หน้าแรก > บทความกฎหมาย > ข้อแตกต่างระหว่างทำร้ายร่างกายผู้อื่น กรณีที่เป็นอันตราย และ กรณีไม่เป็นอันตราย Show ข้อแตกต่างระหว่างทำร้ายร่างกายผู้อื่น กรณีที่เป็นอันตราย และ กรณีไม่เป็นอันตรายในยุคสมัยที่เปลี่ยนไป แม้ว่าการศึกษา ความรู้ สติปัญญา ยังไม่นำมาช่วยตัดสินปัญหา แต่ใช้กำลังตัดสินปัญหาแทนด้วยอารมณ์โมโหในขณะนั้น สุดท้ายก็ไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้นมา มีแต่ทำให้แย่ลง สำหรับบางคนนั้นมีการสำนึกผิด ขอโทษ ก็เป็นสิ่งดีแต่อาจจะดูเหมือนวัวหายแล้วล้อมคอกไปบ้าง แต่ยังส่อเจตนาที่สำนึกผิด แต่กลับบางคนนั้นทำผิดแล้วยังไม่ขอโทษ ไม่สำนึกผิด และไม่แก้ไขปัญหา เย่อหยิ่งในตัวเอง สุดท้ายมีการดำเนินคดีนั้น เรื่องสำนึกผิดนั้นก็เป็นเรื่องที่ศาลนำมาประกอบการพิจารณารอการลงโทษนะครับ คิดให้ดีว่าสิ่งที่ได้มาคือสะใจ กับสิ่งที่เสียไปคืออิสรภาพหากมีโทษจำคุก เงินทอง เวลา อนาคตในการรับราชการ อื่นๆมากมาย เพราะฉะนั้นแล้ว ใช้อารมณ์ตัดสินปัญหาไม่ดีครับ อย่าห้าวเลย! การทำร้ายร่างกายนั้นมีหลายมาตราที่กำหนดโทษเอาไว้ และมีอัตราโทษแตกต่างกันไป สำหรับบทความนี้ขอยกตัวอย่าง 2 กรณี คือ 1. กรณีที่เป็นอันตราย ตามมาตรา 295 ผู้ใดทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย หรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่พันบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ - แผลแตก มีโลหิตไหล หรือฟันหักด้วย ถือว่ามาตรา 295 (เป็นอันตราย) ดู ฎ.3089/2541 2. กรณีไม่เป็นอันตราย ตามมาตรา มาตรา 391 ผู้ใดใช้กำลังทำร้ายผู้อื่นไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิด อันตรายแก่กายหรือจิตใจ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ - เป็นเพียงแผลรอยถลอก ขีดข่วน รอยช้ำบวม รอยช้ำแดง รักษาไม่กี่วันหาย ถือว่ามาตรา 391 (ไม่เป็นอันตราย) ฎ.440/2530 , 692/2535 , 370/2536 , 2192/2539 ตัวอย่าง คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 440/2530 จำเลยเพียงแต่ใช้มือตบตี และใช้ไม้ไผ่ผ่าซีกขว้างผู้เสียหายโดยไม่ปรากฏว่าไม้ไผ่ดังกล่าวมีขนาดใหญ่เล็กเพียงใด บาดแผลที่ผู้เสียหายได้รับก็เป็นเพียงรอยถลอกไม่มีโลหิตไหล อีกแห่งหนึ่งเพียงแต่บวมเมื่อกดตรงที่บวมจึงเจ็บและจะรักษาหายได้ในเวลาประมาณ 5 วัน ซึ่งเป็นเพียงการคาดคะเนของแพทย์ความจริงอาจจะหายเป็นปกติภายในเวลาไม่ถึงกำหนดที่กะประมาณไว้ก็ได้ จำเลยคงมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยไม่ถึงกับเป็นอันตรายแก่กายหรือจิตใจตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 391เท่านั้น ปรึกษากฎหมายโทร 080-9193691 , 02-0749954 หรือ แอดไลน์ @closelawyer หรือ คลิก https://line.me/R/ti/p/%40closelawyer แบบฟอร์มปรึกษากฎหมาย/คดีความกรุณากรอกข้อมูลให้ครบถ้วน ทีมงานจะตอบคำถามท่านภายใน 3 วัน Visitors: 549,054
จากกรณีข่าวป้าตบรักเรียน เหตุที่ไม่ยืนเคารพธงชาติ กลายเป็นขกระแสในโซเชียลที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากว่าไม่สมควร และ ไม่มีสิทธ์ไปทำร้ายคนอื่น .ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาป้า มาพบกับผู้ปกครองของนักเรียนที่ถูกร้ายและปรับความเข้าใจพร้อมขอโทษแล้ว
ด้านผู้ปกครองก็กล่าวว่าไม่ได้ติดใจอะไรเรื่องคดีขอให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะดำเนินคดีอย่างไรต่อไป
ล่าสุดเพจทนายคู่ใจ "ทนายรณรงค์" ได้ออกมาโพสต์เตือน!! และแนะถึงข้อกฎหมาย การทำร้ายร่างกาย ที่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แค่จ่ายค่าปรับเรื่องก็จบ แต่อาจจะได้ไปจบที่ศาลหรือคุก!! โดยทางเพจได้ระบุข้อความไว้ดังนี้...
มาตรา 278 ผู้ใดกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ |