ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ พระเอกชื่อ

“ผู้หญิงข้า...ใครอย่าแตะ” เป็นภาพยนตร์รักที่กำกับโดย เฉิน มู่เซิ่ง ผลิตโดย ตู้ ฉีฟง นำแสดงโดย หลิว เต๋อหัว, อู๋ เชี่ยนเหลียน และ อู๋ ม่งต๊ะ

Show

ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ พระเอกชื่อ

ภาพยนตร์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวโศกนาฏกรรมความรักระหว่างนักเลงหัวไม้ และ Jojo หญิงสาวผู้มั่งคั่ง ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายในฮ่องกงเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 1990 ในปี 1991 อู๋ ม่งต๊ะได้รับรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากงาน Hong Kong Film Awards ครั้งที่ 10 จากภาพยนตร์เรื่องนี้

ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ พระเอกชื่อ

เบื้องหลังการถ่ายทำ:
1. “ผู้หญิงข้า...ใครอย่าแตะ” เป็นผลงานแรกที่กำกับโดย เฉิน มู่เซิ่ง แต่ หลิว เต๋อหัวบอกว่าเขาไม่เคยรู้ว่า เฉิน มู่เซิ่ง เป็นผู้กำกับ คิดเสมอว่าผู้กํากับของภาพยนตร์เรื่องนี้คือ ตู้ ฉีฟง เพราะเขาพูดอยู่ตลอดเวลา

ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ พระเอกชื่อ

2. ตู้ ฉีฟง เลือก อู๋ เชี่ยนเหลียน เป็นนางเอกของ 'ผู้หญิงข้า...ใครอย่าแตะ' ในขณะที่เธอกำลังศึกษาอยู่ในวิทยาลัย ตู้ฉีเฟิงเห็นภาพขาวดำของนักศึกษาอู๋เฉียนเหลียนจากภาพถ่ายจำนวนมาก

ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ พระเอกชื่อ

3. 'ผู้หญิงข้า...ใครอย่าแตะ' คือการเปิดตัวครั้งแรกของ อู๋ เชี่ยนเหลียน ในภาพยนตร์ฮ่องกง

ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ พระเอกชื่อ

4. เฉินมู่เซิ่งสร้างต้นแบบเรื่องราวของ "ผู้หญิงข้า...ใครอย่าแตะ" จากประสบการณ์การแข่งรถของเขาเมื่อเขายังวัยรุ่น และได้รับการยอมรับจากตู้ ฉีฟง ริงโก้ แลมและหวังจิง ในที่สุดก็ได้เป็นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้

ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ พระเอกชื่อ

5. ทุกครั้งที่หลิวเต๋อหัวถอดหมวกกันน็อคออก เมื่อเขาถ่าย "ผู้หญิงข้า...ใครอย่าแตะ" ผมของเขาจะแบนโดยไม่รู้ตัว เมื่อ ตู้ ฉีฟง เห็น หลิว เต๋อหัว ใส่ใจผมของเขามากเกินไปในกองถ่าย เขาจึงตำหนิหลิว เต๋อหัว หลิวเต๋อหัวพยายามอดทนและจัดผมอีกครั้ง ตู้ฉีฟงโกรธจัดประกาศหยุดถ่าย และหลิวเต๋อหัวก็มีอารมณ์เช่นกัน หลังจากกลับมาถ่ายทำต่อ ทุกครั้งที่เปลี่ยนฉาก หลิวเต๋อหัวจะขอให้สไตลิสช่วยเป่าผมของเขาอีกครั้ง.

ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ พระเอกชื่อ

6. เพราะการถ่ายภาพยนตร์ 'ผู้หญิงข้า...ใครอย่าแตะ' หลิวเต๋อหัว กับ ตู้ฉีฟง ทะเลาะกัน หลังจากถ่ายทำเสร็จ ทั้งสองก็ไม่เคยคุยกันอีกเลย จนกระทั่งการถ่ายทำภาคสามของ "ผู้หญิงข้า...ใครอย่าแตะ" เริ่มขึ้น

ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ พระเอกชื่อ

ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ พระเอกชื่อ

ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ พระเอกชื่อ

ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ พระเอกชื่อ

ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ พระเอกชื่อ

30 ปีที่แล้ว หนุ่มสาววัยรุ่นในบ้านเราพากันฮือฮากับหนังฮ่องกงเล็กๆ เรื่องหนึ่ง ซึ่งแม้ว่าตอนนั้นคนดูหนังในบ้านเรายังให้การตอบรับกับหนังฮ่องกงอย่างอบอุ่นอยู่ก็ตาม แต่ก็มีหนังแค่ไม่กี่เรื่องที่จะสร้างปรากฏการณ์ระดับที่ใครต่อใครช่วยบอกกันปากต่อปากว่าต้องไปดูหนังเรื่องนี้ให้ได้ ถ้าไม่ใช่หนังของเฉินหลงหรือโจวเหวินฟะ แต่หลังจากวันที่ ผู้หญิงข้า…ใครอย่าแตะ ออกฉาย แล้วใครพูดถึงวลี ‘อย่าแตะ’ ขึ้นมา ภาพของชายหนุ่มหน้าตาคมเข้มที่กำลังขี่มอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์สีขาวและหญิงสาวหน้าละอ่อนที่ซ้อนท้ายก็จะผุดขึ้นมาในหัวคนดูหนังฮ่องกงทุกคน

        หลิวเต๋อหัว ชื่อนี้อาจจะเป็นที่คุ้นเคยของแฟนละครทีวีบีจากบทเอี้ยก้วย ใน มังกรหยก ภาค 2 ตอน จอมยุทธอินทรี และอีกหลายเรื่อง (ต้องขออภัยที่ไม่ทันละครเรื่องก่อนหน้านั้นของเฮียแก) แต่ในฐานะนักแสดงนำในหนังจอเงินนั้น เขายังไม่สามารถแบกหนังไว้คนเดียวตลอดทั้งเรื่องได้ หลังจากที่หมดสัญญากับทางทีวีบี เขาก็มุ่งมาเล่นหนังใหญ่อย่างเต็มตัว แต่หลิวเต๋อหัวยังเป็นได้แค่นักแสดงสมทบที่ทำให้หนังแต่ละเรื่องดูน่าสนใจขึ้น ถ้าให้มาแสดงนำแบบเดี่ยวๆ บารมีของเขานั้นยังไม่พอที่จะให้ทางสตูดิโอวางใจในการรับบทนำในหนังทุนสูงแบบนักแสดงรุ่นพี่

        จนกระทั่งเฉิน มู่เซิ่ง (Benny Chan) ต้องการทำหนังขึ้นมาเพื่อนำรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายมอบให้กับหวังเทียนหลิน ปรมาจารย์ของเขา จึงเอาพล็อตเรื่องจาก ‘อาหลาง’ (All About Ah Long) หนังที่ออกฉายในปี 1989 นำแสดงโดย ‘โจวเหวินฟะ’ มาบิดเนื้อเรื่องเป็น ผู้หญิงข้า…ใครอย่าแตะ และเพราะทุนสร้างที่มีจำกัด เขาจึงเลือกหลิวเต๋อหัว ดาราที่พอจะมีชื่อเสียงและมีสายใยกับหวังเทียนหลินอยู่แล้วจากที่ทำงานร่วมกันสมัยอยู่ทีวีบีมารับบทนำ โดยนางเอกนั้นเป็นนักแสดงหน้าใหม่ที่ยังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยศิลปะแห่งชาติไทเป มารับบท 

ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ พระเอกชื่อ

        ช่วงที่หนังเข้าฉายในประเทศไทยนั้น เราเกิดทันหนังเรื่องนี้แต่ไม่ทันการรับชมในโรงภาพยนตร์ แต่รับรู้ได้ถึงความโด่งดังของหนังผ่านสื่อหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ที่ลงข่าวอัพเดตกระแสของหนังเรื่องนี้รายวัน (และรายสัปดาห์ในโทรทัศน์) พร้อมปรากฏการณ์มากมายของหนุ่มสาวที่คลั่งไคล้หลิวเต๋อหัว ทั้งการแต่งตัวด้วยชุดยีนส์ มีการจัดประกวดชายหนุ่มที่เหมือนหลิวเต๋อหัว และคนที่ดูหนังเรื่องนี้มากรอบที่สุด 

