เมื่อก้าวเข้าสู่โลกของการทำงาน คนเราควรตั้งเป้าหมายของชีวิตเตรียมไว้ว่าภายในกี่ปี จะขึ้นไปอยู่ในจุดใด ตำแหน่งใด เพราะการมีเป้าหมายจะทำให้เรากำหนดทิศทางการทำงาน การปฏิบัติตัวของเรา เพื่อให้ไปถึงจุดนั้นได้ในเวลาที่กำหนด ผู้ที่ประสบความสำเร็จในการทำงาน มักพูดแนะนำอยู่เสมอถึงวิธีการที่พวกเขาปฏิบัติตัว ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อคนทำงานมาแล้วหลายต่อหลายรุ่น ดังนี้ Show
คุกกี้พื้นฐานที่จำเป็น เพื่อช่วยให้การทำงานหลักของเว็บไซต์ใช้งานได้ รวมถึงการเข้าถึงพื้นที่ที่ปลอดภัยต่าง ๆ ของเว็บไซต์ หากไม่มีคุกกี้นี้เว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้อย่างเหมาะสม และจะใช้งานได้โดยการตั้งค่าเริ่มต้น โดยไม่สามารถปิดการใช้งานได้ คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์ จะช่วยให้เว็บไซต์เข้าใจรูปแบบการใช้งานของผู้เข้าชมและจะช่วยปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลและรายงานผลการใช้งานของผู้ใช้งาน คุกกี้ในส่วนการตลาด ใช้เพื่อติดตามพฤติกรรมผู้เข้าชมเว็บไซต์เพื่อแสดงโฆษณาที่เหมาะสมสำหรับผู้ใช้งานแต่ละรายและเพื่อเพิ่มประสิทธิผลการโฆษณาสำหรับผู้เผยแพร่และผู้โฆษณาสำหรับบุคคลที่สาม ทัศนคติ คือสิ่งที่บ่งบอกถึงความแตกต่างของคนที่ล้มเหลวกับคนที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งทัศนคติเป็นสิ่งเล็กๆ ที่ช่วยปลุกความสามารถ ความมั่นใจ และความรู้สึกภูมิใจในตัวคุณเองขึ้นมาได้ หากเราต้องการจะประสบความสำเร็จ เราก็ต้องมีทัศนคติ วิธีคิด อย่างคนประสบความสำเร็จ และการปรับทัศนคติก็เป็นอีกหนทางที่ช่วยให้คุณประสบความสำเร็จได้ ซึ่งอาศัยปัจจัยทั้ง 5 ดังนี้ 1. พูดกับตัวเองการสื่อสารกับผู้อื่นใช่ว่าจะเป็นการสื่อสารที่สำคัญที่สุด เปล่าเลย การสื่อสารกับตัวเองต่างหากที่สำคัญที่สุด อธิบายง่ายๆคือ คำพูดที่เราใช้พูดกับตัวเองทุกๆวัน จะเป็นตัวสะท้อนตัวตนและแนวคิดของเราเอง หากเราพูดแต่สิ่งดีๆ เราก็จะมีทัศนคติที่ดี แต่หากเราพูดแต่สิ่งร้ายๆ ทัศนคติเราก็จะแย่ตามไปด้วย ดังนั้นการเลือกใช้คำพูดจึงเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน 2. มีเป้าหมายเป้าหมายจะเป็นตัวบ่งบอกว่า คุณจะก้าวไปได้ไกลแค่ไหน แล้วเป้าหมายที่คุณมี น่าท้าทายพอหรือยัง? หากว่าไม่ ก็ต้องตั้งเป้าหมายให้ใหญ่ขึ้นอีก สูงขึ้นอีก จนทำให้คุณกล้าที่จะก้าวออกมาจากพื้นที่สุขสบาย(Comfort Zone) ของคุณ เพราะยิ่งเจอสิ่งท้าทายใหม่ๆ ก็ยิ่งได้เรียนรู้ และยิ่งทำให้คุณเติบโตขึ้น ท้ายที่สุดแล้วการตั้งเป้าหมายที่ใหญ่พอและการเชื่อมั่นในตัวเองจะทำให้คุณเปลี่ยนตัวเองกลายเป็นคนใหม่ได้ 