ความเสียหายที่ประเทศไทยได้รับจากพิบัติภัยคลื่นสึนามิ พิบัติภัยจากคลื่นสึนามิเมื่อวันที่ ๒๖ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ ถือเป็นภัยธรรมชาติร้ายแรงมากที่สุด เท่าที่ประเทศไทยเคยได้รับ ถึงแม้ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจะมากเป็นอันดับ ๔ รองจากประเทศอินโดนีเซีย ศรีลังกา และอินเดีย ก็ตาม การที่พิบัติภัยจากคลื่นสึนามิมีความรุนแรงมากเป็นเพราะสาเหตุต่างๆ ดังนี้ ๑. ประเทศไทยยังไม่มีระบบเตือนภัยคลื่นสึนามิ และขาดเจ้าหน้าที่ ซึ่งมีความรู้ความชำนาญ เกี่ยวกับเรื่องคลื่นสึนามิโดยตรง ทั้งนี้ เนื่องจากในบริเวณทะเลอันดามันไม่เคยเกิดพิบัติภัย จากคลื่นสึนามิมาก่อน ประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ที่อยู่ติดชายฝั่งทะเลอันดามัน จึงขาดการระมัดระวังป้องกันภัย ไม่เหมือนกับประเทศที่อยู่ในบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งมีการสร้างระบบเตือนภัยจากคลื่นสึนามิไว้เรียบร้อยแล้ว ในตอนเช้าของวันที่ ๒๖ ธันวาคม นั้น กรมอุตุนิยมวิทยาซึ่งมีเครื่องตรวจจับความสั่นสะเทือนของแผ่นเปลือกโลกจากแผ่นดินไหวอยู่ที่สำนักงาน ได้ทราบว่าเกิดแผ่นดินไหวขึ้นที่บริเวณนอกฝั่งตะวันตกของหัวเกาะสุมาตรา จึงได้ออกประกาศแจ้งให้ประชาชนทราบ แต่มิได้มีการเตือนภัยว่าจะมีคลื่นสึนามิเกิดขึ้น เพราะไม่มีเครื่องมือตรวจวัดความสูงของคลื่นในทะเล และเจ้าหน้าที่ก็มิได้มีความรู้ความชำนาญ เกี่ยวกับเรื่องคลื่นสึนามิด้วย ดังนั้นเมื่อเกิดคลื่นสึนามิขึ้นที่เกาะสุมาตรา และกำลังเคลื่อนตัวเข้ามา ที่พื้นที่ชายฝั่งภาคใต้ของไทย จึงไม่มีการแจ้งเตือนภัยให้ประชาชนในท้องถิ่นได้ทราบล่วงหน้า ทำให้เกิดความสูญเสียเป็นจำนวนมาก แผนภาพแสดงการเปลี่ยนแปลงของคลื่นสึนามิ ขณะเคลื่อนที่จากท้องทะเลเข้าสู่ฝั่ง ๒. บริเวณที่มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บเป็นจำนวนมากอยู่ในพื้นที่ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชายฝั่งทะเล ที่สำคัญของไทย และเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ นิยมเดินทางมาพักผ่อนกันมาก ประกอบกับอยู่ในช่วงเวลาเทศกาลคริสต์มาส และใกล้วันปีใหม่ จำนวนนักท่องเที่ยวจึงมีมากเป็นพิเศษ เมื่อเกิดพิบัติภัยขึ้น จำนวนผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจึงมีทั้งนักท่องเที่ยว และคนในท้องถิ่น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่เดินทางมาจากประเทศในยุโรปเหนือ เช่น สวีเดน นอร์เวย์ และเดนมาร์ก มีจำนวนมากกว่านักท่องเที่ยวชาติอื่นๆ ๓. นักท่องเที่ยว และคนในท้องถิ่นส่วนใหญ่ไม่มีความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับปรากฏการณ์ คลื่นสึนามิมาก่อน จึงขาดการเฝ้าระวังภัยและการหนีภัย ดังจะเห็นได้จากกรณีนักท่องเที่ยวจำนวนหนึ่ง เดินลงไปดูที่บริเวณชายหาด เมื่อเกิดน้ำลงผิดปกติก่อนที่คลื่นใหญ่จะเคลื่อนตัวเข้ามา และเมื่อคลื่นถาโถมเข้ามา ก็ไม่สามารถหนีภัยได้ทัน ต้องเสียชีวิตทั้งหมด นอกจากนี้ ผู้ที่พักอยู่ในบังกะโล หรือนั่งพักผ่อนอยู่ที่ร้านค้า และร้านอาหารบริเวณชายหาด ส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถหนีภัยได้ทันเช่นกัน ๔. เนื่องจากเป็นพิบัติภัยที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกทั้งมิได้มีการเตรียมแผนแก้ไขสถานการณ์ไว้ล่วงหน้า การช่วยเหลือผู้ที่รอดชีวิตและบาดเจ็บจึงเป็นไปอย่างขลุกขลักและล่าช้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแหล่งท่องเที่ยว ที่เป็นเกาะห่างจากฝั่ง ความช่วยเหลือไปถึงล่าช้ากว่าบนพื้นแผ่นดินใหญ่ จำนวนผู้เสียชีวิตจากการบาดเจ็บ จึงมีเพิ่มมากขึ้น ภาพจำลอง ๓ มิติ ถ่ายจากดาวเทียม IKONOS แสดงบริเวณชายฝั่งทะเล จังหวัดพังงา บันทึกภาพเมื่อ วันที่ ๒๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ ความเสียหายที่เกิดขึ้นในด้านต่างๆ ก. ความเสียหายด้านชีวิตและทรัพย์สิน จากรายงานเบื้องต้น เมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๘ หลังการเกิดพิบัติภัยคลื่นสึนามิได้ ๑๕ วัน ได้ระบุจำนวนของผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และผู้สูญหาย ไว้ในตารางข้างล่างนี้ จะเห็นได้ว่า จำนวนผู้เสียชีวิตที่เป็นคนต่างชาติมีถึง ๑,๒๔๐ คน จากจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด ๕,๓๐๙ คน นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียชีวิตที่ไม่ทราบว่าเป็นคนไทยหรือคนต่างชาติอีก ๒,๓๔๑ คน ส่วนผู้สูญหายจำนวนทั้งหมด ๓,๓๗๐ คน นั้น ได้มาจากการรับแจ้งต่อทางราชการจากญาติพี่น้องของผู้ประสบภัยภายหลังการเกิดเหตุ ต่อมา จำนวนดังกล่าวนี้ลดลง เพราะได้พบผู้ที่รับแจ้งว่าสูญหายบางคนแล้ว นอกจากนี้ ยังมีการค้นพบศพผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น รวมทั้งมีการตรวจสอบเอกลักษณ์ของศพ ที่เก็บรักษาไว้ เพื่อให้ทราบว่า เป็นผู้ใด ในรายงานของกระทรวงมหาดไทยที่เสนอต่อคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๘ หลังเกิดเหตุการณ์คลื่นสึนามิได้ ๓ เดือนเศษ ได้มีการเปลี่ยนแปลงตัวเลขผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บและผู้สูญหาย แยกเป็นคนไทยและคนต่างชาติดังนี้ นอกจากจะมีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บ และสูญหายเป็นจำนวนมากแล้ว ยังมีความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สิน เป็นจำนวนมากเช่นกัน ได้แก่ อาคารของโรงแรมขนาดใหญ่ ที่พักของนักท่องเที่ยวประเภทบังกะโล และเกสต์เฮาส์ ร้านค้าและร้านอาหารบริเวณชายหาด บ้านเรือนของราษฎรที่มีอาชีพทางการประมง ทรัพย์สินส่วนตัวของนักท่องเที่ยวที่ประสบภัย ยานพาหนะ เรือประมง และเรือของหน่วยงานราชการ ตลอดจนสาธารณูปโภคของท้องถิ่น เช่น ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ ถนนหนทาง ความเสียหายที่เกิดขึ้น กับทรัพย์สินเหล่านี้ ถ้าคิดเป็นมูลค่าแล้ว มีจำนวนหลายพันล้านบาท ภาพถ่ายจากดาวเทียม IKONOS บริเวณ บลูวิลเลจปะการังรีสอร์ท ตำบลคึกคัก อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา บันทึกภาพ เมื่อวันที่ ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๖ แสดงพื้นที่ก่อนประสบภัยคลื่นสึนามิ ภาพถ่ายจากดาวเทียม IKONOS บันทึกภาพ เมื่อวันที่ ๒๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ แสดงพื้นที่เดียวกันหลังประสบภัยคลื่นสึนามิ ข. ความเสียหายด้านเศรษฐกิจ ความเสียหายด้านเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดคือ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เนื่องจาก บริเวณที่ได้รับพิบัติภัยหลายแห่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมาก มีการลงทุนสร้างโรงแรมที่พัก ในระดับต่างๆ รวมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว นอกจากจะเสียหายในด้านทรัพย์สินแล้ว การหยุดกิจการของธุรกิจต่างๆ ที่ประสบพิบัติภัยยังทำให้บุคลากรเป็นจำนวนมากต้องสูญเสียรายได้ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของกิจการเอง หรือพนักงานลูกจ้างของกิจการนั้นๆ ถึงแม้ว่ากิจการอื่นๆ ที่ไม่ประสบพิบัติภัยโดยตรงยังสามารถดำเนินงานอยู่ได้ ก็อาจมีปัญหาการขาดแคลนลูกค้า เนื่องจาก นักท่องเที่ยวเกิดความเกรงกลัว ไม่กล้าเดินทางมาเสี่ยงภัยอีก ปรากฏว่าภายหลังการเกิดภัยคลื่นสึนามิ จำนวนนักท่องเที่ยวใน ๖ จังหวัดภาคใต้ได้ลดลงอย่างเห็นได้ชัด จังหวัดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ ภูเก็ต พังงา และกระบี่ ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวเสียชีวิตและบาดเจ็บมากที่สุด โดยรวมแล้ว แหล่งท่องเที่ยว ที่ประสบความเสียหายมาก มี ๘ แห่งดังนี้ คือ
ค. ความเสียหายด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คลื่นสึนามิที่ซัดเข้าสู่ฝั่งด้วยพลังแรง และมีระดับยอดคลื่นสูงหลายเมตร ย่อมก่อให้เกิดความเสียหาย แก่ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมบนชายฝั่งได้มาก ซึ่งไม่สามารถประเมินค่าเป็นตัวเงินได้ ตัวอย่าง ของความเสียหายที่สำคัญๆ ได้แก่
|