ต่างชาติทํางานในไทย เสียภาษี

ประเทศไทยของเราทุกวันนี้มีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาอยู่กันมากขึ้น ซึ่งก็จะมีทั้งที่เข้ามาแบบชั่วคราวหรือเข้ามาท่องเที่ยวแบบเข้ามาแล้วออกไป กับแบบที่เข้ามาอยู่ประจำลงหลักปักฐานเป็นที่อาศัยและเข้ามาทำงานหรือมีหน้าที่การงานในประเทศไทยเลยนั้นก็มีอยู่จำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งทีนี้ก็มีประเด็นที่น่าสนใจว่า ชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาทำงานในประเทศไทยกับในทางภาษีแล้ว พวกเขาต้องเสียภาษีหรือไม่เสียอย่างไร แล้ววิธีคิดภาษีต่างกับคนไทยหรือไม่

 

หลักการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

ก่อนอื่นมาดูหลักการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของประเทศไทยเรากันก่อนว่า ประเทศไทยเราจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาโดยใช้หลักแหล่งเงินได้ตามมาตรา 41 แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งมีประเด็นสำคัญคือแหล่งเงินได้ภายในประเทศ และแหล่งเงินได้ภายนอกประเทศ โดยสรุปได้ดังนี้

 

  1. แหล่งเงินได้ภายในประเทศ ซึ่งจะต้องเสียภาษีเงินได้ หากเป็นกรณี

(1) มีเงินได้จากหน้าที่งานหรือกิจการที่ทำในประเทศไทย

(2) มีเงินได้จากกิจการของนายจ้างในประเทศไทย

(3) มีเงินได้จากทรัพย์สินที่อยู่ในประเทศไทย

 

ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือเป็นชาวต่างชาติหากมีเงินได้จากแหล่งเงินได้เกิดขึ้นในประเทศไทยกฎหมายกำหนดให้ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในประเทศไทยทั้งนั้น ไม่ว่าเงินได้นั้นจะจ่ายในหรือนอกประเทศ และจะอาศัยอยู่ในประเทศไทยหรือไม่ก็ตาม

 

  1. แหล่งเงินได้ภายนอกประเทศ ซึ่งจะต้องเสียภาษีเงินได้ ต่อเมื่อเข้าเงื่อนไขดังต่อไปนี้ครบทุกข้อ คือ

(1) มีเงินได้จากหน้าที่งานหรือกิจการที่ทำในต่างประเทศหรือจากทรัพย์สินที่อยู่ในต่างประเทศ

(2) ได้นำเงินได้ที่เกิดขึ้นในต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทยในปีภาษีนั้น

(3) ผู้มีเงินได้นั้นอยู่อาศัยในประเทศไทยถึง 180 วันในปีภาษีนั้น (แม้จะอยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่งหรือ เข้า ๆ   ออก ๆ แต่เมื่อรวมกันแล้วถึง 180 วันในปีภาษี ก็ถือว่าเป็นผู้อยู่ในประเทศไทย)

 

ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือเป็นชาวต่างชาติหากมีเงินได้ที่เกิดขึ้นในต่างประเทศและได้นำเงินได้ที่เกิดขึ้นนั้นเข้ามาในประเทศไทยในปีภาษีนั้น และได้อาศัยอยู่ในประเทศไทยถึง 180 วัน ก็ต้องนำเงินได้นั้นมาเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาด้วยเหมือนปกติเช่นกัน

 

ชาวต่างชาติเสียภาษีเงินได้อย่างไร

กรณีจ้างแรงงานชาวต่างชาติเข้ามาทำงาน ผู้ที่จ่ายเงินได้ให้กับบุคคลธรรมดาชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายเมื่อจ่ายเงินได้ให้ชาวต่างชาติด้วยทุกครั้ง แม้บางครั้งชาวต่างชาตินั้นจะอาศัยอยู่ในประเทศไทยไม่ครบ 180 วันในปีภาษีก็ตาม เพราะถือหลักว่า เป็นกรณีแหล่งเงินได้เกิดขึ้นในประเทศไทย เว้นแต่จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ตามอนุสัญญาภาษีซ้อนที่ประเทศไทยได้ทำไว้กับประเทศที่มีข้อตกลงการเว้นการเก็บภาษีซ้อนเท่านั้น