3. มีความอดทนพรสวรรค์หรือจะสู้พรแสวง เป็นประโยคที่ แองเจลล่า ดักเวิร์ธ นักจิตวิทยาชื่อดังได้เคยพูดเกี่ยวกับเรื่องความสำเร็จ หากคุณรู้สึกว่ายังอดทนไม่พอ ขอให้รู้ไว้ว่า การมีใจรักและการมีความเพียรพยายามคือกุญแจสำคัญที่จะพาคุณไปสู่ความสำเร็จในชีวิต เช่นเดียวกับเมื่อเข้าสู่ปีใหม่ คุณจะรู้สึกมีไฟ และตั้งประณิธานสิ่งใหม่ๆ เพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเอง ยิ่งเป้าหมายคุณสูงก็ยิ่งใช้เวลานาน ซึ่งความอดทนนี่แหละที่เป็นตัวช่วยให้คุณไม่รู้สึกท้อเวลาพบเจออุปสรรค และเมื่อยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ คุณก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น 4. มีการวางแผนการวางแผนเป็นตัวที่จะช่วยให้เป้าหมายของคุณประสบความสำเร็จได้ง่ายขึ้น ซึ่งเริ่มได้จากการจัดเป้าหมายของคุณให้เป็นสัดส่วน แล้วจากนั้นก็วางแผนเพื่อให้เป้าหมายคุณพิชิตได้ง่ายขึ้น การวางแผนจะช่วยให้คุณรู้ว่าวิธีไหนที่ได้ผลดีที่สุด นอกจากนี้จะต้องไม่ลืมที่จะฟังฟีดแบคและลองเปิดรับวิธีใหม่ๆ เข้ามาปรับใช้ในแผนการของคุณด้วยล่ะ 5. ลงมือทำการวางแผนไม่สามารถการันตีว่าคุณจะประสบความสำเร็จได้เท่ากับการลงมือทำ เป็นธรรมดามากที่จะมีบางวันที่คุณรู้สึกเหนื่อยจนไม่มีกำลังใจจะทำอะไรเลย แต่อุปสรรคเหล่านี้ก็ถือเป็นบททดสอบตัวคุณอย่างหนึ่ง ว่าคุณจะสามารถฝ่าฟันมันไปได้ไหม ไม่ว่าเป้าหมายภารกิจคุณจะเล็กหรือใหญ่สักแค่ไหน คุณก็ต้องลงมือทำ และทำให้เต็มที่ด้วย การที่คุณลงมือทำอะไรจนสำเร็จจะช่วยให้คุณรู้สึกมั่นใจและเชื่อมั่นในตัวเองมากขึ้น และความสำเร็จที่ผ่านมาของคุณก็จะช่วยผลักดันให้คุณมีกำลังใจที่จะพิซิตเป้าหมายต่อๆ ไปในภายหน้าได้ด้วยเช่นกัน ทฤษฎีบริหารจัดการ POCCC นั้นเน้นการบริหารจัดการรอบด้านและครอบคลุม ตั้งแต่การวางแผน, การปฎิบัติการ, การจัดโครงสร้างองค์กร ไปจนถึงการควบคุมการทำงานให้เป็นไปตามมาตรฐานที่วางไว้Contents
หนึ่งในแนวคิดทฤษฎีการบริหารจัดการ (Management Theory) ที่เกิดขึ้นในอดีตและได้รับความนิยมมาจนถึงยุคปัจจุบันนั้นก็คือทฤษฎีที่เรียกว่า POCCC ซึ่งผู้ให้กำเนิดทฤษฎีนี้ก็คือ อองริ ฟาโยล (Henri Fayol) วิศวกรเหมืองแร่และนักวิชาการชาวฝรั่งเศษที่มีชื่อเสียง โดยเขาได้สรุปหลักทฤษฎีไว้ว่า หากวันหนึ่งคุณต้องอยู่ในสภาวะที่ต้องใช้คนจำนวนมากๆ ในการทำงานแล้วละก็ หัวใจของการบริหารจัดการเพื่อให้งานสำเร็จตามเป้าหมายนั้นมีองค์ประกอบ 5 ปัจจัย ด้วยกัน ซึ่งนั่นเป็นที่มาของทฤษฎี POCCC นั่นเอง ประวัติโดยย่อของอองริ ฟาโยล (Henri Fayol) อองริ ฟาโยล (Henri Fayol) (ค.