บทสนทนา การทักทายภาษาอังกฤษ

คำทักทายเหล่านี้จะทำให้คุณสามารถทักทายได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น และสามารถเริ่มต้นบทสนทนาด้วยคำถามที่ตรงประเด็น แสดงความรู้สึกของคุณได้ตรงจุดและดูจริงใจมากขึ้นด้วย

ไปเรียนรู้คำทักทายในภาษาอังกฤษทั้งแบบเป็นทางการ ไม่เป็นทางการ และคำสแลงกวน ๆ ที่ผู้คนทั่วโลกใช้ทักทายกัน ไม่ว่าคุณจะใช้ภาษาอังกฤษเป็นแค่ภาษาที่สอง หรือจะเป็นมืออาชีพด้านภาษาอังกฤษเชิงธรุกิจ เรารวบรวมทุกอย่างไว้ให้คุณแล้วในบทความนี้

Download: This blog post is available as a convenient and portable PDF that you can take anywhere. Click here to get a copy. (Download)

บทสนทนา การทักทายภาษาอังกฤษ

Try FluentU for FREE!

ประโยคทักทายทั่ว ๆ ไปในภาษาอังกฤษ

คนที่พูดภาษาอังกฤษมักทักทายกันแบบเป็นกันเองด้วยประโยคธรรมดาทั่ว ๆ ไป คุณสามารถเริ่มต้นบทสนทนากับเพื่อน ๆ  ครอบครัว หรือแม้แต่กับผู้คนที่คุณพบเจอในชีวิตประจำวันปกติด้วยประโยคทักทายง่าย ๆ เหล่านี้

จะทำอย่างไรถ้าในชีวิตประจำวันของคุณไม่ได้พูดภาษาอังกฤษ? คุณจะฝึกสำนวนเหล่านี้ได้อย่างไร?

FluentU คือคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษที่ใช้กันจริง ๆ ในชีวิตทุกวันนี้  FluentU นำเสนอด้วยวิดีโอภาษาอังกฤษที่สามารถพูดได้ว่าเป็น real-world English videos อย่างแท้จริง แพลตฟอร์มของ FluentU จะเปลี่ยนภาพยนตร์ มิวสิควิดีโอ ทอล์คโชว์ และวิดีโออื่น ๆ ให้กลายเป็นประสบการณ์การเรียนรู้ภาษาให้กับคุณ

คำบรรยายในทุกวิดีโอจะสามารถสื่อสารได้สองทิศทาง เพียงคุณคลิกที่คำในคำบรรยาย ความหมายของคำนั้นจะปรากฏขึ้นและมีการอ่านออกเสียงคำนั้นให้คุณได้ฟัง นอกจากนี้ยังมีบัตรคำศัพท์พร้อมแบบฝึกหัดเพื่อให้คุณสามารถจดจำคำต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

นี่คือวิธีที่สนุกสุด ๆ ที่จะทำให้คุณได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษที่เจ้าของภาษาใช้สนทนากัน จะสนุกแค่ไหนทดลองใช้ FluentU ดูครับ แล้วมาเรียนรู้สำนวน (และอื่น ๆ อีกมากมาย) ที่ผู้คนใช้พูดกันจริง ๆ จากข้างล่างนี้กัน