        จากการพูดคุยกับ ‘อาร์ม’ – ริทธิเมธ ทับสุวรรณ ผู้ก่อตั้งเพจ เก้ากระบี่เดียวดาย ที่ให้ทั้งความรู้และข้อมูลของหนังฮ่องกงหลายๆ เรื่องกับเรารวมถึง ผู้หญิงข้า…ใครอย่าแตะ ซึ่งพี่เขาบอกกับเราว่าทันดูหนังเรื่องนี้ในโรง แต่เป็นการดูแบบที่ต้องยืนดูตลอดทั้งเรื่อง เพราะในตอนนั้นตั๋วที่นั่งของหนังเรื่องนี้เต็มทุกรอบ แม้แต่เก้าอี้เสริม (เก้าอี้เหล็กพับได้) ก็เต็ม ถ้าใครต้องการจะดูจริงๆ ก็ต้องซื้อตั๋วยืนเข้าไปดู ซึ่งพี่อาร์มคือหนึ่งในนั้น แสดงให้เห็นถึงพลังของหนังเรื่องนี้ที่เรียกได้เต็มปากว่ามีคนดู ‘ล้นโรง’ 

        ส่วนเราก็อาศัยดู ผู้หญิงข้า…ใครอย่าแตะ ทางวิดีโอเช่าที่แอบบันทึกมาโดยมีเสียงของใครก็ไม่รู้เป็นเป็นคนพากย์ ซึ่งตอนนั้นก็รู้สึกได้ถึงความสนุกของหนังแม้ส่วนใหญ่ภาพจะมืดๆ มัวๆ ก็ตาม จนได้มาดูฉบับสมบูรณ์อีกทีเมื่อหนังถูกนำมาฉายทางโทรทัศน์ ที่คราวนี้คมชัดทั้งภาพและเสียงจนซาบซึ้งไปกับเรื่องราวของตัวละครอย่างเต็มๆ 

ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ พระเอกชื่อ

        เนื้อหาของหนังเป็นเรื่องราวของตัวละครสองคนที่แตกต่างกันราวกับดอกฟ้าและสุนัขข้างถนน ชายหนุ่มที่เป็นนักเลงหัวไม้ใช้ชีวิตไปวันๆ กับการพนันขันต่อ ต่อยตี และเรื่องผิดกฎหมาย ส่วนหญิงสาวก็เป็นคนใสซื่อมองโลกในแง่ดี ครอบครัวมีฐานะ และกำลังจะไปศึกษาต่อยังต่างประเทศ​ ความรักของทั้งสองคนได้ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ผ่านการเข้าอกเข้าใจในกันและกัน แม้พระเอกจะพยายามหลบหน้าหรือผลักไสนางเอกสักเท่าไหร่ แต่สุดท้ายก็แพ้ลูกตื๊อและความหัวรั้นของเธอ จนแม้แต่คนดูก็ยังต้องใจอ่อน 

       ผู้หญิงข้า…ใครอย่าแตะ ถูกยกให้เป็นต้นแบบของหนังฮ่องกงหลายเรื่องที่พูดถึงนักเลงหัวไม้ และเปิดทิศทางใหม่ให้กับหนังแนวนี้ที่เปลี่ยนจากการไล่ยิงกันด้วยปืน มาเป็นจับมีดจับท่อนเหล็กไล่ตีกันที่ติดดินและสมจริง จนต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าที่หลิวเต๋อหัวจะวางมือจากบทนักเลงกระจอกแล้วส่งมอบตำแหน่งนี้ให้กับเจิ้งอี้เจี้ยนในบทเฉินฮ่าวหนาน จากภาพยนตร์เรื่อง กู๋หว่าไจ๋ 

ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ พระเอกชื่อ

        สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้ยังคงความอมตะก็คือความประณีตในการถ่ายทำแต่ละฉากของหนังที่ผู้กำกับให้ความใส่ใจและโชว์งานด้านภาพอย่างบรรจง เมื่อหนังถูกนำมาปรับปรุงอีกครั้งให้มีความคมชัดสำหรับการฉายในโรงดิจิทัลยุคนี้ การเข้ามาดู ผู้หญิงข้า…ใครอย่าแตะ ในโรงภาพยนตร์สำหรับเราวันนี้ จึงเหมือนได้มาดูหนังเรื่องนี้ครั้งแรก เพราะตื่นตาตื่นใจกับการมององค์ประกอบในการถ่ายภาพแต่ละฉาก ที่หลายซีนนั้นกระทำความหว่องได้อย่างสวยงาม ฉายภาพฮ่องกงในช่วงปลาย 80s ออกมาได้สวยงาม โดยเฉพาะการตีความด้านภาพที่เมื่อไหร่เป็นฉากของอาหวอ (หลิวเต๋อหัว) อยู่คนเดียว ช่างภาพไม่เพียงแต่จะสามารถดึงเอาศักยภาพของหลิวเต๋อหัวออกมาได้อย่างคุ้มค่า แต่ยังดีไซน์ให้แต่ละฉากนั้นมีแสงสีที่ฉูดฉาดและมืดหม่น ราวกับโลกที่ไร้แสงสว่างที่อาหวอต้องอยู่ในนั้น แต่เมื่อไหร่ที่นางเอกเข้ามามีส่วนร่วมกับอาหว๋อแต่ละฉากกลับสว่างไสวและมีความฟุ้งราวกับภาพฝันที่สวยงาม 

