ใช้ ภาษา อังกฤษ ได้ ดี

ที่ผมเขียนหัวข้อนี้ขึ้นมา เพราะว่าบางครั้งตัวผมเองเคยอ่านในประกาศรับสมัครงานแล้วมักจะเดาเอาเองว่า ความหมายของความต้องการด้านภาษาอังกฤษของตำแหน่งที่เราจะสมัครนั้น มันน่าจะเป็นอย่างโน้น อย่างนั้น ซึ่งเป็นการเดาความหมายของตัวผมเอง หรือบางครั้งอยากเขียนลงใน Resume ว่าเรานั้นมีความสามารถด้านภาษาอังกฤษอยู่ในระดับไหน แต่ก็เขียนมันไปแบบ snack snack fish fish, ผมจึงคิดว่าน่าจะมีการเขียนสำนวนภาษาอังกฤษที่บ่งบอกว่าความรู้ด้านภาษาอังกฤษของเรานั้นอยู่ในระดับไหน ซึ่งน่าจะทำใน Resume ของเรานั้นน่าอ่านมากขึ้น จริงไหมครับ.........

สำนวนที่แสดงว่า ตนเองมีความรู้ด้านภาษาอังกฤษ / งานที่สมัครนั้นต้องการคนมีความรู้ด้านภาษาอังกฤษ

1) Good command of spoken and written English
สามารถพูดและเขียนภาษาอังกฤษได้ดี
2) Fluent in spoken and written English
พูดและเขียนภาษาอังกฤษได้คล่อง
3) Able to speak English
สามารถพูดภาษาอังกฤษได้
4) Excellent command of spoken and written English
พูดและเขียนภาษาอังกฤษได้เยี่ยม
5) Capable of reading and understanding English
สามารถอ่านและเข้าใจภาษาอังกฤษได้ดี
6) Able to handle English correspondence independently
สามารถโต้ตอบจดหมายภาษาอังกฤษได้ตามลำพัง
7) Excellent verbal and written English skills
มีทักษะในการพูดและเขียนภาษาอังกฤษได้ดีเยี่ยม
8) Fluency in the English Language is a must
จำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษได้คล่อง
9) Knowledge of English
มีความรู้ภาษาอังกฤษ
10) Fair knowledge of English
มีความรู้ภาษาอังกฤษพอใช้
11) Ability to communicate in English
มีความสามารถในการติดต่อเป็นภาษาอังกฤษ
12) Fluent in English
ใช้ภาษาอังกฤษได้คล่อง
13) Good English speaking
พูดภาษาอังกฤษได้ดี
14) Possess working English
มีความรู้ภาษาอังกฤษแบบใช้งานได้
15) Excellent in English communication
สามารถติดต่องานโดยใช้ภาษาอังกฤษได้อย่างดีเยี่ยม
16) Proficient in spoken and written English
ชำนาญในการพูดและเขียนภาษาอังกฤษ
17) Male or female with good working knowledge of English
ชายหรือหญิงที่มีความรู้ภาษาอังกฤษแบบใช้งานได้ดี
18) Competent in English conversation
สามารถใช้ภาษาอังกฤษในการสนทนาได้
19) Able to communicate well in English
สามารถติดต่อโดยใช้ภาษาอังกฤษได้ดี
20) Fluent command of basic spoken English
สามารถพูดภาษาอังกฤษในระดับพื้นฐานได้คล่อง
21) Fair command of written and spoken English
สามารถพูดและเขียนภาษาอังกฤษแบบพอใช้ได้
22) Ability of written English communication
สามารถเขียนภาษาอังกฤษเพื่อการติดต่อสื่อสารได้
23) Ability to communicate effectively in English
สามารถติดต่อเป็นภาษาอังกฤษได้อย่างมีประสิทธิภาพ
24) Able to speak English in preferable
สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ยิ่งดี
25) Good commercial English
รู้ภาษาอังกฤษในเชิงพานิชย์ได้ดี
26) Good spoken English with pleasant voice
พูดภาษาอังกฤษได้ดีพร้อมทั้งมีเสียงไพเราะ

