Amazfit Bip U Pro ถูกแบบมาให้เป็นสมาร์ทวอตช์หน้าปัดทรงเหลี่ยม มีเม็ดมะยมจำนวนหนึ่งเม็ดทางด้านขวา เป็นปุ่มนำทางการใช้งาน โดยที่เม็ดมะยมหมุนไม่ได้ กดได้อย่างเดียว สายนาฬิกาเป็นยางซิลิโคน น้ำหนักของตัวเรือนเบาเพียง 31 กรัมเท่านั้น Show ตัวเรือนของ Amazfit Bip U Pro มีขนาดหน้าจอ 1.43 นิ้ว เพียงแต่ตัวเรือนจะมีขอบขอหรือ Bezel ค่อนข้างหนา จึงทำให้พื้นที่การทัชสกรีนบนหน้าจอนาฬิกาเลยมีน้อยลง ด้านล่างมีตรา Amazfit เมื่อพูดถึงเรื่องจอของ Amazfit Bip U Pro ใช้จอ LCD แบบ IPS มีความละเอียดหน้าจอ 320x320 พิกเซล สามารถใช้งานกลางแดดได้ในระดับหนึ่ง อันที่จริง อาจกล่าวได้ว่า Amazfit Bip U Pro ก็คือ Apple Watch ในราคาถูก และไม่ได้เป็นของแอปเปิล ฟีเจอร์ Amazfit Bip U Pro อันที่จริงต้องบอกว่า Amazfit Bip U Pro เป็นสมาร์ทวอตช์ที่มีฟีเจอร์เยอะมาก ไล่มาตั้งแต่ฟีเจอร์ขั้นพื้นฐานอย่างเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, SpO2 หรือออกซิเจนในเลือด, เซนเซอร์วัดความเครียด, เซนเซอร์เกี่ยวกับการออกกำลังกาย, เซนเซอร์วัดคุณภาพการนอน แม้แต่การเชื่อมต่อกับ Alexa ก็ทำได้ เราอาจกล่าวได้ Amazfit Bip U Pro มีฟีเจอร์ที่จำเป็นให้มาไว้หมดแล้ว Amazfit Bip U Pro สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน รองรับทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android ในชื่อ Zepp เมื่อดาวน์โหลดแอปลงเครื่อง ข้อดีคือเราจะได้ดูสถิติต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ทั้งสถิติของอัตราการเต้นของหัวใจ ค่าความเครียด ค่า PAI Personal physiological Activity Indicator หรือก็คือค่าการเคลื่อนไหวของผู้สวมใส่นาฬิกา โดยคำนวณจากอัตราการเต้นของหัวใจ และการเคลื่อนไหวในแต่ละวัน เพื่อประเมินข้อมูลในร่างกายของผู้สวมใส่ มีฟีเจอร์รายงานสถิติการนอน เป็นต้น ในเรื่องของความแม่นยำในการอ่านค่าต่างๆ ในส่วนของสถิติการนอนของ Amazfit Bip U Pro ถือว่าแม่นยำทีเดียว ทั้งการนอนในคืนนั้นๆ ของผู้สวมใส่นอนไปกี่ชั่วโมง หลับช่วงไหน แล้วตื่นเวลาใด ซึ่งถ้าหากต้องการดูรายละเอียดมากขึ้น จะต้องดูผ่านแอปพลิเคชัน Zepp นอกจากนี้ ในขณะที่สวมใส่ ถ้าหากไม่มีการเคลื่อนไหวเป็นเวลานานๆ นาฬิกาจะยิงแจ้งเตือนให้เราขยับร่างกายบ้าง ถ้าหากต้องการให้ Amazfit Bip U Pro ทำหน้าที่แจ้งเตือนจากมือถือมาบนนาฬิกา ก็ไปปรับแต่งที่แอป Zepp เช่นกัน ตัวเรือนของ Amazfit Bip U Pro ได้ใส่เทคโนโลยีกันน้ำไว้ด้วย โดยกันน้ำได้ลึก 50 เมตร ที่น่าสนใจอย่างหนึ่งของ Amazfit Bip U Pro แม้ว่าจะมีฟีเจอร์การใช้งานที่เยอะมาก แต่ถ้าหากผู้สวมใส่ใช้งานอย่างเต็มที่ ทั้งเซนเซอร์ที่เกี่ยวกับการออกกำลังกาย วัดอัตราการเต้นของหัวใจ หรือวัดออกซิเจนในเลือด หรือมีการแจ้งเตือนเข้ามาบ่อยๆ ก็ไม่เป็นปัญหา เพราะแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ 10-11 วัน ส่วนการชาร์จแบตเตอรี่จาก 15 เปอร์เซ็นต์จนถึง 100 เปอร์เซ็นต์ Amazfit Bip U Pro ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเศษๆ ก็ถือว่าไม่นานนัก อยู่ในเกณฑ์รับได้ สรุป Amazfit Bip U Pro เป็นสมาร์ทวอตช์ที่มีราคาไม่แพงนัก เพียง 1,690 บาท อีกทั้งฟีเจอร์การใช้งานก็ถือว่าครบครัน ใช้งานได้นาน เหมาะกับคนที่เริ่มอยากลองหาสมาร์ทวอชมาลองใส่เป็นครั้งแรก อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ราคาไม่แพงนัก ทำให้คุณภาพของ Amazfit Bip U Pro จัดว่าธรรมดาๆ และไม่ได้ดูแข็งแรงมากนัก ถ้าต้องการหรูกว่านี้ ต้องหันไปมองรุ่นอื่นแทน Amazfit Bip U สมาร์ทแทร็คเกอร์ฟังก์ชั่นแบบหนักๆ ในราคาเบาๆ โดย Chaiwat Sathornwet 3 February 2021 7:01 pm Amazfit Bip U สมาร์ทแทร็คเกอร์ราคาประหยัดที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่รุ่นแรกๆ ด้วยราคาที่สมเหตุสมผล ราคาไม่แพง แต่ฟังก์ชั่นการใช้งานพื้นฐานเทียบเท่ากับสมาร์ทวอชราคาแพงได้เลย
Amazfit Bip U สมาร์ทแทร็คเกอร์ราคาประหยัดที่ได้รับความนิยมมาตั้งแต่รุ่นแรกๆ ด้วยราคาที่สมเหตุสมผล ราคาไม่แพง แต่ฟังก์ชั่นการใช้งานพื้นฐานเทียบเท่ากับสมาร์ทวอชราคาแพงได้เลย ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชั่นการออกกำลังกาย การแทร็คข้อมูลการเดิน, อัตราการเต้นของหัวใจ, การวัดระดับออกซิเจนในเลือด (SpO2) เป็นต้น มาดูกันว่าระดับราคาพันกว่าบาททำอะไรได้อีก แกะกล่องลองเล่น Amazfit Bip Uกล่องของสมาร์ทแทร็คเกอร์รุ่นนี้ด้านหน้ามีรูปบ่งบอกสีสันของตัวเครื่องที่อยู่ด้านใน ส่วนด้านข้างจะบอกฟังก์ชั่นเด่นๆ ที่ทำได้ของรุ่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นขนาดหน้าจอ, รองรับการออกกำลังกายได้ 60 รูปแบบ, วัดระดับออกซิเจนในเลือด เป็นต้น และเมื่อแกะกล่องออกมาก็จะพบกับอุปกรณ์ต่างๆ ดังนี้
วัสดุ น้ำหนัก และการใช้งานAmazfit Bip U ที่เราได้มาทดสอบเป็นสีเขียว เมื่อสวมใส่บนข้อมือดูแล้วค่อนข้างโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ วัสดุสายทำจากซิลิโคน สวมใส่สบาย ใส่แล้วไม่คัน ส่วนตัวเรือนทำจากวัสดุโพลีคาร์บอเนตสีเดียวกับสาย หน้าจอแสดผลขนาด 1.43 นิ้ว เป็นจอภาพแบบ IPS ความละเอียด 302 x 320 พิกเซล กระจกหน้าจอเป็นโค้ง 2.5D เคลือบสารป้องกันรอยนิ้วมือ สามารถปรับระดับความสว่างได้ 4 ระดับเพื่อการมองเห็นชัดเจนในที่โล่งแจ้ง