เลือดออกในทางเดินอาหาร (Gastrointestinal bleeding or GI bleeding)
สารบัญ Show
บทความที่เกี่ยวข้อง บทนำ: คือโรคอะไร?พบบ่อยไหม?เลือดออกในทางเดินอาหาร (Gastrointestinal bleeding ย่อว่า GI bleeding หรือ Gastrointestinal hemorrhage ย่อว่า GI hemorrhage) คือ อาการ/ภาวะผิดปกติที่ส่งผลให้เกิดการอักเสบ บาดเจ็บ เสียหาย ต่อหลอดเลือดในเนื้อเยื่อของอวัยวะในระบบทางเดินอาหารส่วนใด/จุดใดก็ได้ จนส่งผลให้เกิดเลือดออกจากหลอดเลือดที่เสียหายเหล่านั้นเข้าสู่ช่องทางเดินอาหารและผ่านออกนอกร่างกายโดย การอาเจียนเป็นเลือด และ/หรือ อุจจาระเป็นเลือด ซึ่งภาวะเลือดออกจากทางเดินอาหารนี้ เป็นได้ทั้งภาวะ/อาการที่เกิดอย่างเฉียบพลัน (พบได้บ่อย) หรืออาจพบเกิดอย่างเรื้อรังต่อเนื่อง (พบได้น้อยกว่า) อนึ่ง ระบบทางเดินอาหาร (Gastrointestinal tract เรียกย่อว่า GI tract) ในบทความนี้ หมาย ถึงทั้ง
อวัยวะในทางเดินอาหารตอนบนและตอนล่าง เป็นอวัยวะที่มีช่องตรงกลาง ที่เป็นทาง ผ่านของอาหาร และมีหน้าที่โดยตรงในการย่อยอาหาร ดูดซึมอาหาร และกำจัดกากอาหารและของเสียออกจากร่างกายผ่านทางอุจจาระ อวัยวะในส่วนนี้ทั้งหมดดังได้กล่าวแล้ว สามารถเกิดภาวะมีเลือดออกได้เสมอ ทั้งที่เราสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เช่น อาเจียนเป็นเลือด อุจจาระเป็นเลือด หรือจากที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่ตรวจพบจากการตรวจอุจจาระในผู้ป่วยที่มีอาการเบื้องตัน ที่แพทย์สงสัยว่าผู้ป่วยอาจมีเลือดออกในทางเดินอาหาร(ชนิดมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า) เช่น ผู้ป่วยมีภาวะซีดที่หาสาเหตุไม่ได้ (แพทย์ทราบจากตรวจร่างกายและการตรวจเลือด ซีบีซี/CBC) และต้องตรวจสืบค้นด้วยวิธีเฉพาะเพิ่มเติม เช่น การส่องกล้องตรวจทางเดินอาหาร เป็นต้น อาการเลือดออกในทางเดินอาหารตอนบนในสหรัฐอเมริกา มีรายงานว่า ใน 1 ปี พบได้ประมาณ 40-50 ครั้ง (ใน 1 คน อาจเกิดได้หลายครั้ง) ต่อประชากร 1 แสนคน ซึ่งในการนี้ พบอัตราเสียชีวิตได้ 6-10% ส่วนอาการเลือดออกในทางเดินอาหารตอนล่างใน 1 ปี พบได้ประ มาณ 20-27 ครั้งต่อประชากร 1 แสนคนต่อปี โดยมีอัตราเสียชีวิตประมาณ 4-10% ภาวะเลือดออกในทางเดินอาหาร เกิดได้ทั้งในผู้หญิงและในผู้ชาย แต่พบในผู้ชายได้สูงกว่าในผู้หญิง และภาวะนี้พบได้ในทุกอายุ แต่โดยทั่วไป เป็นภาวะที่พบในผู้ใหญ่วัยกลางคนขึ้นไป เลือดออกในทางเดินอาหารมีสาเหตุจากอะไร?สาเหตุของการเกิดเลือดออกในทางเดินอาหาร ได้แก่ 1. สาเหตุของการมีเลือดออกในทางเดินอาหารตอนบน ได้แก่
2. สาเหตุของการมีเลือดออกในทางเดินอาหารตอนล่าง ได้แก่
ใครมีปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดเลือดออกในทางเดินอาหาร?ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดเลือดออกในทางเดินอาหาร ได้แก่
เลือดออกในทางเดินอาหารมีอาการอย่างไร?อาการจากมีเลือดออกในทางเดินอาหาร คือ 1. อาการจากเลือดออกในทางเดินอาหารตอนบน ที่พบได้บ่อย คือ
2. อาการจากมีเลือดออกในทางเดินอาหารตอนล่าง ที่พบได้บ่อย คือ