“อยากพูดอังกฤษให้เก่งต้องหัดพูด” แต่จะหัดพูดอย่างไรให้ได้ผล? เราก็ต้องกลับมาดูกันก่อนนะครับว่าที่ผ่านมาฝึกกันอย่างถูกวิธีหรือยัง อะไรคือจุดอ่อนของเราและอะไรคือสิ่งที่เราทำดีอยู่แล้ว

 

เวลาที่ฝรั่งถามมา จะตอบได้แค่เพียงประโยคสั้นๆ อยากพูดยาวๆ แต่ก็พูดไม่ได้ ทั้งๆ ที่รู้ว่าภาษาไทยต้องตอบยังไง อยากจะพูดใจแทบขาด แต่ก็ตอบได้แบบตะกุก..ตะกัก ถามคำตอบคำ มันทำให้เราขาดความมั่นใจ ทั้งที่เราเก่งศัพท์ ท่องหลักไวยากรณ์มาแล้วเป็นเวลาหลายสิบปี แต่ก็ยังพูดไม่ได้อยู่ดี…

 

วันนี้เราก็มีเทคนิคดีๆ จาก Life on Campus มาฝากเพื่อนๆ กันจ้า จะได้เทิร์นโปรการพูดภาษาอังกฤษกันทุกๆ คนเลยนะจ๊ะ

 

ใช้ ภาษา อังกฤษ ได้ ดี

 

1. อย่ากลัวความผิดพลาดและกังวลกับหลักไวยากรณ์มากเกินไป

ปัญหาหลักของการพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลยล่ะครับ เพราะว่ามันจะทำให้เรากลัวผิดพลาดจนเกินไป จนไม่อยากพูด ที่สำคัญไม่ต้องพยายามเป๊ะตั้งแต่แรกครับ เอาสื่อสารพอเข้าใจ แล้วพอเราใช้ไปเรื่อยๆ จะดีขึ้นเองจ้า

 

2. เริ่มต้นจากการฟัง

อยากพูดภาษาอังกฤษให้คล่องเราต้องเริ่มฟังกันก่อน ไม่ว่าจะเป็นบทสนทนาภาษาอังกฤษ หรือจะดูหนัง ฟังเพลง เลือกแบบที่เราชอบได้เลยจ้า จะทำให้เกิดการคุ้นเคยภับภาษา เหมือนเป้นการปรับหูนั่นเอง  “ฟังอย่างเข้าใจ และฟังอย่างต่อเนื่อง” เริ่มจากง่ายๆ ไปยากนะจ๊ะ จะได้ไม่หมดกำลังใจกันนะจ๊ะ

 

3. ฟังแล้วตอบ

การฟังเพื่อให้เราเข้าใจภาษาอังกฤษได้มีประสิทธิภาพและสามารถโต้ตอบได้ ไม่ใช่ฟังซ้ำๆ หลายๆ ครั้ง เพื่อให้จำเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการ “ฟังและตอบคำถาม ลอง “Pause” ในช่วงของคำตอบ แล้วฝึกตอบอย่างรวดเร็ว จากคำถามที่เราฟัง ฝึกให้เร็วขึ้นโดยไม่ต้องคิด ภาษาอังกฤษของคุณก็จะกลายเป็นระบบอัตโนมัติไปโดยปริยายเลยจ้า

 

4. เรียนรู้เป็นภาพ ไม่ใช่ตัวอักษร

ต้องถามตัวเองก่อนว่ามีคลังคำศัพท์มากพอหรือยัง? เหตุผลหนึ่งที่ทำให้เราไม่สามารถสื่อสารหรือพูดภาษาอังกฤษได้นั้นเพราะเราไม่รู้คำศัพท์ภาษาอังกฤษเลยนั่นเอง แต่การท่องศัพท์ไม่ได้ทำให้เราเก่งขึ้นครับ ลองหันมาใช้วิธีการเรียนรู้คำศัพท์เป็นภาพ และเรื่องราวแทนการจดคำศัพท์เป็นลิสต์ยาวๆ พร้อมคำแปล โดยการลองเปลี่ยนมาเป็นการเรียนรู้คำศัพท์แบบเป็นวลี ไม่จำเป็นคำๆ เวลาที่เจอคำศัพท์ใหม่ๆ ให้จดลงในสมุดโน้ต พร้อมกับวลีสั้นๆ จะทำให้การพูดและหลักไวยากรณ์ของคุณดีขึ้นอย่างรวดเร็วเลยล่ะ