1. Hey, Hey man หรือ Hi

“hey” และ “hi” เป็นคำทักทายที่ถูกใช้แทนคำว่า “hello” ซึ่งเป็นที่นิยมกันมากในกลุ่มวัยรุ่น คุณสามารถใช้คำว่า “hi” ในบริบทที่เป็นกันเองได้ทุกสถานการณ์ แต่สำหรับคำว่า “hey” เราใช้เพื่อทักทายคนที่รู้จักกันแล้วเท่านั้น ถ้าคุณเผลอ “hey” กับคนแปลกหน้า เขาหรือเธออาจสับสนว่าเคยเจอหน้าอีตานี่ตั้งแต่เมื่อไหร่!?  แต่หากเพื่อนของคุณเป็นผู้ชายคุณยังเติมท้าย “hey” ด้วยคำว่า “man” ได้อีก บางครั้งเราก็ใช้ “hey man” กับผู้หญิงที่อายุน้อยกว่าด้วยเหมือนกัน แต่นั่นหมายความว่าคุณต้องสนิทสนมกับเธอเป็นอย่างดี โปรดจำไว้ว่า “hey” อาจไม่ใช่ “hello” เสมอไป เพราะบางครั้งเราใช้ “hey” แค่เพื่อเรียกความสนใจจากใครบางคน

2. How’s it going? หรือ How are you doing?

“How are you?” เป็นคำทักทายที่ใช้กันในบริบททั่ว ๆ ไป แต่ถ้าคุณอยากให้สุภาพเป็นพิเศษในความหมายที่ไม่ต่างกับ “how are you” คุณสามารถทักทายด้วยสองคำถามนี้ “how’s it going?” หรือ “how are you doing?” ซึ่งโดยปกติคำว่า “going” มักจะถูกทอนเสียงให้สั้นลงเป็น “go-in” หากมีใครทักทายคุณด้วยสองคำถามนี้คุณสามารถตอบกลับไปว่า “it’s going well” หรือ “I’m doing well” ซึ่งขึ้นอยู่กับคำถาม แต่ก็อีกนั่นแหละคนส่วนใหญ่มักจะตอบกันว่า “good” แม้มันจะไม่ถูกหลักไวยากรณ์ก็ตาม  มันก็เหมือนกับการถูกถามด้วย “how are you?” แล้วคุณต่อท้ายคำตอบด้วยการถามกลับไปว่า “and you?” นั่นแหละ!

3. What’s up?, What’s new? หรือ What’s going on?

สามสำนวนนี้คือ “how are you?” แบบเป็นกันเอง ซึ่งโดยปกติเราใช้มันเพื่อทักทายคนที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว คนส่วนใหญ่มักตอบว่า “nothing” หรือ “not much” แต่ถ้าคุณอยากเจรจาพาทีด้วยสักหน่อย คุณก็อาจอธิบายสั้น ๆ ได้ว่ามีอะไรใหม่หรือมีอะไรน่าสนใจเกิดขึ้นกับคุณบ้าง ก่อนที่จะปิดท้ายบทสนทนาด้วยคำถามว่า “what about you?”

4. How’s everything ?, How are things? หรือ How’s life?

นี่ก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของ “how are you?” ในบริบทที่ไม่เป็นทางการสำหรับคนที่รู้จักกันมาก่อนแล้ว ต่างกันก็แค่คำถามพวกนี้คุณอาจจะตอบว่า “good” หรือ “not bad” หรืออะไรทำนองนั้น และอีกเช่นกันคุณอาจจะอยากแชร์อะไรดี ๆ ไปสั้น ๆ แล้วปิดด้วย “what about you?” หรือ…สำนวนอื่นบ้างก็ได้!

5. How’s your day? หรือ How’s your day going?

คำถามเหล่านี้คือ “how are you?” เช่นกัน ซึ่งไม่ใช่แค่หมายถึงตอนนี้เป็นอย่างไรแต่หมายถึงวันนี้เป็นอย่างไร เราใช้สองคำถามนี้เพื่อทักทายคนที่เราเจอกันอยู่เป็นประจำ เช่น คุณเจอเพื่อนร่วมงานคุณตอนบ่ายคุณอาจทักทายว่า “how’s your day going?” หรือทุกเย็นที่คุณแวะร้านขายของชำคุณอาจทักทายแคชเชียร์ว่า “how’s your days?” เป็นต้น  แม้ “It’s going well” จะเป็นคำตอบรับที่ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ แต่หลายคนก็ตอบว่า “fine”, “good” หรือ “alright” และอันที่จริงคุณจะสังเกตเห็นว่า “good”, “fine” และ “not bad” ยังเป็นคำตอบรับครอบจักรวาลที่เราใช้กันเกือบทุกคำทักทายอีกด้วย