        จนกระทั่งในตอนท้ายที่ชีวิตทั้งสองต้องพบกับความเป็นจริง โลกที่สว่างสวยงามถูกแทนที่ด้วยเรื่องราวของตอนกลางคืนที่มืดมน แม้ตัวหญิงสาวจะยังดูสดใสและทั้งสองจะใส่ชุดแต่งงานสีขาวที่ดูมีความหวัง แต่ในตอนจบนั้นสีขาวของชุดเจ้าสาวก็ไม่อาจจะสู้กับความมืดมิดบนถนนที่เธอกำลังวิ่งตามหาคนรักได้ 

ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ พระเอกชื่อ

        นอกจากงานด้านภาพที่เอามาดูตอนนี้ก็ยังไม่เชยแล้ว งานด้านเสียงก็ทำออกมาได้ดีไม่แพ้กัน ทั้งทีมพากย์ใหม่ที่พยายามเก็บความรู้สึกและเคารพกับการพากย์จากทีมพากย์รุ่นเก่าให้มากที่สุด ดูแล้วเนียนจนแทบไม่รู้สึกถึงความแตกต่างเลย ยังมีส่วนของเพลงประกอบหนังที่ทั้งไพเราะและเข้ากับเนื้อหาของเรื่องอย่างกลมกลืน 

        เพราะใน ผู้หญิงข้า…ใครอย่าแตะ เวอร์ชันนี้ มีการทำซับบรรยายเนื้อเพลงเป็นภาษาไทยไว้ด้วย ดังนั้น ในแต่ละฉากที่มีเพลงประกอบดังขึ้นมา คนดูก็จะรับรู้ถึงเนื้อหาของหนังได้อย่างสมบูรณ์กว่าครั้งที่ผ่านมา นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญว่าทำไมเราจึงอยากดูหนังเรื่องในโรงภาพยนตร์สักครั้ง เพราะถึงแม้ตัวเนื้อหานั้นจะพ้นยุคสมัยไปแล้ว เรื่องของดอกฟ้ากับหมาวัดและโศกนาฏกรรมของนักเลงกระจอกกับลูกคุณหนูนิสัยดีอาจจะตกยุคไปแล้วสำหรับวันนี้ แต่การได้เห็นความเฉียบคมในงานโปรดักชัน ทั้งงานภาพ เสียง และสภาพฮ่องกงในอดีตแบบคมชัดเต็มๆ ตาแล้ว 

        ก็ไม่รู้ว่าอีก 30 ปีต่อไป จะมีใครนำหนังเรื่องนี้กลับมาฉายในโรงภาพยนตร์ ให้เราได้รำลึกถึงวันชื่นคืนสุขสมัยเด็กๆ กันอีกหรือเปล่า


ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจากเพจ เก้ากระบี่เดียวดาย

นางเอกผู้หญิงข้าใครอย่าแตะมีกี่คน

นำแสดงโดย: แอนดี้ หลิว, อู๋ เชี่ยนเหลียน, อู๋ เมิ่งต๋า กำกับโดย: เบนนี่ ชาง ความยาว: 90 นาที เข้าฉายครั้งแรก: 14 มิถุนายน 1990.

ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะมีทั้งหมดกี่ภาค

จากที่คนไม่รู้จัก กลายเป็นรู้จัก เล่นเรื่องไหน คนแห่ตามดู กลายเป็นไอดอลแห่งยุค สัญลักษณ์ "นักรักนักเลง" หลังจากนั้น 'ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ' ก็มีตามมาอีก 2 ภาค ถึงแม้ว่าจะคุ้นตาว่ามีมากกว่านี้ แต่ที่เป็นทางการจริงๆ แล้ว มีเพียง 3 ภาคเท่านั้น