ตัวอย่าง หนังสือ ราชการ ภายนอก เชิญ เป็น วิทยากร

หนังสือขอความช่วยเหลือ หมายถึง หนังสือที่มีถึง ส่วนราชการ สมาคม มูลนิธิ บริษัทห้างร้านเอกชน หรือบุคคลภายนอก ซึ่งไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกัน ขอให้เขาช่วยเหลืออย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ขอให้มาบรรยาย ขอให้ช่วยเหลือทางการเงิน ขอให้ทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดให้ เป็นต้น การเขียนหนังสือขอความช่วยเหลือที่จะให้บรรลุวัตถุประสงค์ จะต้องเขียนลำดับเนื้อความให้เชื่อมโยงเรื่องราวและเหตุผลสัมพันธ์กัน สอดคล้องกันตลอดเรื่อง และสมเหตุสมผลดีด้วย โดยใช้ลำดับเนื้อความดังนี้

1. บอกความจำเป็นหรือความต้องการของเรา

ตัวอย่าง หนังสือ ราชการ ภายนอก เชิญ เป็น วิทยากร

2. ยกย่องภูมิธรรมและคุณธรรมของเขา
3. ชี้ผลอันน่าภูมิใจที่เขาจะได้รับหากได้ช่วยเรา
4. ขอความกรุณาช่วยเหลือจากเขา
5. ตั้งความหวังว่า จะได้รับความกรุณาช่วยเหลือ จึงขอขอบคุณล่วงหน้า

ตัวอย่าง

เรื่อง ขอเชิญเป็นวิทยากร

เรียน  นาย………….

(ตำแหน่ง)

สิ่งที่ส่งมาด้วย โครงการฝึกอบรมหลักสูตร……………

ด้วยศูนย์…………….ได้จัดการฝึกอบรมหลักสูตร…………..ตามโครงการที่แนบมานี้ ในการนี้ได้กำหนดให้มีการบรรยายวิชา……………เป็นวิชาสำคัญมากวิชาหนึ่งด้วย ซึ่งการบรรยายวิชานี้จะต้องได้ผู้มีความรู้และประสบการณ์สูงในเรื่อง……………..เป็นวิทยากร จึงจะได้ผลตามจุดมุ่งหมาย

ศูนย์…………ได้พิจารณาเห็นว่า ท่านเป็นผู้มีความรู้และประสบการณ์สูงมากในเรื่อง………ถ้าได้ท่านเป็นผู้บรรยายวิชา………….ก็จะเป็นที่เชื่อมั่นได้ว่า การฝึกอบรมวิชานี้จะได้ผลบรรลุวัตถุประสงค์ตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งจะอำนวยประโยชน์มากทั้งแก่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมเป็นส่วนตัวและแก่ทางราชการเป็นส่วนรวม

จึงเรียนเชิญมาเพื่อขอท่านได้โปรดสละเวลาไปเป็นวิทยากรบรรยายในการฝึกอบรมวิชา………ในวันที่……………เวลา………ณ………ทั้งนี้ ศูนย์ฯ หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะได้รับความกรุณาจากท่านในการไปเป็นวิทยากรตามที่เรียนเชิญมานี้ จึงขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้

  • ตัวอย่าง หนังสือ ราชการ ภายนอก เชิญ เป็น วิทยากร

ทนายคลายทุกข์ขอนำตัวอย่างสัญญาจ้างแรงงานที่มีมาตรฐานมานำเสนอเพื่อให้ลูกจ้างและนายจ้างได้ศึกษา

บทความวันที่ 21 พ.ค. 2553, 00:00

มีผู้อ่านทั้งหมด 268648 ครั้ง


ตัวอย่างสัญญาจ้างแรงงานที่มีมาตรฐาน

               สัญญาฉบับนี้ทำขึ้นเมื่อวันที่................................ระหว่างบริษัท.................................................................ซึ่งต่อไปนี้ในสัญญานี้เรียกว่า “บริษัท” กับ........................................................................ซึ่งต่อไปนี้ในสัญญานี้เรียกว่า “ลูกจ้าง” ตำแหน่งงาน..................................................โดยที่ คู่สัญญาฉบับนี้ได้ตกลงที่จะมีนิติสัมพันธ์เชิงนายจ้างลูกจ้างระหว่างกัน และเพื่อตอบแทนคำมั่นและคำรับรองต่าง ๆ ที่ให้แก่กันไว้ในสัญญาฉบับนี้ คู่สัญญาจึงได้ตกลงกันไว้ดังต่อไปนี้

1. บริษัทตกลงจ้างลูกจ้างในตำแหน่งที่ระบุไว้ในตารางที่ 1 แนบท้ายสัญญา และตามที่ลูกจ้างและคณะกรรมการบริษัทจะตกลงกันเป็นอย่างอื่นเป็นครั้งคราวในอนาคต                                                     

หน้าที่ของลูกจ้างที่มีต่อนายจ้าง

2. ตลอดระยะเวลาการจ้างงานตามสัญญาฉบับนี้ ลูกจ้างจะปฏิบัติดังต่อไปนี้

(ก) ปฏิบัติหน้าที่และใช้อำนาจหน้าที่ตามที่คณะกรรมการบริษัทมอบหรือมอบหมายไว้โดยสมควรเป็นครั้งคราว

(ข) อุทิศเวลา ความกาใจใส่ และความสามารถให้กับการปฏิบัติหน้าที่ของตนตามสัญญาฉบับนี้อย่างเต็มที่ ตลอดเวลาทำงานที่ระบุไว้ในข้อ 16 (ค)

(ค) ปฏิบัติตามบรรดาคำร้องขอ คำสั่ง และข้อบังคับอันสมควรของคณะกรรมการบริษัท (หรือบุคคลที่คณะกรรมการบริษัทมอบหมาย) และให้คำชี้แจง ข้อมูล และความช่วยเหลือต่าง ๆ แก่คณะกรรมการบริษัทตามที่คณะกรรมการบริษัทอาจกำหนดตามสมควร

(ง) ตั้งใจปฏิบัติงานให้กับบริษัทโดยสุจริตอย่างเต็มความสามารถของตน และใช้ความอุตสาหะอย่างถึงที่สุดในการค้ำจุนผลประโยชน์ของบริษัท

(จ) ไม่เข้าดำรงตำแหน่ง มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือมีส่วนได้เสีย ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม ในธุรกิจอื่นใดที่เป็นการแข่งขันกับบริษัท ไม่ว่าในฐานะตัวการหรือฐานะอื่นใด โดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากคณะกรรมการบริษัท แต่ทั้งนี้ลูกจ้างมีสิทธิถือหุ้น หุ้นกู้ หรือหลักทรัพย์อื่น ๆ (ที่ไม่ให้สิทธิในการควบคุมกิจการ) ในบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่ได้รับการรับรองแต่ให้ถือไว้เพื่อการลงทุนเท่านั้นสินจ้าง

(ก) เพื่อเป็นสินจ้างตอบแทนแรงงานที่ลูกจ้างจะได้ให้ไว้ตามสัญญาฉบับนี้ บริษัทจะจ่ายเงินเดือนให้แก่ลูกจ้างตามอัตรารายเดือนที่ระบุไว้ในตารางที่ 2 โดยจะจ่ายในวันสุดท้ายของแต่ละเดือน เดือนละเท่า ๆ กัน

                (ข)  เมื่อลูกจ้างทำงานต่อเนื่องจนครบหนึ่งปีแล้วสัญญาฉบับนี้ยังคงอยู่ ในเดือนมกราคมคณะกรรมการ บริษัทจะพิจารณาทบทวนอัตราเงินเดือนที่ระบุไว้ในข้อ (ก) ข้างต้น โดยอาจพิจารณาปรับเพิ่มหรือลดอัตราเงินเดือนดังกล่าว