6. Good to see you หรือ Nice to see you

หากคุณเจอเพื่อนสนิท เพื่อนร่วมงาน หรือสมาชิกในครอบครัวที่ห่างกันไปสักพักหนึ่ง คุณจะสวมกอดพวกเขาและทักทายซึ่งกันและกันด้วยสองสำนวนนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่นาน ๆ เจอกันที คุณสามารถใช้สองสำนวนนี้พร้อมกับจับมือกันหรือโอบกอดกัน ซึ่งนั่นก็ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ของคุณทั้งสองคน

7. Long time no see หรือ It’s been a while

คำทักทายที่ไม่เป็นทางการเหล่านี้ จะใช้เมื่อคุณไม่ได้เจอใครเป็นระยะเวลานาน ๆ และนานกว่าในข้อที่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบังเอิญเจอกัน แล้วแค่ไหนถึงจะเรียกว่านานล่ะ?–นั่นก็ขึ้นอยู่กับความถี่ที่คุณเจอกันเป็นปกติ เช่น ปกติคุณเจอกันทุกสัปดาห์ แต่อยู่ ๆ เขาก็หายหน้าไปสัก 2-3 เดือนหรือมากกว่า เมื่อคุณเจอกันคุณสามารถทักทายด้วยหนึ่งในสองสำนวนนี้ได้ โดยทั่วไปสองสำนวนนี้จะไม่พูดกันลอย ๆ แต่จะตามด้วยคำถามเช่น “how are you?” “how have you been?” หรือ “what’s new?”

คำทักทายทางธุรกิจและคำทักทายอย่างเป็นทางการ

เป็นการดีที่สุดที่จะเริ่มต้นด้วยการกล่าวคำทักทายอย่างเป็นทางการในสถานการณ์ทางธุรกิจ แล้วคอยฟังว่าคู่ค้าหรือหุ้นส่วนทางธุรกิจของคุณจะทักทายคุณอย่างไร คุณควรรอจนกว่าจะมีคนพูดกับคุณด้วยภาษาที่ไม่เป็นทางการก่อน แล้วคุณจึงจะเริ่มใช้ภาษาที่ดูเป็นกันเองมากขึ้น ซึ่งนั่นอาจหมายถึงเมื่อคุณได้รู้จักกันไปสักระยะหนึ่ง อย่างไรก็ตามการทักทายผู้ที่อาวุโสกว่าก็ควรใช้คำทักทายที่เป็นทางการจะดีที่สุด

8. Good morning, Good afternoon หรือ Good evening

คำทักทายเหล่านี้เป็นวิธีที่เป็นทางการในการพูดว่า “hello” ในช่วงเวลาต่าง ๆ ของวัน แต่โปรดจำไว้ว่า “good night” คือคำว่า “good bye” ดังนั้นหากคุณเจอใครตอนกลางคืนอย่าเผลอใช้คำว่า “good night” แต่ให้ใช้ “good evening” แทน  สำหรับคำว่า “good morning” สามารถทำให้ดูเป็นกันเองมากขึ้นโดยใช้แค่คำว่า “morning” เฉย ๆ  และคุณยังสามารถใช้แค่ “afternoon” หรือ “evening” ได้เช่นกันแต่มันไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายนัก

9. It’s nice to meet you หรือ Pleased to meet you

นี่เป็นคำทักทายที่เป็นทางการและมีความสุภาพมาก คุณสามารถแสดงมารยาทกับใครบางคนเมื่อคุณพบเขาหรือเธอเป็นครั้งแรกด้วยคำทักทายเหล่านี้  ขอย้ำว่า ใช้ทักทายเขาหรือเธอในครั้งแรก ที่เจอกันเท่านั้น และในครั้งต่อไปคุณสามารถแสดงให้เห็นว่าคุณยังจำเขาหรือเธอได้โดยใช้ประโยคนี้ “it’s nice to see you again”

