ผงมะพร้าว สกัด เย็น กินตอนไหน

น้ำมันมะพร้าว ทำงานอย่างไร?

น้ำมันมะพร้าว (coconut oil) เป็นน้ำมันที่ได้จากการสกัดแยกน้ำมันจากเนื้อผลของต้นมะพร้าว มีลักษณะเป็นน้ำสีใสและมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของน้ำมะพร้าว ซึ่งมีการสกัดด้วยวิธีการที่หลากหลายประเภทได้แก่

1. น้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ (Pure Coconut Oil) เป็นน้ำมันมะพร้าวที่สกัดจากเนื้อมะพร้าวที่อบแห้ง หรือตากแห้ง ซึ่งนำมาคั้นด้วยเครื่องมือ ไม่มีการการกลั่น ไม่มีเติมสารใดๆ จึงได้เป็นน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์ 
2. น้ำมันมะพร้าวผ่านกรรมวิธี (Refined Coconut Oil) เป็นน้ำมันมะพร้าวที่ผ่านกระบวนการกลั่น มีการเติมสารเคมี ฟอกสี และการแต่งกลิ่น
3. น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น (Virgin Coconut Oil) เป็นน้ำมันมะพร้าวที่ได้จากการวิธีการสกัดเย็น โดยใช้สารเคมีในการสกัดแยกจากเนื้อมะพร้าวไม่ผ่านกระบวนการที่ใช้ความร้อน ยังคงคุณประโยชน์จากมะพร้าวไว้อย่างครบถ้วน
4. น้ำมันมะพร้าวอินทรีย์ (Organic Coconut Oil) เป็นน้ำมันมะพร้าวที่ได้จากการปลูกแบบอินทรีย์หรือออร์แกนิก โดยไม่ใช้สารเคมีใดๆ ตั้งแต่การปลูกจนถึงการสกัด
5. น้ำมันมะพร้าวอินทรีย์สกัดเย็น (Organic Virgin Coconut Oil) เป็นการสกัดน้ำมันมะพร้าวจากมะพร้าวที่ได้จากการปลูกแบบอินทรีย์และไม่ผ่านกระบวนการที่ใช้ความร้อนและไม่เติมสารเคมีใดๆ

น้ำมันมะพร้าวกับการสลายพุง

น้ำมันมะพร้าวที่ช่วยเรื่องการสลายพุงคือ “น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น” เนื่องจากคงคุณค่าของสารอาหารในมะพร้าวได้มากที่สุด โดยในน้ำมันมะพร้าวจะมี “กรดไขมันอิ่มตัว” (Saturated fatty acid) ที่มีขนาดโมเลกุลปานกลาง ซึ่งไม่ค่อยพบในอาหารชนิดอื่นๆ

โดยสามารถเปลี่ยนเป็นพลังงานได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีโมเลกุลขนาดไม่ใหญ่มาก สามารถกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอเลสเตอรอลชนิดดี ช่วยเพิ่มการเผาผลาญไขมันได้เป็นอย่างดี จึงเหมาะกับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก สลายพุง 

วิธีการกินน้ำมันมะพร้าวเพื่อลดความอ้วน

ควรกินน้ำมันมะพร้าวไม่เกินครั้งละ 2 ช้อนโต๊ะต่อมื้ออาหาร ตามด้วยน้ำเปล่าหรือน้ำอุ่น 1 แก้ว สามารถทานได้ 3 มื้อ แต่ถ้ามากกว่านั้นก็ไม่มีผลข้างเคียง นอกจากจะอยากขับถ่ายมากเกินไป ควรกินก่อนมื้ออาหารประมาณ 30-60 นาที เนื่องจากน้ำมันมะพร้าวมีคุณสมบัติช่วยลดความอยากอาหารได้ดี กระตุ้นการทำงานของต่อมไทรอยด์ สร้างความร้อนได้เร็วจึงไม่สะสมในร่างกาย และเพื่อขับของเสียออกจากร่างกาย เมื่อกินน้ำมันมะพร้าวเข้าไปแล้วไม่เกิน 1-2 ชั่วโมง จะรู้สึกอยากขับถ่าย ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ ไม่เป็นอันตราย

