หลังฉีดโบ กินวิตามินซีได้ไหม

หลายคนคงเคยฉีดโบท็อกซ์ เพื่อลดริ้วรอย ลดกราม หรือ โบลิฟติ้ง เพื่อเก็บกรอบหน้ากันแล้ว แต่หลายคนก็อาจจะยังไม่ทราบถึง วิธีการปฏิบัติตัวก่อนและหลังการฉีดโบท็อกซ์อย่างถูกต้องนะคะ วันนี้หมอจะมาแนะนำว่าก่อนและหลังการฉีดโบท็อกซ์แล้ว ต้องทำอย่างไรค่ะ

Show


หลังฉีดโบ กินวิตามินซีได้ไหม

วิธีปฏิบัติตัวก่อนและหลังฉีดโบท็อกซ์



คำแนะนำก่อนการฉีดโบท็อกซ์


  1. ก่อนการฉีดโบท็อกซ์ ควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ

  2. หากรับประทานยาหรืออาหารเสริม ได้แก่ น้ำมันปลา วิตามินอี สารสกัดจากใบแปะก๊วย ยาละลายลิ่มเลือดกลุ่มแอสไพริน ยาลดการอักเสบกลุ่ม NSAID ควรงดมาอย่างน้อย 5 วัน เนื่องจากจะทำให้เลือดหยุดช้า ทำให้เกิดรอยช้ำได้

  3. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด อย่างน้อย 7 วันก่อนการฉีด

  4. ไม่อยู่ในภาวะตั้งครรภ์ หรือ ให้นมบุตร


หลังฉีดโบ กินวิตามินซีได้ไหม

botox ssbclinic




คำแนะนำหลังการฉีดโบท็อกซ์


  1. พยายามขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่รักษาทุก 15 นาที นานประมาณ 4 ชั่วโมง เพื่อให้โบท็อกซ์กระจายเข้าสู่กล้ามเนื้อได้เร็วขึ้น เช่น ถ้าฉีดรอบดวงตา ควรยิ้มทุก 15 นาทีใน 4 ชั่วโมงแรกหลังการรักษา

  2. หลีกเลี่ยงการนอนราบ หรือเอนศีรษะ 4 ชั่วโมงแรกหลังการฉีดโบท็อกซ์ เพื่อป้องกันการไหลของยาไปสู่กล้ามเนื้อบริเวณอื่นที่อาจเกิดผลข้างเคียงที่ไม่ต้องการได้

  3. สามารถล้างหน้าได้ หลังการรักษา 4 ชั่วโมง และสามารถทาครีม เครื่องสำอางค์ได้ในวันถัดไป

  4. หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลังการฉีด 3-5 วันหลังการรักษา

  5. ถ้ามีรอยช้ำสามารถประคบเย็นได้ภายใน 24 ชั่วโมงหลังการฉีด ภายหลัง 24 ชั่วโมงสามารถประคบด้วยน้ำอุ่น

  6. หลังการฉีดโบท็อกซ์ลดกราม ควรหลีกเลี่ยงอาหารแข็ง ของขบเค้ี้ยว หมากฝรั่ง

  7. หลีกเลี่ยงการนวดหน้า ขัดหน้า หรือ เลเซอร์ใบหน้า หลังการรักษาด้วยโบท็อกซ์ 2 สัปดาห์

  8. หลีกเลี่ยงการกดคลึงใบหน้าบริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์หลังการรักษาอย่างน้อย 2 สัปดาห์

  9. รอยนูนหลังฉีดจะค่อยๆหายไปเองภายใน 2-3 ชั่วโมงหลังการฉีด สามารถประคบเย็นเพื่อให้หายเร็วขึ้นได้


หลังฉีดโบ กินวิตามินซีได้ไหม

botox ssbclinic



โบท็อก และแต่จุดต้องใช้ปริมาณเท่าไร (คลิกอ่านต่อ)


หลังฉีดโบ กินวิตามินซีได้ไหม


หลังฉีดโบท็อกซ์ จะเห็นผลลัพธ์เมื่อไร


  • โบท็อกซ์รักษาริ้วรอย จะเห็นผลลัพธ์เต็มที่ภายใน 2 สัปดาห์ และจะอยู่ได้นาน 4-6 เดือน

