เมื่อถึงวัยหนึ่งร่างกายอาจเริ่มเสื่อมถอย ประสิทธิภาพการทำงานของร่างกายเริ่มลดลง ไม่เว้นแม้กระทั่งเรื่องของ ‘ฟัน’ ที่เมื่อเราอายุมากขึ้นก็ถึงเวลาเสื่อมสมรรถภาพไปตามระยะเวลา แน่นอนว่า ก็ต้องหาเครื่องมือทดแทนที่จะทำให้เราสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้เหมือนเดิม นั่นก็คือ ‘ฟันปลอม’ แต่ว่าจะเลือกฟันปลอมแบบไหนดี ควรเลือกทำที่ไหน มีข้อดีอย่างไร และใครบ้างที่ควรใส่ฟันปลอม วันนี้ทางคลินิกทันตกรรมสีวลีของเรามีคำตอบมาฝากแล้ว Show
เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจ ฟันปลอม คืออะไรฟันปลอม (Prosthodontics) คือ ฟันที่ประดิษฐ์ขึ้นเพื่อใช้ทดแทนฟันตามธรรมชาติที่สูญเสียไป รวมถึงเนื้อเยื่อข้างเคียงซึ่งอาจเกิดจากอุบัติเหตุที่ทำให้เกิดฟันแตกหรือฟันหัก อายุที่เพิ่มขึ้น รวมถึงเกิดจากการถอนในการรักษาฟันผุ หรือฟันโยกจากอาการเหงือกอักเสบ และเหงือกร่นได้ ส่วนวัสดุที่นำมาทำฟันปลอมนั้นมักทำจากโลหะเจือนิเกิล-โครเมียม ไททาเนียม หรือ อะคริลิกเรซิน โดยฟันปลอมฟันเทียมในปัจจุบันมีให้เลือกด้วยกันหลายแบบ ซึ่งคุณสามารถดูรายละเอียดได้ในหัวข้อถัดไป ฟันปลอม มีกี่แบบสำหรับประเภทของฟันปลอมจะสามารถแบ่งได้เป็น 2 แบบ ได้แก่
ฟันปลอมแบบติดแน่น (Fixed Prosthodontics)ฟันปลอมแบบติดแน่น คือ ฟันปลอมที่ต้องอาศัยการยึดฟันธรรมชาติโดยการกรอฟันให้เล็กลง เพื่อจะต้องทำการครอบฟันให้ติดกับตัวฟันปลอม และฟันปลอมชนิดนี้ผู้ที่ใส่ไม่สามารถถอดออกมาเพื่อทำความสะอาด ภายนอกช่องปากได้ ซึ่งปัจจุบันนี้มีวิธีการทำฟันปลอมแบบติดแน่นหลายแบบ เช่น 1. ครอบฟัน (Crown) วิธีการครอบฟัน คือ การครอบหรือคลุมฟันที่เสียหายไว้ด้วยฟันปลอมติดเเน่นที่ทำจากวัสดุประเภทโลหะหรือเซรามิก ทำให้สามารถทดแทนฟันจริง เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับตัวฟัน เพื่อความสวยงามในฟันหน้าได้ เพื่อปกป้องเนื้อฟันเดิมที่เหลืออยู่ และเป็นการรักษารากฟันไว้ได้ นอกจากนี้ การทำครอบฟันนั้นจะทำบนฟันธรรมชาติที่มีราก หรือทำบนรากเทียมเท่านั้นด้วย 2. สะพานฟัน (Bridge) การทำสะพานฟัน คือ วิธีการทำฟันเทียมบางส่วนให้ติดแน่นกับส่วนของครอบฟันยึดติดกับฟันธรรมชาติทั้งสองข้าง และมีส่วนของฟันแขวนอยู่ตรงกลาง ใช้ทดแทนฟันธรรมชาติที่หายไป 1-2 ซี่ โดยทันตแพทย์ส่วนใหญ่มักจะแนะนำให้คนไข้เลือกใช้สะพานฟันที่ประกอบด้วยครอบฟันแบบเซรามิกผสมโลหะ สำหรับการทดแทนฟันกรามซึ่งใช้ในการบดเคี้ยว และแบบเซรามิกล้วนในการทดแทนฟันหน้า ซึ่งการทำสะพานฟันแบบเซรามิกจะมีความใส สวยงาม เหมือนฟันตามธรรมชาติจึงเหมาะจะเลือกใช้ทำฟันหน้าเป็นพิเศษ 3. การอุดฟัน Onlays และ Inlay การอุดฟัน Onlays และ Inlay คือ การอุดฟันด้านในของตัวฟัน (Intracoronal Restoration) ซึ่งช่วยในการซ่อมแซมฟันที่มีการสูญเสียเนื้อฟันไปค่อนข้างมาจากฟันผุหรือฟันแตกจนเกิดเป็นโพรงขนาดใหญ่เกินกว่าจะทำการอุดฟันตามปกติ แต่ก็ต้องมีเนื้อฟันเหลือเพียงพอที่จะทำการซ่อมแซมได้ด้วย 4. วีเนียร์ (Veneer) การทำวีเนียร์ หรือ เคลือบฟันเทียม เป็นวิธีการปิดแผ่นเคลือบฟันลงไปที่บริเวณผิวหน้าฟันที่สามารถแก้ความบกพร่องของฟันให้กลับมาสวยงาม เคลือบฟันขาว ยิ้มได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง จึงเหมาะกับผู้ที่มีความผิดปกติของฟันเพียงเล็กน้อย เช่น สีฟันไม่สวย ฟันไม่สบกัน ฟันไม่เท่ากัน ปัญหาฟันเล็ก เป็นต้น 5. รากฟันเทียม (Dental Implants) รากฟันเทียม คือ การฝังวัสดุที่มีรูปร่างคล้ายรากฟันลงบนกระดูกขากรรไกร กระดูก รากฟัน หรือใต้เหงือก เพื่อทดแทนรากฟันจริงในตำแหน่งที่สูญเสียฟันเเละรากฟันธรรมชาติไป และให้เหมาะกับการใส่ฟันปลอม ทั้งแบบถอดได้และแบบติดแน่น ฟันปลอมแบบถอดได้ (Removable Prosthodontics)จะมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท คือ1. ฟันปลอมทั้งปาก (ใช้แทนฟันบนหรือฟันล่างทั้งหมดของคนไข้) จะเป็นฟันปลอมที่ทำขึ้นเพื่อทดแทนฟันธรรมชาติที่สูญเสียไปทั้งปาก โดยจะมีอยู่ 2 ชนิดด้วยกัน ได้แก่
2. ฟันปลอมบางส่วน สำหรับใส่ทดแทนที่ฟัน 1-3 ซี่ที่หายไป จะเป็นฟันปลอมที่ทำขึ้นสำหรับคนไข้ที่สูญเสียฟันไปบางซี่เท่านั้น แต่ยังมีฟันแท้เหลืออยู่ ทำได้จากวัสดุหลายประเภท เช่น โลหะ อะคริลิกเรซิน ไนลอน แต่ยังมีข้อจำกัดในการใช้งาน ซึ่งจะใช้ฟันปลอม-ฟันเทียมชนิดไหนขึ้นอยู่กับลักษณะฟัน และจุดประสงค์ของคนไข้รายนั้นๆ ด้วย ฟันปลอม แต่ละแบบใช้วัสดุอะไรในการทำวัสดุทำฟันปลอมแบบติดแน่นจะมีอยู่ด้วยกันประมาณ 3 ชนิด คือ
วัสดุจะทำมาจากทั้งโลหะทั้งแผ่น ส่วนใหญ่จะใช้กับฟันกรามสำหรับบดเคี้ยว
จะเหมาะสำหรับการใส่แบบชั่วคราว ส่วนใหญ่จะใช้ในช่วงที่รอให้แผลถอนฟันหายดี
