โรคเส้นประสาทอักเสบเรื้อรัง อาการ

โรคเส้นประสาทอักเสบเรื้อรัง อาการ

ป่วยสมองอักเสบ อาการตัวชาและความทรงจำที่หายไป

จากที่มีข่าวอาการป่วยของนางแบบเซ็กซี่ชื่อดัง คุณโยโกะ ทาคาโน่ ที่ป่วยเป็นโรคสมองอักเสบซึ่งส่งผลทำให้ความทรงจำบางส่วนหายไป เรามาทำความรู้จักกับโรคนี้กัน โรคนี้มีชื่อเต็มว่า Chronic Inflammatory Demyelinating Polyradiculoneuropahty (CIDP) หรือ โรคเส้นประสาทอักเสบเรื้อรัง เกิดจากการอักเสบของเส้นประสาทส่วนปลายและแกนกลางเส้นประสาททำให้การนำกระแสไฟฟ้าของเส้นประสาทส่วนปลายเสีย

ซึ่งปกติแล้วเส้นประสาทส่วนปลายจะมี 2 ส่วนใหญ่ๆ คือ แกนกลางของเส้นประสาทและเยื่อหุ้มปลายประสาทเกิดการอักเสบได้ทั้ง 2 ส่วน โดยเกิดจากความผิดปกติทางระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้ภูมิคุ้มกันที่ผิดปกตินั้นมาทำลายเส้นประสาท

อาการของโรคสมองอักเสบ มีดังนี้

  1. จะมีอาการชา มีความรู้สึกผิดปกติตามปลายมือปลายเท้า
  2. กล้ามเนื้ออ่อนแรง
  3. ความดัน หัวใจ หรือกระเพาะปัสสาวะอาจมีอาการผิดปกติ

ขณะที่ในส่วนของสมองอักเสบนั้นจะเกิดในสมองส่วนบนที่ควบคุมกล้ามเนื้อ ความรู้สึก หรือความนึกคิด รวมถึงความจำ มีสาเหตุมาจากภูมิคุ้มกันผิดปกติ หรือสมองอักเสบจากภูมิต้านตนเอง ซึ่งเป็นโรคที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันต้านทานโรคของร่างกายทำงานผิดปกติทำให้ภูมิคุ้มกันทำร้ายเนื้อเยื่อสมอง ทั่วทั้งสมอง จนเกิดสมองอักเสบ

สำหรับวิธีการรักษานั้น

เนื่องด้วยโรคนี้เกิดจากภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ จึงอาจจำเป็นต้องใช้ยากดภูมิ ซึ่งที่รู้จักในวงกว้างคือ สเตียรอยด์ โดยโรคนี้จะสังเกตได้จากอาการชาอ่อนแรง ปากเบี้ยว น้ำตาไหล น้ำลายไหล หลับตาไม่สนิท หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบพบแพทย์ทันที

ข้อมูลจาก
รศ. นพ.พรเทพ ตั่นเผ่าพงษ์
ภาควิชากุมารเวชศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล


คลิกชมคลิปรายการ “โยโกะทาคาโน่ ป่วยสมองอักเสบ : พบหมอรามา ช่วง Rama Update” ได้ที่นี่

ปลายประสาทอักเสบ

        เกิดจากประสาทส่วนปลายเสื่อม ซึ่งอาจมีสาเหตุจากการขาดอาหาร (เช่น โรคเหน็บชา โรคพิษสุราเรื้อรัง) เบาหวาน จากพิษของยา (เช่น ไอเอ็นเอช) พิษของสารเคมี (เช่น ยาฆ่าแมลง ตะกั่ว สารหนู) โรคติดเชื้อ (เช่น โรคเรื้อน คอตีบ โปลิโอ เอดส์) เอสแอลอี มะเร็ง (เช่น มะเร็งปอด มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ๆ เนื้องอกที่กดทับเส้นประสาท ภาวะบีบรัดเส้นประสาท (เช่น) เส้นประสาทมือถูกพังผืดรัดแน่น) หรือการได้รับบาดเจ็บของเส้นประสาท

โรคปลายประสาทอักเสบ พบได้ในคนที่มีอายุเฉลี่ย 30 ปีขึ้นไป และกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสเกิดโรคนี้ได้มากขึ้น ได้แก่

  • ผู้ป่วยเบาหวาน
  • ทำงานหนักพักผ่อนน้อย
  • ดื่มสุราหรือแอลกอฮอลล์เป็นประจำ
  • สูบบุหรี่
  • รับประทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่
  • ร่างกายขาดวิตามินบางชนิด เช่น บี 1 บี 6 และ บี 12
  • รับประทานยาบางชนิดที่มีผลข้างเคียงต่อเส้นประสาท

ลักษณะของอาการผิดปกติที่พบ เมื่อมีการอักเสบของเส้นประสาท ต่างๆ

เส้นประสาทคู่ที่ 7    ถ้าเกิดการอักเสบ ทำให้เกิดอาการใบหน้าเบี้ยว ใบหน้าอ่อนแรงครึ่งซีก ส่วนหนึ่งของอาการนี้เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ในช่วงที่ร่างกายทำงานหนัก พักผ่อนน้อย

เส้นประสาทคู่ที่ 8    ถ้าเกิดการอักเสบ จะทำให้สูญเสียการทรงตัว เกิดอาการบ้านหมุน ตามมา บางรายได้ยินเสียงแว่วในหู หรือมีอาการหูดับ