เลือกดาวน์โหลดและเปลี่ยนหน้าปัดได้จากแอพฯ Zepp ที่จะกล่าวถึงในหัวข้อถัดไป ด้านหลังมีเซ็นเซอร์ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ มีไฟ LED สีเขียว 2 ดวงคอยตรวจจับอยู่ และในวงกลมสีดำนี้ก็ยังมีจุดเล็กๆ 2 จุดสำหรับชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่งบริเวณนี้เป็นแม่เหล็กดูดแป้นชาร์จด้วย ปุ่มเปิดปิดเครื่อง หรือปุ่มเมนูอยู่ที่ด้านข้างขวาของตัวเรือน และยังทำหน้าที่เป็นปุ่มลัดสำหรับเข้าสู่เมนูการออกกำลังกายโดยการกดปุ่มค้างไว้ประมาณ 2 วินาทีได้อีกด้วย สายนาฬิกาเป็นแบบสลักล็อคกับตัวเรือน สามารถถอดเปลี่ยนเองได้ง่ายๆ ทำงานร่วมกับแอพฯ Zeppจากเดิม Amazfit จะทำงานร่วมกับแอพฯ Mi Fit แต่สำหรับรุ่นนี้เปลี่ยนมาใช้แอพฯ Zepp มีให้ดาวน์โหลดทั้งระบบปฏิบัติการ Android และ iOSหน้าตาแอพฯ ถูกปรับเปลี่ยนให้ดูทันสมัยมากยิ่งขึ้น สำหรับการใช้งานครั้งแรกก็ไม่ยุ่งยาก เพียงแค่เปิดนาฬิกา แล้วเปิดแอพฯ Zepp เริ่มแรกจะต้องสมัคร Account ก่อน แต่หากมี Account อยู่แล้วก็สามารถเข้าสู่การใช้งานได้ทันที และเมื่อเชื่อมต่อสำเร็จ อาจจะมีการอัพเดท Firmware ประมาณ 5-10 นาทีก็ใช้งานได้ การใช้งาน Zepp จะช่วยให้เราดูข้อมูลต่างๆ ที่ตัวสมาร์ทแทร็คเกอร์เก็บข้อมูลได้ละเอียดขึ้น ซึ่งการเชื่อมต่อจะอาศัย Bluetooth ในการส่งข้อมูลไปยังสมาร์ทโฟน และยังส่งการแจ้งเตือนต่างๆ ไปที่นาฬิกาด้วย นอกจากนี้ยังใช้ตั้งค่าต่างๆ ของนาฬิกาได้สะดวกขึ้น ข้อมูลที่เราสามารถดูได้ก็มีทั้งข้อมูลการก้าวเดินในแต่ละวัน, อัตราการเต้นของหัวใจ, ระดับออกซิเจนในเลือด, ระดับความเครียด, ข้อมูลการนอนในแต่ละวัน นอกจากนี้ยังสามารถดูข้อมูลอื่นๆ ได้โดยอาศัยอุปกรณ์อื่นๆ ของ Xiaomi เช่น Mi Scale หรือสมาร์ทวอชรุ่นอื่นๆ ที่สามารถเก็บข้อมูลอื่นๆ ได้ อย่างเช่นน้ำหนัก มวลกล้ามเนื้อ ค่า BMI ฯลฯ ช่วยให้เรานำข้อมูลมาวิเคราะห์ได้ว่าในแต่ละวัน หรือแต่ละช่วงเวลาเราเคลื่อนไหวร่างกายอย่างไร สามารถนำมาปรับการใช้ชีวิตประจำวันของเราได้ สำหรับหน้าปัดนาฬิกาเราสามารถดาวน์โหลดได้ที่ Watch Face Store มีให้เลือกมากกว่า 100 แบบ ทั้งแบบเข็ม แบบดิจิตอล เลือกเปลี่ยนได้ไม่ซ้ำวัน แต่หน่วยความจำเครื่องสามารถบันทึกหน้าปัดนาฬิกาได้สูงสุด 4 แบบ หากต้องการแบบใหม่ก็ต้องเลือกลบหน้าปัดเก่าทิ้งไปก่อนจึงจะดาวน์โหลดแบบใหม่ได้ Amazfit Bip U วัดอะไรได้บ้างสมาร์ทแทร็คเกอร์รุ่นนี้มีเซ็นเซอร์ต่างๆ มากมาย โดยฟีเจอร์พื้นฐานอย่างการเก็บข้อมูลก้าวเดิน อัตราการเต้นของหัวใจ อัตราการเผาผลาญแคลอรี่ในแต่ละวันสามารถทำได้อยู่แล้ว แต่จุดเด่นของรุ่นนี้ยังสามารถตรวจจับและเก็บข้อมูลการออกกำลังกายได้มากกว่า 60 แบบ และยังมีฟีเจอร์อื่นๆ ที่สามารถตรวจวัดได้ในนาฬิการหลักพันบาทมีดังนี้