เช่น เซรามิก ฐานโลหะพอกด้วยพอสเลน จะเหมาะกับบริเวณฟันหน้าที่ต้องการให้ฟันมีความสวยงามเหมือนฟันแท้ และสามารถรับแรงบดเคี้ยวได้อย่างเป็นธรรมชาติ วัสดุทำฟันปลอมแบบถอดได้จะใช้วัสดุหลักๆ อยู่ด้วยกันประมาณ 3 ชนิด ได้แก่
จะมีลักษณะเป็นฟันปลอมพลาสติกเป็นซี่ๆ ยึดอยู่กับฐานฟันปลอมที่ทำจากอะคริลิกสีชมพู ตกแต่งให้ดูคล้ายคลึงกับเหงือกธรรมชาติ โดยทำออกมาได้ทั้งแบบเป็นซี่ๆ หรือหลายซี่ ส่วนใหญ่จะใช้ในคนไข้ที่ยังไม่เคยใส่ฟันปลอม เพื่อช่วยในการปรับตัวว่าใช้งานได้ถนัดหรือไม่
จะมีลักษณะคล้ายกับฟันปลอมฐานพลาสติก แต่ในส่วนบริเวณฐานฟันปลอม แทนที่จะทำด้วยอะคริลิกแข็ง จะทำด้วยวัสดุพลาสติกที่มีความยืดหยุ่นที่ตกไม่แตก และไม่ค่อยหักง่ายแทน ส่วนใหญ่จะใช้ในกรณีที่ฟันหายไปจำนวนน้อยๆ เช่น 1 หรือ 2 ซี่ แต่ในบางกรณี อาจใช้ในผู้ที่มีฟันหายไปมากกว่านั้น
จะมีลักษณะบางเเละเเนบกับเหงือกได้มากกว่าจากการที่เปลี่ยนในส่วนบริเวณฐานเป็นโครงโลหะแทน จึงทำให้คนไข้รู้สึกรำคาญน้อยกว่าเเบบฐานพลาสติกเเละมีความทนทานมากกว่า รวมถึงมีอายุการใช้งานที่มากกว่า เนื่องจากโลหะไม่ดูดสีและกลิ่น โดยถ้าดูแลรักษาดีๆ ฟันปลอมถอดได้โครงโลหะ อาจมีอายุการใช้งานมากกว่า 10 ปี แต่อาจจะมีข้อเสียอยู่บ้างตรงที่อาจมองเห็นตะขอสีเงินได้ในบางบริเวณ เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย ฟันปลอมติดแน่นและฟันปลอมถอดได้ฟันปลอมทั้ง 2 รูปแบบมีข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกัน ซึ่งคุณสามารถนำมาใช้ในการพิจารณาเลือกรูปแบบของฟันปลอมที่คุณต้องการได้ ดังนี้ ข้อดี-ข้อเสียของฟันปลอมแบบติดแน่นข้อดี
ข้อเสีย
ข้อดี-ข้อเสียของฟันปลอมแบบถอดได้ข้อดี
ข้อเสีย
ลักษณะการทำฟันปลอมฟันปลอม ทั้งปากแบบดั้งเดิมสำหรับใครที่ต้องการทำฟันปลอมทั้งปากแบบดั้งเดิมจะพบว่า หลังจากทำการถอนฟันออกจนหมดแล้ว จำเป็นที่จะต้องพักฟื้นเนื้อเยื่อ และต้องรอให้แผลจากการถอนฟันสมานตัวดีเสียก่อน (ซึ่งอาจใช้เวลาหลายเดือน และช่วงนี้คุณจะยังไม่มีฟัน) จึงจะทำการพิมพ์ปากเพื่อสร้างแบบจำลองฟัน การทำแบบจำลองฟันช่วยให้ทันตแพทย์สามารถวินิจฉัยและทำฟันปลอมให้มีขนาดและรูปร่างที่เหมาะสมที่สุด หลังจากนั้นทันตแพทย์จะนัดให้คุณลองฟันปลอมแบบชั่วคราวแก่คนไข้เพื่อตรวจดูตำแหน่ง และรูปร่างรวมถึงความสะดวกสบายขณะสวมใส่ และปรับปรุงแก้ไขก่อนที่จะทำการผลิตฟันปลอมชุดจริง ซึ่งหลังจากที่คุณได้รับฟันปลอมทั้งปากแบบดั้งเดิมไปใช้งานแล้ว ทันตแพทย์จะยังทำการนัด เพื่อติดตามผลการใช้งานอีกครั้งประมาณ 1-2 สัปดาห์ หลังจากนั้นจะนัดมาตรวจเช็กทุก 6 เดือน หรือขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของทันตแพทย์ ฟันปลอม ทั้งปากแบบทันทีฟันปลอมทั้งปากแบบทันที ทันตแพทย์จะทำการพิมพ์ปากก่อนการถอนฟัน เพื่อให้ช่างสามารถทำฟันปลอม ที่มีลักษณะเหมือนฟันเดิมได้ทันที เมื่อถึงวันนัดถอนฟันคนไข้จะมีฟันปลอมใส่ได้ทันที และถึงแม้ว่าฟันปลอมทั้งปากแบบทันทีจะช่วยให้คนไข้ไม่ต้องอยู่แบบไม่มีฟัน แต่ฟันปลอมชนิดนี้จะต้องมีการปรับเปลี่ยนหลายเดือนหลังจากที่ใส่ไปแล้ว เนื่องจากระดูกรองรับฟันและเหงือกบริเวณนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงและยุบตัวลง คนไข้อาจจำเป็นต้องเข้ารับการปรับแต่งฟันปลอมดังกล่าวให้มีความพอดีกับบริเวณนั้นๆ เพื่อความสะดวกสบายของคนไข้ขณะสวมใส่ และจะเป็นฟันปลอมที่ใช้ได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น ฟันปลอม แบบบางซี่จะเป็นการทำฟันปลอมให้โครงโลหะยึดติดกับฟันธรรมชาติ บางครั้งอาจต้องมีการครอบฟันที่ฟันธรรมชาติเพื่อทำหน้าที่เหมือนฟันปลอมด้วยในกรณีที่ไม่ได้สูญเสียฟันนั้นไปทั้งซี่ แต่ถ้าหากเกิดจำเป็นต้องถอนฟันออกไปเลยทั้งซี่ ก็อาจจะต้องติดตั้งเครื่องมือโดยมีครอบฟันไว้ตรงกลางทดแทนซี่ที่สูญเสีย และทำสะพานฟันเพื่อยึดซี่ข้างเคียงไว้ ใครบ้างที่ควรใส่ฟันปลอม
ใครบ้างที่ไม่ควรใส่ฟันปลอมจริงๆ แล้วคนไข้ทุกคนควรทำฟันปลอมไม่แบบใดก็แบบหนึ่งเมื่อเกิดการสูญเสียฟันแท้ขึ้น ยกเว้นว่า อยากทำฟันปลอมด้วยเทคนิคบางประเภทที่อาจจะไม่เหมาะกับคนบางกลุ่ม เช่น ต้องการทำฟันปลอมด้วยการทำรากฟันเทียม ซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับเด็กที่อายุยังไม่ถึง 18 ปีเพราะกระดูกขากรรไกรยังเจริญเติบโตได้ไม่เต็มที่ ในกรณีที่คนไข้ตั้งครรภ์ ควรคลอดบุตรก่อนทำรากเทียม เป็นต้น ทั้งนี้ ควรปรึกษาทันตแพทย์ว่า คุณเหมาะที่จะทำฟันปลอมประเภทใดมากที่สุด แต่รับรองว่า จะมีรูปแบบการทำฟันปลอมที่เหมาะกับช่องปากของคุณอย่างแน่นอน เลือกทำฟันปลอมแบบไหนดีหากคุณสนใจทำฟันปลอม จะต้องไปพบกับทันตแพทย์เพื่อตรวจสภาพช่องปากเสียก่อน