลี่ยมมุมฉากที่เรียงติดกันบนแกนนอน ∎ ตัวอย่างที่ 3 คณะกรรมการการหมู่บ้านจัดสรรแห่งหน่ึงสารวจข้อมูลจานวนสมาชิกในแต่ละครอบครัว จานวน 20 2223333344 จากขอ้ มลู ข้างต้น เขยี นตารางความถี่ได้ดงั น้ี จานวนครอบครัว (ครอบครัว) สามารถนาเสนอขอ้ มูลขา้ งตน้ โดยใช้ฮสิ โทแกรมไดด้ งั นี้ จานวนครอบครวั (ครอบครวั ) 7 จานวนสมาชกิ 0 1 2 34 56 7 8 จากฮิสโทแกรม จะเหน็ วา่ ครอบครวั ท่ีมสี มาชกิ 4 คน มจี านวนมากที่สุด ไม่มีครอบครัวใดเลยทม่ี ีสมาชิกมากกว่า 6 บทที่ 3 : การวิเคราะหแ์ ละนาเสนอขอ้ มูลเชิงปรมิ าณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 15 ขอ้ สงั เกต 1. จดุ ก่งึ กลางของฐานของแตล่ ะแทง่ สี่เหลีย่ มมมุ ฉากแทนข้อมลู แตล่ ะค่า โดยในทีน่ ้ีคือจานวนสมาชกิ 2. ความสงู ของแตล่ ะแท่งสีเ่ หล่ยี มมุมฉากแทนความถขี่ องข้อมลู แตล่ ะคา่ โดยในท่นี ี้คอื จานวนครอบครัว 3. ฮิสโทแกรมมีลกั ษณะคลา้ ยแผนภูมิแทง่ แต่แผนภูมแิ ท่งใช้นาเสนอข้อมูลเชงิ คุณภาพ พิจารณาสถานการณ์ต่อไปน้ี ∎ ตัวอย่างที่ 4 ฝ่ายทรัพยากรบุคคลของหน่วยงานแห่งหนึ่งได้เก็บข้อมูลจานวนช่ัวโมงการทางานในหน่ึงสัปดาห์ของ จานวนชัว่ โมงการทางาน ( ) จานวนพนกั งาน ( : คน) 35 ≤ < 40 3 สามารถนาเสนอข้อมูลข้างตน้ โดยใช้ฮิสโทแกรมได้ดงั นี้ จานวนพนักงาน (คน) 9 7 จานวนชัว่ โมงการทางาน 0 35 40 45 50 55 60 จากฮิสโทแกรม จะเห็นวา่ ในหนง่ึ สัปดาห์ พนกั งานที่มีชัว่ โมงการทางานตัง้ แต่ 45 ชั่วโมง แต่น้อยกว่า 50 ชว่ั โมง มี ข้อสงั เกต เนอ่ื งจากการนาเสนอข้อมูลดว้ ยตารางความถีท่ ่ีมกี ารแบ่งขอ้ มลู เป็นอันตรภาคช้ันจะไม่สามารถบอกไดว้ ่าขอ้ มูล บทที่ 3 : การวเิ คราะหแ์ ละนาเสนอขอ้ มลู เชิงปริมาณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 16 ฮิสโทแกรมทเ่ี ขียนจากสถานการณข์ า้ งต้นเปน็ การนาเสนอขอ้ มลู ท่ไี ม่เป็นจานวนเต็ม เช่น จานวนชั่วโมงการทางาน ขอบล่างของช้ัน (lower class boundary : L) ขอบบนของชนั้ (upper class boundary : U) จากน้นั สามารถเขยี นฮิสโทแกรมได้ โดยใหค้ วามกวา้ งของแทง่ สเี่ หลย่ี มมุมฉากแต่ละแท่งเทา่ กบั ผลตา่ งของขอบบน นี้อีกหน่งึ ชนั้ ในทานองเดียวกัน การหาขอบบนของชั้นของแตล่ ะอันตรภาคชนั้ สดุ ท้าย ใหพ้ จิ ารณาเสมือนวา่ มี จากตารางความถใี่ นตัวอยา่ งท่ี 1 สามารถแสดงวิธีการหาขอบลา่ งของชน้ั และขอบบนของชนั้ ของแตล่ ะอันตรภาค อันตรภาคชนั้ นอ้ี กี หน่งึ ช้ันซงึ่ ก็คอื 76 – 84 จะได้ ขอบล่างของชน้ั คอื 84+85 = 84.5 และเนื่องจากอันตรภาคชั้นถัดไปคอื 94 – 102 จะได้ ขอบบนของชน้ั คือ 93+94 = 93.5 ∎ พิจารณาอันตรภาคชนั้ 94 – 102 สามารถหาขอบลา่ งของชนั้ โดยพจิ ารณา จากอนั ตรภาคชน้ั กอ่ นหนา้ คอื 85 – 93 2 และเนอื่ งจากอันตรภาคชัน้ ถัดไปคือ 103 – 111 จะได้ ขอบบนของชน้ั คอื 102+103 = 102.5 ∎ ทาเชน่ นไ้ี ปเร่อื ยๆ จนถึงอนั ตรภาคช้นั สุดท้าย ซ่งึ คือ 121 – 129 2 และสามารถหาขอบบนของช้ันโดยพจิ ารณาเสมือนว่ามีอนั ตรภาคชัน้ ทสี่ งู กว่าอันตรภาคช้ันน้ีอีกหนงึ่ ชนั้ 2 ดงั นนั้ จะไดต้ ารางความถีท่ แ่ี สดงขอบล่างของชนั้ และขอบบนของชน้ั ของแต่ละอันตรภาคชนั้ ดงั นี้ คะแนน ขอบล่าง (L) – ขอบบน (U) จานวนนกั เรยี น : (คน) 85 – 93 84.5 – 93.5 8 รวม 30∑ =1 = บทที่ 3 : การวเิ คราะหแ์ ละนาเสนอขอ้ มูลเชิงปริมาณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 17 และสามารถเขยี นฮสิ โทแกรม ได้ดังนี้ จานวนนักเรยี น (คน) คะแนน 9 0 84.5 93.5 102.5 111.5 120.5 129.5 ∎ ตัวอย่างท่ี 5 ปริมาณการบริโภคน้าอัดลม (กระป๋อง) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6 ในโรงเรียนแห่งหน่ึงในหน่ึง จานวนนักเรียนหญงิ (คน) 7 ปรมิ าณการบรโิ ภค 0 12 34 56 789 จานวนนักเรียนชาย (คน) ปริมาณการบรโิ ภค 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 จงตอบคาถามต่อไปนี้ บทที่ 3 : การวเิ คราะหแ์ ละนาเสนอข้อมลู เชงิ ปริมาณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 18 1) นักเรยี นจานวนมากทสี่ ุดบริโภคนา้ อดั ลมก่ีกระป๋องในหนงึ่ สปั ดาห์ ตอบ.∎ ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................ . ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................ 2) มีนกั เรียนชายบริโภคน้าอัดลมมากทีส่ ดุ กี่กระปอ๋ งในหนึ่งสปั ดาห์ ตอบ.∎ ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................ . ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................ 3) จงสรปุ ลกั ษณะที่นา่ สนใจเกยี่ วกบั พฤติกรรมการบริโภคนา้ อดั ลมของนกั เรียนหญงิ และนักเรยี นชาย ในโรงเรยี น แหง่ น้ี ตอบ.∎ ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................ 3.2.2 แผนภาพจดุ (dot plot) เป็นการนาเสนอข้อมูลเชิงปรมิ าณโดยใช้จดุ หรอื วงกลมเล็กๆแทนขอ้ มลู แตล่ ะตัว เขียนเรยี งไวเ้ หนือเสน้ ในแนวนอน 14 14 11 9 8 7 5 5 5 5 ฃ จากข้อมูลข้างตน้ เขียนตารางความถ่ีไดด้ งั นี้ จานวนเหรยี ญทอง (เหรยี ญ) จานวนประเทศ 17 รวม 22 บทที่ 3 : การวิเคราะหแ์ ละนาเสนอขอ้ มลู เชงิ ปรมิ าณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 19 จากตารางความถี่ข้างตน้ สามารถเขียนแผนภาพจุดได้ดงั น้ี 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 จานวนเหรียญทอง จากแผนภาพจุด จะเห็นว่าประเทศที่ได้เหรียญทอง 1 เหรียญ มีจานวนมากท่ีสุด และมีเพียง 3 ประเทศที่ได้ ข้อสังเกต : 1. คา่ ที่เปน็ ไปไดท้ ้งั หมดของขอ้ มลู จะปรากฏบนแกนนอนของแผนภาพจดุ ถึงแม้วา่ บางค่าอาจมคี วามถี่ 2. ในแผนภาพจดุ อาจกาหนดให้คา่ เร่มิ ตน้ เปน็ คา่ ตา่ สดุ และคา่ สดุ ท้ายเป็นค่าสงู สดุ ของข้อมลู ได้ ∎ ตวั อย่างท่ี 7 จานวนช่ัวโมงการออกกาลงั กายของครใู นโรงเรียนแหง่ หนึง่ ในหนงึ่ สปั ดาห์ แสดงด้วยแผนภาพจดุ ได้ดงั นี้ 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 จานวนชวั่ โมงการออกกาลงั กาย จงสรุปลักษณะทน่ี ่าสนใจเกี่ยวกับจานวนชวั่ โมงการออกกาลังกายของครใู นโรงเรียนแหง่ นี้ในหนึ่งสปั ดาห์ วิธที า ตอบ.