 

โดยในส่วนของนายจ้าง หากเป็นบริษัทที่เป็นผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (1) หรือ (2) แห่งประมวลรัษฎากร บริษัทมีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 50 (1) แห่งประมวลรัษฎากรโดยการคำนวณหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ให้คูณเงินได้พึงประเมินที่จ่ายด้วยจำนวนคราวที่ต้องจ่าย เพื่อให้ได้จำนวนเงินเสมือนหนึ่งว่าได้จ่ายทั้งปี แล้วคำนวณภาษีตามมาตรา 48 แห่งประมวลรัษฎากร ได้เงินภาษีทั้งสิ้นเท่าใด ให้หารด้วยจำนวนคราวที่จะต้องจ่าย ได้ผลลัพธ์เป็นเงินเท่าใด ให้หักภาษีไว้จำนวนเท่านั้น

 

การยื่นแบบเสียภาษีเงินได้มีหลักเกณฑ์อย่างไร

หลักการสำคัญของการยื่นแบบฯ เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของชาวต่างชาติที่ไม่ว่าจะเดินทางเข้ามาในประเทศไทยโดยผิดกฎหมายหรือไม่ก็ตาม หากมีเงินได้จากหน้าที่งานหรือกิจการที่ทำในประเทศไทย หรือเนื่องจากกิจการของนายจ้างในประเทศไทย บุคคลดังกล่าวก็มีหน้าที่ต้องนำเงินได้ที่ได้รับมารวมคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในประเทศไทย ตามมาตรา 41 วรรคหนึ่งแห่งประมวลรัษฎากร โดยพอสรุปได้ดังนี้

 

  1. กรณีบุคคลธรรมดาชาวต่างชาติ มีเงินได้จากการจ้างแรงงาน ซึ่งเป็นเงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา 40 (1) แห่งประมวลรัษฎากร บุคคลดังกล่าวมีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หากมีเงินได้ถึงเกณฑ์ดังต่อไปนี้

(ก) กรณีไม่มีสามีหรือภริยาและมีเงินได้พึงประเมินในปีภาษีที่ล่วงมาแล้วเกิน 120,000 บาท

(ข) กรณีมีสามีหรือภริยาและมีเงินได้พึงประเมินในปีภาษีที่ล่วงมาแล้วเกิน 220,000 บาท

บุคคลดังกล่าวมีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.91) ภายในเดือนมีนาคมของปีถัดไป โดยในการคำนวณภาษี ให้นำเงินได้พึงประเมิน หักด้วยค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาได้ร้อยละ 50แต่รวมกันไม่เกิน 100,000 บาท แล้วหักด้วยค่าลดหย่อน คงเหลือเท่าใด เป็นเงินได้สุทธินำไปคำนวณภาษีตามอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

 

  1. กรณีบุคคลธรรมดาชาวต่างชาติ มีเงินได้จากการจ้างแรงงานและเงินได้ประเภทอื่น ๆ ด้วย กฎหมายถือเป็นผู้มีเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (2) แห่งประมวลรัษฎากร บุคคลดังกล่าวมีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้

บุคคลธรรมดา หากมีเงินได้ถึงเกณฑ์ดังต่อไปนี้

(ก) กรณีไม่มีสามีหรือภริยาและมีเงินได้พึงประเมินในปีภาษีที่ล่วงมาแล้วเกิน 60,000 บาท

(ข) กรณีมีสามีหรือภริยาและมีเงินได้พึงประเมินในปีภาษีที่ล่วงมาแล้วเกิน 120,000 บาท

 

บุคคลดังกล่าวมีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.90) ภายในเดือนมีนาคมของปีถัดไป โดยในการคำนวณภาษี ให้นำเงินได้พึงประเมินหักด้วยค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาได้ร้อยละ 50