 

ใช้ ภาษา อังกฤษ ได้ ดี

 

5. หยุดท่องหลักไวยากรณ์

เด็กไทยส่วนเริ่มเรียนภาษาอังกฤษมาพร้อมๆ กับการเริ่มท่องกฎไวยากรณ์ และเน้นในส่วนนี้มากเกินไป ถ้าจะฝึกพูดภาษาอังกฤษให้ได้ต้องหยุดท่องหลักไวยากรณ์ เพราะนั่นเป็นวิธีที่ผิด เด็กๆ ชาวต่างชาติจะพูดภาษาอังกฤษจากการเรียนรู้เองโดยธรรมชาติ จากการฟัง สังเกตและเลียนเสียงพูดจนคล่องก่อนจะเริ่มเรียนหลักไวยากรณ์นะครับ

 

6. เรียนรู้แบบช้าๆ แต่ลึกซึ้ง

เคล็ดลับที่จะทำให้คุณพูดภาษาอังกฤษได้อย่างง่ายดายนั่นก็คือ การเรียนรู้ทุกคำ และทุกวลีอย่างลึก (Deeply) ไม่ใช่แค่เรียนรู้ความหมาย ไม่ใช่แค่จำเพื่อไปทำข้อสอบ และที่สำคัญ อย่าลืมฝึกฝนและทบทวนบ่อยๆ นะครับ

 

7. อย่าแปลเป็นไทย

สาเหตุที่คนไทยส่วนใหญ่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้แม้ว่าอาจจะฟังออกก็ถาม นั่นก็คือ การแปลประโยคต่างๆ เป็นภาษาไทยก่อนตอบ ซึ่งการพูดได้อย่างเป็นอัตโนมัติคือ ฟัง-คิด-พูด ต้องเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด โดยไม่มีการแปลเป็นไทยในหัว เพราะฉะนั้น เราควรพยายามแปลเป็นไทยให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จะทำให้เราพูดได้คล่องแคล่วขึ้นนะครับ

 

ใช้ ภาษา อังกฤษ ได้ ดี

 

8. เรียนรู้ที่จะคิดให้เป็นภาษาอังกฤษ

หนึ่งในกุญแจสำคัญที่จะทำให้คุณพูดภาษาอังกฤษได้นั่นก็คือ “การคิดให้เป็นภาษาอังกฤษ” อีกหนึ่งวิธีที่ดีที่สุดที่ในการเรียนรู้ และจะทำให้คุณพูดได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องแปลนะจ๊ะ

 

9. พูดด้วยคำศัพท์ที่แตกต่าง ดูดีมีความคิดสร้างสรรค์

สองอุปสรรคใหญ่ที่ทำให้การพูดภาษาอังกฤษดูไม่คล่องแคล่วมั่นใจ นั่นก็คือ “ไม่รู้ศัพท์ และ การหยุดหรือลังเล” เป็นอุปสรรคหนึ่งที่ทำให้เราพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เออๆ อ่าๆ…เพราะมัวแต่คิดถึงคำศัพท์ที่เคยท่องไว้ คราวนี้เราลองมาเปลี่ยนวิธีใหม่ ถ้านึกไม่ออกก็ไม่เป็นไร ลองหาคำอื่นมาอธิบายขยายความเอาก็ได้นะครับ

 

10. ใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้

ถ้ามีความรู้ แต่ขาดการฝึกฝนที่ดี สักวันมันก็จะหายไปครับผม เหมือนมีดที่ต้องลับคมบ่อยๆ นั่นเอง ทางที่ดีควรหัดพูด หัดใช้บ่อยๆ ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เลยนะครับ รับรองเก่งขึ้นมาแบบไม่รู้ตัวกันเลยทีเดียวล่ะ