(ค) โบนัสจะจ่ายให้เป็นรายไตรมาส ทั้งนี้ ขึ้นกับการบรรลุเป้าหมายตามที่ตกลงกำหนดไว้ร่วมกัน ตั้งแต่ช่วงต้นของแต่ละไตรมาส

4. ช่วงเวลา 120 วันแรกของการจ้างงานจะเป็นระยะเวลาทดลองงาน คุณสามารถจะออกจากบริษัทเวลาใดก็ได้และบริษัทสามารถปลดคุณออกได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวหรือจ่ายค่าชดเชยพิเศษ หลังจากสี่เดือนเมื่อคุณได้รับการบรรจุงานเต็มเวลาแล้ว คุณจะต้องแจ้งบริษัทเป็นหนังสือบอกกล่าวภายในหนึ่งเดือนหากคุณประสงค์จะลาออก ขณะเดียวกันบริษัทจะถือตามระเบียบที่วางไว้โดยกฎหมายแรงงานหากบริษัทประสงค์จะเลิกจ้างคุณ

5. วันและเวลาเข้างานโดยปกติจะระบุไว้ในกฎและระเบียบการทำงานของบริษัท............................................

6. ตลอดระยะเวลาการจ้างงานตามสัญญาฉบับนี้ บริษัทจะปฏิบัติดังต่อไปนี้

                (ก) ชำระค่าประกันสุขภาพสำหรับลูกจ้างและคู่สมรสแทนลูกจ้างตามที่ตกลงกันไว้อย่างสม่ำเสมอ

                (ข) หักเงินเดือนในแต่ละปีเพื่อสมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพประเภทไม่มีส่วนร่วมตามที่กฎหมาย กำหนดแทนลูกจ้างอย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้ เมื่อพ้นระยะเวลาทดลองงาน 3 เดือนแล้ว

7. บริษัทจะใช้คืนบรรดาค่าพาหนะ ค่าที่พัก ค่ารับรอง และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อันสมควร ให้แก่ลูกจ้างตามที่คณะกรรมการบริษัทอนุมัติหรือที่เกิดขึ้นตามที่คณะกรรมการบริษัทร้องขอ แต่เมื่อได้รับการร้องขอ ลูกจ้างจะส่งมอบใบสำคัญหรือหลักฐานการชำระเงินอื่นให้แก่บริษัทตามที่บริษัทจะกำหนดตามสมควร

8. บริษัทจะจัดให้ลูกจ้างมีรถยนต์ไว้ใช้ในการปฏิบัติงานและใช้ส่วนตัว ตามที่นโยบายบริษัทจะเห็นว่าเหมาะสมกับระดับเงินเดือนและตำแหน่งของลูกจ้าง บริษัทจะชำระค่าภาษีอากร เบี้ยประกันภัย ค่าบำรุงรักษาซ่อมแซม ค่าเชื้อเพลิง ค่าน้ำมัน และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เกี่ยวกับรถยนต์นั้น เว้นแต่ภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกิดจากการที่ลูกจ้างนำรถยนต์ไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกจากการปฏิบัติงาน ซึ่งให้ลูกจ้างรับผิดชอบกง ไม่ว่าใน

เวลาใด ๆ ลูกจ้างจะปฏิบัติตามบรรดาข้อบังคับกับรถยนต์ที่บริษัทอาจกำหนดไว้เป็นครั้งคราวเพื่อใช้กับรถยนต์ที่บริษัทมอบให้เจ้าหน้าที่หรือลูกจ้างนำไปใช้สอย เมื่อสัญญาฉบับนี้สิ้นสุดลงไม่ว่าด้วยเหตุใด ลูกจ้างจะส่งคืนรถยนต์ให้แก่บริษัทโดยพลัน