Z-lipo สลายไขมันด้วยความเย็นจุดเยือกแข็ง

น้ำมันมะพร้าวควบคู่กับการออกกำลังกาย

หากต้องการกินน้ำมันมะพร้าวเพื่อช่วยการเผาผลาญในระหว่างออกกำลังกาย ให้กินน้ำมันมะพร้าว 1-2 ช้อนโต๊ะ ก่อนการออกกำลังกาย 10 นาที ทำให้ใช้เวลาในการออกกำลังกายน้อยลงแต่เผาผลาญไขมันจำนวนเท่าๆ เดิม

ตัวช่วยกำจัดไขมันด้วยความเย็นเยือกแข็ง -11 °C “Z-lipo” เห็นผลชัดเจนหลังการรักษา 1 เดือน โดยไขมันชั้นหนาๆ จะบางลง ใช้เวลาในการรักษา 60 นาที ทำเพียงครั้งเดียวสามารถลดได้ 25-35% ความเย็นจะแช่แข็งเซลล์ไขมันให้ตายลง โดยไม่ส่งผลต่อเนื้อเยื่อบริเวณโดยรอบ หลังจากนั้นร่างกายจะขับเซลล์ที่ตายแล้ว ออกมาทางระบบน้ำเหลืองตามกลไลทางธรรมชาติของร่างกาย

Z-lipo เป็นที่ยอมรับว่าสามารถกำจัดไขมันออกจากร่างกายได้เช่นเดียวกับการดูดไขมัน ข้อดีคือหัว Applicator มีขนาดใหญ่ ดูดได้ลึกและไม่รู้สึกเจ็บ นอกจากนี้หัว Applicator ยังเป็นแบบสูญญากาศ ทำให้ดูดได้แน่นและปริมาณมาก เหมาะสำหรับผู้ที่มีปริมาณไขมันหนา โดยจะเน้นกำจัดไขมันเป็นสัดส่วน เช่น ท้องส่วนบน ท้องส่วนล่าง สะโพก ต้นแขน ต้นขา ไขมันข้างรักแร้ เอว หน้าอกผู้ชาย

APEX SLIM ประสบการณ์กว่า 25 ปี โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และเครื่อง Z-lipo ได้รับการรับรองการตรวจประเมินผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ มาตรฐานเยอรมัน ของบริษัท ทูฟ ซูด (TUV:SUD) และได้รับการรับรอง CE ย่อมาจาก European Conformity หรือมาตรฐานรับรองความปลอดภัยจากยุโรปอีกด้วย

ใครอยาก “ลดหุ่น” ด้วยน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น แต่ไม่รู้ว่าต้องทานยังไงนำวิธีทีนี้ไปใช้ หุ่น ปัง! แน่นอนค่ะ ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกันก่อนนะคะน้ำมันมะพร้าวโคโคเน่ทำงานยังไง เพราะการกินน้ำมันมะพร้าวจะทำให้รู้สึกอิ่ม ทานอาหารได้น้อยลง และเมื่อทานในปริมาณที่น้อยลง แต่ระบบการเผาผลาญดีขึ้น เมื่อมีการเผาผลาญแคลลอรี่มากขึ้น แคลลอรี่จะถูกนำไปใช้เป็นพลังงานมากขึ้น จึงไม่เหลือแคลลอรี่ให้สะสมเป็น ไขมันในร่างกายอีกต่อไป

ใครอยากลดความอ้วนแบบไม่โยโย่ อยากลดความอ้วนแล้วไม่โทรมทำตามวิธีนี้ได้เลยค่ะ

1 กินครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ ตามน้ำหนักตัว ก่อนทานอาหารหรือระหว่างมื้ออาหาร 3 มื้อ หรืออาจจะทานให้ไม่เกินวันละ 3 – 4 ช้อนโต๊ะ สำหรับผู้ที่มีน้ำหนักไม่เกิน 70 กก.