  • โบท็อกซ์ลดกราม จะเห็นผลลัพธ์เต็มที่ภายใน 1 เดือน และอยู่ได้นาน 6-9 เดือน เพื่อผลลัพธ์ที่ดี ควรหลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารขบเคี้ยว อาหารแข็ง หรือ อาหารเหนียว หมากฝรั่ง

    การฉีดโบท็อก เป็นหัตถการที่ได้รับความนิยมสูง ราคาไม่แพง ปกติโบท็อกจะอยู่ได้นาน 4-6 เดือน หากละเลยการดูแลตัวเอง หลังฉีดโบท็อก ผลการรักษาอาจอยู่ได้สั้นลง ต้องฉีดบ่อยขึ้น เสียเงินเยอะขึ้น เพื่อความเกิดคุ้มค่าสูงสุด หมอมีการดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อก เพื่อให้โบท็อกให้ออกฤทธิ์ไว สลายช้า อยู่ได้นาน มาแนะนำครับ

    สารบัญ


    ก่อนฉีดโบท็อก ควรเตรียมตัวอย่างไร ?

    การฉีดโบท็อก (Botox) เป็นวิธีรักษาริ้วรอยบนใบหน้า ช่วยกระชับกรอบหน้า ทำให้ใบหน้ากลับมาตึงกระชับขึ้น หากฉีดบริเวณกรามก็จะทำให้กล้ามเนื้อกรามมีขนาดเล็กลง ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น และสามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นได้ เช่น เมโสแฟตเหนียง ฉีดฟิลเลอร์คาง ยิ่งช่วยรูปหน้า V-Shape ขึ้นได้โดยไม่ต้องผ่าตัดครับ 

    หลังฉีดโบ กินวิตามินซีได้ไหม

    นอกจากนี้โบท็อกยังช่วยลดเหงื่อ ลดขนาดกล้ามเนื้อแขน กล้ามเนื้อน่องได้ ทั้งนี้ เพื่อให้โบท็อกปลิวน้อยที่สุด คงประสิทธิภาพดีที่สุด และให้ผลลัพธ์การรักษาอยู่ได้นานกว่าปกติ ก่อนฉีดโบท็อกควรเตรียมตัว ดังนี้ 

    1. เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและใช้โบท็อกแท้ : ก่อนฉีดโบท็อก คนไข้ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับคลินิกที่ต้องการฉีดอย่างละเอียด ว่ามีการเปิดให้บริการอย่างถูกต้อง ได้มาตรฐาน ใช้โบท็อกแท้ สามารถตรวจสอบกับบริษัทนำเข้าได้ เพราะโบท็อกแท้มีความบริสุทธิ์สูง กระจายตัวต่ำ ฉีดจุดไหนให้ผลลัพธ์ที่จุดนั้น ไม่เสี่ยงต่อการดื้อโบท็อกในการฉีดครั้งต่อไป
    หลังฉีดโบ กินวิตามินซีได้ไหม

    ก่อนฉีดโบท็อกควรให้แพทย์แกะกล่องเปิดขวด ผสมโบท็อกให้ดูต่อหน้า เพื่อตรวจสอบว่าเป็นโบท็อกยี่ห้อที่เลือกไว้จริง เป็นขวดใหม่ที่ไม่ผ่านการทำละลายผสมด้วยน้ำเกลือมาก่อน เพื่อความปลอดภัย และความสบายใจของคนไข้เองครับ 

    1. โบท็อกต้องผสมน้ำเกลือ : โบท็อกแท้ทุกยี่ห้อ จะมาในรูปแบบสุญญากาศแห้ง ๆ ไม่มีน้ำ ต้องฉีดน้ำเกลือลงไปละลายเพื่อดูดออกมาฉีดครับ ถ้ามีการเจือจางน้ำเกลือมากเกินไป จะทำให้โบท็อกปลิวไปง่ายขึ้น ประสิทธิภาพลดลง ปริมาณความเข้มข้นที่เหมาะสม คือ น้ำเกลือ 2.6 cc ต่อ โบท็อก 100 ยูนิตครับ 
    หลังฉีดโบ กินวิตามินซีได้ไหม

