ตรวจสอบสถานะแจ้งความออนไลน์

ยกระดับการคุ้มครองผู้บริโภคออนไลน์เชิงรุก เพื่อแก้ปัญหาฉ้อโกงออนไลน์ สภาองค์กรของผู้บริโภค (สอบ.) แนะผู้บริโภคร้องเรียนออนไลน์ทันที มีโอกาสได้เงินคืนสูง

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา สอบ.จัดเวทีอบรมเพิ่มศักยภาพเจ้าหน้าที่หน่วยงานประจำจังหวัดเชียงใหม่ โดยได้เชิญรองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 3 ไปเป็นวิทยากรให้ความรู้เรื่อง ‘การเเจ้งความออนไลน์ ในคดีฉ้อโกงออนไลน์’ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)

ภัทรกร ทีปบุญรัตน์ เจ้าหน้าที่ศูนย์ผู้บริโภคแบบเบ็ดเสร็จ (One-stop service) สอบ. กล่าวว่า ในเวทีดังกล่าวมีข้อมูลที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคในกรณีที่ถูกหลอก ถูกโกงออนไลน์ คือ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.) ได้เปิดช่องทางแจ้งความผ่านระบบออนไลน์เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภค ทั้งนี้ ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) จะมีอำนาจในการยับยั้งการทำธุรกรรมบัญชีได้เป็นการชั่วคราว ดังนั้น หากผู้เสียหายแจ้งเรื่องไปยัง ศปอส.ภายในระยะเวลาประมาณ 3 ชั่วโมงหลังถูกหลอกถูกโกง ก็อาจทำให้มีโอกาสได้เงินคืนค่อนข้างมาก จึงต้องการแนะนำให้ผู้บริโภคใช้แนวทางดังกล่าว เพื่อยกระดับการแก้ปัญหาเพื่อการคุ้มครองผู้บริโภคให้เท่าทันสถานการณ์

ตรวจสอบสถานะแจ้งความออนไลน์

จากการเดินทางไปศูนย์บริหารการรับแจ้งความคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ ศปอส. เพิ่มเติมทำให้ทราบว่า คดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่ สอท.ดูแล สามารถแบ่งได้เป็น 5 เรื่องใหญ่ ๆ คือ 1) หลอกลวงผ่านการซื้อขายออนไลน์ 2) การเข้าถึงข้อมูลโดยมิชอบ 3) การโจมตีระบบ 4) การล่วงละเมิดทางเพศโดยใช้สื่อออนไลน์ และ 5) การพนันออนไลน์ โดยปัจจุบัน ศปอส. เปิดให้ประชาชนแจ้งเรื่องราวร้องทุกข์ได้ 3 ช่องทาง ได้แก่ 1.ร้องเรียนที่ศูนย์บริหารการรับแจ้งความคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2.ร้องเรียนผ่านคอลเซ็นเตอร์ โทร 1441 และ 3.ร้องเรียนทางเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com ข้อมูลจากทั้ง 3 ช่องทางจะถูกนำเข้าสู่ระบบออนไลน์ของศูนย์ฯ เพื่อวิเคราะห์และส่งต่อให้หน่วยงาน หรือสถานีตำรวจท้องที่ดำเนินการต่อ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ละหน่วยสามารถเข้าไปดูเรื่องร้องเรียนที่อยู่ในความรับผิดชอบของหน่วยตัวเองได้

เจ้าหน้าที่ ศปอส. แนะนำว่า เมื่อผู้บริโภครู้ตัวว่าถูกหลอกหรือถูกฉ้อโกงออนไลน์ ให้รีบแจ้งไปยัง ศปอส. โดยเร็วที่สุด เพราะในคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 77/2565 เรื่อง การรับแจ้งความและการบริหารคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ให้อำนาจตำรวจ สอท. ในการยับยั้งการทำธุรกรรมบัญชีที่ผู้เสียหายโอนเงินไปให้ได้เป็นการชั่วคราว