กินในปริมาณที่เหมาะสม ปริมาณบริโภคเมื่อรวมกับน้ำมันและไขมันในอาหารชนิดอื่นๆ แล้ว ไม่เกินวันละ 3 - 4 ช้อนโต๊ะ หากให้เป็นการดีที่สุดในการลดความอ้วน ให้เปลี่ยนจากทานไขมันจากอาหารชนิดอื่นๆ เป็นน้ำมันมะพร้าวแทน *หัวข้อที่ 3 (ตามคำแนะนำเพื่อสุขภาพที่ดีว่า ร่างกายควรได้รับน้ำมันและไขมันจากอาหารต่างๆ ไม่เกินวันละ 60 กรัม)

2 ผสมน้ำมันมะพร้าว ในนมร้อน โกโก้ร้อน หรือกาแฟร้อน แล้วแต่ความชอบ

หากไม่สามารถทานเพียวๆได้ ก็แนะนำให้ผสมลงในเครื่องดื่มที่ชื่นชอบได้เลย

3 ปรับการกินน้ำมันมะพร้าว แทนไขมัน จากสัตว์และพืชชนิดอื่นๆ

การรับประทานอาหารในชีวิตประจำวัน มักจะมีการทานจากอาหารชนิดต่างๆ อาจจะเป็นไขมันชนิดไม่ดีที่ก่อให้เกิดการสะสม ให้เกิดโรคร้ายต่างๆมากมาย ขอแนะนำให้เปลี่ยนจากการใช้น้ำมันชนิดอื่นในการประกอบอาหารเปลี่ยนมาเป็นน้ำมันมะพร้าวซึ่งเป็นไขมันชนิดดีที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ก่อให้เกิดการสะสมเป็นไขมันส่วนเกิน อีกทั้งยังช่วยลดไขมันชนิดไม่ดีและไขมันส่วนเกินลดลงได้

4 ควบคุมอาหาร ลดทานจุกจิก ลดการทานของหวาน ลดของมันของทอดจากไขมันทรานส์

ของหวานและของทอด มักจะทำให้เราอ้วนง่าย เกิดไขมันสะสมทั้งไขมันใต้ผิวหนังและไขมันช่องท้อง และอาหารเหล่านี้ยังมีปริมาณแคลลอรี่ที่สูงเกินความจำเป็น ทำให้ความสามารถในการเผาผลาญของร่างกายเผาผลาญไม่หมด ดังนั้นหารเราควบคุมปริมาณอาหาร ควบคุมปริมาณแคลลอรี่ ลดของมันของหวาน ของทอด ก็จะทำให้เราลดความอ้วนง่ายขึ้น และเมื่อปริมาณอาหารและแคลลอรี่ไม่เกิน ร่างกายก็สามารถเผาผลาญสิ่งที่เรากินเข้าไปได้หมด และสามารถเผาผลาญไขมันที่สะสมเก่าออกมาได้มากยิ่งขึ้น

วิธีคำนวณค่าการเผาผลาญของร่างกาย  เพื่อนำไปปรับใช้ในการควบคุมอาหาร

  ร่างกายของคนเรามีการเผาผลาญพลังงานอยู่เสมอ แต่เราจะรู้ได้ยังไงล่ะว่าเราสามารถเผาผลาญพลังงานไปเท่าไร กี่แคลอรี่ กี่กิโลแคลอรี การคำนวณเผาผลาญพลังงานของร่างกาย จริงๆแล้วเครื่องกำลังกายตามฟิตเนตจะมีค่าบอกว่าเราเผาผลาญพลังงานไปเท่าไร แต่ถ้าเราไม่ได้ไปฟิตเนตล่ะเราออกกำลังลดน้ำหนักอยู่ที่บ้าน เราจะคำนวณยังไง เราจะคำนวณโดยใช้ค่า BMR (Basal Metabolic Rate)

BMR (Basal Metabolic Rate)เราสามารถเรียกได้ว่าเป็นอัตราการเผาผลาญพลังงานในแต่ละวัน ซึ่งถ้าหากเราไม่ทำกิจกรรมอะไรเลย เอาแต่นั่งๆนอนๆทั้งวันจะมีการเผาผลาญพลังงานโดยการคำนวณจากสูตร BMR (Basal Metabolic Rate) ดังนี้