    ก่อนฉีดควรให้แพทย์ผสมโบท็อกต่อหน้าทุกครั้ง เพื่อจะได้มั่นใจว่าไม่ได้เจือจางน้ำเกลือมากเกินไป หากคลินิกแจ้งว่าไม่สามารถให้ดูได้ หรือต้องทำในห้องปลอดเชื้อ ให้ถือว่าคลินิกนั้นไม่บริสุทธิ์ใจกับคนไข้ครับ

    1. เเพทย์มีเทคนิคการฉีดโบท็อก : แพทย์มีประสบการณ์ สามารถประเมินกล้ามเนื้อบริเวณที่ต้องการฉีดโบท็อก ทราบระดับความลึกที่เซลล์เส้นประสาทเกาะกล้ามเนื้อทำให้การฉีดมีความแม่นยำ ส่งผลให้โบท็อกออกฤทธิ์ไว คงผลลัพธ์ได้นาน
    2. ไม่ควรใช้จำนวนยูนิต ในแต่ละครั้งเกิน 300 ยูนิต : การใช้จำนวนโบท็อกมาก ๆ เพิ่มโอกาสที่ร่างกายจะสร้างภูมิต้านทานได้ง่ายขึ้น จึงควรหลีกเลี่ยงเทคนิคการฉีดโบท็อกปริมาณมาก ๆ เข้ากล้ามเนื้อโดยตรง เพราะจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการดื้อยา และการฉีดโบท็อกต่อครั้งไม่ควรใช้จำนวนยูนิตที่น้อยเกินไปในแต่ละจุด เพราะจะทำให้หมดฤทธิ์ไว และต้องฉีดบ่อยขึ้นก็จะเสี่ยงต่อการดื้อโบท็อกได้เช่นกันครับ 

    ในการฉีดแต่ละครั้ง หมอจะประเมินว่าคนไข้ควรใช้โบท็อกกี่ยูนิต เพื่อให้เหมาะสมกับปัญหาและความต้องการของคนไข้แต่ละคนครับ

    หลังฉีดโบ กินวิตามินซีได้ไหม
    1. ประคบเย็นระหว่างฉีดโบท็อก : ระหว่างฉีดโบท็อกแพทย์จะมีการประคบด้วยความเย็นรอบ ๆ บริเวณที่ฉีด เพื่อลดการไหลเวียนของเส้นเลือด ทำให้โบท็อกอยู่เฉพาะจุด ลดการปลิวของโบท็อกไปบริเวณอื่น 

    หลังฉีดโบท็อก ควรปฏิบัติตัวแบบไหนที่จะทำให้ โบท็อกสลายช้าที่สุด

    1. ขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด : หลังฉีดโบท็อกทันที ควรรีบขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด 1-2 ครั้ง และหลังจากฉีดเสร็จทั้งหมด ควรบริหารกล้ามเนื้อเป็นเวลา 30 นาที เพื่อให้โบท็อกถูกเซลล์ประสาทดูดเข้าไปให้มากที่สุด เหลือส่วนที่จะปลิวไปน้อยที่สุด
    2. ทานอาหารบางประเภท : ในงานวิจัยพบว่าการทานแร่ธาตุ zinc 50 mg ก่อนและหลังการฉีดโบท็อก ช่วยให้โบท็อกออกฤทธิ์ไวขึ้น ออกฤทธิ์ดีขึ้น และช่วยให้โบท็อกอยู่ได้นานขึ้น เนื่องจาก การทำงานของโบท็อกที่อยู่ในเซลล์ประสาท จะต้องอาศัยแร่ธาตุ zinc (สังกะสี) เป็นปัจจัยสำคัญ 
    3. ฉีดโบท็อกต่อเนื่อง : ควรฉีดโบท็อกต่อเนื่องในระยะที่เหมาะสมไม่ฉีดถี่เกินไป (อย่างต่ำควรเว้น 3เดือน) และไม่เว้นระยะห่างเกินไป (ไม่ควรเว้นเกิน 5-6 เดือน) เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อกลับมาทำงานได้ปกติ และอาจจะต้องใช้ยูนิตของโบท็อกเยอะขึ้นครับ