เนื่องจากคนเราแต่ละคนก็เหมาะกับฟันปลอมแตกต่างกัน ซึ่งก็ควรเลือกให้เหมาะสมที่สุด โดยคุณจะต้องแจ้งเกี่ยวกับโรคประจำตัวโดยละเอียดให้ทันตแพทย์ได้รับรู้ เพื่อจะได้ประเมินและวางแผนการรักษาได้อย่างถูกต้อง เช่น หากคุณสูญเสียฟันไปหลายๆ ซี่ก็จะเหมาะกับการทำฟันปลอมแบบถอดได้ หรือถ้าหากฟันข้างเคียงไม่เเข็งเเรง พอที่จะรองรับตะขอใส่ฟันปลอม ก็อาจจะใช้การติดฟันปลอมแบบติดแน่นมากกว่า ส่วนในผู้สูงอายุก็มีวิธีการทำฟันปลอมหลายรูปแบบที่เหมาะสม ถ้าหากขี้ลืม หรือมีปัญหาเรื่องการบดเคี้ยว เบื่ออาหาร ขี้รำคาญ การทำฟันปลอมแบบติดแน่นด้วยการทำรากฟันเทียมอาจจะเหมาะสม ยกเว้นภาวะกระดูกพรุน เบาหวาน โรคปริทันต์อักเสบรุนแรง โรคมะเร็งที่ต้องฉายแสง หรือมีปัญหาตำแหน่งกระดูกไม่เหมาะที่จะฝังรากฟันเทียมก็อาจจะต้องพิจารณาทำฟันปลอมในรูปแบบอื่นๆ ต่อไป ขั้นตอนการทำฟันปลอมการทำฟันปลอมกับคลินิกนั้นไม่ได้ยุ่งยาก ซับซ้อนมากนัก โดยมี 4 ขั้นตอนคร่าวๆ ที่คุณจะต้องทำและใช้เวลา 3 สัปดาห์ – 1 เดือน เพื่อพัฒนาฟันปลอมให้ใช้งานได้อย่างเต็มที่ ดังต่อไปนี้ 1. เข้าพบทันตแพทย์ โดยทันตแพทย์จะทำการซักถามประวัติจากคนไข้ เริ่มการตรวจช่องปาก ถ่ายรูป X-ray พิมพ์แบบจำลองช่องปากของคนไข้ หรือสแกนแบบดิจิทัลเพื่อวัดช่องว่างของฟันเเละลักษณะการกัด 2. ตรวจการเรียงตัวของฟัน ทันตแพทย์จะทำการตรวจการเรียงตัวของฟัน เลือกสีฟันที่ใกล้เคียงกับฟันเดิม เเละสร้างฟันปลอมขึ้นมาบนแบบจำลอง เพื่อให้ได้รูปฟันที่สวยงาม และมีขนาดพอดีใส่ในช่องปากมากที่สุด 3. เตรียมช่องปากให้พร้อม สำหรับเคสที่ต้องมีการถอนฟันร่วมด้วย ต้องเลือกรูปแบบการทำฟันว่าต้องการทำฟันปลอมแบบดั้งเดิม หรือต้องการทำฟันปลอมแบบใส่ได้ทันที (ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของทันตแพทย์ร่วมด้วย) ถ้าหากเลือกทำแบบดั้งเดิมต้องรอให้แผลหายดีก่อน แต่ถ้าเลือกแบบใส่ได้ทันที ทันตแพทย์จะทำการพิมพ์ปากก่อนไว้ก่อน และจัดเตรียมฟันปลอมที่มีลักษณะเหมือนฟันเดิมได้ทันที และทำการนัดถอนฟันคนไข้ภายหลัง เพื่อใส่ฟันปลอมให้ 4. สวมใส่ฟันปลอมพร้อมปรับแก้ไปด้วย ทันตแพทย์ใส่ฟันปลอมเเละแก้ไขตำแหน่งกดเจ็บในระหว่างการทำฟันปลอม ทันตแพทย์จะนัดพบคนไข้ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อทำการตรวจเช็กอย่างละเอียด (ระยะเวลาขึ้นอยู่กับรูปแบบของฟันปลอมด้วย) ข้อดีของการทำฟันปลอม