แต่รวมกันไม่เกิน 100,000 บาท แล้วหักด้วยค่าลดหย่อน คงเหลือเท่าใดเป็นเงินได้สุทธินำไปคำนวณภาษีตามอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และสำหรับผู้มีเงินได้พึงประเมินตั้งแต่ 120,000 บาทขึ้นไป โดยไม่รวมเงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา 40 (1) แห่งประมวลรัษฎากร ต้องคำนวณภาษีจากเงินได้พึงประเมินคูณด้วยร้อยละ 0.5 ได้ภาษีจำนวนเท่าใดให้นำไปเปรียบเทียบกับภาษีที่คำนวณได้ตามวิธีแรก โดยให้เสียภาษีเงินได้จากจำนวนเงินภาษีที่มากกว่า

 

ทั้งนี้ สำหรับเงินได้สุทธิในปีภาษีเฉพาะส่วนที่ไม่เกิน 150,000 บาท ยังคงได้รับยกเว้นตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 470) พ.ศ. 2551 อยู่ต่อไป

 

จากหลักการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาข้างต้น อาจสรุปได้อีกว่า ไม่ว่าผู้มีเงินได้จะเป็นคนไทยหรือเป็นชาวต่างชาติ เมื่อมีเงินได้เกิดขึ้นก็มีหน้าที่ต้องเสียภาษี แต่จะมีหน้าที่ต้องยื่นแบบฯ หรือไม่ก็ขึ้นอยู่ว่าคุณมีเงินได้ถึงเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดข้างต้นหรือไม่ ในที่นี้หวังว่าผู้มีเงินได้ไม่ว่าจะเป็นชาวต่างชาติ หรือคนไทย ที่มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา รวมทั้งผู้มีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย คงจะได้รับข้อมูลเพื่อจะได้ปฏิบัติได้อย่างถูกต้องต่อไป

ชาวต่างชาติต้องเสียภาษีไหม

“(1) คนต่างด้าวผู้ต้องรับผิดเสียภาษีอากรหรือนำส่งภาษีอากรที่ค้างชำระหรือที่จะต้องชำระตาม การประเมินของเจ้าพนักงานประเมินอยู่ก่อนหรือในขณะเดินทางออกนอกราชอาณาจักร” (แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศอธิบดีกรมสรรพากร ใช้บังคับ 1 พฤศจิกายน 2534 เป็นต้นไป)

ต่างชาติเสียภาษีอย่างไร

A9 : บุคคลธรรมดาต่างด้าว (ชาวต่างชาติ) ต้องดำเนินการขอมีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร ณ สำนักงานกรมสรรพากรพื้นที่หรือสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาในเขตท้องที่ที่มีภูมิลำเนา หรือถิ่นที่อยู่ หรือสำนักงานประจำตั้งอยู่ก่อน จึงจะสามารถลงทะเบียนยื่นแบบฯ ทางอินเทอร์เน็ตได้

ต่างชาติสามารถลดหย่อนภาษีได้ไหม

ชาวต่างชาติเข้ามาทำงานในไทยเกิน 180 วัน ถือว่าผู้มีเงินได้เป็นผู้อยู่ในไทย สามารถหักลดหย่อนภริยาได้ ไม่ว่าภริยาจะอยู่ในไทยหรืออยู่ต่างประเทศ โดยหักลดหย่อนภริยาได้จำนวน ฿60,000 และสามารถหักลดหย่อนบุตรได้ ไม่ว่าบุตรจะอยู่ในไทยหรืออยู่ต่างประเทศโดยหักลดหย่อนบุตรได้อีกคนละ ฿30,000.

มีรายได้จากต่างประเทศต้องเสียภาษีไหม

ฉะนั้นฟรีแลนซ์คนใดที่อยู่ประเทศไทยตั้งแต่ 180 วัน และนำเงินค่าจ้างจากต่างประเทศเข้ามาในปีนั้นๆ ก็เข้าข่ายที่จะต้องเสียภาษีตามกฎหมายไทย ยกเว้นกรณีที่เปิดบัญชีไว้ที่ต่างประเทศ และไม่ได้นำเงินก้อนนั้นเข้าในไทยเลยในรอบปีภาษี