    การฉีดโบท็อกเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัยสูง ผลข้างเคียงน้อย เพื่อให้ผลลัพธ์การรักษามีประสิทธิภาพ และคงผลลัพธ์ที่ยาวนานขึ้น คนไข้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดครับ


    ข้อห้ามหลังฉีดโบท็อก

    เพื่อให้การฉีดโบท็อกมีประสิทธิภาพ หลังฉีดโบท็อกมีข้อควรปฏิบัติ เพื่อให้โบท็อกอยู่ได้นานขึ้น ดังนี้

    • งดนอนราบ 3 ชม. และงดการก้มหัวลงต่ำกว่าระดับหัวใจ เพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนมาที่หน้าเยอะขึ้น ส่งผลให้โบท็อกจะปลิวไปเยอะขึ้น 
    • หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด และกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง โดยเฉพาะในช่วง 2 อาทิตย์แรกหลังฉีด เช่น การซาวน่า, ออกกำลังกายหนัก ๆ, ตากแดด, เลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด
    หลังฉีดโบ กินวิตามินซีได้ไหม

    เนื่องจาก ปัจจัยสำคัญที่ทำให้โบท็อกย่อยสลายไวขึ้น คือ ความร้อน และการไหลเวียนของเลือด (Metabolism) เมื่อครบกำหนดคนไข้สามารถทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้ตามปกติ และควรหลีกเลี่ยงความร้อน


    ข้อห้ามการฉีดโบท็อก ที่อันตรายถึงชีวิต

    การฉีดโบท็อกไม่อันตรายครับ หากคนไข้มีสุขภาพที่แข็งแรง ไม่โรคประจำตัวที่ส่งผลต่อการฉีดโบท็อก

    ทั้งนี้ การฉีดโบท็อก ไม่สามารถฉีดได้ (Absolute contraindication) ในคนไข้ที่มีโรคประจำตัว ดังนี้

    • คนที่มีโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด โรคถุงลมโป่งพอง 
    • คนที่มีปัญหากล้ามเนื้อในการกลืน
    • คนที่เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงต่าง ๆ เช่น
      • amyotrophic lateral sclerosis (ALS)
      • Lou Gehrig’s disease
      • myasthenia gravis
      • Lambert-Eaton syndrome
    • มีอาการติดเชื้อที่ผิวหนังในจุดที่จะฉีดโบท็อก
    • มีอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ หรือ มีภาวะติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ

    เพื่อความปลอดภัย ก่อนฉีดโบท็อก คนไข้ไม่ควรปกปิดโรคประจำตัวกับแพทย์ผู้ให้การรักษาครับ เพราะเป็นเรื่องที่อันตรายถึงชีวิตได้


    Q&A

    Q : เลือกใช้โบท็อกแท้ ดีอย่างไร ?

    โบท็อกแท้นอกจากจะให้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติแล้ว ยังลดโอกาสการเกิดผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ เช่น อาการดื้อโบท็อก หน้าแข็ง ยิ้มไม่สุด ดังนั้นก่อนฉีดโบท็อกคนไข้ต้องมั่นใจว่าโบท็อกที่ใช้เป็น               
    โบท็อกแท้ และฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ครับ

    Q : ทำไมโบท็อกแท้ ต้องผสมน้ำเกลือ ?

    โบท็อกแท้ทุกยี่ห้อ ถูกบรรจุลงในขวดแก้ว มาในรูปแบบสุญญากาศ ไม่มีน้ำ แพทย์ต้องฉีดน้ำเกลือเข้าไปทำละลาย โดยปริมาณความเข้มข้นที่เหมาะสม คือ น้ำเหลือ 2.6 CC ต่อ โบท็อก 100 ยูนิตครับ

    Q : ทำไมการฉีดโบท็อก ต้องฉีดโดยแพทย์เท่านั้น ?