วิธีดูแลฟันปลอมไม่ว่าจะเป็นการทำฟันปลอมแบบถอดได้หรือติดแน่น ก็ควรปฏิบัติตนหลังจากทำฟันมาแล้ว ดังนี้ การดูแลฟันปลอมแบบติดแน่น
การดูแลฟันปลอมแบบถอดได้
ฟันปลอม ราคาราคาฟันปลอมประเภทต่างๆ ทั้งฟันปลอมถอดได้ และฟันปลอมติดแน่นมีราคาที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับวัสดุที่เลือกใช้ จำนวนซี่ และความต้องการของคนไข้ ทั้งนี้ ทันตแพทย์จะเป็นผู้ให้คำแนะนำถึงความเหมาะสมของฟันปลอมแต่ละชนิดร่วมกับคนไข้เอง ราคาฟันปลอมแบบติดแน่นราคาฟันปลอมแบบติดแน่นจะมีราคาค่อนข้างสูง อาจจะราคาสูงขึ้นหรือถูกลง ขึ้นอยู่กับวัสดุที่เลือกใช้ รายการราคาComposite Veneerเริ่มต้นที่ ซี่ละ 3,000 บาทCeramic Veneerเริ่มต้นที่ ซี่ละ 12,000 บาทครอบฟันโลหะเริ่มต้นที่ ซี่ละ 9,000 บาทครอบฟัน All Ceramicเริ่มต้นที่ ซี่ละ 14,000 บาทรากฟันเทียมเริ่มต้นที่ ซี่ละ 29,000 บาทราคาฟันปลอมแบบถอดได้โดยราคาของฟันปลอมแบบถอดได้ที่เป็นโลหะจะแพงกว่าแบบพลาสติก เพราะมีน้ำหนักเบา แข็งแรงและคลุมฟันได้มากกว่า รายการราคาฟันปลอมบางส่วนแบบถอดได้เริ่มต้นที่ 1,700 บาทฟันปลอมทั้งปากแบบถอดได้เริ่มต้นที่ 10,000 บาทฟันปลอม ทำที่ไหนดีแม้จะหาข้อมูลหรือรีวิวอ่านมากแค่ไหน สิ่งสำคัญที่สุดก็ยังคงเป็นการเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ มีประสบการณ์และรีวิวที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจว่าจะได้รับการดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านทันตกรรม และเป็นคลินิกที่พร้อมให้คำปรึกษาทั้งก่อนทำและหลังทำ และที่สำคัญควรเป็นคลินิกทันตกรรมที่อยู่ใกล้บ้าน เพื่อให้คุณสะดวกในการเดินทางไปพบทันตแพทย์ได้ตามระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งถ้าคุณสนใจอยากทำฟันปลอมที่สะดวกสบายต่อการสวมใส่จากฝีมือแพทย์ที่มีประสบการณ์ สามารถปรึกษากับเรา ‘คลินิกทันตกรรมสีวลี’ เพราะเราพร้อมให้คำแนะนำแบบเคสต่อเคสด้วยความพิถีพิถัน และใส่ใจ เพื่อให้คุณได้รับฟันปลอมที่สมบูรณ์และเหมาะสมที่สุดในการใช้งานในชีวิตประจำวัน คำถามที่พบบ่อยใส่ฟันปลอมแล้วเจ็บไหมหากคุณเลือกใช้ฟันปลอมแบบถอดได้ ในช่วงแรกของการใช้งานอาจทำให้คุณรู้สึกเจ็บหรือระคายเคืองบ้าง แต่พอเริ่มคุ้นชินอาการก็จะดีขึ้น