ตรวจสอบสถานะแจ้งความออนไลน์

“โดยส่วนใหญ่กระบวนการโอนย้ายถ่ายเทเงินของคนร้ายจะอยู่ในระยะเวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ดังนั้น เมื่อผู้เสียหายรู้ตัวแล้วว่าถูกหลอก ถูกโกงออนไลน์ก็ควรรีบติดต่อ สอท. ทันที เพราะหากสามารถยับยั้งการทำธุรกรรมบัญชีได้ทันก่อนที่การถ่ายเทเงินจะเสร็จสิ้น ก็มีโอกาสได้เงินคืนค่อนข้างมาก แต่ถ้ายิ่งปล่อยระยะเวลาให้นานออกไป การติดตามเส้นทางทางการเงินก็จะยากขึ้น ซึ่งทำให้โอกาสที่จะได้เงินคืนน้อยลง” เจ้าหน้าที่ ศปอส.ระบุ

สำหรับขั้นตอนในการแจ้งความออนไลน์นั้น ผู้เสียหายสามารถเข้าไปลงทะเบียนและแจ้งความผ่านทางเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com ได้เลย หลังจากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจติดต่อกลับไปหาผู้เสียหายและแนะนำขั้นตอนต่าง ๆ ที่จะต้องทำต่อไป ทั้งนี้ หลังจากแจ้งความออนไลน์เรียบร้อยแล้ว สอท. จะประสานกับสถานีตำรวจท้องที่ และผู้เสียหายต้องไปยื่นหลักฐานและลงบันทึกประจำวัน ที่สถานีตำรวจท้องที่เกิดเหตุภายใน 3 ชั่วโมง เพื่อประกอบการจัดการเรื่องธุรกรรมและการดำเนินคดีต่อไป

ทั้งนี้ หากผู้บริโภคที่ไม่ได้รับความสะดวก หรือไม่ได้รับการแก้ไขปัญหา สามารถติดต่อ สอบ.ได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 081 134 9216, เฟซบุ๊กแฟนเพจ (Facebook Inbox) สภาองค์กรของผู้บริโภค หรือไลน์ ออฟฟิเชียล (Line OA) @tccthailand หรือติดต่อหน่วยงานประจำจังหวัดของ สอบ.ทั้ง 12 จังหวัดได้ ตามข้อมูลด้านล่าง

นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีระหว่างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)กับ สถาบันการเงิน ว่า ปัจจุบันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีมีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซับซ้อน และเป

ปัจจุบันการแจ้งความออนไลน์ยังสามารถทำได้เฉพาะคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เช่น การหลอกลวงออนไลน์ทางด้านการเงิน, จำหน่ายสิ่งของผิดกฎหมาย หรือหลอกลวงจำหน่ายสินค้าออนไลน์, การเผยแพร่ข่าวปลอม และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์, การล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กหรือสตรีทางอินเทอร์เน็ต และการค้ามนุษย์, การพนันออนไลน์ อาชญากรรมข้ามชาติเท่านั้น ซึ่งคดีอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ยังจำเป็นต้องไปแจ้งความที่โรงพักอยู่

รู้ไว้จะได้ไม่เอ้าท์ ยุคนี้เอกสารหาย ไม่ต้องไปโรงพักก็ได้ เพราะแค่มีโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต ก็สามารถแจ้งแจ้งความผ่านระบบออนไลน์ได้ ง่าย ๆ สะดวก เพียงพริบตา ขั้นตอนจะเป็นอย่างไร หากเอกสารหายขึ้นมาจริงๆ ต้องแจ้งอย่างไร ไม่รู้ไม่ได้แล้ว

สารบัญ

ตรวจสอบสถานะแจ้งความออนไลน์

แจ้งความออนไลน์ แอปฯ ทางรัฐ

ตรวจสอบสถานะแจ้งความออนไลน์

แจ้งความออนไลน์ผ่านเว็บไซต์

ตรวจสอบสถานะแจ้งความออนไลน์

ศูนย์รวมแอปพลิเคชั่นของ ตร.