    หลังฉีดโบ กินวิตามินซีได้ไหม

    การฉีดโบท็อก ต้องฉีดโดยแพทย์เท่านั้น แพทย์ที่มีประสบการณ์จะมีเทคนิคการฉีดที่แม่นยำ ทราบระดับความลึกที่เซลล์เส้นประสาทเกาะกล้ามเนื้อ ทำให้เห็นผลเร็ว และคงผลลัพธ์การรักษาได้นาน หากฉีดไม่ตรงจุด ก็จะเห็นผลช้า เพราะต้องรอให้โบท็อกกระจายจากจุดที่ฉีดมายังปลายเซลล์ประสาท และอาจกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานขึ้นมาทำให้คนไข้เกิดการดื้อโบท็อกในการฉีดครั้งต่อ ๆ ไป

    Q : ทำไมถึงไม่ควรใช้จำนวนยูนิตในแต่ละครั้งเกิน 300 ยูนิต ?

    การฉีดโบท็อกในปริมาณที่มาก จะทำให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานขึ้นมาได้ง่าย เสี่ยงต่อการดื้อโบท็อก หากคนไข้ต้องการฉีดในปริมาณที่มาก แพทย์จะแนะนำให้ทยอยฉีด ทั้งนี้แพทย์จะเป็นผู้ประเมินและแจ้งคนไข้ครับว่าควรใช้กี่ยูนิต จึงจะเหมาะสม เพื่อความปลอดภัยของคนไข้

    Q : ระหว่างการฉีดควรประคบด้วยความเย็น ?

    การประคบเย็นรอบ ๆ บริเวณที่ฉีด ช่วยลดการไหลเวียนของเลือด ทำให้โบท็อกอยู่เฉพาะจุดไม่ปลิวออกไปบริเวณอื่นครับ (การประคบเย็นจะเกิดขึ้นระหว่างฉีดเท่านั้น)

    Q : หลังฉีดโบท็อกควรทำอะไรทันที ?

    หลังฉีดโบท็อกควรขยับกล้ามเนื้อในบริเวณที่ฉีดทันที 1-2 ครั้ง และควรบริหารกล้ามเนื้อทั้งหมดที่ฉีดเป็นเวลา 30 นาที เพื่อให้โบท็อกถูกเซลล์ประสาทดูดเข้าไปให้มากที่สุด

    Q : หลังฉีดโบท็อก ห้ามทําอะไรบ้าง ?

    สิ่งที่คนไข้ไม่ควรทำหลังฉีดโบท็อกเสร็จ 3 ชั่วโมง มีดังนี้

    • ห้ามประคบเย็น เพราะจะขัดขวางการดูดโบท็อกเข้าเซลล์ประสาท
    • ห้ามนอนราบ และงดการก้มหัวลงต่ำกว่าระดับหัวใจ

    Q : Zinc ช่วยให้โบท็อกออกฤทธิ์ไวขึ้น ออกฤทธิ์ดีขึ้น จริงไหม ?

    หลังฉีดโบ กินวิตามินซีได้ไหม

    ในงานวิจัยพบว่าผู้ที่ได้รับ Zinc 50 มิลลิกรัม/วัน ทั้งก่อนและหลังการฉีดโบท็อก ช่วยให้โบท็อกอยู่ได้นานขึ้นประมาณ 30% และออกฤทธิ์ได้ดีขึ้น หากทานมากเกินไปอาจเกิดการเสริมฤทธิ์โบท็อกรุนแรงและเกิดผลเสียตามมาได้ ดังนั้น จึงแนะนำให้ทานตามคำแนะนำของแพทย์ครับ 

    Q : ฉีดโบท็อกต่อเนื่องในระยะเวลาที่เหมาะสมคือ ?

    หลังฉีดโบ กินวิตามินซีได้ไหม

    หากต้องการรักษาผลของโบท็อกไว้สามารถมาฉีดเพิ่มได้แต่ควรเว้นระยะอย่างน้อย 3 เดือน แต่ไม่ควรเว้นนานเกิน 5-6 เดือน เพื่อป้องกันการดื้อยาครับ

    Q : หลังฉีดโบท็อก ต้องหลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด ?

    ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้โบท็อกออกฤทธิ์ได้ดี ช่วยให้เห็นผลชัดเจน คือการดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกครับ ควรหลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง โดยเฉพาะในช่วง 2 อาทิตย์แรกหลังฉีด เช่น การซาวน่า, ออกกำลังกายหนัก ๆ, การทำเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิด 

    Q : หลังฉีดโบท็อก ห้ามกินอะไรบ้าง ?

