เบกกิ้งโซดา กินแล้วอันตรายไหม

ทางไตอยู่ดี ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าการกินเบกกิ้งโซดาก่อนออกกำลังกายช่วยให้ออกกำลังกายได้นานขึ้นไม่เป็นความจริงและผลข้างเคียงที่อาจพบได้หากกินเบกกิ้งโซดาคืออาจมีอาการปวดท้อง ท้องอืด คลื่นไส้ได้นะ ดังนั้นก่อนจะกิน หรือใช้อะไรควรศึกษาให้ดีก่อนไม่อย่างนั้นอาจจะเกิดอันตรายต่อตัวเราได้ pic.twitter.com/nQuZeaqT1B

สำหรับคนที่ร่างกายอ่อนแอ ไม่สบายบ่อยนั่นเป็นเพราะว่าร่างกายของคุณมีภูมิต้านทานต่ำ ซึ่งทำให้ไม่สามารถรับมือกับเชื้อโรคต่างๆ ที่เข้าสู่ร่างกายได้จนทำให้คุณมักจะเป็นหวัดบ่อยๆ นั่นเอง

แต่อย่าเพิ่งหันไปเพิ่มภูมิต้านทานให้กับตัวเองด้วยการทานอาหารเสริมนะคะ เพราะการดื่มน้ำเบกกิ้งโซดาก็สามารถช่วยเพิ่มภูมิต้านทานและลดอาการไข้หวัดได้เหมือนกัน แถมยังประหยัดและปลอดภัยอีกด้วย โดยมีวิธีการทำน้ำเบกกิ้งโซดาดื่ม ดังนี้

– ผสมเบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชากับน้ำ 1 แก้วแล้วคนให้เข้ากัน
– จิบเป็นประจำทุกวันเช้า-เย็น หรือจิบทุก 2 ชั่วโมงจนกว่าหายดี

2.ลดอาการเจ็บคอจากกรดไหลย้อน

เมื่อทานอาหารที่มีรสเผ็ดและจัดจ้านทีไรมักจะมีอาการเจ็บแสบคอจากกรดไหลย้อนทุกทีใช่ไหม แนะนำให้ดื่มน้ำเบกกิ้งโซดาดูค่ะ เพราะเบกกิ้งโซดามีคุณสมบัติในการแก้อาการเจ็บคอจากกรดได้ดี และยังช่วยบรรเทาอาการกรดไหลย้อนได้อีกด้วย

ส่วนในคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหารทำงานอย่างไม่มีประสิทธิภาพ ย่อยช้าการดื่มน้ำเบกกิ้งโซดาบ่อยๆ ก็ช่วยให้กระเพาะอาหารทำงานได้ดีขึ้นเหมือนกันนะคะ โดยคุณสามารถทำน้ำเบกกิ้งโซดาดื่มได้ ดังนี้

– ผสมเบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชากับน้ำ 1/2 ถ้วยตวง แล้วคนให้เข้ากัน
– จิบหลังจากทานอาหารประมาณ 1-2 ชั่วโมง

3.บรรเทาอาการลมพิษ

อากาศร้อนแบบนี้หลายๆ คนคงมักจะเจอกับปัญหาเป็นลมพิษกันบ่อยๆ ซึ่งคนส่วนใหญ่จะนิยมใช้คาลาไมล์ทาเพื่อบรรเทาอาการลมพิษ แต่นั่นก็ยังไม่ให้ผลดีเท่าที่ควร ดังนั้น เราขอแนะนำนี่เลยค่ะ”เบกกิ้งโซดา”ที่จะช่วยบรรเทาอาการเจ็บๆ คันๆ จากลมพิษได้ดี โดยมีวิธีการนำเบกกิ้งโซดาไปรักษาลมพิษดังนี้

– นำผงเบกกิ้งโซดามาผสมกับน้ำ 1-2 หยด หรือจนกว่าเบกกิ้งโซดาจะเป็นแป้งเปียก
– นำแป้งเปียกจากเบกกิ้งโซดาที่ได้มาทาให้ทั่วบริเวณที่เป็นลมพิษ