∎ ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................ . ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................ บทท่ี 3 : การวเิ คราะหแ์ ละนาเสนอขอ้ มลู เชงิ ปริมาณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 20 3.2.3 แผนภาพลาตน้ และใบ (stem and leaf plot) เป็นการนาเสนอข้อมูลเชิงปริมาณโดยใช้แผนภาพท่ีมีการแสดงข้อมูลโดยเรียงลาดับจากน้อยไปมากและแบ่งการ แสดงข้อมลู ออกเปน็ สองสว่ นที่เรยี กวา่ สว่ นลาต้น (stem) และสว่ นใบ (leaf) ตวั อยา่ ง เชน่ ∎ ตัวอยา่ งท่ี 8 กาหนดแผนภาพลาตน้ -ใบ 02 3 เมื่อ 2|5 แทนจานวน 25 จะไดข้ ้อมลู คือ 2 , 3 , 11 , 14 , 14 , 20 02 3 4 เม่ือ 2|5 แทนจานวน 2.5 จะได้ขอ้ มลู คอื 0.2 , 0.3 , 1.1 , 1.4 , 1.4 , 2.0 หมายเหตุ : ในทนี่ ีจ้ ะใชแ้ ผนภาพลาตน้ และใบนาเสนอขอ้ มลู เชิงปริมาณทีเ่ ปน็ จานวนเตม็ บวกเท่านน้ั โดยจะกาหนด พจิ ารณาสถานการณต์ อ่ ไปน้ี ∎ ตัวอย่างที่ 9 รา้ นอาหารแห่งหนงึ่ สารวจอายุ (ปี) ของผทู้ ่มี าใชบ้ ริการท่รี ้านในหนึ่งวันได้ขอ้ มูลดงั นี้ 1 27 2 20 27 23 31 30 9 จากข้อมลู ขา้ งต้นสามารถเขียนแผนภาพลาตน้ และใบไดด้ งั น้ี 011223444589 เมื่อ 6|3 แทนจานวน 63 จากแผนภาพลาตน้ และใบจะเห็นว่าในวันท่ีสารวจข้อมูลผทู้ ม่ี าใช้บริการท่ีร้านอาหารแห่งนม้ี ีอายุมากทสี่ ุด คือ 63 ขอ้ สังเกต : ตวั เลขในสว่ นลาตน้ จะตอ้ งเขียนเรยี งลาดบั ให้ครบทกุ ตวั แตไ่ ม่ตอ้ งเขียนตวั เลขในสว่ นใบหากไมม่ ขี ้อมูลนน้ั บทท่ี 3 : การวเิ คราะหแ์ ละนาเสนอข้อมลู เชงิ ปริมาณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 21 นอกจากนีส้ ามารถเขียนแผนภาพลาตน้ และใบในการนาเสนอข้อมลู สองชุดในแผนภาพเดียวกันไดโ้ ดยใช้สว่ นลาต้น พจิ ารณาสถานการณ์ต่อไปน้ี ∎ ตัวอย่างที่ 10 คะแนนสอบวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6/1 และ 6/2 ในโรงเรียนขนาดเล็ก นักเรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 6/1 56 60 65 69 73 73 75 78 นักเรยี นช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6/2 57 63 64 65 68 68 70 72 วิธีทา จากขอ้ มลู ข้างต้นสามารถเขยี นแผนภาพลาต้นและใบไดด้ ังนี้ นกั เรยี นช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6/1 นักเรียนช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6/2 657 เม่ือ 7|0 แทนจานวน 70 คะแนน จากแผนภาพลาตน้ และใบจะเหน็ ว่า (1) คะแนนสอบสงู สดุ วิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6/1 และ 6/2 คอื 97 และ 98 คะแนน (2) คะแนนสอบต่าสดุ วิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 6/1 และ 6/2 คือ 56 และ 57 คะแนน (3) จานวนนักเรียนท่ีได้คะแนนสอบวิชาภาษาอังกฤษต้ังแต่ 80 คะแนนขึ้นไปของชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6/1 บทที่ 3 : การวิเคราะหแ์ ละนาเสนอขอ้ มลู เชงิ ปริมาณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 22 3.2.4 แผนภาพกล่อง (box plot) เป็นการนาเสนอขอ้ มลู เชงิ ปริมาณทีแ่ สดงตาแหนง่ สาคัญของข้อมูลซ่งึ ประกอบด้วยค่าตา่ สุดค่าสูงสุดและ ควอร์ไทล์ ขนั้ ตอนการเขียนแผนภาพกล่อง 1. เรยี งข้อมลู จากนอ้ ยไปมากจากนัน้ หาคา่ ตา่ สุดและคา่ สูงสุดของข้อมูล 2. หาควอร์ไทลท์ ี่ 1 ( 1) ควอร์ไทลท์ ่ี 2 ( 2) และควอรไ์ ทลท์ ี่ 3 ( 3) โดยท่ี ท้งั หมด - ควอร์ไทลท์ ่ี 2 ( 2) คือค่าที่มจี านวนขอ้ มลู ท่ีมคี ่าน้อยกวา่ คา่ น้อี ยู่ประมาณครงึ่ หนึ่งของจานวนขอ้ มลู - ควอรไ์ ทลท์ ี่ 3 ( 3) คือคา่ ท่ีมจี านวนข้อมลู ท่มี คี า่ น้อยกว่าคา่ นอี้ ยปู่ ระมาณสามในสขี่ องจานวนขอ้ มลู ถ้า เปน็ จานวนข้อมลู ทั้งหมด สามารถหาตาแหน่งของควอร์ไทล์ที่ เมอื่ = 1 , 2 , 3 ได้จากสตู ร ตาแหนง่ ควอไทลท์ ่ี = ( + ) ซงึ่ จะได้คา่ ของ อยใู่ นตาแหนง่ ที่ 1( +1) 3. หาคา่ 1 − 1.5( 3 − 1) และ 3 + 1.5( 3 − 1) 4. พิจารณาวา่ ชดุ ข้อมูลมคี ่านอกเกณฑห์ รอื ไม่ โดยในทน่ี คี้ ่านอกเกณฑ์ (outlier) 5. ตัวอยา่ งการเขียนแผนภาพกลอ่ ง ค่าตา่ สดุ Q1 Q2 Q3 คา่ สงู สุด บทท่ี 3 : การวิเคราะหแ์ ละนาเสนอข้อมลู เชิงปริมาณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 23 xx ค่านอกเกณฑ์ คา่ นอกเกณฑ์ Q1 Q2 Q3 ค่านอกเกณฑ์ ข้อมลู ที่น้อยท่สี ดุ แต่ไมน่ อ้ ยกว่า ข้อมูลทม่ี ากทส่ี ดุ แตไ่ ม่มากกวา่ 1 − 1.5( 3 − 1) 3 + 1.5( 3 − 1) ค่านอกเกณฑ์อาจเป็นค่าจริงที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติหรืออาจเกิดจากความคลาดเคลื่อนจากการวัดหรือเก็บข้อมูลในทาง ∎ ตัวอยา่ งท่ี 11 คะแนนสอบวิชาภาษาไทยของนกั เรียนชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 6 ห้องหนึ่งจานวน 27 คนซ่งึ มคี ะแนนเต็ม 59 60 61 63 65 66 66 66 68 จงเขยี นแผนภาพกลอ่ งเพ่อื นาเสนอข้อมลู ชุดนี้ วธิ ที า จากโจทย์มีข้อมลู ทงั้ หมด 27 ข้อมูล จะเขยี นแผนภาพกล่อง ไดต้ ามขั้นตอนต่อไปน้ี ตาแหนง่ ที่ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 ตาแหนง่ ที่ 10 11 12 13 14 15 16 17 18 ตาแหนง่ ท่ี 19 20 21 22 23 24 25 26 27 หาคา่ ตา่ สุด ( ของขอ้ มูล คอื2. ) ................................................................................... หาคา่ สูงสุด ) ของข้อมลู คอื( ................................................................................... บทท่ี 3 : การวิเคราะหแ์ ละนาเสนอข้อมลู เชงิ ปริมาณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 24 3. หา 1 , 2 และ 3 หาไดจ้ ากสูตร ตาแหนง่ ควอไทล์ที่ = ( +1) ดังนี้ อย่ใู นตาแหน่งท่ี3.1 1 ................................................................................................................................................................................................................................................. ดังนัน้ คา่ ของ 1 = ................................................................................... อยู่ในตาแหน่งท่ี3.2 2 .............................................................................................................................................................................................................................................. ดังนนั้ ค่าของ 2 = ................................................................................... อย่ใู นตาแหน่งท่ี3.3 3 ........................................................................................................................................................................................................................... ...................... ดังน้นั คา่ ของ 3 = ................................................................................... หาค่า =3. 1 − 1.5( 3 − 1) ................................................................................................................................................................................................................................. หาคา่ = 3 + 1.5( 3 − 1) ................................................................................................................................................................................................................................. จะพบวา่ มขี ้อมูลท่นี ้อยกวา่ ไดแ้ ก่4. มีข้อมูลทมี่ ากกว่า ไดแ้ ก่ 3 + 1.5( 3 − 1) ................................................................................................................................................. ดงั น้นั ค่านอกเกณฑข์ องข้อมูลชดุ น้ี ไดแ้ ก่ ................................................................................................................................................................... 5. เขยี นแผนภาพกล่อง (Box plot) ได้ดงั นี้ 50 60 70 80 90 100 บทที่ 3 : การวิเคราะหแ์ ละนาเสนอข้อมูลเชิงปรมิ าณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 25 แผนภาพกล่อง อาจเขียนแสดงในแนวตงั้ ได้ ดังตวั อยา่ งต่อไปนี้ ∎ ตัวอย่างที่ 12 ระยะเวลา (นาที) ในการใช้โทรศัพท์เคล่ือนท่ีสาหรับโทรออกของเมษกันย์และธันในแต่ละครั้งในเวลาหน่ึง 70 40 35 25 เมษ กนั ย์ ธันว์ จงพิจารณาว่าข้อความต่อไปน้ีเป็นจริงเป็นเท็จหรือไม่ สามารถสรุปได้ว่าเป็นจริงหรือเท็จพร้อมท้ังให้เหตุผล 12.1) ในหนง่ึ สัปดาห์ ธันวใ์ ชโ้ ทรศพั ท์เคล่อื นท่ีสาหรบั โทรออกในแตล่ ะคร้ังเปน็ ระยะเวลานานกว่ากันย์ 12.2) จานวนคร้ังท่กี ันยใ์ ชโ้ ทรศพั ท์เคลื่อนท่สี าหรับโทรออกในหน่งึ สปั ดาห์น้อยกวา่ เมษและธันว์ 12.3) ควอรไ์ ทลท์ ี่ 2 ของระยะเวลาทเ่ี มษและธนั ว์ ใช้โทรศพั ท์เคลื่อนทส่ี าหรบั โทรออกในแต่ละครงั้ ในหน่ึงสัปดาห์ ตอบ.∎ ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................ บทที่ 3 : การวเิ คราะหแ์ ละนาเสนอขอ้ มลู เชิงปริมาณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 26 3.2.5 แผนภาพกลอ่ งกบั การกระจายของข้อมูล นอกจากแผนภาพกล่องจะสามารถใช้ในการตรวจสอบว่าชุดข้อมูลมีค่านอกเกณฑ์หรือไม่ ยังสามารถใช้ในการ จากตัวอยา่ งท่ี 11 สามารถเขยี นแผนภาพจดุ เพอ่ื เปรยี บเทยี บกบั แผนภาพกลอ่ งได้ดงั นี้ 50 55 60 65 70 75 80 85 90 95 100 105 คา่ ต่าสดุ Q1 Q2 Q3 ค่าสงู สดุ จากแผนภาพจะเหน็ วา่ ข้อมลู แบ่งออกเป็น 4 ช่วง จะพบวา่ จากแผนภาพจะเหน็ วา่ ขอ้ มูลแบง่ ออกเปน็ 4 ชว่ ง จะพบวา่ บทท่ี 3 : การวเิ คราะหแ์ ละนาเสนอขอ้ มลู เชงิ ปริมาณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 27 ∎ ตัวอย่างที่ 13 ข้อมูลจานวนคร้ังของการทาธุรกรรมผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตของครูในโรงเรียนแห่งหนึ่งใน 000022233333345 จงเขยี นแผนภาพกล่องเพอ่ื นาเสนอข้อมูลพร้อมท้ังอธิบายลักษณะการกระจายของข้อมลู ชดุ นี้ วิธที า จากโจทยม์ ขี ้อมูลทั้งหมด 31 ขอ้ มลู จะเขยี นแผนภาพกลอ่ ง ไดต้ ามขนั้ ตอนต่อไปนี้ ตาแหน่งที่ 10 11 12 13 14 15 16 17 18 ตาแหนง่ ท่ี 19 20 21 22 23 24 25 26 27 ตาแหนง่ ท่ี 28 29 30 31 หาคา่ ต่าสุด ( ของขอ้ มูล คือ13.2 หาค่าสงู สุด ( ) ของขอ้ มูล คือ ...................................................................................... 13.3 หา 1 , 2 และ 3 หาไดจ้ ากสูตร ตาแหนง่ ควอไทล์ที่ = ( +1) ดังนี้ อยใู่ นตาแหนง่ ท่ี13.3.1 1 ..................................................................................................................................................................................................................................... ดังน้ันคา่ ของ 1 = ...................................................................................... อยู่ในตาแหนง่ ที่13.3.2 2 ......................................................................................................................................................................................................... ............................ ดงั น้นั คา่ ของ 2 = ...................................................................................... อยใู่ นตาแหนง่ ท่ี13.3.3 3 ......................................................................................................................................................................................................... ............................ ดงั นั้นค่าของ 3 = ...................................................................................... บทที่ 3 : การวเิ คราะหแ์ ละนาเสนอข้อมลู เชิงปริมาณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 28 หาค่า3. 1 − 1.5( 3 − 1) = ................................................................................................................................................................................................................................ หาค่า 3 + 1.5( 3 − 1) = ................................................................................................................................................................................................................................... จะพบวา่ มขี ้อมูลทน่ี ้อยกว่า ไดแ้ ก่4. มีข้อมลู ท่ีมากกว่า ได้แก่ 3 + 1.5( 3 − 1) ................................................................................................................................................. ดังน้นั ค่านอกเกณฑข์ องขอ้ มูลชุดน้ี ได้แก่ .................................................................................................................................................................... 5. เขียนแผนภาพกล่อง (Box plot) ได้ดงั น้ี –2 0 2 4 6 8 10 12 14 16 จากแผนภาพกล่องจะเหน็ วา่ หมายเหตุ : จากตัวอย่างขา้ งต้นเนื่องจากค่านอกเกณฑ์ไมอ่ ยใู่ นช่วง 6 ถึง 10 บทที่ 3 : การวิเคราะหแ์ ละนาเสนอขอ้ มลู เชงิ ปรมิ าณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 29 3.2.5 แผนภาพการกระจาย (scatter plot) การวิเคราะหแ์ ละนาเสนอข้อมูลเชงิ ปรมิ าณขา้ งตน้ พจิ ารณาเฉพาะขอ้ มูลเชิงปริมาณของตัวแปรเพยี งหนง่ึ ตวั แผนภาพการกระจาย (scatter plot) พจิ ารณาแผนภาพการกระจาย ตอ่ ไปนี้ เมื่อกาหนดให้ Y YY X XX รปู ที่ 1 รูปที่ 2 รูปท่ี 3 รูปที่ 1 คา่ บนแกน X และ Y แทน พนื้ ทห่ี อ้ งชุดและราคาห้องชุดของคอนโดมิเนยี มในยา่ นธุรกจิ แหง่ หน่ึง รปู ท่ี 2 ค่าบนแกน X และ Y แทน อายุการใช้งานและมูลคา่ ของรถยนตย์ หี่ ้อหน่ึงตามลาดบั ∎ จากรูปที่ 1 จะเห็นวา่ เมอื่ พื้นทห่ี อ้ งชุดมากข้นึ ราคาห้องชดุ จะมากข้ึนดว้ ย ในกรณีนีจ้ ะกลา่ วว่าตัวแปร ∎ จากรูปที่ 2 จะเห็นว่าเมอื่ อายกุ ารใช้งานมากขึน้ มลู คา่ ของรถยนตจ์ ะยง่ิ นอ้ ยลง ในกรณีนี้จะกล่าววา่ ∎ จากรปู ที่ 3 จะเห็นวา่ เมอื่ อายมุ ากขึ้นรายไดข้ องประชากรวยั ทางานในหมู่บา้ นแหง่ นไี้ มไ่ ดม้ ากขึ้นหรือ หมายเหตุ : ในทน่ี ี้จะพจิ ารณาเฉพาะความสมั พนั ธ์เชิงเสน้ เท่าน้ัน บทท่ี 3 : การวเิ คราะหแ์ ละนาเสนอขอ้ มูลเชิงปริมาณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 30 ∎ ตวั อย่างที่ 14 บรษิ ัท แห่งหนงึ่ สารวจยอดขายของผลติ ภณั ฑ์ท่ีมคี ่าใชจ้ ่ายในการโฆษณาผลิตภัณฑ์นัน้ แตกตา่ งกันใน ยอดขาย (พันบาท) 140 ค่าใช้จา่ ย 60 0 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 จงพิจารณาว่าคา่ ใช้จา่ ยในการรกั ษาและยอดขายของอดีตกันทม่ี ีความสัมพันธ์กนั หรือไม่อยา่ งไร ∎ ตอบ บทท่ี 3 : การวเิ คราะหแ์ ละนาเสนอข้อมลู เชงิ ปริมาณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 31 แบบฝึกหดั 3.2 การวเิ คราะห์และนาเสนอข้อมลู เชิงปริมาณดว้ ยแผนภาพ 1. คะแนนสอบยอ่ ยวชิ าคณติ ศาสตร์ซ่ึงมีคะแนนเตม็ 10 คะแนนของนักเรียนชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 ห้องหนงึ่ จานวน 30 คน แสดงไดด้ งั นี้ คะแนน ความถ่ี ( ) 01 10 22 33 42 55 63 72 86 95 10 1 รวม ∑ =1 = 30 จงเขยี นฮสิ โทแกรมเพ่อื นาเสนอขอ้ มูลชดุ นี้ บทท่ี 3 : การวิเคราะหแ์ ละนาเสนอขอ้ มลู เชิงปริมาณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 32 2. โรงเรียนประจาจังหวดั แห่งหนง่ึ ในภาคใตไ้ ด้จัดโครงการตรวจสขุ ภาพครปู ระจาปี 2562 โดยผลการตรวจระดบั นา้ ตาล ระดับนา้ ตาลในเลอื ด (มลิ ลิกรมั ต่อเดซลิ ิตร) ความถส่ี ะสม (F) ความถ่ี ( ) 61 - 67 3 ∑ =1 = รวม 2.1) ครูมรี ะดับนา้ ตาลในเลอื ดอยู่ในช่วงใดมากทสี่ ดุ 2.2) จงเขียนฮิสโทแกรม (histrogram) จากขอ้ มลู ทีก่ าหนดให้ 2.3) ถ้าระดับน้าตาลในเลือดอยู่ในช่วง 100 – 125 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร จะถือว่ามีความเส่ียงต่อการเป็น จรงิ หรือไม่เพราะเหตใุ ด . ....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... บทที่ 3 : การวเิ คราะหแ์ ละนาเสนอขอ้ มลู เชงิ ปรมิ าณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 33 3. อตั ราสว่ นพ้นื ท่ีสเี ขยี ว 10 ประเภทต่อจานวนประชากร (ตารางเมตรตอ่ คน) ของแต่ละเขตในเขตกรงุ เทพมหานคร ณ จานวนเขต 32 8 0 20 40 60 80 100 120 140 160 180 200 220 240 260 280 300 320 340 360 อตั ราส่วนของพ้นื ท่ีสีเขยี ว 10 ประเภทตอ่ จานวนประชากร (ตารางเมตรต่อคน) 3.1) มีกเ่ี ขตท่ีอตั ราส่วนพ้นื ท่ีสเี ขียว 10 ประเภทตอ่ จานวนประชากรน้อยกว่า 40 ตารางเมตรต่อคน . ....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 3.2) มกี เี่ ขตทอี่ ตั ราสว่ นพ้นื ทส่ี ีเขียว 10 ประเภทตอ่ จานวนประชากรไม่นอ้ ยกว่า 80 ตารางเมตรต่อคน . ....