    นอกจากยาและอาหารเสริมต่าง ๆ ที่ควรระวังแล้ว หลังฉีดโบท็อก เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น อยู่ได้นานขึ้น แนะนำให้หลีกเลี่ยงอาหารดังนี้

    หลังฉีดโบ กินวิตามินซีได้ไหม
    1. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
    2. งดทานอาหารที่เผ็ดมาก ๆ จนหน้าแดง
    3. งดอาหารที่นั่งหน้าเตาร้อน ๆ เช่น ปิ้งย่าง ชาบู
    4. งดอาหารหมักดอง เช่น ปลาร้า มะม่วงดอง หน่อไม้ดอง
    5. งดสูบบุหรี่ เพราะมีสารที่จะไปขยายหลอดเลือด

    โดยอาหารที่กล่าวข้างต้น แนะนำให้ควรงดในระยะเวลา 14 วัน แต่ถ้าทำไม่ได้ก็ควรงดอย่างน้อย 48 ชั่วโมงครับ

    Q : หลังฉีดโบท็อก ออกกําลังกายหนัก ๆ ต้องงดไหม ?

    หลังฉีดโบท็อกควรหลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด และกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง ในช่วง 2 อาทิตย์แรกหลังฉีดโบท็อก คนไข้ควรงดออกกำลังกายหนัก ๆ ก่อนครับ หากจำเป็นต้องออกกำลังกาย แนะนำให้เลี่ยงการออกกำลังกายในสถานที่ร้อน เช่น โยคะร้อน วิ่งมาราธอน

    Q : สรุป Timeline ข้อปฏิบัติตัวในการฉีดโบท็อก

    หลังฉีดโบ กินวิตามินซีได้ไหม

    Q : หลังฉีดโบท็อก ห้ามกินยาอะไร ?

    เพื่อความปลอดภัย คนไข้ควรแจ้งให้แพทย์ทราบถึงยาที่คนไข้ใช้อยู่ในปัจจุบัน เนื่องจากกลุ่มยาที่สามารถเสริมฤทธิ์โบท็อกแล้วเกิดอันตรายมาก (Major Side Effects) ได้แก่

    • ยาฆ่าเชื้อแบบฉีด เช่น Amikacin, Colistin, Polymyxin E
    • ยาคลายกล้ามเนื้อ เช่น Atracurium, Cisatracurium, Doxacurium
    หลังฉีดโบ กินวิตามินซีได้ไหม

    นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มยาที่ใช้ร่วมกับโบท็อกแล้วอาจเกิดผลข้างเคียงแบบปานกลาง ไม่อันตราย อาการที่พบ เช่นตาพร่า ปากแห้ง รอยช้ำ (หากมีอาการรุนแรง สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อปรับชนิดยาที่ใช้ได้) ได้แก่

    • กลุ่มยาแก้แพ้ แก้หวัด
    • กลุ่มยานอนหลับ
    • กลุ่มยาต้านเกล็ดเลือด

    หลังฉีดโบท็อกไปแล้ว ในช่วง 4 เดือน ถ้าจะรับยาอื่น ๆ เพิ่ม ต้องแจ้งแพทย์ที่จะจ่ายยาด้วยว่าเพิ่งฉีดโบท็อกมาครับ

    Q : ฉีดโบท็อก นวดหน้าได้ไหม ?

    หลังฉีดโบท็อกแนะนำให้คนไข้งดการนวดหน้าอย่างน้อย 2 อาทิตย์ครับ 

    Q : ทําไมฉีดโบท็อกซ์ถึงห้ามกินเหล้า ?

    เนื่องจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ส่งผลต่อความร้อนในร่างกาย ทำให้โบท็อกออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ผลลัพธ์อยู่ได้สั้นลง ดังนั้นหลังฉีดโบท็อก 48 ชั่วโมง จึงควรงดก่อนครับ

    Q : หลังฉีดโบท็อก กินคอลลาเจนได้ไหม ?