แจ้งความเอกสารหายออนไลน์ มิติใหม่แห่งการแจ้งความ

การแจ้งความออนไลน์ลักษณะนี้ คือการแจ้งความอีกรูปแบบที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อกรณีเอกสารสำคัญหายโดยเฉพาะ ประชาชนสามารถเข้าไปแจ้งความผ่านทางเว็บไซต์ แจ้งความออนไลน์.com โดยตรงหรือจะเพิ่มเพื่อน @onlinepolice ในไลน์ที่จะพาไปยังเว็บไซต์อีกที ซึ่งพัฒนาขึ้นมาโดยตำรวจภูธรภาค 3 จังหวัดนครราชสีมา และเริ่มเปิดให้ใช้บริการมาตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา ผู้ใช้บริการสามารถมั่นใจในความปลอดภัยได้เต็มที่ การันตีว่าข้อมูลส่วนตัวต่าง ๆ ไม่รั่วไหลแน่นอน

แจ้งความได้ ไม่ต้องไป สน.

เมื่อเอกสารสำคัญหายหลายๆ คนอาจวิตกจนนั่งไม่ติดที่ เพราะอาจเคยได้ยินข่าวการแอบนำเอกสารไปใช้ในทางผิดกฏหมาย โดยเอกสารที่สามารถแจ้งความเอกสารหายออนไลน์ได้ ได้แก่

  1. บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
  2. สมุดบัญชีธนาคาร
  3. สลากออมสิน
  4. โฉนดที่ดิน
  5. ใบกรมธรรม์
  6. ใบคู่มือการจดทะเบียนรถ
  7. ใบรับรองผลการเรียน
  8. ใบสำคัญการสมรส
  9. ตั๋วจำนำ
  10. ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ (แบบสาธารณะเท่านั้น)

การแจ้งความเอกสารหายนั้นมีความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย แจ้งได้ 24 ชั่วโมง และยังช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปที่สถานีตำรวจอีกด้วย แต่ถ้าจำเป็นต้องไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ เพราะการแจ้งความออนไลน์ไม่ได้ครอบคลุมหมดทุกอย่าง สามารถตรวจสอบจุดบริการก่อนเดินทางไปที่สถานีตำรวจก่อนได้ จะได้ไม่ต้องเสียเวลา

แจ้งความออนไลน์ได้ 36 จังหวัด

เนื่องจากระบบการแจ้งความเอกสารหายออนไลน์ เพิ่งจะได้รับการพัฒนาไม่นานมานี้ ทำให้ตอนนี้สามารถรองรับการแจ้งความได้เพียง 36 จังหวัดเท่านั้น ได้แก่

1. กาญจนบุรี13. พระนครศรีอยุธยา25. สุรินทร์2. กรุงเทพมหานคร14. พะเยา26. สุโขทัย3. กำแพงเพชร15. พิจิตร27. อำนาจเจริญ4. ชัยภูมิ16. พิษณุโลก28. อุตรดิษถ์5. ชัยนาท17. ยโสธร29. อุทัยธานี6. ตาก18. ลพบุรี30. อุบลราชธานี7. นครราชสีมา19. ลำปาง31. อ่างทอง8. นครสวรรค์20. ลำพูน32. เชียงราย9. นนทบุรี21. ศรีสะเกษ33. เชียงใหม่10. น่าน22. สมุทรปราการ34. เพชรบูรณ์11. บุรีรัมย์23. สระบุรี35. แพร่12. ปทุมธานี24. สิงห์บุรี36. แม่ฮ่องสอน

ส่วนประชาชนที่อาศัยอยู่นอกเหนือพื้นที่ 36 จังหวัดที่กล่าวไปข้างต้น ก็อดใจรอกันอีกสักหน่อย เพราะทางทีมสำนักงานตำรวจกำลังเร่งพัฒนาระบบให้สามารถใช้งานได้ทั่วประเทศไทย เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและการติดต่อทำเอกสารราชการของประชาชนชาวไทย ให้สอดคล้องกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปด้วยการนวัตกรรมและความก้าวหน้า