วันหยุดและค่าชดเชยวันหยุด

9. วันหยุด ค่าชดเชยวันหยุด และประโยชน์ต่าง ๆ ให้เป็นดังนี้

(ก) นอกจากวันหยุดราชการ ลูกจ้างยังมีสิทธิได้รับวันหยุดอีก 15 วันทำงานในแต่ละปีปฏิบัติโดยได้รับค่าจ้าง ลูกจ้างมีสิทธิใช้วันหยุดดังกล่าวตามเวลาที่คณะกรรมการบริษัทเห็นสมควร ลูกจ้างไม่อาจเลื่อนวันหยุดที่ยังไม่ได้ใช้ไปรวมเข้ากับปีถัดไปหรือใช้วันหยุดเกินกว่าสิบ (10) วันทำงานในคราวเดียวโดยมิได้รับความ ยินยอมจากคณะกรรมการบริษัท

(ข) ในปีปฏิทินสัญญาฉบับนี้เริ่มมีผลหรือสิ้นสุดลง ลูกจ้างมีสิทธิหยุดพักผ่อนประจำปีตามส่วนโดยคำนวณจากระยะเวลาของสัญญาในปีนั้นเมื่อเทียบกับระยะเวลาทั้งปีปฏิทิน เมื่อสัญญาจ้างสิ้นสุดลงไม่ว่าด้วยเหตุใด ลูกจ้างอาจมีสิทธิได้รับเงินเดือนชดเชยวันหยุดที่ยังไม่ได้ใช้หรืออาจต้องคืนเงินเดือนที่ได้รับไว้แก่ บริษัทเพื่อชดเชยวันหยุดที่ใช้ไปเกินกว่าส่วนที่ตนมีสิทธิแล้วแต่กรณี

10. ลูกจ้างได้รับทราบถึงเงื่อนไขในการว่าจ้างของบริษัท และถือปฏิบัติว่าด้วยเรื่องการเปลี่ยนแปลงหน้าที่ความรับผิดชอบต่างแผนก/ฝ่าย หรือส่วนงานของบริษัท โดยบริษัท ไม่จำเป็นต้องขอความเห็นชอบจากท่านล่วงหน้า

11. ถ้าลูกจ้างไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ของตนตามสัญญาฉบับนี้ได้ตามสมควรเพราะเหตุเจ็บป่วยหรือเหตุทุพพลภาพอื่นใด

(ก) ลูกจ้างจะรายงานข้อเท็จจริงดังกล่าวให้สำนักเลขานุการคณะกรรมการบริษัททราบโดยพลัน ในกรณีที่ลูกจ้างไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้เป็นเวลาสาม (3) วันติดต่อกัน ลูกจ้างจะต้องแสดงใบรับรองแพทย์ต่อบริษัทตามสมควรและจะแสดงใบรับรองแพทย์ฉบับต่อ ๆ ไปสัปดาห์ละครั้ง

(ข) นอกจากนี้ ลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงมีสิทธิลาเพื่อคลอดบุตร 90 วัน โดยได้รับค่าจ้างใน 45 วันแรก

ข้อมูลของบริษัทที่เป็นความลับ

12. ตลอดระยะเวลาการจ้างงานตามสัญญาฉบับนี้ (เว้นแต่ในกรณีที่มีเหตุสมควร) และเมื่อสัญญาฉบับนี้สิ้นสุดลงแล้วไม่ว่าด้วยเหตุใด ลูกจ้างจะไม่เปิดเผยให้บุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดทราบหรือนำไปใช้แต่โดยประการอื่นซึ่งความลับเชิงพาณิชย์หรือข้อมูลที่เป็นความลับหรือทางการค้าอันเกี่ยวกับบริษัทหรือตัวแทนหรือลูกค้าของบริษัท ที่ลูกจ้างได้ครอบครองหรืออาจได้ครอบครองในทางการจ้างตามสัญญาฉบับนี้ รวมทั้ง (แต่ไม่เป็นการจำกัดความที่ระบุไว้เป็นการทั่วไปข้างต้น) ความลับเชิงพาณิชย์หรือข้อมูลที่เป็นความลับหรือความลับทางการค้าที่เกี่ยวกับธุรกิจ แบบเทคนิค ข้อมูลการเงิน ไม่ว่าแต่ส่วนหนึ่งส่วนใดหรือหลายส่วน หรือที่เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการที่บริษัทจำหน่าย จัดหา หรือได้มาโดยมีข้อผูกพันต่อบุคคลภายนอกว่าจะต้องรักษาข้อมูลไว้เป็นความลับ แต่ข้อจำกัดสิทธิดังกล่าวไม่บังคับใช้กับกรณีที่เป็นการเปิดเผยข้อมูลโดยได้รับการอนุมัติด้วยมติเอกฉันท์จากคณะกรรมการบริษัท ตลอดจนข้อมูลหรือความรู้ที่ได้กลายเป็นสาธารณสมบัติ

13. ลูกจ้างจะไม่กระทำการดังต่อไปนี้โดยมิได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากคณะกรรมการบริษัท (ทั้งนี้การปฏิเสธมิให้ความยินยอมในกรณีนี้ให้กระทำได้เท่าที่จำเป็นตามสมควรเพื่อการคุ้มครองผลประโยชน์อื่นอันชอบธรรมของบริษัท)

(ก) ภายในระยะเวลาสองปีนับแต่วันที่สัญญาฉบับนี้สิ้นสุดลงไม่ว่าด้วยเหตุใด เข้าเป็นกรรมการตัวการ หุ้นส่วน หรือที่ปรึกษา หรือรับจ้างงานในตำแหน่งระดับผู้บริหารหรือวิชาชีพ ในธุรกิจประเภทใด ๆ อันเป็นการให้บริการแข่งขันกับบริษัท โดยบริการนั้นเป็นบริการในประเภทและลักษณะที่ลูกจ้างมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมีสาระสำคัญในช่วงระยะเวลาสองปีก่อนที่บริษัทจะเลิกจ้าง แต่ความในข้อนี้ไม่เป็นการขัดขวางมิให้ลูกจ้างเข้าดำรงตำแหน่งหรือรับจ้างงานตามที่ระบุข้างต้นในธุรกิจใด ๆ ในกรณีที่หน้าที่หรืองานของลูกจ้างนั้นเกี่ยวข้องกับเฉพาะส่วนที่อยู่นอกเหนือจากที่ระบุไว้ข้างต้นหรือเฉพาะส่วนที่เป็นการให้บริการในประเภทหรือลักษณะที่ลูกจ้างมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมีสระสำคัญในช่วงระยะเวลาสองปีก่อนที่สัญญาฉบับนี้จะสิ้นสุดลง

14 ถ้ามีการบอกเลิกสัญญาฉบับนี้ก่อนที่จะสิ้นสุดระยะเวลาของสัญญาฉบับนี้ เพราะเหตุที่บริษัทต้องถูกชำระ

บัญชีเพื่อวัตถุประสงค์ในการควบบริษัทหรือโอนสินทรัพย์ไปบริษัทใหม่ หรือตามแผนการควบรวม

กิจการของบริษัทที่ไม่เกี่ยวข้องกับการชำระบัญชี หรือถ้ากิจการของบริษัททั้งหมดหรือเกือบทั้งหมดถูก

โอนให้แก่บุคคลอื่น ลูกจ้างจะได้รับข้อเสนอการจ้างงานกับบริษัทใหม่ที่ควบเข้ากันแล้วหรือบริษัทที่รับโอนสินทรัพย์นั้น หรือบุคคลอื่นใด โดยข้อเสนอนั้นจะต้องกำหนดเงื่อนไขต่าง ๆ ที่ไม่น้อยกว่าที่ระบุไว้ในสัญญาฉบับนี้ ทั้งนี้ ลูกจ้างไม่มีสิทธิเรียกร้องใด ๆ ต่อบริษัทจากการที่บริษัทบอกเลิกหรือโอนสัญญาจ้างของตนนั้น