เส้นประสาทคู่ที่ 3, 4 หรือ 6    ถ้าเกิดการอักเสบ มักจะพบในกลุ่มคนที่เป็นเบาหวาน อาการที่พบบ่อย คือ เห็นภาพซ้อนแนวใดแนวหนึ่ง

เส้นประสาทคู่ที่ 5    หากเกิดการอักเสบ จะมีอาการปวดเสียว ปวดแปร๊บๆ บนใบหน้า ลักษณะอาการคล้ายถูกไฟฟ้าช็อต มักเกิดอาการด้านใดด้านหนึ่งของใบหน้า

           หากมีอาการของการรับความรู้สึกน้อย (ชา) หรือมากกว่าปกติ (เจ็บ) มีอาการอ่อนแรง หรือมีปัญหาการทรงตัวลำบาก ควรพบแพทย์เพื่อรับการประเมินและตรวจวินิจฉัย
 

การรักษาปลายประสาทอักเสบ

แพทย์จะประเมินวิธีการรักษาขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ และตำแหน่งของปลายประสาทอักเสบ ซึ่งมุ่งเน้นการฟื้นฟูเส้นประสาทให้กลับมาทำงานได้ปกติ

การรักษาทั่วไป

  • อาบน้ำอุ่น ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ลดอาการชา และความเจ็บปวดได้
  • ควบคุมน้ำหนัก และระดับน้ำตาลในเลือดให้เหมาะสม
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมีที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองได้
  • รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ช่วยป้องกันการขาดวิตามิน
  • ลดการสูบบุหรี่
  • ลดการดื่มแอลกอฮอล์
  • การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้กล้ามเนื้อแข็งแรง การบำบัด
  • การกระตุ้นเส้นประสาทด้วยไฟฟ้า
  • กายภาพบำบัดฟื้นฟูกล้ามเนื้อ
  • การผ่าตัด การใช้ยา
  • ให้ยาแก้ปวด ยาลดการอักเสบ
  • ทายาและนวดเบา ๆ
  • ฉีดยา

ภาวะแทรกซ้อนของปลายประสาทอักเสบ

           ความเสียหายของเส้นประสาทที่ส่งผลให้เกิดปลายประสาทอักเสบ อาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น แผลที่เท้า การติดเชื้อจนทำให้เกิดเนื้อตาย และยังส่งผลกระทบต่อเส้นประสาทที่ควบคุมการทำงานของหัวใจ รวมทั้งการไหลเวียนของระบบโลหิต

หากคุณเสี่ยงต่อการเกิดโรคปลายประสาทอักเสบ ควรรับการตรวจสุขภาพประจำปีสม่ำเสมอ เมื่อพบอาการผิดปกติควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาทันที สามารถลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับเส้นประสาททำให้มีโอกาสหายเป็นปกติได้มากขึ้นอีกด้วย

ข้อมูลอ้างอิง :

https://w1.med.cmu.ac.th/ortho/images/News59/Aj_Kanit/entrapment%20nueropathy.pdf

รศ.นพ. คณิตศ์ สนั่นพานิช  การกดทับเส้นประสาท (entrapment neuropathy)

10.14456/clmj.2018.27 - Chula Med J Vol. 62 No. 6 November-December 2018

 ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข

https://pr.moph.go.th/iprg/include/admin_hotnew/show_hotnew.php?idHot_new=109133

https://www.si.mahidol.ac.th/siriraj_online/thai_version/Health_detail.asp?id=1235

โรคปลายประสาทอักเสบมีอาการอย่างไร

สัญญาณเตือนโรคปลายประสาทอักเสบ เหน็บและชาปลายมือและเท้า ความรู้สึกบริเวณปลายมือและเท้าลดลง กล้ามเนื้ออ่อนแรง (โดยเฉพาะที่เท้า) เสียการทรงตัวหรือเดินเซ

เส้นประสาทอักเสบคืออะไร

ระบบประสาทส่วนปลายเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหว และการรับความรู้สึก ภาวะปลายประสาทอักเสบ คือ อาการบวม แดง อ่อนแรง ชาที่แขน และขา ปลายมือ ปลายเท้า พบมากในผู้สูงวัย แต่ในกรณีที่พบในคนอายุน้อย ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อ

โรคปลายประสาทอักเสบรักษาหายไหม

หากคุณเสี่ยงต่อการเกิดโรคปลายประสาทอักเสบ ควรรับการตรวจสุขภาพประจำปีสม่ำเสมอ เมื่อพบอาการผิดปกติควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาทันที สามารถลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับเส้นประสาททำให้มีโอกาสหายเป็นปกติได้มากขึ้นอีกด้วย

อาหารชนิดใดที่ผู้ป่วยปลายประสาทอักเสบควรเลี่ยง

ผู้ที่ชอบกินอาหารประเภท ปลาร้า ใบชา ใบเมี่ยง หมากพลู และทานมังสวิรัติ ก็มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคปลายประสาทอักเสบเช่นกัน เนื่องจากอาหารประเภทนี้จะมีสารทำลายวิตามิน B1 ซึ่งเป็นวิตามินจำเพราะสำหรับการดูแลระบบประสาท หากรับประทานต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน อาจทำให้ขาดวิตามินเหล่านี้ได้