ส่วนถ้าหากคุณเลือกใช้ฟันปลอมแบบติดแน่น คุณจะไม่ได้รู้สึกเจ็บ แต่อาจจะรู้สึกเสียวฟันบ้างในช่วงแรก แต่อาการจะค่อยๆ ดีขึ้นจนหายไปได้เองในที่สุด ทำฟันปลอมกี่วันได้สำหรับการทำฟันปลอมแบบถอดได้แบบดั้งเดิมหากนับระยะเวลาตั้งแต่ทำหัตถการ เช่น การถอนฟันไปจนถึงช่วงที่คนไข้จะได้รับฟันปลอม จะใช้เวลาทั้งหมด 8 – 12 สัปดาห์ โดยในช่วงที่รอให้แผลจากการถอนสมานตัวคนไข้จะยังไม่มีฟันไว้สำหรับใช้งาน แต่ถ้าหากเป็นการทำฟันปลอมทั้งปากแบบทันทีจะสามารถสวมใส่ได้ในทันทีหลังจากที่ฟันทั้งหมดถูกถอนออก โดยทันตแพทย์จะจะทำการวัดและสร้างแบบจำลองของขากรรไกรเอาไว้ก่อน ฟันปลอมอยู่ได้นานกี่ปีอายุของฟันปลอมจะขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ในการทำฟันปลอมและการดูแลรักษา โดยฟันปลอมแบบโครงโลหะหากดูแลรักษาดีๆ จะมีอายุการใช้งานถึง 15 ปี, ฟันปลอมแบบอะคริลิกหรือพลาสติกจะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ 6 เดือนถึง 1 ปีจึงเหมาะจะเป็นฟันปลอมที่ใช้แบบชั่วคราว และฟันปลอมที่ออกแบบมาให้มีความยืดหยุ่นโดยใช้วัสดุจำพวกเทอร์โมพลาสติกเรซิ่น (Thermoplastic Resin) หรือเทอร์โมพลาสติกไนลอน (Thermoplastic Nylon) จะมีอายุการใช้งานประมาณ 5-8 ปี ใส่ฟันปลอม แล้วหลวมทำอย่างไรการใส่ฟันปลอมแบบถอดได้อาจจะเจอกับการใส่ฟันปลอมแล้วหลวม ซึ่งเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน เรามาดูกันทีละสาเหตุพร้อมหาวิธีแก้ไปพร้อมๆ กันเลย ดังต่อไปนี้
ใส่ฟันปลอมแล้วพูดไม่ชัดเกิดจากอะไรส่วนใหญ่เกิดจากความไม่ชิน เช่นเดียวกันกับการดัดฟัน คุณจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการปรับตัวสักเล็กน้อย ซึ่งโดยทั่วไปแล้ววัยรุ่นหรือเด็กจะใช้เวลาประตัวประมาณ 2-3 วัน ส่วนในวัยผู้สูงอายุอาจจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ไปจนถึง 1 เดือน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการปรับตัวและการฝึกฝนของแต่ละบุคคล ฟันปลอมต้องใส่ตลอดไปเลยไหมหากคุณทำฟันปลอมแบบถอดได้ ก็ไม่จำเป็นต้องใส่ฟันปลอมตลอดเวลา เมื่อถึงเวลาเข้านอนควรถอดทำความสะอาดและแช่น้ำไว้ ทั้งนี้ ก็เพื่อลดแรงกดทับของฐานฟันปลอมต่อเนื้อเยื่อในช่องปาก รวมถึงลดโอกาสการเกิดการระคายเคืองที่ทำให้เกิดกลิ่นปาก การอักเสบ หรือเกิดก้อนเนื้องอกชนิดไม่ร้ายแรงขึ้นที่บริเวณขอบหรือใต้ฐานฟันปลอมได้ ใส่ฟันปลอมแล้วต้องมาหาทันตแพทย์ตลอดไปไหมหลังจากใส่ฟันปลอมควรมาพบทันตแพทย์ตรวจช่องปากและฟันปลอมทุก 6 เดือน หรืออย่างน้อยปีละครั้ง เพื่อตรวจเช็กสุขภาพในช่องปากอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดโอกาสการเกิดโรคเหงือกอักเสบ ฟันผุที่คนใส่ฟันปลอมมักเป็นอยู่บ่อยครั้ง ฟันปลอมกดทับเหงือก เป็นอย่างไรเมื่อฟันปลอมกดทับเหงือกจะก่อให้เกิดแผลกดจากฟันปลอม (Denture Sores) โดยจะเป็นบริเวณขอบๆ ฟันปลอมที่ไม่แนบสนิทกับเหงือก และจะรู้สึกอักเสบบวมแดง มีอาการเจ็บปวด หรือแสบบริเวณแผล ในรายที่ใส่ฟันปลอมตลอดเวลาไม่ได้ถอดแช่น้ำในเวลากลางคืน ก็จะทำให้เกิดการติดเชื้อราที่ใต้ฐานฟันปลอมได้ โดยบริเวณเพดานหรือเหงือกข้างใต้จะมีฝ้าขาวเป็นปุยร่วมกับการอักเสบ และปวดแสบปวดร้อนด้วย สรุปเมื่อสูญเสียฟันแท้ตามธรรมชาติไปแล้ว ฟันปลอม ก็ถือเป็นเครื่องมือทดแทนที่ช่วยให้ใครหลายคนสามารถรับประทานอาหารได้อร่อย หรือออกเสียงได้ชัดตามปกติ ดังนั้น จึงควรดูแลฟันปลอมให้เหมือนกันกับการดูแลฟันแท้ ทั้งการทำความสะอาด การดูแลรักษา ตลอดจนถึงการเข้าพบกับทันตแพทย์เพื่อตรวจเช็กสุขภาพของช่องปากและฟันปลอมเป็นประจำทุกๆ 6 เดือน เพื่อให้ฟันปลอมสามารถอยู่กับคุณไปได้อีกนานเท่านาน หากสนใจปรึกษาเรื่องการทำฟันปลอมสามารถสอบถามคลินิกทันตกรรมสีวลี ผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรมได้ที่ Line และ Facebook ฟันปลอมถาวรอยู่ได้กี่ปีฟันปลอมสามารถอยู่ได้นานเท่าใด
ขึ้นอยู่กับลักษณะการสวมใส่ ซึ่งถ้าทำและใส่อย่างถูกวิธีก็ยาวๆกันเป็น 10 ปี ในกรณีที่ดูแลดี โดยหลักการคือ การเปลี่ยนฐานฟันปลอมใหม่โดยที่ยังคงตัวฟันไว้อยู่
ฟันปลอมถาวรซี่ละกี่บาทฟันปลอมถาวร ถอดได้ ฐานเป็นโลหะ ชิ้นละ 14,000-16,000 บาท ครอบฟัน ซี่ละ 8,000-20,000 บาท
ฟันปลอมแบบนิ่ม แพงไหมฟันปลอมแบบนิ่ม valplast : ซี่เดียวราคา 5,000 ซี่ต่อไปเพิ่ม 500. ฟันปลอมแบบ RB : ซี่เดียวราคา 5,000 ซี่ต่อไปเพิ่ม 500. ฟันปลอมฐาน/โครงโลหะ : ฐานโลหะราคา 9,000 ฟันปลอมซี่ละ 500. ฟันปลอมทั้งปาก : บน/ล่าง 22,000-25,000.
ทำฟันปลอมทั้งปากแพงไหมราคา ราคา ฟันปลอมทั้งปากโดยประมาณ (acrylic full denture) 25,000 บาท โปรชั่นจัดฟัน ทำฟัน รากฟันเทียม วีเนียร์ฟัน 2023.
|