สรุปการใช้งาน Amazfit Bip U จากความเห็นของ What Phoneจากการใช้งานประมาณ 2 สัปดาห์กว่าๆ รวมไปถึงการใส่นอนตลอด 24 ชั่วโมงพบว่าสมาร์ทแทร็คเกอร์รุ่นนี้สวมใส่สบาย น้ำหนักเบา ไม่อึดอัด จอแสดงผลสีสันสวยงาม เห็นได้ชัดเจนในที่โล่งแจ้งสามารถใส่ได้ตลอดเวลาแม้กระทั่งอาบน้ำ เพราะสามารถกันน้ำได้ลึกถึง 5 เมตร ถือเป็นสมาร์ทแทร็คเกอร์ที่มีฟังก์ชั่นเกินราคาพันกว่าบาทมากๆ ไม่จำเป็นต้องซื้อสมาร์ทวอช หรือสมาร์ทแทร็คเกอร์แพงๆ เลย จะขาดก็เพียงระบบ GPS ที่จะต้องพกสมาร์ทโฟนไปด้วยขณะออกกำลังกาย จึงเหมาะกับผู้ใช้ที่ไม่ได้เน้นการออกำลังกายที่จริงจัง เพียงแค่ต้องการเก็บข้อมูลการเคลื่อนไหวในแต่ละวันเพื่อที่จะนำมาปรับพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของเรา สำหรับระยะเวลาการใช้งานโดยปกติแล้วจะใช้แบตเตอรี่เพียงวันละ 10% ซึ่งก็จะได้ประมาณ 10 วัน ได้มากกว่าสเป็คที่ระบุไว้เพียง 9 วัน แต่หากใช้งานหนักๆ อย่างเช่นออกกำลังกาย หรือดาวน์โหลดหน้าปัดเล่นบ่อยๆ ก็อาจจะทำให้ระยะเวลาการใช้งานสั้นลง โดยรวมแล้วสมาร์ทแทร็คเกอร์ในราคาเพียง 1,590 บาท ถือว่าคุ้มค่ามากๆ เมื่อเทียบกับฟังก์ชั่นที่ได้ Amazfit วัดความดันได้ไหมปิดท้ายด้วย Smartwatch วัดความดันที่แบตอึดสุด ๆ คุณสามารถใช้งาน Amazfit GTS 3 ได้ยาวนานต่อเนื่องถึง 12 วันเลยทีเดียว ซึ่งฟีเจอร์โดดเด่นของสมาร์ทวอทช์เรือนนี้คงต้องยกให้การตรวจจับค่าสุขภาพที่หลากหลายและแม่นยำ ทั้งความดัน อัตราการเต้นของหัวใจ ออกซิเจนในเลือด คุณภาพการนอน เป็นต้น นอกจากนั้น Amazfit GTS 3 ยังมีโหมดการ ...
Amazfit BIP 3 PRO วัดความดันได้ไหมAmazfit Bip 3 New Waterproof Smartwatch SpO2 นาฬิกาอัจฉริยะ วัดออกซิเจนในเลือด bip3 สัมผัสได้เต็มจอ Smart watch วัดชีพจร ความดัน 60+โหมดสปอร์ต สมาร์ทวอทช์ ร์ท นับก้าว ประกัน 1 ปี ฿1,390.
นาฬิกาวัดความดัน มีจริงไหมในความเป็นจริงคือ ณ ปัจจุบัน ยังไม่มีนาฬิกา ที่สามารถวัด ค่านี้ได้ครับ ตกใจกันใช่มั๊ยครับ ที่เห็นนาฬิกาพวกนี้ โฆษณา กันเกลื่อนกลาด ง่ายๆเลยครับนาฬิกาเหล่านั้น ใช้ fake sensor เพื่อการนี้ เพื่อให้ตัวนาฬิกาดูมัฟังก์ชั่นเยอะ ทำได้หลายอย่าง
Amazfit วัดออกซิเจนได้ไหมสมาร์ทวอตช์ของแบรนด์ลูกของ Xiaomi อย่าง Amazfit Bip U และ Amazfit GT Series มาพร้อมฟีเจอร์ด้านสุขภาพมากมาย อาทิ การวัดอัตราการเต้นของหัวใจแบบ 24 ชั่วโมง การวัดระดับออกซิเจน การวัดความเครียด การเผาผลาญ การติดตามคุณภาพการนอน และรองรับโหมดออกกำลังกายกว่า 60 ประเภท มีให้เลือก 3 รุ่น ได้แก่ Amazfit Bip U ราคาเริ่มต้น 1,690 ...
|