10. How have you been?

หากคุณเจอคนรู้จักแล้วเขาทักทายคุณว่า “how have you been?” นั่นหมายถึง เขาต้องการทราบว่าคุณยังสบายดีอยู่ใช่ไหมนับตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่ได้พบกัน

11. How do you do?

คำทักทายนี้มีความเป็นทางการสูงมาก จนแทบจะไม่มีใครใช้กัน แต่ก็ยังใช้กันอยู่บ้างในกลุ่มผู้ใหญ่ การตอบรับที่เหมาะสมสำหรับคำถามนี้คือ “I’m doing well” แต่ที่ดูเหมือนจะแปลกไปสักหน่อยก็คือ บางคนมักตอบกลับไปว่า “how do you do?” หลังจากโดนถาม!

คำสแลงที่ผู้คนใช้ทักทายกัน

คำสแลงควรใช้กับคนที่คุณรู้จักเป็นอย่างดีและรู้สึกสนิทสนมด้วยมาก ๆ เท่านั้น พึงระลึกเสมอว่าคำสแลงเป็นภาษาประจำถิ่น ซึ่งนั่นหมายถึงออสเตรเลียนสแลง อาจจะแสลง หูในอเมริกา–อะไรประมาณนั้น!  ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใดคุณจำเป็นต้องเรียนรู้ศัพท์สแลงของท้องถิ่นนั้น เพราะความหมายอาจจะไม่เหมือนกัน แต่ตัวอย่างพวกนี้จะช่วยให้คุณเริ่มต้นได้

12. Yo!

การทักทายกวน ๆ นี้ใช้กันติดปากมากในอเมริกาโดยเริ่มมาจากกลุ่ม hip-hop ยุค 90  และทุกวันนี้มันมักใช้แบบติดตลกในกลุ่มเพื่อนฝูงที่สนิทสนมกันมาก ๆ  จำไว้ว่าไม่ควรอย่างยิ่งที่คุณจะ Yo! ใส่ใครหากคุณไปเจรจาธุรกิจกับเขา

13. Are you OK?, You alright? หรือ Alright mate?

คำทักทายสั้น ๆ ง่าย ๆ นี้เป็นการสื่อความหมายผสมกันของทั้ง “hello” และ “how are you” และนิยมใช้กันในประเทศอังกฤษ คุณสามารถตอบรับด้วยคำว่า “yeah, fine” หรือที่ง่ายกว่าก็ “alright”

14. Howdy!

นี่เป็นคำย่ออย่างไม่เป็นทางการของคำว่า “how do you do?” บางที่ในแคนาดาและสหรัฐมักชอบใช้คำนี้ แต่หากคุณ “howdy” ในที่อื่น ๆ คุณอาจจะถูกมองว่าเป็นคาวบอยหรือไม่ก็ตัวตลก–เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน!

15. Sup? หรือ Whazzup?

นี่เป็นคำย่อของ “what’s up?” ซึ่งใช้กันทั่วไปในหมู่วัยรุ่น เช่นเดียวกับ “what’s up?” คุณสามารถตอบกลับไปว่า “nothing” หรือ “not much”

16. G’day mate!

G’day ย่อมาจากคำทักทายของออสเตรเลียว่า “good day” คำทักทายของออสเตรเลียมักจะโดนทอนให้สั้นแบบนี้ เช่น “ya” ใช้แทน “you” ดังนั้น “how are ya?” ก็คือ “how are you?”  ส่วน “how are ya going?” โดยพื้นฐานแล้วก็เหมือนกับ “how’s it going?” หรือ “how are you doing?” นั่นเอง