การบอกเลิกสัญญากรณีอื่น ๆ

15. สัญญาฉบับนี้อาจถูกบอกเลิกได้ไม่ว่าในเวลาใด ๆ ที่บริษัทเห็นสมควร

(ก) โดยให้คู่สัญญาฝ่ายหนึ่งทำหนังสือบอกกล่าวให้อีกฝ่ายทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่าหนึ่งเดือนเพื่อให้มีผลตามนั้น หรือ (ในกรณีบริษัทเป็นฝ่ายบอกเลิก) ให้ชำระเงินเดือนแทนการบอกกล่าว คำบอกกล่าวนั้นให้ส่งมอบเมื่อถึงหรือก่อนจะถึงกำหนดจ่ายสินจ้างคราวใดคราวหนึ่งเพื่อให้เป็นผลเมื่อถึงกำหนดจ่ายสินจ้างคราวถัดไปข้างหน้า

(ข) โดยไม่เป็นการเสื่อมสิทธิที่บริษัทจะเรียกร้องให้ลูกจ้างชดใช้ความเสียหายที่เกิดจากการละเมิดหรือไม่ ปฏิบัติตามข้อกำหนดข้อใดข้อหนึ่งในสัญญาฉบับนี้ บริษัทอาจทำหนังสือบอกเลิกสัญญาฉบับนี้ไปยังลูกจ้างโดยให้มีผลโดยพลัน ในกรณีที่ลูกจ้างมีพฤติการณ์ข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้

(1) ล้มละลาย ประนอมหนี้ หรือเข้าทำข้อตกลงจัดสรรชระหนี้ให้แก่บรรดาเจ้าหนี้ของลูกจ้าง หรือ

(2) ตกเป็นผู้ป่วยทางจิต หรือ

(3) ถูกพิพากษาให้จำคุกหรือรอการจำคุกในคงอาญา หรือ

(4) กระทำใด ๆ อันเกี่ยวข้องกับบริษัท บริษัทสาขา ลูกจ้าง หรือลูกค้าของบริษัทโดยทุจริต หรือ

(5) ประพฤติมิชอบอย่างร้ายแรงในประการที่อาจทำให้บริษัทหรือตัวลูกจ้างกงเสื่อมเสียชื่อเสียง ละทิ้งหน้าที่ของตนตามสัญญาฉบับนี้อย่างร้ายแรงหรือซ้ำซาก หรือละเมิดหรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อหนึ่งข้อใดที่เป็นสาระสำคัญของสัญญาฉบับนี้ หรือเพิกเฉย ละเลย หรือปฏิเสธไม่ยอมปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายตามสมควรตามสัญญาฉบับนี้

หน้าที่ภายหลังสัญญาสิ้นสุดลง

16. เมื่อสัญญาฉบับนี้สิ้นสุดลงไม่ว่าด้วยเหตุใด ลูกจ้างจะปฏิบัติดังต่อไปนี้

(ก) ลาออกจากตำแหน่งใด ๆ ที่ลูกจ้างดำรงอยู่ในบริษัท บริษัทแม่ หรือบริษัทสาขาของบริษัทโดยพลัน โดยไม่มีสิทธิได้รับค่าสินไหมทดแทนใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าลูกจ้างไม่ดำเนินการเช่นนั้น บริษัทมีอำนาจอันมิอาจเพิกถอนได้ที่จะแต่งตั้งบุคคลอื่นให้มีอำนาจลงลายมือชื่อในเอกสารและกระทำการใด ๆ อันจำเป็นหรือพึงต้องกระทำเพื่อให้ยังผลแก่การนั้นแทนและในนามของลูกจ้าง