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... 3.3) ถ้าเขตท่ีมีอัตราส่วนพ้ืนที่สีเขียว 10 ประเภทต่อจานวนประชากรมากที่สุดมีประชากร 182,235 คนจะ . ....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... บทที่ 3 : การวเิ คราะหแ์ ละนาเสนอข้อมูลเชิงปรมิ าณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 34 4. ระดับคอเลสเตอรอลรวม (total cholesterol) ในเลอื ด (มลิ ลกิ รมั ต่อเดซลิ ิตร) ของแพทย์ประจาโรงพยาบาลเอกชน ดว้ ยฮสิ โทแกรมได้ดังนี้ จานวนแพทยป์ ระจาโรงพยาบาลเอกชน (คน) 9 0 150 160 170 180 190 200 210 220 230 240 250 ระดบั คอเลสเตอรอลรวมในเลือด (มิลลิกรมั ตอ่ เดซลิ ติ ร) 9 0 150 160 170 180 190 200 210 220 230 240 250 ระดับคอเลสเตอรอลรวมในเลอื ด (มลิ ลิกรมั ต่อเดซลิ ิตร) จากกราฟ จงตอบคาถามตอ่ ไปน้ี 4.1) แพทยป์ ระจาโรงพยาบาลเอกชนทีส่ ่มุ มามรี ะดบั คอเลสเตอรอลรวมในเลือดอยูใ่ นช่วงใดมากที่สดุ ตอบ.∎ ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ บทที่ 3 : การวเิ คราะหแ์ ละนาเสนอข้อมูลเชิงปรมิ าณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 35 4.2) ระดับคอเลสเตอรอลรวมในเลอื ดของแพทยป์ ระจาโรงพยาบาลรฐั บาลทส่ี ุม่ มามคี า่ สูงสุดอยูใ่ นชว่ งใด ตอบ.∎ ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ 4.3) ถา้ คา่ ปกติของระดบั คอเลสเตอรอลรวมในเลือดควรนอ้ ยกวา่ 200 มลิ ลิกรมั ตอ่ เดซลิ ิตร ตอบ.∎ ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ 4.3.2) แพทยป์ ระจาโรงพยาบาลเอกชนและแพทยป์ ระจาโรงพยาบาลรัฐบาลที่มรี ะดบั คอเลสเตอรอล ตอบ.∎ ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ 4.3.3) จากกลุ่มแพทยท์ ส่ี ุ่มมาแพทยป์ ระจาโรงพยาบาลเอกชนที่มรี ะดับคอเลสเตอรอลรวมในเลือดสูงกวา่ ตอบ.∎ ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ 4.4) จงสรปุ ลกั ษณะทน่ี า่ สนใจเกี่ยวกับระดับคอเลสเตอรอลรวมในเลือดของแพทย์ประจาโรงพยาบาลเอกชนและ แพทย์ประจาโรงพยาบาลรัฐบาลทส่ี ุม่ มา ตอบ.∎ ............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ . ....................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................... บทท่ี 3 : การวเิ คราะหแ์ ละนาเสนอขอ้ มูลเชงิ ปริมาณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 36 5. จานวนภาพยนตร์ (เร่อื ง) ทนี่ กั เรียนช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 จานวน 50 คน ชมในหน่ึงปีเปน็ ดังน้ี 33 17 15 18 20 10 15 5 22 25 5.1) จงเขียนแผนภาพจุดและแผนภาพลาต้นและใบจากข้อมูลท่ีกาหนดให้ 5.1.2) เขียนแผนภาพลาต้นและใบ (stem and leaf plot) บทท่ี 3 : การวิเคราะหแ์ ละนาเสนอขอ้ มูลเชงิ ปรมิ าณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 37 6. คะแนนสอบวชิ าคณติ ศาสตรแ์ ละวิชาภาษาอังกฤษของนกั เรยี นในโรงเรยี นแห่งหนึง่ จานวน 135 คน ซง่ึ มีคะแนนเต็ม คะแนน จานวนนกั เรียน ( : คน) วชิ าคณิตศาสตร์ วชิ าภาษาองั กฤษ 50 5 2 รวม ∑ =1 =135 ∑ =1 =135 ถ้าโรงเรยี นตอ้ งการมอบรางวลั ใหน้ ักเรียนทไี่ ด้คะแนนสอบวิชาคณติ ศาสตร์หรอื วชิ าภาษาองั กฤษต้ังแต่ร้อยละ 90 บทท่ี 3 : การวเิ คราะหแ์ ละนาเสนอข้อมลู เชงิ ปรมิ าณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 38 7. คะแนนสอบวิชาภาษาไทยและวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6 ห้องหน่ึง จานวน 40 คน ซ่ึงมี คะแนนสอบวชิ าภาษาไทย 63 88 79 92 86 87 83 83 78 40 คะแนนสอบวิชาคณิตศาสตร์ 69 78 79 90 56 67 73 59 65 45 7.1) จงเขยี นแผนภาพลาต้นและใบ เพ่อื นาเสนอข้อมลู สองชุดนี้ในแผนภาพเดยี วกัน 7.2) ถ้ากาหนดเกณฑใ์ นการแบ่งระดบั คะแนนของท้งั สองวชิ าดังน้ี เกรด คะแนน คะแนนสอบวิชาภาษาไทย คะแนนสอบวชิ าคณติ ศาสตร์ 4 90 - 100 ∑ =1 = ∑ =1 = รวม จงหาจานวนนกั เรียนที่ไดเ้ กรด 4 , 3 , 2 , 1 และ 0 ของแต่ละวิชา (เขียนลงบนตารางข้างบน) บทที่ 3 : การวเิ คราะหแ์ ละนาเสนอข้อมลู เชงิ ปรมิ าณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 39 7.3) จงหาวา่ มนี ักเรียนกี่คนทีค่ ะแนนสอบวิชาคณติ ศาสตร์ขาดไปเพยี ง 1 คะแนน ก็จะไดเ้ กรดดขี ึ้น 7.4) จากเกรดวิชาภาษาไทยและวชิ าคณติ ศาสตรข์ องนกั เรยี นห้องน้ี จงพิจารณาวา่ นักเรยี นหอ้ งน้ี ∎ ตอบ 8. นภาพกั ตร์ไดจ้ ดบนั ทกึ จานวนรถจักรยานยนตท์ ม่ี าจอดบริเวณหน้าบา้ นในชว่ งเวลา 08 : 00 – 09 : 00 น. ของแตล่ ะ 10 6 7 12 13 15 8 6 10 16 8.1) จงหาควอรไ์ ทลท์ ่ี 1 ควอรไ์ ทลท์ ี่ 2 และควอรไ์ ทล์ท่ี 3 ของขอ้ มูลชุดน้ี 8.1.1) เรียงตาแหน่งทขี่ องข้อมูลจากน้อยไปหามาก ตาแหน่งที่ 10 11 12 13 14 15 16 17 18 ตาแหน่งที่ 19 20 21 22 23 24 25 26 27 ตาแหน่งที่ 28 29 30 31 ) หาคา่ ตา่ สุด ( ) ของขอ้ มลู คอื8.1.2 หาคา่ สงู สดุ ( ของข้อมูล คอื ) ................................................................................................... บทที่ 3 : การวิเคราะหแ์ ละนาเสนอข้อมูลเชงิ ปรมิ าณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 40 8.1.3) หา 1 , 2 และ 3 หาได้จากสูตร ตาแหนง่ ควอไทลท์ ี่ = ( +1) ดังน้ี อย่ใู นตาแหน่งที่8.1.3.1) 1 ................................................................................................................................................................................................................................ ดงั นน้ั คา่ ของ 1 = .................................................................................................................................................................................................................................... อยใู่ นตาแหน่งที่8.1.3.2) 2 ......................................................................................................................................................................................................................... ดังนน้ั คา่ ของ 2 = ............................................................................................................................................................................................................................. อย่ใู นตาแหนง่ ท่ี8.1.3.3) 3 ................................................................................................................................................................ ......................................................... ดังนน้ั คา่ ของ 3 = ............................................................................................................................................................................................................................. 8.2) ข้อมูลชุดนี้มีค่านอกเกณฑห์ รอื ไมถ่ า้ มคี ือค่าใด หาค่า8.2.1) 1 − 1.5( 3 − 1) = ........................................................................................................................................................................................... หาคา่8.2.2) 3 + 1.5( 3 − 1) = ........................................................................................................................................................................................... จะพบวา่ มีข้อมูลท่นี อ้ ยกวา่ ได้แก่ 1 − 1.5( 3 − 1) ............................................................................................................................................................ มขี อ้ มูลทมี่ ากกวา่ ได้แก่ 3 + 1.5( 3 − 1) ............................................................................................................................................................. ดังนน้ั ค่านอกเกณฑ์ของขอ้ มูลชุดนี้ ไดแ้ ก่ ................................................................................................................................................................................. 8.3) จงเขียนแผนภาพกลอ่ ง (Box plot) เพ่ือนาเสนอข้อมูลชุดนี้ 2 46 8 10 12 14 16 18 20 8.4) จากแผนภาพกลอ่ งท่ไี ด้ในขอ้ 8.3) จงอธบิ ายลกั ษณะการกระจายของข้อมลู ชดุ น้ี บทที่ 3 : การวิเคราะหแ์ ละนาเสนอข้อมูลเชิงปริมาณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 41 9. อภชิ ัยได้จดบันทกึ ความยาวของกลว้ ยทอด (เซนติเมตร) ทส่ี ่มุ มาจากร้านคา้ แห่งหนึง่ จานวน 3 ถงุ แตล่ ะถุงมีกล้วยทอด 5.0 7.0 6.0 6.5 3.6 5.4 5.6 8.0 7.5 6.0 9.1) จงหาควอร์ไทล์ท่ี 1 ควอร์ไทล์ที่ 2 และควอรไ์ ทลท์ ่ี 3 ของขอ้ มลู ชุดนี้ 9.1.1) เรียงตาแหนง่ ทข่ี องขอ้ มูลจากน้อยไปหามาก ตาแหนง่ ที่ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 ตาแหนง่ ที่ 10 11 12 13 14 15 16 17 18 ตาแหน่งท่ี 19 20 21 22 23 24 25 26 27 ) หาค่าตา่ สุด ( ) ของขอ้ มลู คือ9.1.2 หาค่าสูงสดุ ( ) ของข้อมูล คอื ........................................................................................................................................................ ............. 9.1.3) หา 1 , 2 และ 3 หาไดจ้ ากสูตร ตาแหน่งควอไทล์ที่ = ( +1) ดังน้ี อยใู่ นตาแหน่งท่ี9.1.3.1) 1 ................................................................................................................................................................................................................................... ดังนัน้ คา่ ของ 1 = ............................................................................................................................................................................................................................ 9 อยู่ในตาแหนง่ ท่ี.1.3.2) 2 ........................................................................................................................................................................................................................... ดงั น้ันคา่ ของ 2 = ............................................................................................................................................................................................................................. 9 อย่ใู นตาแหน่งท่ี.1.3.3) 3 .......................................................................................................................................................................................................................... ดงั นั้นคา่ ของ 3 = ............................................................................................................................................................................................................................ บทที่ 3 : การวเิ คราะหแ์ ละนาเสนอข้อมูลเชิงปริมาณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 42 9.2) ข้อมลู ชดุ นีม้ คี า่ นอกเกณฑ์หรอื ไม่ถา้ มีคอื คา่ ใด หาค่า9.2.1) 1 − 1.5( 3 − 1) = ........................................................................................................................................................................................ 