ในการเขียนแผนจัดการเรียนรู้ขั้น การประเมินเพื่อปรับปรุงการสอน ปฏิบัติการเขียนแผนจัดการ เรียนรู้ด้วยใช้กระบวนการของทบทวนตนเองหลังสอน ที่ช่วยให้เข้าใจการเรียนการสอน ในการตอบสนอง ความต้องการ 4 ประการ คือ ด้านวัตถุประสงค์ ด้านค่านิยม ด้านประสิทธิผล และด้านความพึงพอใจในตนเอง Show การวัดผลประเมินผลการเรียนรู้ระดับปฐมวัย เมื่อมีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนต้องมีการวัดผลประเมินผลเพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้รับรู้ถึงพัฒนาการ ผลผลิตและผลย้อนกลับจากการจัดกิจกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งครูผู้สอนที่ต้องนำผลการประเมินที่ได้ไปใช้ในการพัฒนาปรับปรุงการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนของตนเองต่อไป ในการวัดผลและประเมินผลการเรียนรู้ในการศึกษาระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษาหรืออุดมศึกษานั้นสามารถวัดผลแล้วสรุปออกมาเป็นผลสัมฤทธิ์ที่มีค่าเป็นตัวเลข เกรด ค่าเฉลี่ยร้อยละได้แต่สำหรับเด็กระดับอนุบาลหรือปฐมวัยที่ไม่สามารถอ่าน เขียนหนังสือได้ การวัดผลการเรียนรู้เป็นค่าเฉลี่ย ร้อยละจึงเป็นไปได้ยากโดยเฉพาะอย่างยิ่งระดับชั้นอนุบาลในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครหรือโรงเรียนของรัฐบาล 1. ให้นักศึกษาแสดงความคิดเห็นระหว่างรูปดอกบัวกับรูปเพชร 2. ให้อิสระในการเลือกภาพว่าชอบภาพไหนเพราะอะไรให้เหตุผล 1. ให้นักศึกษาแสดงความคิดเห็นระหว่างรูปดอกบัวกับรูปเพชร Model รูปเพชรนี้รูปทรงอาจจะไม่สวยงาม แต่ภายในมีเนื้อหาที่ชัดเจน มีรายละเอียดของตัวอักษรต่างๆ ว่าคืออะไร หมายถึงอะไร ที่บ่งบอกถึงความชัดเจนของข้อมูล ง่ายต่อผู้ที่ต้องการจะศึกษา ไม่สับสนวุ่นวาย เพื่อหาความรู้ในข้อมูลดังกล่าว และเป็นประโยชน์ต่อผู้ศึกษาเองรวมไปถึงผู้ต้องการค้นหาข้อมูลนี้ Model รูปดอกบัวนี้ ซึ่งมีความสวยงามแต่เนื้อหาภายในไม่ให้ความชัดเจน ไม่มีรายละเอียดจะมีแค่ตัวอักษรเพียงช่องละตัวเท่านั้น ซึ่งตัวอักษรแต่ละตัวไม่ได้มีคำแค่คำเดียวแต่มีหลายคำหลายความหมาย จึงยากต่อการที่จะเดาว่าตัวอักษรนี้คืออะไร 2. ให้อิสระในการเลือกภาพว่าชอบภาพไหนเพราะอะไรให้เหตุผล สำหรับดิฉันเลือกรูปนี้ก็เพราะว่า เป็นคนที่ชอบความชัดเจน เปรียบเสมือนกับข้อมูลภายในรูปนี้ ซึ่งมีความชัดเจน มีข้อมูลที่บ่งบอกถึงสิ่งต่างๆ ดูเข้าใจง่าย และไม่สับสนวุ่นวาย ในการเขียนแผนจัดการเรียนรู้ขั้น วิเคราะห์ภาระงาน ปฏิบัติการเขียนแผนจัดการเรียนรู้ด้วยการ ระบุงาน และภาระงาน โดยใช้แนวทางการวิเคราะห์ภาระงานของหน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐานแล้วระบุเป็นชิ้นงานหรือภาระงานที่ผู้เรียนปฏิบัติ การออกแบบภาระงานที่ผู้เรียนต้องใช้ความรู้และทักษะจากขั้นการกำหนดจุดมุ่งหมายการเรียนรู้ (setting learning goals) ลักษณะสําคัญของงานคือ ต้องกระตุ้นหรือสร้างแรงจูงใจให้กับผู้เรียน มีความท้าทาย แต่ไม่ยากเกินไปจนผู้เรียนทําไม่ได้ และในขณะเดียวกันต้องครอบคุมสาระสําคัญทางวิชาและทักษะที่ลึกซึ้ง เพื่อให้สามารถนําผลการประเมินไปใช้ได้อย่างสมเหตุสมผลและน่าเชื่อถือ แผนจัดการเรียนรู้ กิจกรรมเสรี (เวลา 40-60 นาที) แผนการจัดประสบการณ์แบบบูรณาการ สาระที่ควรเรียนรู้ ธรรมชาติรอบตัวเด็ก หน่วย ผักสดสะอาด สัปดาห์ที่ 24 วันที่ 22 เดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 25561 1. มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐานที่ 1 ร่างกายเจริญเติบโตตามวัยและมีสุขนิสัยที่ดี ตัวบ่งชี้ที่ 3 รักษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อื่น มาตรฐานที่ 5 มีคุณธรรม จริยธรรม และมีจิตใจที่ดีงาม ตัวบ่งชี้ที่ 2 มีความเมตตากรุณา มีน้ำใจและช่วยเหลือแบ่งปัน มาตรฐานที่ 6 มีทักษะชีวิตและปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตัวบ่งชี่ที่ 2 มีวินัยในตนเอง 2. สาระการเรียนรู้ 2.1 สาระที่ควรเรียนรู้ 1. การเล่นมุมประสบการณ์ต่างๆ 2.2 ประสบการณ์สำคัญ 1. การเล่นอิสระ 2. การมีโอกาสได้รับรู้ความรู้สึก ความสนใจ และความต้องการของตนเองและผู้อื่น 3. การรู้จักแก้ไขปัญหาในการเล่นหรือทำกิจกรรมต่างๆร่วมกับเพื่อน 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. เพื่อให้เด็กสามารถคิดแก้ปัญหาในการเล่นเป็นกลุ่มได้ 2. เพื่อให้เด็กสามารถใช้ภาษาสุภาพช่วยเหลือแบ่งปันผู้อื่นและรู้จักอดทนรอได้ 3. เพื่อให้เด็กรู้จักเก็บอุปกรณ์เข้าที่ให้เรียบร้อยได้ 4. กระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำ 4.1 เด็กๆและครูร่วมท่องคำคล้องจอง “ เก็บของเข้าที่” โดยครูท่องคำคล้องจองให้เด็กๆฟังแล้วให้เด็กๆท่องตามจนคล่อง สนทนาเกี่ยวกับมุมเสรี เช่น - คำคล้องจองที่ท่องไปมีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไรบ้างคะ ขั้นสอน 4.2 เด็กๆและครูร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับกิจกรรมและสร้างข้อตกลง เช่น - วันนี้ครูจะให้เด็กๆเล่นตามมุมเสริมประสบการณ์ต่างๆนะคะ มีมุมบ้าน มุมหนังสือ มุมวิทยาศาสตร์ บล็อกและมุมเกมการศึกษา 4.3 เด็กและครูร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติกิจกรรม เช่น - ให้เด็กๆเลือกเล่นมุมประสบการณ์ที่เด็กๆสนใจและต้องมีความเอื้อเฟื้อแบ่งกันเล่นนะคะ - ในการเล่นในแต่ละมุมนั้นให้เด็กๆเล่นมุมละ 5- 7 คน นะคะ - ถ้ามุมใดเกิน 5 -7 คน ให้ไปเล่นมุมอื่นที่ยังไม่ครบนะคะ - เมื่อครูเคาะกลอง 3 ครั้ง ให้เด็กๆหยุดเล่นและเก็บของเข้าที่ให้เรียบร้อย ครูเคาะกลอง 2 ครั้งให้เด็กๆมาเข้าแถวตามเดิมนะคะ 4.4 