(ข) ส่งมอบให้แก่บริษัทซึ่งบรรดาหนังสือโต้ตอบ แบบร่าง เอกสารกระดาษ เอกสารประเภทอื่น และทรัพย์สินประเภทอื่นทั้งปวงที่เป็นของบริษัทแต่อาจอยู่ในความครอบครองหรือควบคุมของลูกจ้าง (รวมถึงกกสารและทรัพย์สินประเภทดังกล่าวที่อาจได้สร้างหรือจัดทำขึ้นโดยลูกจ้างหรืออยู่ในความครอบครองหรือควบคุมของลูกจ้าง โดยเป็นกกสารหรือทรัพย์สินทีเกี่ยวข้องแต่โดยประการใดประการหนึ่งกับธุรกิจหรือกิจการของบริษัทหรือของผู้จัดหา ตัวแทน ผู้จัดจำหน่าย หรือลูกค้าของบริษัท) และลูกจ้างจะไม่ยึดถือสำเนาไว้โดยมิได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากบริษัท

(ค) ลงนามและส่งมอบหนังสือที่ระบุยืนยันข้อเท็จจริงว่าตนได้ปฏิบัติตามข้อ (ข) ข้างต้นแล้วให้แก่ เลขานุการคณะกรรมการบริษัท เมื่อได้รับการร้องขอ

                (ง) และไม่แสดงตนว่ายังคงมีความเกี่ยวข้องกับบริษัทไม่ว่าในเวลาใด ๆ

17. การสิ้นสุดระยะเวลาของสัญญาหรือบอกเลิกสัญญาฉบับนี้ไม่ว่าด้วยเหตุใด มิให้กระทบต่อความสมบูรณ์ของข้อกำหนดในสัญญาฉบับนี้ที่ระบุไว้ว่าให้มีผลบังคับใช้เมื่อสัญญาสิ้นสุดลง และมิให้เสื่อมสิทธิหรือสิทธิเรียกร้องเยียวยาความเสียหายอื่นใดที่คู่สัญญามีอยู่

18. ทรัพย์สินทางปัญญาทั้งปวงให้ตกเป็นทรัพย์สินของบริษัทแต่เพียงผู้เดียว และให้อยู่ภายใต้บังคับความ

(ก) บรรดาการค้นพบ การประดิษฐ์ กระบวนการ และการปรับปรุงกระบวนการ แบบ หรือสิ่งอื่นใดที่เป็นหรือเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินทางปัญญาประเภทใดประเภทหนึ่งที่ลูกจ้างสามารถทำ สร้าง หรือค้นพบในระหว่างระยะเวลาของสัญญาฉบับนี้อันกระทบหรือเกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัทแต่โดยประการใดประการหนึ่ง หรือสามารถนำไปใช้หรือดัดแปลงเพื่อใช้ในธุรกิจของบริษัทหรือที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัทได้ จะต้องนำมาเปิดเผยให้บริษัททราบทั้งหมดโดยพลันและให้ตกเป็นทรัพย์สินของบริษัท (หรือตัวแทนของบริษัท) โดยเด็ดขาด และลูกจ้างจะไม่นำไปเผยแพร่ให้บุคคลอื่นทราบ

(ข)  เมื่อได้รับการร้องขอและเท่าที่ได้รับการร้องขอ (ไม่ว่าก่อนหรือหลังสัญญาฉบับนี้สิ้นสุดลง) ลูกจ้างจะยื่นหรือร่วมยื่นคำขอรับหนังสือรับรอง สิทธิบัตร หรือความคุ้มครองอื่นใดในประเทศต่าง ๆ สำหรับสิ่งที่ระบุไว้ข้างต้น โดยบริษัทจะออกค่าใช้จ่ายให้ และลูกจ้างจะลงนามในตราสารทั้งปวงและกระทำการใด ๆ ตามที่อาจจะจำเป็นหรือสมควรเป็นครั้งคราวแก่การที่บริษัท (หรือตัวแทนของบริษัท) จะได้มาซึ่งสิทธิ กรรมสิทธิ์ และผลประโยชน์ในสิ่งนั้น โดยเด็ดขาดและในฐานะเจ้าของแต่เพียงผู้เดียว (เท่าที่จำเป็นหรือสมควรแก่การนั้น)