แจ้งความสะดวก ผ่านระบบออนไลน์

ประชาชนสามารถใช้บริการแจ้งความนี้ ได้ทั้งทางเว็บไซต์ โดยค้นหาคำว่า “แจ้งความออนไลน์” หรือพิมพ์ แจ้งความออนไลน์.comโดยตรง หรือจะเพิ่มเพื่อนไปในไลน์โดย แล้วพิมพ์ Line ID: @onlinepolice ในช่องค้นหาเพื่อน หลังจากนั้นให้กด “แชท” เมื่อเข้าไปในหน้าแชทแล้ว ให้พิมพ์ว่า “แจ้งเอกสารหาย” ระบบก็จะส่งลิงค์มาให้ เพื่อไปกรอกข้อมูลในเว็บไซต์ แจ้งความออนไลน์.com โดยระบบการแจ้งความออนไลน์ สามารถใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะช่องทางไหน

แจ้งได้ง่าย ๆ เพียง 5 ขั้นตอน

ระบบการแจ้งความออนไลน์ มีขั้นตอน ดังนี้

  1. เลือกสถานีตำรวจ
  2. กรอกข้อมูลส่วนตัวผู้แจ้งและอัพโหลดรูปบัตรประชาชน
  3. กรอกรายละเอียดที่ต้องการแจ้ง
  4. ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล
  5. ตรวจสอบสถานะการแจ้งความ

*เมื่อแจ้งความในระบบเสร็จเรียบร้อย สามารถตรวจสอบสถานะการแจ้งความโดยกรอกเลขบัตรประชาชนในเว็บไซต์ที่แจ้งความได้เลย

  1. กรอกข้อมูลสถานีตำรวจ โดยระบุ จังหวัด อำเภอ ตำบล และชื่อสถานี เพื่อให้ระบบค้นหาและจับคู่สถานีตำรวจที่รับผิดชอบอัตโนมัติ

ตรวจสอบสถานะแจ้งความออนไลน์

ตรวจสอบสถานะแจ้งความออนไลน์

2. กรอกข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อนามสกุล วัน เดือน ปี ที่เกิดหากไม่มีอีเมล สามารถใช้อีเมลของคนในครอบครัวก็ได้ การแจ้งความผ่านระบบออนไลน์จำเป็นต้องมีอีเมล เพื่อรับการแจ้งเตือนสถานะ หากไม่มีอีเมลจะถือว่ากรอกข้อมูลไม่สำเร็จ

3. ถ่ายรูปหน้าบัตรประชาชน เพื่อยืนยันตัว ให้เห็นหน้าบัตรและใบหน้าอย่างชัดเจน โดยข้อมูลในส่วนนี้จะถูกนำไปใช้สำหรับการรับแจ้งความผ่านระบบออนไลน์กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเท่านั้น ผู้ใช้จึงไม่ต้องกังวลว่าข้อมูลที่ให้ไว้จะรั่วไหล หรือถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด

ตรวจสอบสถานะแจ้งความออนไลน์

ตรวจสอบสถานะแจ้งความออนไลน์

4. กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับคดีความที่ต้องการแจ้ง เช่น ชนิดของเอกสารที่หาย รายละเอียดการหาย และตอบคำถามที่ขึ้นมาบนหน้าจอจนครบ จากนั้น กดยืนยัน

ตรวจสอบสถานะแจ้งความออนไลน์

ตรวจสอบสถานะแจ้งความออนไลน์

5. รอระบบส่งข้อความตอบรับ ทั้งทางไลน์ (หากทำเรื่องผ่านช่องทางไลน์) และทางอีเมล (หากทำผ่านทางหน้าเว็บไซต์) หรือสามารถตรวจสอบได้ในเว็บไซต์ได้เช่นกัน เพียงกรอกเลขบัตรประชาชนลงไปเหมือนรูปด้านล่างนี้