เด็กๆและครูร่วมกันปฏิบัติกิจกรรมตามข้อ 4.3 ขั้นสรุป 4.5 เด็กๆและครูร่วมกันสรุปกิจกรรมที่ปฏิบัติ เช่น - เด็กๆคะใครได้เล่นมุมอะไรบ้างคะและในแต่ละมุมมีวิธีการเล่นอย่างไรบ้างคะ - เด็กๆมีวิธีการเล่นของเล่นอย่างไรบ้างคะ 5. สื่อและแหล่งการเรียนรู้ - มุมประสบการณ์ต่างๆ ได้แก่ มุมบ้าน มุมหนังสือ มุมวิทยาศาสตร์ บล็อกและมุมเกมการศึกษา 6. ประเมินพัฒนาการ สังเกต - การเก็บของเล่นของใช้เข้าที่เมื่อมีผู้ชี้แนะ โรเบิร์ต มาร์ซาโน นักวิจัยทางการศึกษาที่มีชื่อเสียง เสนอสิ่งที่เขาเรียกว่า วัตถุประสงค์ทางการศึกษาใหม่ (2000) โดยพัฒนาจากข้อจำกัดของวัตถุประสงค์ของบลูมและตามสภาพแวดล้อมของการสอนที่อิงมาตรฐาน (standard-based instruction) รูปแบบทักษะการคิดของมาร์ซาโนผนวกปัจจัยที่กว้างขึ้นซึ่งส่งผลกระทบว่านักเรียนคิดอย่างไรและจัดเตรียมทฤษฏีที่อิงงานวิจัยมากขึ้นเพื่อช่วยครูปรับปรุงการคิดของนักเรียน
ขั้นตอนวัตถุประสงค์ของมาร์ซาโนนี้ทำขึ้นจากระบบสามประการและขอบเขตของความรู้ ระบบทั้งสามประกอบด้วย 1.ระบบตนเอง (self-system) 2.ระบบอภิปัญญา (metacognitive system) 3.ระบบความรู้ (cognitive system) เมื่อเผชิญกับทางเลือกของการเริ่มต้นภาระงานใหม่ ระบบตนเองจะตัดสินใจว่าจะทำตามพฤติกรรม เช่นปัจจุบัน หรือเข้าร่วมในกิจกรรมใหม่ ระบบอภิปัญญาจะกำหนดเป้าหมายและติดตามว่าจะทำได้ดีเพียงใด ส่วนระบบความรู้จะจัดทำกระบวนการให้ข้อมูลที่จำเป็น และขอบเขตความรู้จัดเตรียมเนื้อหาให้ ระบบความรู้ มาร์ซาโนแตกระบบความรู้ออกเป็นสี่องค์ประกอบ 1) การเรียกใช้ความรู้ การเรียกใช้ความรู้เกี่ยวข้องกับการทวนซ้ำข้อมูลจากความทรงจำถาวร นักเรียนเพียงแค่เรียกข้อเท็จจริง ลำดับเหตุการณ์ หรือกระบวนการตามที่เก็บไว้ได้อย่างถูกต้อง 2)ความเข้าใจ ตัวอย่างเช่น การเรียนรู้ของนักเรียนเกี่ยวกับการเดินทางของเลวิสและคลาค(Lewis and Clark) ควรที่จะจำเส้นทางซึ่งนักสำรวจใช้ แต่ไม่เกี่ยวข้องกับจำนวนอาวุธที่พวกเขานำติดตัวไป 3)การวิเคราะห์ การวิเคราะห์คือ การจับคู่ การแยกแยะหมวดหมู่ การวิเคราะห์ข้อผิดพลาด การกำหนดเป็นกฏเกณฑ์ทั่วไป การกำหนดเฉพาะเจาะจง ด้วยการเข้ามีส่วนร่วมในกระบวนการนี้ผู้เรียนสามารถใช้สิ่งที่กำลังเรียนรู้เพื่อสร้าง องค์ความรู้ใหม่และคิดค้นวิธีการใช้สิ่งที่เรียนรู้ในสถานการณ์ใหม่ 4)การนำความรู้ไปใช้ -การตัดสินใจ เป็นกระบวนการความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการชั่งน้ำหนักทางเลือกเพื่อกำหนดการกระทำที่เหมาะสมที่สุด -การแก้ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อต้องเผชิญกับอุปสรรคที่ขัดขวางการไปสู่เป้าหมาย -การสืบค้นจากการทดลองเกี่ยวข้องการตั้งสมมติฐานต่อปรากฎการณ์ทางจิตวิทยาและทางกายภาพ -การสำรวจสืบค้น คล้ายคลึงกับการสืบค้นจากการทดลอง