อนึ่ง บางครั้ง การมีเลือดออกในทางเดินอาหารทั้งตอนบนละตอนล่าง อาจไม่พบการอา เจียนเป็นเลือด อุจจาระดำ หรือ อุจจาระเป็นเลือด แต่ผู้ป่วยจะมาพบแพทย์จากการมีภาวะซีด ทั้งนี้เกิดจากภาวะเลือดทยอยออกครั้งละน้อยมากจนไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่มีเลือดออกต่อเนื่องเรื้อรัง จึงส่งผลให้เกิดภาวะซีด เรียกเลือดออกในลักษณะนี้ว่า ‘Occult GI bleeding’ ซึ่งแพทย์วินิจฉัยได้จากการตรวจพบเม็ดเลือดแดงในอุจจาระจากการตรวจอุจจาระ นอกจากนั้น ประมาณ 5% ของผู้ป่วยเลือดออกในทางเดินอาหาร ภายหลังการตรวจต่าง ๆแล้ว แพทย์อาจไม่สามารถหาพบตำแหน่งที่เกิดเลือดออกได้ เรียกว่า ภาวะนี้ว่า ‘Obscure GI bleeding’ แต่ถ้าต่อมามีเลือดออกซ้ำอีก โอกาสที่จะตรวจพบตำแหน่งเลือดออกจะสูงขึ้น ซึ่งกรณีเช่นนี้ ประมาณ 75% เป็นเลือดออกในลำไส้เล็ก แพทย์วินิจฉัยเลือดออกในทางเดินอาหารได้อย่างไร?แพทย์วินิจฉัยว่ามีเลือดออกในทางเดินอาหาร ทั้งทางเดินอาหารตอนบนและตอนล่างได้ด้วยวิธีการเดียวกัน คือ
รักษาเลือดออกในทางเดินอาหารอย่างไร?แนวทางการรักษาภาวะเลือดออกในทางเดินอาหารทั้งตอนบนและตอนล่างจะเหมือนกัน คือ การรักษาเพื่อหยุดการเลือดออก การรักษาสาเหตุ และการรักษาประคับประคองตามอาการ
เลือดออกในทางเดินอาหารรุนแรงไหม? มีผลข้างเคียงอย่างไร?ความรุนแรง/ การพยากรณ์โรคของภาวะเลือดออกในทางเดินอาหาร เป็นภาวะที่มีความรุนแรง จึงควรต้องรีบไปโรงพยาบาลฉุกเฉินเสมอเมื่อมีอาการดังกล่าวในหัวข้อ อาการ ทั้งนี้เพราะเลือดอาจออกมากจนช็อก และเป็นเหตุให้เสียชีวิตได้ ส่วนผลข้างเคียงสำคัญของการมีเลือดออกในทางเดินอาหาร คือ
ดูแลตนเองอย่างไร? ควรพบแพทย์เมื่อไร?ควรพบแพทย์ก่อนนัด/ฉุกเฉินเมื่อไหร่?การดูแลตนเองและการพบแพทย์/มาโรงพยาบาลที่สำคัญ คือ
ส่วนเมื่อพบแพทย์และได้รับการวินิจฉัยว่ามีเลือดออกในทางเดินอาหาร และมีสาเหตุจากอะ ไรแล้ว การดูแลตนเองเมื่ออยู่บ้าน คือ
ป้องกันเลือดออกในทางเดินอาหารอย่างไร?การป้องกันภาวะเลือดออกในทางเดินอาหารทั้งตอนบนและตอนล่าง จะเช่นเดียวกัน คือ การหลีกเลี่ยง สาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยงที่หลีกเลี่ยงได้ ดังได้กล่าวแล้วในหัวข้อ สาเหตุ/ปัจจัยเสี่ยง ซึ่งที่สำคัญ คือ เลือดออกในกระเพาะอาหารรักษายังไงการรักษาเลือดออกในทางเดินอาหาร
GI Bleeding มีวิธีการรักษาแตกต่างกันไปตามสาเหตุ ผู้ป่วยบางรายอาจได้รับการรักษาในระหว่างการตรวจด้วยการส่องกล้องประเภทต่าง ๆ ไปพร้อมกัน โดยแพทย์อาจฉีดยา ใช้กระแสไฟฟ้าและเลเซอร์จี้ หรือใช้คลิปหนีบหลอดเลือดเพื่อให้เลือดหยุดไหล
เลือดออกในกระเพาะอาหารมีอาการยังไงอาการของภาวะเลือดออกในทางเดินอาหารส่วนบน
ในบางรายจะมีการถ่ายเป็นอุจจาระสีดำ เปียก เหนียว เหมือนยางมะตอย กลิ่นเหม็นรุนแรง ซึ่งบางครั้งเกิดร่วมกับอาเจียนเป็นเลือด อาการร่วมทั่วไป อาจคลื่นไส้ เบื่ออาหาร ปวดท้องช่วงบนเหนือระดับสะดือ ถ่ายเลือดออกมากจะมีภาวะซีด อ่อนเพลีย หัวใจเต้นเร็วและเบา เป็นลม หมดสติได้
เลือดออกในกระเพาะอาหารสาเหตุมาจากอะไร1.เลือดออกทางเดินอาหารส่วนต้น อาจมีอาการอาเจียนออกมาเป็นเลือด มักมีสาเหตุมาจากแผลในกระเพาะอาหาร รองลงมาคือแผลในลำไส้เล็กส่วนต้น นอกจากนี้หลอดอาหารอาจมีความผิดปกติ เช่น เส้นเลือดดำที่หลอดอาหารโป่งพองแตกออกจึงทำให้มีเลือดออกได้ หรืออาจมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ถ่ายมีดำ ลักษณะเหลว มีกลิ่นเหม็น เป็นต้น
แผลในกระเพาะอาหาร รักษายังไงหลักการรักษาโรคแผลในกระเพาะอาหาร. รับประทานอาหารอ่อนย่อยง่าย. หลักเลี่ยงอาหารรสเผ็ดจัด เปรี้ยวจัด ของดอง น้ำอัดลม. งดสูบบุหรี่ และดื่มสุรา. งดการใช้ยาแก้ปวดแอสไพริน ยาโรคกระดูกและยาข้ออักเสบทุกชนิด. ผ่อนคลายความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ. รับประทานยาลดกรด หรือยารักษาแผลในกระเพาะอาหารติดต่อกัน. |