สำหรับผู้ชาย :BMR = 66 + (13.7 x น้ำหนักตัวเป็น กก.) + (5 x ส่วนสูงเป็น ซม.) – (6.8 x อายุ)
สำหรับผู้หญิง:BMR = 665 + (9.6 x น้ำหนักตัวเป็น กก.) + (1.8 x ส่วนสูงเป็น ซม.) – (4.7 x อายุ)

จากสูตร BMR (Basal Metabolic Rate)เราจะสังเกตุได้ว่าน้ำหนัก ส่วนสูงและอายุมีผลต่อการเผาผลาญพลังงาน เมื่อหาค่า BMR (Basal Metabolic Rate) มาแล้วเราก็จะสามารถรู้ได้ว่าเรามีการการเผาผลาญพลังงานโดยไม่ทำกิจกรรมอะไรเลยเท่าไร

ต่อมาเราจะมาคำนวณว่าการเผาผลาญพลังงานโดยปกติ X (มีการออกกำลังกายด้วย) มีเผาผลาญพลังงานโดยคำนวณได้ดังนี้

การเผาผลาญพลังงานโดยปกติ = BMR x ตัวแปร โดยตัวแปรของเราจะขึ้นอยู่กับการออกกำลังของเราดังนี้

ลดความอ้วนไม่ให้โยโย่ทำอย่างไร โยโย่เกิดจากอะไร 

ภาวะโยโย่นั้นเกิดจากการที่เราลดน้ำหนักด้วยวิธีผิดๆ ที่ทำให้ร่างกายเราเผาผลาญน้อยลง เช่น จากเดิมเผาผลาญประมาณ 2,000 กิโลแคลอรีต่อวัน หลังจากลดน้ำหนักไปสักพักนึงแล้ว ระดับการเผาผลาญอาจจะลดลงไปเป็น 1,200 กิโลแคลอรี่ต่อวัน และนี่คือจุดเริ่มต้นของภาวะโยโย่ วันนึงเมื่อเรากลับมาทานอาหารปกติ ซึ่งเราจะได้รับพลังงานจากอาหารถึง 2,000 กิโลแคลอรีต่อวัน แต่ตอนนี้ร่างกายเผาผลาญเพียง 1,200 กิโลแคลอรี่ต่อวัน เราจะอยู่ในสภาพที่ได้พลังจากสารอาหารมากกว่าพลังงานที่ใช้ เราจะอ้วยขึ้นนั่นเอง (ประมาณเดือนละ 3 กก.) เพราะฉะนั้นอย่าลดน้ำหนักแบบผิดๆนะคะ ขอแนะนำให้ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ครบ 3 มื้อ ทานในปริมาณที่เหมาะสม และนำเทคนิคในการทานน้ำมันมะพร้าวไปปรับใช้ รับรองผลลัพธ์ดีนักแล นำไปปรับใช้กันนะคะ

ทำไมต้องใช้น้ำมันมะพร้าวลดความอ้วน

น้ำมันมะพร้าวโคโคเน่ทำงานยังไง? เพราะการกินน้ำมันมะพร้าวจะทำให้รู้สึกอิ่ม ทานอาหารได้น้อยลง ไม่ทานจุกจิก ไม่หิวระหว่างมื้ออาหาร ระบบการเผาผลาญดีขึ้น มีการเผาผลาญแคลลอรี่มากขึ้น แคลลอรี่จะถูกนำไปใช้เป็นพลังงานมากขึ้น จึงไม่เหลือแคลลอรี่ให้สะสมเป็นไขมัน ในร่างกายอีกต่อไป

ถ้านึกถึงน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นต้องทานโคโคเน่ เท่านั้นนะคะ

เพราะเรามีเทคโนโลยี K-Molecular Engineering TM

น้ำมันพร้าวของเรามีโมเลกุลพิเศษ รสชาติบางเบา ไม่เลี่ยน ทานง่ายมาก เห็นผลเร็ว รู้สึกถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน

ผงมะพร้าวสกัดเย็นดียังไง

น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นทานก่อนนอนได้ไหม

น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นกินยังไงให้ผอม

น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นกินคู่กับอะไรได้บ้าง