    กินคอลลาเจนหรือวิตามินได้ตามปกติครับ และต้องระวังในการรับประทานวิตามินบางตัวเช่น Zinc (แร่ธาตุสังกะสี) หากรับประทานปริมาณมากจะช่วยเสริมฤทธิ์โบท็อกให้รุนแรงเกินไปได้

    Q : หลังฉีดโบท็อก กินอาหารทะเลได้ไหม ?

    สามารถทานอาหารทะเลได้ปกติครับ ในอาหารทะเลจะมีแร่ธาตุสังกะสี (Zinc) ควรทานให้ปริมาณที่พอดี เพราะนอกจากจะเสริมฤทธิ์โบท็อกแล้ว ยังส่งผลเสียต่อร่างกาย เช่น คอเลสเตอรอลสูงขึ้น ผลการวิจัยพบว่า ผู้ที่ได้รับ Zinc 50 มิลลิกรัมต่อวันส่วนใหญ่ ส่งผลให้โบท็อกอยู่ได้นานขึ้นประมาณ 30% และออกฤทธิ์ได้ดีขึ้น

    Q : ฉีดโบท็อก กินกาแฟได้ไหม ?

    สามารถดื่มกาแฟได้ตามปกติครับ เนื่องจากในกาแฟมีปริมาณคาเฟอีนที่น้อย ไม่ส่งผลทำให้หลอดเลือดขยายตัว คนไข้ที่ชอบดื่มกาแฟสบายใจได้ครับ

    Q : ฉีดโบท็อกมาแล้ว ทาครีมได้ไหม ?

    หลังฉีดโบท็อกเสร็จ จะมีรอยเข็มเล็ก ๆ จึงควรเลี่ยงการทาครีมบริเวณที่ฉีด 1 คืน เพื่อลดการระคายเคืองผิว จากนั้น 1 อาทิตย์คนไข้สามารถทำ Treatment ได้ตามปกติครับ

    Q : หลังฉีดโบท็อก เคี้ยวหมากฝรั่งช่วยเรื่องอะไร ?

    หลังฉีดโบ กินวิตามินซีได้ไหม

    หลังฉีดโบท็อกทันทีแพทย์จะให้ขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด 1-2 ครั้งทันที และหลังจากฉีดโบท็อกเสร็จทั้งหมด ควรบริหารกล้ามเนื้อที่ฉีดด้วยการเคี้ยวหมากฝรั่งเป็นเวลา 30 นาที เพื่อให้โบท็อกถูกเซลล์ประสาทดูดเข้าไปให้มากที่สุดครับ

    Q : ทำไมหลังฉีดโบท็อกลดกราม ห้ามกินอาหารเหนียว ๆ ?

    อาหารที่เหนียวต้องใช้แรงบดเคี้ยวค่อนข้างมาก ทำให้กล้ามเนื้อกรามทำงานหนัก และแข็งแรงขึ้น ส่งผลให้ฤทธิ์ของโบท็อกอยู่ได้สั้นลง กล้ามเนื้อกรามกลับมาใหญ่ขึ้นเหมือนเดิม ทางตรงกันข้ามกล้ามเนื้อกรามใช้งานน้อยลง หรือไม่ได้ใช้งาน เมื่อเวลาผ่านไปขนาดกล้ามเนื้อจะเล็กลง และกลับมาทำงานได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้โบท็อกอยู่ได้นานขึ้นครับ


    สรุป 

    เพื่อให้การฉีดโบท็อกได้ผลลัพธ์ที่ดีและอยู่ได้นาน ควรปฏิบัติตามคำแนะนำก่อนฉีดโบท็อก ข้อห้ามหลังฉีดโบท็อก อย่างเคร่งครัด นอกจากนี้การฉีดโบท็อกแท้ ที่ผสมตัวยาได้มาตรฐาน ฉีดในระดับความลึกที่เซลล์เส้นประสาทเกาะกล้ามเนื้อ จะช่วยให้โบท็อกออกฤทธิ์ได้ดี และอยู่ได้นานขึ้นครับ เพื่อความมั่นใจก่อนฉีด แนะนำให้เข้ารับการปรึกษากับแพทย์โดยตรงที่ V Square Clinic ทุกสาขาได้เลยครับ 


    สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