9 หาค่า.2.2) 3 + 1.5( 3 − 1) = ........................................................................................................................................................................................ จะพบวา่ มีข้อมลู ที่นอ้ ยกวา่ ได้แก่ 1 − 1.5( 3 − 1) ................................................................................................................................................................ มขี อ้ มูลทมี่ ากกวา่ ไดแ้ ก่ 3 + 1.5( 3 − 1) .............................................................................................................. .................................................. ดงั นนั้ ค่านอกเกณฑ์ของข้อมูลชุดนี้ ได้แก่ ...................................................................................................................................................................................... 9.3) จงเขียนแผนภาพกล่อง (Box plot) เพื่อนาเสนอข้อมลู ชดุ น้ี 4.0 4.5 5.0 5.5 6.0 6.5 7.0 8.0 8.5 9.0 9.4) จากแผนภาพกล่องทีไ่ ด้ในขอ้ 9.3) จงอธิบายลักษณะการกระจายของข้อมลู ชุดนี้ บทท่ี 3 : การวเิ คราะหแ์ ละนาเสนอข้อมูลเชิงปริมาณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 43 10. คะแนนสอบวชิ าคณติ ศาสตรข์ องนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/1 และ 6/2 แสดงดว้ ยแผนภาพกล่องได้ดงั น้ี 60 67 75 88 100 นกั เรยี นชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6/2 64 77 85 91 98 10.1) กล่มุ นกั เรยี นชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 6/1 ท่ีได้คะแนนต่าสุดมจี านวนประมาณ 25% ของนกั เรยี นท้ังหอ้ ง ∎ตอบ 10.2) มีนักเรียนชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 6/2 กีเ่ ปอรเ์ ซ็นตท์ ่ไี ดค้ ะแนนมากกวา่ 91 คะแนน 10.3) มีนักเรียนช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 6/1 กี่เปอร์เซ็นตท์ ่ไี ด้คะแนนน้อยกวา่ 75 คะแนน 10.4) มีนักเรยี นชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6/2 กเ่ี ปอร์เซน็ ต์ทไี่ ดค้ ะแนนมากกวา่ 77 คะแนน 10.5) กาหนดใหน้ กั เรยี นช้ันมธั ยมศึกษาปที แี่ ละ 6/2 มจี านวนเทา่ กัน และนกั เรยี นได้เกรด 4 ก็ตอ่ เมอื่ ∎ตอบ บทที่ 3 : การวิเคราะหแ์ ละนาเสนอข้อมูลเชิงปริมาณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 44 11. ขอ้ มลู ความสงู (เซนติเมตร) และนา้ หนกั (กโิ ลกรมั ) ของนักเรยี นทีส่ ุม่ มาจานวน 15 คนแสดงได้ดงั น้ี ความสงู (เซนติเมตร) 168 152 155 149 145 154 146 160 162 152 163 157 164 141 145 จงเขยี นแผนภาพการกระจายของข้อมลู ชดุ น้ี พร้อมทั้งพิจารณาว่าความสงู และนา้ หนกั ของนกั เรียนมีความสัมพันธ์ Y น้าหนกั (กิโลกรัม) 65 45 344005 2350 X ความสูง 0 130 จากแผนภาพ แผนภาพการกระจาย (scatter plot) ขา้ งตน้ สรุปไดว้ า่ บทที่ 3 : การวเิ คราะหแ์ ละนาเสนอข้อมูลเชิงปรมิ าณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 45 12. ความดันอากาศ ณ ความสงู ต่าง ๆ จากระดบั นา้ ทะเลปานกลางแสดงดว้ ยแผนภาพการกระจาย ได้ดังน้ี ความดันอากาศ (กิโลปาสกาล) 90 10 ความสูงจากระดับ 0 จงพิจารณาวา่ ความดนั อากาศและความสงู จากระดบั น้าทะเลปานกลางมีความสัมพันธ์กนั หรอื ไมอ่ ยา่ งไร 13. จานวนเพื่อนสนทิ และอายุของนักเรียนทส่ี ุม่ มาจานวน 16 คน แสดงด้วยแผนภาพการกระจายได้ดงั นี้ 6 4 3 2 อายุ (ปี) 0 13 14 15 16 17 18 จงพจิ ารณาวา่ จานวนเพือ่ นสนทิ และอายุของนกั เรยี นมคี วามสมั พันธ์กันหรือไมอ่ ย่างไร ∎ตอบ บทท่ี 3 : การวเิ คราะหแ์ ละนาเสนอขอ้ มูลเชิงปรมิ าณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 46 3.3 คา่ วดั ทางสถติ ิ ในการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้วิธกี ารของสถิติศาสตร์เชิงพรรณนา นอกจากจะทาได้โดยการเขียนตารางความถ่ีหรือ ค่าวัดทางสถิติประกอบด้วยค่าสถิติและพารามิเตอร์ ซึ่งเป็นค่าท่ีวัดลักษณะโดยประมวลหรือคานวณจากข้อมูล และ คา่ วดั ตาแหน่งทีข่ องข้อมลู 3.3.1 ค่ากลางของข้อมูล ค่ากลางของข้อมูลมีหลายชนิด เช่น ค่าเฉล่ียเลขคณิต มัธยฐาน ฐานนิยม ซ่ึงนักเรียนได้ศึกษามาแล้วในระดับ มัธยมศึกษาตอนต้นค่ากลางแต่ละชนิดต่างก็มีข้อดีข้อเสียและมีความเหมาะสมในการนาไปใช้ไม่ เหมือนกันข้ึนอยู่กับ ลักษณะการแจกแจงของข้อมูลและวตั ถปุ ระสงค์ของผู้ใชข้ อ้ มลู น้นั ๆ ในทางสถิติจะใช้ค่ากลางของข้อมูลเป็นตัวแทนของข้อมูลท้ังหมด เพื่อให้เข้าใจภาพรวมและสะดวกในการจดจา ข้อสรุปเกี่ยวกับข้อมูลนั้น ๆ เช่นผู้อานวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งต้องการทราบผลการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของนกั เรียนใน ระดับช้ันต่าง ๆ ในปีท่ีผ่านมาผู้อานวยการอาจไม่ต้องทราบผลการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนแต่ละคนในแต่ละ ระดบั ชนั้ แตอ่ าจพิจารณาเบื้องตน้ จากคา่ เฉลี่ยเลขคณติ ของคะแนนวิชาคณติ ศาสตรข์ องนักเรยี นแต่ระดับช้ัน วิเคราะห์ข้อมูลประเภทหน่ึง ซ่ึงเป็นการหาค่าทางสถิติของข้อมูลที่เราสนใจ โดยค่ากลางของข้อมูล คือ ตัวเลขท่ีใช้เป็น 1. คา่ เฉล่ียเลขคณิต (Arithmetic Mean ; หรือ ) บทท่ี 3 : การวเิ คราะหแ์ ละนาเสนอข้อมลู เชงิ ปรมิ าณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 47 ขอ้ ตกลงเบ้ืองตน้ เกยี่ วกับสญั ลักษณ์ทางสถติ ิ สัญลักษณ์ ความหมาย (ซิกมา : ) สญั ลกั ษณ์แทนการบวก หรอื สัญลกั ษณแ์ ทนผลรวม ( ) (มวิ : ) สัญลักษณ์ของค่าเฉลย่ี เลขคณติ สาหรับประชากร ( ) 3.3.1.1 ค่าเฉลย่ี เลขคณติ (arithmetic mean : , ) เป็นค่าท่ีหาไดจ้ ากการหารผลรวมของข้อมลู ท้งั หมดด้วยจานวนขอ้ มลู ทมี่ ี (1) ให้ 1 , 2 , 3 , . . . , แทน ขอ้ มูล เมอ่ื แทน ขนาดประชากร = 1+ 2+ 3+...