แต่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในอดีต ปัจจุบันหรืออนาคต ไม่เหมือนการสืบค้นจากการทดลองซึ่งมีกฎที่เฉพาะเจาะจงเพื่อเป็นหลักฐานที่อยู่บนพื้นฐานของการวิเคราะห์ทางสถิติ ระบบอภิปัญญา ระบบตนเอง นักเรียนที่มีระดับประสิทธิภาพของตนเองสูงเมื่อเผชิญกับภาระงานที่ท้าทายจะปะทะด้วยความเชื่อว่าตนเองมีทรัพยากรที่จะประสบความสำเร็จ นักเรียนเหล่านี้จะทุ่มเทให้กับภาระงานอย่างเต็มที่ มุ่งมั่นในการทำงานและเอาชนะการท้าทายวิธีที่นักเรียนสามารถพัฒนาความรู้สึกของการมีประสิทธิภาพในตนเองไว้ วิธีที่ทรงพลังที่สุดคือผ่านทางประสบการณ์ที่เคยทำสำเร็จ ประสบการณ์ดังกล่าวต้องไม่ยากหรือง่ายจนเกินไป ความล้มเหลวที่เกิดซ้ำ ๆ จะทำให้การมีประสิทธิภาพในตนเองลดลง แต่ความสำเร็จจากภาระงานที่ง่ายเกินไปจะไม่พัฒนาสำนึกของการมุ่งมั่นที่จะเอาชนะอุปสรรค 3) อารมณ์ความรู้สึก อารมณ์ความรู้สึกที่เกี่ยวพันกับประสบการณ์การเรียนรู้ ความรู้สึกเหล่านี้มีผลกระทบอย่างมากต่อแรงจูงใจ เช่นนักเรียนที่มีอารมณ์ความรู้สึกเป็นลบต่อการอ่านหนังสือทางเทคนิคสามารถตัดสินใจที่จะอ่านตำราทางเคมีเมื่อเขารู้สึกตื่นตัวอย่างยิ่งมากกว่าอ่านก่อนที่จะเข้านอน การคิดวิเคราะห์ตามแนวของมาร์ซาโน ประเภทของความรู้ 1. ข้อมูล เน้นการจัดระบบความคิดเห็นจากข้อมูลง่ายสู่ข้อมูลยากเป็นระดับความคิด รวบยอด ข้อเท็จจริงลำดับเหตุการณ์ สมเหตุและผลเฉพาะเรื่องและหลักการ 2. กระบวนการ เน้นกระบวนการเพื่อการเรียนรู้จากทักษะสู่กระบวนการอัตโนมัติอันเป็น ส่วนหนึ่งของความสามารถที่สั่งสมไว้ 3. ทักษะ เน้นการเรียนรู้ที่ใช้ระบบโครงสร้างกล้ามเนื้อจากทักษะง่ายสู่กระบวนการที่ซับซ้อนขึ้นกระบวนการจัดกระทำกับข้อมูลมี 6ระดับดังนี้ ระดับที่ 1 ขั้นรวบรวม เป็นการคิดทบทวนความรู้เดิมรับข้อมูลใหม่และเก็บเป็นคลังข้อมูลไว้เป็นการถ่ายโยงความรู้จากความจำถาวรสู่ความจำนำไปใช้ปฏิบัติการโดยไม่จำเป็นต้องเข้าใจโครงสร้างของความรู้นั้น ระดับที่ 2 ขั้นเข้าใจ เป็นการเข้าใจสาระที่เรียนรู้สู่การเรียนรู้ใหม่ในรูปแบบการใช้สัญลักษณ์ เป็นการสังเคราะห์โครงสร้างพื้นฐานของความรู้นั้นโดยเข้าใจประเด็นสำคัญ ระดับที่3 ขั้นวิเคราะห์ เป็นการจำแนกความเหมือนและความแตกต่างอย่างมีหลักการ การจัดหมวดหมู่ที่สัมพันธ์กับความรู้การสรุปอย่างสมเหตุสมผลโดยสามารถบ่งชี้ข้อผิดพลาดได้การประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ใหม่โดยใช้ฐานความรู้และการคาดการณ์ผลที่ตามมาบนพื้นฐานของข้อมูล ระดับที่4 ขั้นใช้ความรู้ให้เป็นประโยชน์ เป็นการตัดสินใจในสถานการณ์ที่ไม่มีคำตอบชัดเจน การแก้ไขปัญหาที่ยุ่งยาก การอธิบายปรากฏการณ์ที่แตกต่าง และการพิจารณาหลักฐานสู่การสรุป สถานการณ์ที่มีความซับซ้อน การตั้งข้อสมมุติฐานและการทดลองสมมุติฐานนั้นบนพื้นฐานของความรู้ ระดับที่5 ขั้นบูรณาการความรู้ เป็นการจัดระบบความคิดเพื่อบรรลุเป้าหมายการเรียนรู้ที่กำหนด การกำ กับติดตามการเรียนรู้และการจัดขอบเขตการเรียนรู้ ระดับที่ 6 ขั้นจัดระบบแห่งตน เป็นการสร้างระดับแรงจูงใจต่อภาวะการณ์เรียนรู้และภาระ งานที่ได้รับมอบหมายในการเรียนรู้รวมทั้งความตระหนักในความสามารถของการเรียนรู้ที่ตนมี ขั้นการคิดวิเคราะห์ของมาร์ซาโน (Marzano. 2001 :อ้างอิงจาก ประพันธศิริ สุเสารัจ. 58) จำแนกเป็น 2. ทักษะการจัดหมวดหมู่ เป็นความสามารถในการจัดประเภท จัดลำดับ จัดกลุ่มของสิ่งที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันเข้าด้วยกัน โดยยึดโครงสร้างลักษณะหรือคุณสมบัติที่เป็นประเภทเดียวกัน 3. ทักษะการเชื่อมโยง เป็นความสามารถในการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของข้อมูลต่างๆ ว่าสัมพันธ์กันอย่างไร 4. ทักษะการสรุปความ เป็นความสามารถในการจับประเด็นและสรุปผลจากสิ่งที่กำหนดให้ 5. การประยุกต์เป็นความสามารถในการนำความรู้หลักการและทฤษฎีมาใช้ใน สถานการณ์ต่าง ๆ สามารถคาดการณ์ กะประมาณ พยากรณ์ ขยายความ คาดเดาสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ การจัดการศึกษาปฐมวัยมีรูปแบบเป็นอย่างไรการจัดการศึกษาปฐมวัย คือเป็นการจัดในสถานะของการอบรมเลี้ยงดู และให้ การศึกษาแก่เด็กทุกด้านทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญา ตามวัยและ ความสามารถของแต่ละบุคคล เพื่อเป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิต และอยู่ในสังคมได้อย่างมี ความสุข ทั้งนี้ในการจัดการศึกษา สำหรับเด็กปฐมวัยต้องอาศัยแนวคิดและหลักการ เป็น แนวทางในการ ...
การจัดการเรียนการสอนปฐมวัยมีอะไรบ้างแนวทางการจัดการเรียนการสอนสำหรับเด็กปฐมวัย. จัดประสบการณ์การเล่นและการเรียนรู้เพื่อพัฒนาเด็กโดยองค์รวมอย่างต่อเนื่อง. เน้นเด็กเป็นสำคัญ สนองความต้องการ ความสนใจ ความแตกต่างระหว่างบุคคลและบริบทของสังคมที่เด็กอาศัยอยู่. จัดให้เด็กได้รับการพัฒนาโดยให้ความสำคัญทั้งกับกระบวนการและผลผลิต. รูปแบบการจัดประสบการณ์ปฐมวัยมีกี่รูปแบบ✨ 7 รูปแบบจัดการศึกษาปฐมวัย✨ ❣ แบบนีโอ-ฮิวแมนนิสต์ 👉ทำให้เด็กเก่ง ฉลาด แข็งแรง มีความคิดด้านบวก มีน้ำใจ และมีความสุขเช่น ได้เรียนรู้จากคุณพ่อ คุณแม่ คุณครูที่อารมณ์ดี ยิ้มแย้ม และเป็นมิตร จะทำเกิดการพัฒนาเซลล์ประสานประสาทจะเกิดในช่วงเด็กเล็กๆพัฒนามากขึ้น ❣ แบบพหุปัญญา
Read Model คืออะไรREAD Model เป็นนวัตกรรมการศึกษาที่พัฒนาโดย ดร.จารุทัศน์ วงศ์ข้าหลวง ซึ่งเริ่มต้นจากการทำวิจัยที่บ้านรักเนอร์สเซอรี่สคูลโดยมีนักเรียนอายุ 2-3 ปีเป็นกลุ่มทดลองเมื่อปี พ.ศ. 2556. ได้รับความกรุณาจากคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิเป็นที่ปรึกษางานวิจัย
|