4.ช่วยให้ฟันขาวขึ้น

เบกกิ้งโซดามีคุณสมบัติในการขจัดคราบสกปรกและคราบฝังแน่นได้ดี ซึ่งจะเห็นได้ว่าแม่บ้านส่วนใหญ่จะนิยมนำเบกกิ้งโซดามาใช้ทำความสะอาดคราบสกปรกฝังแน่นที่ติดอยู่บนเครื่องใช้ต่างๆ นั่นเอง เบกกิ้งโซดาจึงสามารถนำมาขจัดคราบฝังแน่นที่ฟันให้หลุดออกไปได้ดีโดยเฉพาะคราบกาแฟและยังช่วยลดหินปูนได้อีกด้วย โดยมีวิธีนำเบกกิ้งโซดามาทำให้ฟันขาว ดังนี้

– ผสมเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชากับน้ำมะนาว 1/2 ช้อนชา
– นำน้ำเบกกิ้งโซดาที่ได้มาใช้แปรงฟัน โดยใช้แปรงฟันจุ่มลงไปแล้วนำมาแปรงฟันเบาๆ
– บ้วนปากด้วยน้ำเปล่าจนสะอาด

5.บรรเทาอาการปวดจากแมลงสัตว์กัดต่อย

หากโดนแมลงสัตว์ที่มีพิษกัดต่อย จนทำให้มีอาการปวดและบวมเป็นอย่างมาก แนะนำให้ใช้เบกกิ้งโซดาช่วยในการบรรเทาอาการปวดค่ะ เพราะเบกกิ้งโซดามีฤทธิ์ในการกำจัดพิษของแมลงและสัตว์มีพิษได้ดีและยังช่วยลดอาการปวดและอาการคันได้อีกด้วย โดยมีวิธีการใช้ดังนี้

– ผสมเบกกิ้งโซดา 2 ช้อนชากับน้ำ 1 แก้ว
– นำมาทาบริเวณที่โดนแมลงสัตว์กัดต่อยหรือมีอาการปวดบวม

6.รักษาแผลในช่องปาก

เมื่อเกิดแผลในช่องปากหรือที่เรียกว่า ร้อนใน ซึ่งจะสร้างความทรมานให้กับคุณเป็นอย่างมากแถมยังทำให้ทานอาหารได้ยากอีกด้วย ลองกลั้วคอด้วยเบกกิ้งโซดาดูสิคะ เพราะเบกกิ้งโซดาจะช่วยรักษาแผลในช่องปากได้ดีและยังช่วยลดอาการอักเสบได้มากทีเดียว โดยมีวิธีการนำเบกกิ้งโซดามารักษาแผลในช่องปากดังนี้

– ผสมเบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชากับน้ำเปล่า 1 แก้ว
– นำน้ำเบกกิ้งโซดามากลั้วคอทุกๆ 4 ชั่วโมง

7.ป้องกันการติดเชื้อ

ในชีวิตประจำวันของคนเรานั้นจะต้องเจอกับสิ่งสกปรกและเชื้อโรคอยู่ตลอดเวลา โดยที่คุณไม่รู้เลยว่าเชื้อโรคจะเข้าสู่ร่างกายของคุณได้ตอนไหน ดังนั้นคุณจึงควรดื่มน้ำเบกกิ้งโซดาเป็นประจำทุกอาทิตย์เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และเพื่อฆ่าเชื้อโรคเมื่อเข้าสู่ร่างกายของคุณนั่นเอง โดยมีวิธีนำเบกกิ้งโซดามาใช้ในการป้องกันการติดเชื้อดังนี้

– ผสมเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชากับน้ำ 2 ถ้วยตวง
– ดื่มน้ำเบกกิ้งโซดาอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้งหรือมากกว่านั้น

เห็นไหมว่าแค่เพียงผงเบกกิ้งโซดานิดเดียวก็ทำให้มีสุขภาพดีได้แล้ว เพราะฉะนั้นหากคุณกำลังมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพ ลองแก้ปัญหาด้วยเบกกิ้งโซดากันก่อนนะคะ รับรองว่าคุณจะพึงพอใจกับผลที่ได้รับแน่นอน

📌เบกกิ้งโซดา..กินมากไป ย่อมเกิดโทษ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2845768912122879&id=100000693953848

หมักเนื้อด้วยเบกกิ้งโซดาอันตรายไหม

เบกกิ้งโซดา กินยังไง

เบกกิ้งโซดาเป็นอันตรายต่อผิวไหม

เบกกิ้งโซดาเข้าปากได้ไหม