Show ���������â�������ͧ���Сͺ 5 ���ҧ (�ѧ�ٻ) ���� 1. ����� (Sender) ���ػ�ó�����㹡���觢������ (Message) �繵鹷ҧ�ͧ���������â�������˹�ҷ����������ҧ������ �� ���ٴ �÷�ȹ� ���ͧ�Դ��� �繵� 2. ����Ѻ (Receiver) �繻��·ҧ���������� ��˹�ҷ���Ѻ�����ŷ��������� �� ���ѧ ����ͧ�Ѻ�÷�ȹ� ����ͧ����� �繵� 3. ���͡�ҧ (Medium) ���͵�ǡ�ҧ ����鹷ҧ�������������Ӣ����Ũҡ�鹷ҧ��ѧ���·ҧ �����觢������Ҩ����¤��Դ����� �����͡���� �������ǹ��ʧ ���ͤ��蹷���觼�ҹ�ҧ�ҡ�� �� ������ ���������ǿ �����Է���Ҥ��鹴Թ ���ͤ����Է�ؼ�ҹ������� 4. �����Ţ������ (Message) ����ѭ�ҳ����硷�ԡ�����觼�ҹ���к�������� ����Ҩ�١���¡��� ���ʹ�� (Information) ������ 5�ٻẺ �ѧ��� 4.1 ��ͤ��� (Text) ��᷹����ѡ��е�ҧ � ��觨�᷹�������ʵ�ҧ � �� ������ʡ� �繵� 4.2 ����Ţ (Number) ��᷹����Ţ��ҧ � ��觵���Ţ�����١᷹����������ʡ���ж١�ŧ���Ţ�ҹ�ͧ�µç 4.3 �ٻ�Ҿ (Images) �����Ţͧ�ٻ�Ҿ��᷹���¨ش�����§�ѹ仵����Ҵ�ͧ�ٻ�Ҿ 4.4 ���§ (Audio) ���������§��ᵡ��ҧ�ҡ��ͤ��� ����Ţ ����ٻ�Ҿ���Т��������§�����ѭ�ҳ������ͧ�ѹ� 4.5 �Դ��� (Video) ���ʴ��Ҿ������� ����Դ�ҡ�������ѹ�ͧ�ٻ�Ҿ���� � �ٻ 5. ��ⵤ�� (Protocol) ��� �Ըա�����͡�����º�����㹡��������â���������������Ѻ��м��������ö���㨡ѹ���ͤ�¡ѹ�������ͧ �·���ͧ��觷�駼���Ѻ��м�����鵡ŧ�ѹ������ǧ˹������ 㹤�����������ⵤ���������ǹ�ͧ�Ϳ����������˹�ҷ�������ô��Թ�ҹ 㹡��������â�������仵�����������˹���� ������ҧ�� X.25, SDLC, HDLC, ��� TCP/IP �繵�
องค์ประกอบของกระบวนการติดต่อสื่อสาร สิ่งสำคัญที่จะให้การสื่อสารประสบความสำเร็จ คือ องค์ประกอบของกระบวนการ การติดต่อสื่อสารเกี่ยวกับเรื่องนี้ อารมณ์ ฉนวนจิตร (2556 : 132) สรุปได้ว่า "การติดต่อสื่อสารจะโดยวิธีทางตรง เช่น การพูด การอธิบาย การสนทนา หรือการติดต่อโดยใช้อุปกรณ์อื่นๆ เช่น วิทยุ โทรทัศน์ อีเมล์ เป็นต้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีองค์ประกอบ 4 ส่วน คือ" 1. ผู้ส่ง คือ ผู้ทำหน้าที่กระจายข้อมูล เริ่มต้นในการสื่อสาร เช่น ครูถ่ายทอดเนื้อหาวิชาของบทเรียนแก่นักเรียน 2. สาร คือ ข้อมูล ข้อความ เนื้อหาสาระ ข้อเท็จจริง ที่จะถูกส่งไปยังผู้รับ 3. สื่อ คือ ตัวกลางที่จะช่วยนำสารไปยังผู้รับ สื่ออาจสรุปได้ว่าเป็นช่องทางในการนำข้อมูลจากผู้ส่งไปยังผู้รับ สื่ออาจมีหลายๆ ชนิด เช่น คำพูด หนังสือ ในสมัยโบราณเราใช้ควันไฟส่งข้อความ ปัจจุบันเราใช้แสง ใช้เสียง มาเป็นสัญญาณในการส่งข้อความมากยิ่งขึ้น 4. ผู้รับ คือ ผู้ที่รับข้อมูลจากผู้ส่งโดยผ่านรายการที่เรียกว่าสื่อชนิดต่างๆ "ในทางปฏิบัติจริงๆ แล้วจะพบว่าการสื่อสารเพื่อจะให้ได้ผลดี จำเป็นต้องมีการตอบโต้ระหว่างผู้รับและผู้ส่ง การแลกเปลี่ยนข้อมูลจะทำให้การสื่อสารมีความสมบูรณ์มากเพิ่มขึ้น ฉะนั้น จึงไม่แปลกว่าบางครั้งผู้ส่งจะกลายเป็นผู้รับ และผู้รับจะเปลี่ยนเป็นผู้ส่งเสียเอง" ในทำนองเดียวกัน ปรียาพร วงศ์อนุตรโรจน์ (2553 : 173-178) ได้เสนอรูปแบบกระบวนการติดต่อสื่อสารว่า มีองค์ประกอบหลัก ได้แก่ ผู้ส่งสาร ข่าวสาร และผู้รับสาร ซึ่งแต่ละส่วนมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน อธิบายได้ดังนี้ 1. ผู้ส่ง (Sender) หมายถึง ผู้พูด ผู้เขียน ผู้แสดงมีข่าวสาร ความคิดเห็นหรือความจริงที่ต้องการส่งไป ซึ่งเรียกว่า ความคิด (Ideation) ความคิดเห็นนี้สำคัญที่สุดจะเป็นพื้นฐานของข่าวสาร ความคิดเกิดขึ้นตามเหตุผล ความคิดจะลึกซึ้งเพียงใดขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้คิดจะสงสาร ผู้สมควรคิดเป็นลำดับขั้น คิดให้แจ่มชัดและตีความหมายก่อนจะส่งข่าวสารไปและการสื่อข่าวสารขึ้นอยู่กับจุดมุ่งหมายของผู้ส่ง ตัวอย่างเช่น ขณะที่อาจารย์กำลังสอนอยู่ถือว่าเป็นผู้ส่งสาร
หรือขณะที่ผู้นิเทศดำเนินการนิเทศ และให้ข้อมูลย้อนกลับแก่ครู ผู้นิเทศก็ถือว่าเป็นผู้ส่งสารเช่นเดียวกัน โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้
อุปสรรคของการสื่อสาร การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพนั้น นอกจากขึ้นอยู่กับผู้นิเทศและผู้รับการนิเทศแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเรื่องนี้ คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (2550 : 29) ได้กล่าวถึง อุปสรรคที่ทำให้การสื่อสารไม่ประสบความสำเร็จ 4 ประการ ดังนี้ อุปสรรคของผู้ส่งสาร เช่น ขาดความรู้ในเรื่องที่นำเสนอ ความบกพร่องของผู้ส่งสารอาจเกิดจากสภาพร่างกายหรือจิตใจไม่ปรกติ ผู้ส่งสารขาดความสามรถในการสื่อสาร ทำให้การสื่อสารไม่ประสบผลสำเร็จ อุปสรรคที่สาร เช่น สารเป็นเรื่องยากเกินไป ใช้รูปแบบที่ซับซ้อน สารนั้นขัดแย้งกับความเชื่อและค่านิยมของผู้รับสาร ทำให้ไม่ประสบความสำเร็จในการสื่อสารเท่าที่ควร อุปสรรคที่สื่อ เช่น สื่อถูกรบกวนหรือสื่อชำรุดบกพร่อง สื่อเทคโนโลยีส่วนมากจะเกิดปัญหาความชำรุดของสื่อ เช่น โทรศัพท์ขัดข้อง วิทยุโทรทัศน์ชำรุด ทำให้สื่อสามารถทำหน้าที่นำสารไปสู่ผู้รับได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ อุปสรรคที่ผู้รับสาร เช่น ผู้รับสารมีอคติต่อผู้ส่งสารหรือมีอคติต่อสาร ผู้รับสารมีความคิดเห็นแตกต่างกับสาร ผู้รับสารขาดความพร้อม เจ็บป่ แนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับการสื่อสารแนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับการสื่อสาร การพูด การฟัง และการสื่อความหมายโดยไม่ใช้คำพูด รวมถึงการใช้ภาษาท่าทาง ( Nonverbal) เป็นองค์ประกอบสำคัญของการสื่อสาร ดังนั้น ผู้นิเทศที่ดีต้องสามารถสื่อสารและสื่อความหมายได้อย่างถูกต้องชัดเจน รวมถึงสามารถให้ข้อมูลสำคัญให้กับผู้รับการนิเทศให้เกิดความเข้าใจในสิ่งที่ต้องการสื่อสารดังนั้น "การสื่อสาร" จึงเป็นเครื่องมือหนึ่งของการนิเทศการศึกษา ในทำนองเดียวกัน คอสต้าและแกมส์ตัน ( Costa and Gramston, 2002 อ้างถึงในวัชรา เล่าเรียนดี , 2554 : 85) ได้กล่าวถึงความสำคัญของการสื่อสารว่า มีความสำคัญมากต่อการปฏิบัติร่วมงานกันให้บรรลุเป้าหมายและประสบผลสำเร็จ การสื่อความหมายที่สำคัญ คือ การใช้วาจา คำพูด เช่น การใช้ระดับของเสียงในการพูด ความดังของเสียง การเน้นคำหรือข้อความ การสะท้อนความคิด การโต้ตอบและการใช้คำที่เหมาะสม ชัดเจนเข้าใจง่าย สำหรับการสื่อความหมายโดยไม่ใช้คำพูดและใช้ภาษาท่าทาง ( Nonverbol) เช่น ท่าทาง การยืน การนั่ง การแสดงออกซึ่งท่าทาง ระยะความห่างระหว่างผู้พูดกับผู้ฟัง ความตึงเครียด ความผ่อนคลายของท่าทางและการแสดงออกท องค์ประกอบของการสื่อสารมีอะไรบ้าง ตัวอย่างองค์ประกอบหลักของระบบสื่อสารข้อมูลมีอยู่ 5 อย่าง ได้แก่ ผู้ส่ง (sender) ผู้รับ(receiver) ข่าวสาร(message) สื่อกลาง(media) และโพรโทคอล(protocol)
องค์ประกอบของการสื่อสารประกอบด้วยอะไรบ้างพร้อมทั้งอธิบายความหมาย และยกตัวอย่างองค์ประกอบของการสื่อสารข้อมูล. 1. ผู้ส่ง (Sender) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการส่งข่าวสาร (Message) เป็นต้นทางของการสื่อสารข้อมูลมีหน้าที่เตรียมสร้างข้อมูล เช่น ผู้พูด โทรทัศน์ กล้องวิดีโอ เป็นต้น. 2. ผู้รับ (Receiver) ... . 3. สื่อกลาง (Medium) ... . 4. ข้อมูลข่าวสาร (Message) ... . 5. โปรโตคอล (Protocol). หัวใจสําคัญของการสื่อสารคืออะไรภาษาเป็นหัวใจของกิจกรรมการสื่อสาร เพราะในการสื่อสาร ผู้ส่งสารจะใช้ภาษาเป็นสื่อพาสารไปสู่ผู้รับสาร การสื่อสาร คือ การติดต่อระหว่างมนุษย์ด้วยวิธีการต่าง ๆ ที่จะให้ฝ่ายหนึ่งรับรู้ความหมายของอีกฝ่ายหนึ่งและเกิดการตอบสนอง การสื่อสารที่สัมฤทธิ์
ข้อใดครบองค์ประกอบของการสื่อสารองค์ประกอบของการสื่อสาร
1.ผู้ส่งสาร หรือผู้เข้ารหัส (sender / encoder) 2.ผู้รับสาร หรือ ผู้ถอดรหัส (receiver / decoder) 3.สาร (message) 4.ช่องทางการสื่อสาร (channel)
|