การพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงสะกดคำภาษาอังกฤษ โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงโฟนิกส์ (Phonics) ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนทรงวิทยาเทพารักษ์ การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อเปรียบเทียบการพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงสะกดคำภาษาอังกฤษก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงโฟนิกส์ (Phonics) และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงโฟนิกส์ (Phonics) กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/2 โรงเรียนทรงวิทยาเทพารักษ์ ปีการศึกษา 2564 จำนวน 5 คน ที่ยังขาดทักษะภาษาอังกฤษในด้านการอ่านออกเสียงและสะกดคำ โดยใช้วิธีการเลือกแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling) ผลการวิจัยพบว่า 1) ทักษะการอ่านออกเสียงสะกดคำภาษาอังกฤษหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงโฟนิกส์ (Phonics) หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน โดยผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยเท่ากับ 7.6 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 76 ของคะแนนเต็ม 2) ความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการอ่านออกเสียงโฟนิกส์ (Phonics) อยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.76 และมีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.39 DownloadsDownload data is not yet available. Referencesก็ก่อ พิสุทธิ์ และกัลยรัตน์ ชาวันดี. (2561). การพัฒนาทักษะการออกเสียงภาษาอังกฤษ โดยใช้ชุดฝึกทักษะโฟนิกส์ออนไลน์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเต่างอยพัฒนศึกษา. (รายงานการวิจัย). กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ. รัตตินันท์ ทูลศิริ และนิธิดา อดิภัทรนันท์. (2563). “การใช้วิธีสอนแบบโฟนิกส์เพื่อส่งเสริมความสามารถในการออกเสียงภาษาอังกฤษและความรู้คำศัพท์ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1”. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, 22, 4:185 -198 จิราภรณ์ เสืออินทร์ และทัศนีย์ ชาติไทย. (2559). การพัฒนาทักษะความสามารถด้านการอ่านภาษาอังกฤษโดยการสอนแบบ โฟนิกส์ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 2 โรงเรียนบุญคุ้มราษฎร์บำรุง. [ออนไลน์]. ค้นเมื่อ 18 สิงหาคม 2564. เข้าถึงจากhttps://grad.dpu.ac.th/upload/content/files/ปีที่%205%20ฉบับที่%201%20เดือนสิงหาคม-พฤศจิกายน%202559/vol5-1-68.pdf สถาบันภาษาอังกฤษ ENGCONVO THAILAND. (2565). ความสำคัญของภาษาอังกฤษ. [ออนไลน์]. ค้นเมื่อ 14 สิงหาคม 2564. เข้าถึงจากhttps://www.engconvothailand.com/importance-of-english สมบัติ คชสิทธิ์และคณะ. (2560). การจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษให้กับผู้เรียนยุค THAILAND 4.0. วารสารวไลยอลงกรณ์ปริทัศน์ (มนุษยศาสตร์ และสังคมศาสตร์), 7, 2: 175 – 186. Twinkl. (2564). ความสำคัญและเทคนิคการสอนแบบ Phonics. [ออนไลน์]. ค้นเมื่อ 10 สิงหาคม 2564. เข้าถึงจากhttps://www.twinkl.co.th/teaching-wiki/phonics-foni-ks Downloads2022-09-20 ปีที่ 5 ฉบับที่ 2 (2021): (กรกฎาคม – ธันวาคม 2564) บทบทความวิจัย LicenseCopyright (c) 2021 วารสารพัฒนศิลป์วิชาการ This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License. การพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษมีอะไรบ้างเคล็ดลับ 9 ข้อเพื่อฝึกทักษะภาษาอังกฤษสำหรับผู้เริ่มต้น. 1. ฟังภาษาอังกฤษทุกวัน ... . 2. ตั้งค่าอุปกรณ์ต่างๆ เป็นภาษาอังกฤษ ... . 3. รับข่าวสารเป็นภาษาอังกฤษ ... . 4. ดูหนัง ฟังเพลงภาษาอังกฤษ ... . 5. เลือกอ่านตามความสนใจ ... . 6. เขียนอย่างสม่ำเสมอ ... . 7. เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ทุกวัน ... . 8. ฝึกพูดภาษาอังกฤษ. ทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ มีอะไรบ้างการอ่านภาษาอังกฤษ มี 2 ลักษณะ คือ การอ่านออกเสียง (Reading aloud) และ การอ่านในใจ (Silent Reading ) การอ่านออกเสียงเป็นการอ่านเพื่อฝึกความถูกต้อง (Accuracy) และความคล่องแคล่ว ( Fluency) ในการออกเสียง ส่วนการอ่านในใจเป็นการอ่านเพื่อรับรู้และทำความเข้าใจในสิ่งที่อ่านซึ่งเป็นการอ่านอย่างมีจุดมุ่งหมาย เช่นเดียวกับการฟัง ...
คุณจะพัฒนาทักษะการอ่านและการเขียนภาษาอังกฤษได้อย่างไร ?6 วิธีพัฒนาการอ่านภาษาอังกฤษให้มีประสิทธิภาพ. วิธีที่ 1 ฝึกอ่านอย่างละเอียดพร้อมกับจดโน้ตไปด้วย. วิธีที่ 2 เพิ่มระดับความเร็วในการอ่าน. วิธีที่ 3 อ่านมากกว่าหนึ่งครั้ง. วิธีที่ 4 ลองอภิปรายสิ่งที่อ่านกับคนอื่นๆ. วิธีที่ 5 ใช้การจดบันทึกเพื่อช่วย. วิธีที่ 6 มีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน. ฝึกอ่านภาษาอังกฤษ ยังไง5 วิธีเร่งสปีดการอ่านหนังสือภาษาอังกฤษของคุณได้เข้าใจได้อย่าง.... 1) แปลคำที่คุณสงสัยให้เป็นภาษาที่คุณถนัดเพื่อให้เริ่มจำคำให้ได้ ... . 2) จดจำคำศัพท์เป็นภาพ ... . 3) ลองดูคำเดิมในประโยคใหม่ที่ได้จากการอ่าน ... . 4) สร้างรูปแบบและวิธีการจดจำคำศัพท์ ... . 5) มีวินัย อดทน และฝึกฝน. |