17. Hiya!

ภาคขยายของ Hiya! ก็คือ “how are you?” ซึ่งใช้กันทั่วไปในบางพื้นที่ของอังกฤษ และคุณก็ไม่จำเป็นต้องตอบคำถามนี้ด้วยคำตอบจริง ๆ หรอก–แค่ “hey!” กลับไปก็พอ

ผมหวังว่าคุณจะสนุกกับการลองใช้คำทักทายภาษาอังกฤษใหม่ ๆ เหล่านี้ แล้วคุณจะพบว่าการทักทายด้วยรูปแบบที่หลากหลายจะช่วยให้ภาษาอังกฤษของคุณเป็นธรรมชาติมากขึ้น แถมยังทำให้การทักทายด้วยภาษาอังกฤษเป็นเรื่องสนุกและน่าสนใจมากขึ้นสำหรับคุณด้วย

เคล็ดลับสุดท้ายสำหรับเรียนรู้ภาษาอังกฤษ

กุญแจสำคัญในการเรียนเรื่องสนทนาภาษาอังกฤษคืออะไร

การใช้เนื้อหาและเครื่องมือที่เหมาะสม

และเมื่อตำราไม่ได้ช่วยพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันให้คุณได้อีกต่อไป

คุณต้องการเรียนรู้จากสิ่งที่เหมือนกับภาษาที่ได้ยินในทีวี

เอาล่ะ นี่คือเว็บไซต์ที่ออกแบบมาเพื่อสิ่งนี้โดยเฉพาะ: FluentU

FluentU มีแพลตฟอร์มที่จะเปลี่ยนวีดีโอภาษาอังกฤษที่คนใช้พูดกันจริง ๆ อย่างมิวสิควิดีโอ โฆษณา ข่าว และทอล์คโชว์ให้กลายเป็นประสบการณ์การเรียนรู้ภาษาของคุณ คุณจะได้เรียนภาษาอังกฤษอย่างที่คนใช้สื่อสารกันจริง ๆ ในชีวิตประจำวัน

FluentU มีวิดีโอสนุก ๆ มากมาย ทั้งรายการทอล์กโชว์ยอดนิยม มิวสิควิดีโอ และโฆษณาตลก ๆ เหมือนตัวอย่างด้านล่างนี้

บทสนทนา การทักทายภาษาอังกฤษ

FluentU ทำให้การดูวิดีโอภาษาอังกฤษเป็นเรื่องง่ายมาก ๆ  อยากรู้คำไหนแตะที่คำนั้นแล้วคุณจะพบกับทั้งภาพ ความหมาย และตัวอย่างที่มีประโยชน์

บทสนทนา การทักทายภาษาอังกฤษ

ตัวอย่างเช่น หากคุณแตะคำว่า “brought,” คุณจะได้เห็นสิ่งนี้

บทสนทนา การทักทายภาษาอังกฤษ

และ FluentU ก็ไม่ใช่แค่การนั่งดูวิดีโอ  แพลตฟอร์มของ FluentU เป็นระบบที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ซึ่งจะทำให้คุณได้ทั้งเรียนรู้คำศัพท์ ทำแบบทดสอบ ศึกษาวิธีการใช้คำจากตัวอย่างที่หลากหลายในแต่ละวิดีโอ

บทสนทนา การทักทายภาษาอังกฤษ

ส่วนที่เยี่ยมที่สุดคือ FluentU สามารถจดจำและวิเคราะห์จากคำศัพท์ที่คุณเรียน เพื่อแนะนำตัวอย่างและวิดีโอที่เหมาะสมกับประสบการณ์ในการเรียนรู้ของคุณอย่างแท้จริง

เริ่มใช้งาน FluentU บนเว็บไซต์ ด้วยคอมพิวเตอร์หรือแท็ปเล็ตของคุณ หรือถ้าจะให้ดีกว่านั้น ดาวน์โหลดแอพ FluentU จาก iTunes store ตอนนี้เลย

If you liked this post, something tells me that you'll love FluentU, the best way to learn English with real-world videos.