ข้อกำหนดและเงื่อนไขอื่น ๆ

19. ข้อกำหนดและเงื่อนไขของสัญญามีดังนี้

              (ก) บริษัทจะเริ่มว่าจ้างลูกจ้างในวันที่................................

              (ข) ระยะเวลาการจ้างงานของลูกจ้างกับนายจ้างเดิมจะไม่นำมารวมเป็นระยะเวลาการจ้างงานต่อเนื่องกับบริษัท

               (ค) เวลาทำงานของลูกจ้างให้สอดคล้องความจำเป็นแก่การปฏิบัติหน้าที่ของลูกจ้างโดยสมควร ตามสัญญาฉบับนี้เพื่อให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการบริษัทต้องการ

                (ง) ถ้าลูกจ้างไม่พอใจกับการดำเนินการทางวินัยหรือมีความเดือดร้อนอันใดเกี่ยวกับสัญญาฉบับนี้ ลูกจ้างพึงเสนอข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการดำเนินการทางวินัยและความเดือดร้อนนั้นต่อคณะกรรมการบริษัท เพื่อให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทพิจารณาและลงมติเกี่ยวกับข้อร้องเรียนดังกล่าวต่อไป

(จ) เว้นแต่จะได้ระบุไว้เป็นอย่างอื่นในสัญญาฉบับนี้ คู่สัญญามิได้ตกลงกันเกี่ยวกับข้อกำหนดหรือเงื่อนไขการจ้างงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเวลาทำงาน งาน เวลาทำงานปกติ สิทธิได้รับวันหยุด (รวมทั้งวันหยุดราชการ) ค่าชดเชยวันหยุด เหตุทุพพลภาพเพราะความเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บ หรือเงินหรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

20. คำบอกกล่าวใด ๆ ตามสัญญาฉบับนี้ให้ทำเป็นหนังสือ คำบอกกล่าวแก่ลูกจ้างให้ถือว่าส่งโดยชอบถ้าส่งมอบให้แก่ลูกจ้างด้วยตนเองหรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนจ่าหน้าลูกจ้างตามสถานที่อยู่ปกติหรือสถานที่อยู่ล่าสุดของลูกจ้าง คำบอกกล่าวแก่บริษัทให้ถือว่าส่งโดยชอบถ้าส่งมอบให้แก่ผู้จัดการทั่วไปหรือส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนจ่าหน้าสำนักงานแห่งใหญ่ของบริษัท คำบอกกล่าวที่ส่งทางไปรษณีย์ให้ถือว่าส่งแล้วเมื่อครบ 7 วันนับวันส่งไปรษณีย์

21. ให้ใช้กฎหมายไทยบังคับกับสัญญาฉบับนี้ และบรรดาข้อพิพาทให้ยื่นต่อและวินิจฉัยโดยศาลไทย

22. ถ้อยคำใด ๆ ในสัญญาฉบับนี้ที่มีความหมายจำเพาะแต่เพศใดเพศหนึ่ง ให้มีผลบังคับใช้กับเพศอื่นด้วยแล้วแต่กรณี

          ลงชื่อ..............................................                                                           ลงชื่อ...............................................

                 (...............................................)                                                               (..............................................)

          บริษัท............................................                                                                                       ลูกจ้าง

ตำแหน่งงาน        .........................................................................................

เงินเดือน .................บาทต่อเดือน จะพิจารณาทบทวนอัตราเงินเดือนจกครั้งเมื่อสิ้นเดือน...............พ.ศ........