ศ.1841–1925) เป็นชาวฝรั่งเศสที่ทำงานด้านวิศวกรเป็นสายอาชีพหลัก เมื่ออายุ 19 ปี เขาได้เข้าทำงานเป็นวิศวกรให้กับบริษัทเหมืองแร่ Compagnie de Commentry-Fourchambault-Decazeville ซึ่งเป็นบริษัทขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในฝรั่งเศส สถานะของบริษัทตอนนั้นอยู่ในขั้นเกือบจะล้มละลาย แต่หลังจากที่เขาได้เข้าไปร่วมงานนั้นทำให้เขาได้มีโอกาสร่วมพัฒนาและแก้ไขปัญหาต่างๆ จนดึงให้บริษัทพ้นจากภาวะล้มละลาย และกลับมาประสบความสำเร็จอย่างสูงในธุรกิจอีกครั้งภายในระยะเวลาไม่กี่ปี . ในส่วนของ อองริ ฟาโยล (Henri Fayol) ก็ได้รับการชื่นชมและมอบความไว้วางใจให้เขาขึ้นเป็นผู้อำนวยการของบริษัทแห่งนี้ด้วย ณ ตอนนั้นเขาต้องดูแลพนักงานถึง 1,000 คน ซึ่งนับว่าเป็นองค์กรที่มีขนาดใหญ่มากในยุคนั้น ในขณะที่บริหารองค์กรอยู่เขาได้พัฒนาหลักการการทำงาน ตลอดจนหลักการบริหารขึ้นมา และสรุปได้เป็น หลักการ 14 ประการ เพื่อเป็นทิศทางให้ผู้บริหารตลอดจนองค์กรใช้ยึดถือเป็นแนวทางปฎิบัติ . ในปี ค.ศ.1916 ช่วงสองปีก่อนที่เขาจะก้าวลงจากตำแหน่งผู้อำนวยการนั้น เขาได้นำเอาหลักการบริหาร 14 ประการนี้ ตีพิมพ์ลงในหนังสือที่ชื่อว่า “Administration Industrielle et Generale ; prévoyance, organisation, commandement, coordination, controle.” เพื่อเผยแพร่หลักการดังกล่าว นอกจากนี้เขาก็ยังได้เขียน หน้าที่ 5 ประการทางการบริหาร (POCCC) เพื่อใช้ควบคู่กับหลักการบริหารทั้ง 14 ประการนี้ด้วย และทั้งหน้าที่และหลักการที่เขาบัญญัติขึ้นนั้นก็ได้ถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายจนประสบความสำเร็จ และกลายมาเป็นหนึ่งในแนวคิดทฤษฎีการบริหารจัดการ (Management Theory) ที่ได้รับการยกย่อง แล้วก็ยังได้รับความนิยมสำหรับการบริหารองค์กรมาถึงปัจจุบันด้วย CHECK!! แนวคิดและทฤษฎีด้านการบริหารจัดการ (Management Concept) ทฤษฎี POCCC และหน้าที่ทางด้านการจัดการ (Management Function)ทฤษฎี POCCC นั้นมาจากหน้าที่ 5 ประการ ที่ อองริ ฟาโยล (Henri Fayol) กำหนดขึ้นสำหรับการบริหารจัดการองค์กร ในแต่ละหน้าที่นั้นต่างก็มีความสำคัญในตัวเอง ขณะเดียวกันก็มีการเชื่อมโยงและส่งผลในกันและกัน เพื่อให้การทำงานสมบูรณ์และประสบความสำเร็จอีกด้วย โดยรายละเอียดของหน้าที่ทั้ง 5 ประการ นั้นมีดังนี้ POCCC P – Planning : การวางแผน O – Organizing : การจัดองค์กร C – Commanding : การบังคับบัญชาสั่งการ C – Coordination : การประสานงาน C – Controlling : การควบคุม P – Planning : การวางแผนการกำหนดแผนปฎิบัติการหรือวิถีทางที่จะปฎิบัติงานไว้ตั้งแต่ต้นจนจบ ให้ครอบคลุมทุกกระบวนการ เป็นแนวทางที่วางไว้สำหรับการทำงานในอนาคต ซึ่งการวางแผนนี้จะเกิดขึ้นจากวัสัยทัศน์บวกกับจินตนาการในการบริหารจัดการที่คาดการณ์ล่วงหน้า ซึ่งจะถ่ายทอดออกมาเป็นแผนปฎิบัติการการทำงานและเป้าหมายที่จะต้องบรรลุสู่ความสำเร็จ O – Organizing : การจัดองค์กรการกำหนดตำแหน่งงาน ภาระ หน้าที่ ความรับผิดชอบ ตลอดจนจำนวนคน ให้ครอบคลุมการทำงานครบทุกกระบวนการ รวมถึงการจัดโครงสร้างตำแหน่ง โครงสร้างองค์กร เพื่อจัดลำดับการบริหารและสั่งการด้วย หากองค์กรมีการจัดการองค์กรที่เป็นระบบระเบียบ แบ่งงานชัดเจน ไม่ทับซ้อน มีหน้าที่ครบ มีปริมาณคนพอกับที่ต้องการ ก็ย่อมทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพ และโอกาสบรรลุผลสำเร็จที่สูง C – Commanding : การบังคับบัญชาสั่งการการจัดองค์กรตลอดจนจัดโครงสร้างการทำงานนั้นจะทำให้เราเห็นสายบังคับบัญชาที่ชัดเจน เห็นลำดับความสำคัญ ตลอดจนอำนาจหน้าที่ในการสั่งการ เพราะการทำงานหมู่มากจำเป็นต้องมีผู้บังคับบัญชาเพื่อให้การทำงานดำเนินไปได้อย่างราบรื่น มีคนคอยควบคุม สั่งการ ดูภาพรวม ตลอดจนสอดส่องปัญหาเพื่อหาทางแก้ไขให้ไวที่สุด ข้อดีในการมีอำนาจสั่งการอีกอย่างก็คือช่วยให้เกิดการตัดสินใจอย่างทันท่วงที ผู้ที่มีอำนาจการตัดสินใจจะต้องสามารถวิเคราะห์สิ่งต่างๆ ได้อย่างรอบคอบ และตัดสินใจได้เฉียบขาด ว่องไว ตลอดจนมีความรับผิดชอบในการตัดสินใจของตนด้วย และผู้บังคับบัญชาที่ดียังสามารถที่จะสร้างแรงจูงใจในการทำงาน เข้าใจและเอาใจใส่ผู้ใต้บังคับบัญชา ให้กำลังใจ รวมถึงอยู่ข้างๆ ในยามที่เกิดวิกฤติ C – Coordination : การประสานงานหมายถึงภาระหน้าที่ในการเชื่อมโยงงานตลอดจนการปฎิบัติการทุกอย่างรวมไปถึงกำลังคนที่หน่วยให้ทำงานเข้ากันให้ได้ กำกับให้มุ่งไปสู่เป้าหมายเดียวกัน อำนวยให้เกิดการทำงานที่ราบรื่น เพื่อให้เกิดผลสำเร็จตามที่วางไว้ ทุกอย่างหากขาดการประสานงานที่ดีก็อาจทำให้เกิดความล้มเหลวได้ เมื่อมีการแบ่งโครงสร้างตลอดจนมอบหมายงานให้กับแต่ละส่วนชัดเจนแล้วการประสานงานให้เกิดการทำงานที่ดีที่สุดนั้นมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะแต่ละส่วนต้องทำงานสอดประสานกันเพื่อผลสำเร็จเดียวกันนั่นเอง การประสานงานที่ดีนั้นจำเป็นจะต้องมีในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับบุคคลต่อบุคคล หัวหน้างานต่อลูกน้อง แผนกต่อแผนก ไปจนถึงผู้บริหารต่อทุกหน่วยงานในองค์กรเช่นกัน C – Controlling : การควบคุมการควบคุมในที่นี้หมายถึงการกำกับตลอดจนบริหารจัดการทุกอย่างให้สำเร็จลุล่วงไปตามแผนที่วางไว้ ประครองการดำเนินงานให้เป็นไปตามกรอบที่กำหนด ทั้งในเรื่องของกรอบเวลา มาตรฐานการปฎิบัติการ ขั้นตอนการทำงาน ไปจนถึงการประสานงานทุกฝ่ายให้เกิดความราบรื่น การควบคุมนี้ยังรวมไปถึงการบริหารที่ไม่ใช่ทรัพยากรบุคคลอีกด้วย แต่รวมถึงทรัพยากรที่เป็นวัตถุดิบ เครื่องจักร ผลผลิตที่ได้ ตลอดจนงบประมาณในการดำเนินงานทั้งหมดด้วย เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพที่สุด หลักในการบริหารจัดการ (Principles of Management) ตามแนวคิดของ อองริ ฟาโยล (Henri Fayol)อย่างที่ทราบกันไปแล้วว่า อองริ ฟาโยล (Henri Fayol) ได้นำเอาประสบการณ์การบริหารจัดการของตนมาสร้างเป็นหลักในการบริหารจัดการ 14 ประการ ที่ก่อให้เกิดความสำเร็จขององค์กร ซึ่งหลักการนี้ยังได้รับการยกย่องและใช้กันมาจนถึงทุกวันนี้ โดยหลักการจัดการทั้ง 14 ประการนั้นมีรายละเอียดดังนี้
ประโยชน์ของทฤษฎี POCCC และหลักการจัดการของ อองริ ฟาโยล (Henri Fayol)อองริ ฟาโยล (Henri Fayol) ได้คิดค้นทฤษฎี POCCC และกำหนดหลักการบริหารจัดการไว้เป็นบรรทัดฐานในการปฎิบัติการซึ่งจะเป็นประโยชน์ฝ่ายบริหารตลอดจนผู้จัดการในการจัดการบริหารองค์กรเป็นอย่างมาก ในขณะเดียวกันหลักการนี้ก็สามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมได้ตามลักษณะองค์กรอีกด้วย ทำให้การบริหารจัดการเป็นระบบ ระเบียบ และปฎิบัติงานได้อย่างราบรื่น มีประสิทธิภาพ ส่งเสริมให้องค์กรมีศักยภาพ และประกอบกิจการได้อย่างประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างดี หลักการต่างๆ ของอองริ ฟาโยล (Henri Fayol) ยังเป็นแกนยึดที่สำคัญที่ครอบคลุมรายละเอียดทุกกระบวนการและภาพรวมทั้งองค์กรเพราะส่งเสริมสนับสนุนให้ใส่ใจตั้งแต่เรื่องของการวางแผน, การปฎิบัติการ, การให้อำนาจ, การจัดสรรกำลังคน, การสร้างความยุติธรรม, การส่งเสริมให้มีความคิดริเริ่ม, ไปจนกระทั่งการดูแลเรื่องอัตราจ้างที่เหมาะสม ซึ่งเป็นการบริหารจัดการที่ครบองค์ ครบกระบวนการ และทุกคนทุกฝ่ายได้รับผลประโยชน์อย่างเท่าเทียมกันหมด สิ่งสำคัญอีกอย่างของหลักการต่างๆ ของอองริ ฟาโยล (Henri Fayol) นั้นก็คือการที่ไม่ได้มุ่งเน้นเฉพาะการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคลเพียงอย่างเดียว แต่ยังมุ่งเน้นไปยังการบริหารจัดการทรัพยากรอื่นๆ ที่ไม่ใช่สิ่งไม่มีชีวิตอีกด้วย ตลอดจนการบริหารจัดการสถานที่ และระบบระเบียบการทำงานให้เหมาะสม ซึ่งทำให้การบริหารจัดการองค์รวมขององค์กรประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม บทสรุปทฤษฎี POCCC ของ อองริ ฟาโยล (Henri Fayol) เป็นแนวคิดการบริหารจัดการเชิงปฎิบัติการที่คิดค้นขึ้นเพื่อรองรับการทำงานกับคนหมู่มาก แต่ก็สามารถปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับขนาดองค์กร จำนวนคน และประเภทของธุรกิจด้วยเช่นกัน เพราะหลักการนี้มีความเป็นสากลที่ปรับใช้ได้กับทุกสายงานและสาขาอาชีพ ถึงแม้หลักการนี้จะเป็นหลักการที่เกิดขึ้นมานานแล้วแต่หัวใจของหลักการบริหารจัดการนี้ยังคงมีประโยชน์และใช้ได้ดีสำหรับในยุคปัจจุบันด้วย ซึ่งหลายองค์กรก็ได้นำเอา POCCC ไปประยุกต์ใช้เป็นหลักการในการบริหารองค์กรของตนได้อย่างประสบความสำเร็จทีเดียว
คุณมีปัญหาหรือคำถามที่ต้องการหาคำตอบใช่หรือเปล่า? หากคุณรู้สึกว่าได้รับเทคนิคดีๆ จากบทความนี้และอยากได้รับความช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก คุณสามารถตั้งคำถามได้ในชุมชนของเรา ! แล้วคุณจะได้รับคำตอบมืออาชีพจากผู้เชี่ยวชาญ แนวคิดที่นำไปสู่ความสำเร็จมีอะไรบ้าง21 วิธี เพื่อก้าวสู่ความสำเร็จ. 1. เปลี่ยนกิจวัตรประจำวันให้กลายเป็นนิสัย ... . 2. ตั้งเป้าหมายในทุกๆ วัน ... . 3. สัญญากับตัวเองว่า “เราจะต้องพัฒนาตัวเองทุกวัน” ... . 4. หมั่นออกกำลังกาย และดูแลสุขภาพเป็นประจำ ... . 5. สร้างความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ บ้าง ... . 6. ทำทุกอย่างให้เหมาะสม และพอประมาณ ... . 7. ทำทุกอย่างให้เสร็จเรียบร้อย. คนที่ประสบความสำเร็จเขาคิดกันยังไง5 แนวคิด ของคนที่ประสบความสำเร็จ เขาทำกัน. 1 .#เป้าหมายชัดเจน ... . 3. #ไม่กลัวความล้มเหลว ... . 4. #เก่งเรื่องเงิน ... . 5. #ทำให้เงินงอกเงยด้วย #การลงทุน. ความลับของคนที่ประสบความสำเร็จมีอะไรบ้างความลับของคนที่ประสบความสำเร็จ. ชอบคิด ... . มีทัศนคติที่ดี ... . ไม่ตีกรอบตัวเองให้อยู่จุดเดิม ... . มีจุดหมายชัดเจน และเดินหน้าตามแผนที่ตั้งไว้อย่างจริงจัง ... . หมั่นสำรวจตัวเองอยู่เสมอ ... . มีความกระตือรือร้น หรือความมุ่งมั่นในสิ่งที่จะทำ ... . บุคลิกดี ดูมีชีวิตชีวา หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ... . มีพลังแห่งการตัดสินใจ. คนประเภทไหนที่จะประสบความสำเร็จผู้นำตามสถานการณ์ Situation Leadership คือ ผู้นำ 3 เก่ง. 1. กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองตลอดเวลา ... . 2. มีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจน ... . 3. เผชิญหน้ากับความล้มเหลวแล้วเริ่มใหม่ ... . 4. มุ่งมั่นในความคิดของตัวเองและทำจนกว่าจะสำเร็จ ... . 5. อยู่กับช่วงที่ตัวเองรู้สึกแย่น้อยกว่าช่วงที่ตัวเองรู้สึกดี ... . 6. รับฟังคำวิจารณ์จากผู้อื่นได้ดี. |