+ = ∑ = 1 (2) ให้ 1 , 2 , 3 , . . . , แทน ขอ้ มลู เมอื่ แทน ขนาดตัวอยา่ ง = 1+ 2+ 3+...+ = ∑ =1 จะเห็นว่า เพื่อความสะดวกจะใช้ตัวอักษรกรีกตัวพิมพ์ใหญ่ ∑ (อ่านว่าซิกมา) เป็นสัญลักษณ์แสดงการบวก ∑ =1 (อ่านวา่ ซมั เมชนั (summation) เมอ่ื เท่ากบั 1 ถึง ) = ∑ = 1 ......................... (สาหรบั ประชากร : population) และ ̄ = ∑ =1 ......................... (สาหรับตัวอยา่ ง : sample) หมายเหตุ : การหาค่าเฉล่ียเลขคณิตจะใช้ได้กับข้อมูลเชิงปริมาณเท่าน้ัน เช่น สามารถหาค่าเฉล่ียเลขคณิตของ อายุ บทที่ 3 : การวิเคราะหแ์ ละนาเสนอขอ้ มลู เชงิ ปรมิ าณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 48 ∎ ตัวอย่างท่ี 14 ทีมฟุตบอลชายของโรงเรียนแห่งหน่ึงมีสมาชกิ ทั้งหมด 24 คน โดยความสูง (เซนติเมตร) ของสมาชิก 165 178 170 168 167 167 180 175 จงหาคา่ เฉลีย่ เลขคณติ ของข้อมลู ชดุ นี้ ดงั นั้น ̄ = ∑ =1 = 1 + 2 + 3+ ...+ 24 24 = +177+163+165+172+180+191+185+176+175+183+177+179 24 = 4,175 24 ≈ 173.96 ดังนน้ั คา่ เฉลี่ย หรอื ความสงู เฉลี่ย ของของนักฟตุ ลอลกลุ่มน้ี ประมาณ 173.96 เซนติเมตร ∎ ข้อสงั เกต : คา่ เฉลี่ยเลขคณิตทหี่ าไดอ้ าจไมใ่ ชค่ ่าใดค่าหนงึ่ ของข้อมลู ชุดน้ันเชน่ จากตัวอยา่ งท่ี 14 ค่าเฉลย่ี เลขคณิตของ ตัวอย่างที่ 15 โรงเรียนแห่งหน่ึงกาหนดว่านักเรียนจะได้เกรด 4 วิชาคณิตศาสตร์ ก็ต่อเม่ือนักเรียนได้คะแนนเฉลี่ยจาก บทที่ 3 : การวิเคราะหแ์ ละนาเสนอข้อมลู เชงิ ปริมาณ MA33101 M.6 PAKKRED SECONDARY SCHOOL : 49 ตัวอย่างท่ี 16 คะแนนสอบวิชาคณิตศาสตร์ของนกั เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6 ท่ีสุ่มตัวอย่างมาจากห้องหน่ึงจานวน 11 70 72 68 3 71 74 70 67 73 5 78 จงหา 16.1) คา่ นอกเกณฑข์ องข้อมูลชดุ น้ี วิธีทา 16.1) หาค่านอกเกณฑ์ของข้อมูลชุดน้ี เนอ่ื งจากการหาค่าดังกล่าวจาเปน็ ต้องหาค่า 1 , 2 , 3 ตาแหนง่ ที่ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 หาค่าตา่ สดุ ( ) ของข้อมูล คือ16.1.1) หาคา่ สงู สดุ ( ) ของขอ้ มูล คือ ........................................................................................... 16.1.2) หา 1 , 2 และ 3 หาได้จากสูตร ตาแหนง่ ควอไทลท์ ี่ = ( +1) ดงั นี้ อยใู่ นตาแหนง่ ท่ี16.1.2.1) 1 ................................................................................................................................................................................................................................ ดังนัน้ คา่ ของ 1 = .................................................................................................................................................................................................................................. อยูใ่ นตาแหนง่ ที16.1.2.2) 2 ............................................................................................................................................................................................................................ ดังน้นั คา่ ของ 2 = ................................................................................................................................................................................................................................ อยใู่ นตาแหนง่ ที่16.1.2.3) 3 ..................................................................................................................................................................................................................... .......... ดงั น้ันคา่ ของ 3 = .................................................................................................................................................................................................................................. หาค่า16.1.3.1) 1 − 1.5( 3 − 1) = ....................................................................................................................................................................................... หาค่า16.1.3.2) 3 + 1.5( 3 − 1) = ....................................................................................................................................................................................... จะพบวา่ มีขอ้ มูลที่นอ้ ยกว่า ไดแ้ ก่ 1 − 1.5( 3 − 1)............................................................................................................................................................................ และมีขอ้ มูลท่มี ากกว่า ได้แก่ 3 + 1.5( 3 − 1) ........................................................................................................................................................................... ดังนนั้ คา่ นอกเกณฑ์ของข้อมลู ชุดน้ี ได้แก่ .............................................................................................................................................................................................................. |