ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี

หลังจากอิ่มแล้วก็เดินเล่นไปมา พยายามอยู่นานที่จะไม่เข้าไปใน King Powder Duty Free แต่สายตาก็ดันดีเกิ๊นนน เหลือบไปเห็นยี่ห้อ The History of Whoo เป็นเครื่องสำอางจากเกาหลีซึ่งแพ็คเกจสวยมากๆ ก็เลยกะว่าจะซื้อลิปสักแท่งละกัน เอามาลองดูว่าดีมั้ย ถ้าดีก็มีขายในเคาน์เตอร์บ้านเราก็ค่อยซื้อ แต่ดันเหลือบไปเห็น Cushion อีก ก็เลยโดนมา 2 สิ่งค่ะ แต่บอกเลยว่าคุ้มค่ามาก ลิปสติกแท่งละ 1,400 บาท Cushion ตลับละ 1,800 บาท (มีรีฟิลด้วย) แล้วจ๊ะจ๋าเป็นสมาชิกคิงพาวเวอร์ก็ได้ส่วนลดไปอีก 10% กรีดร้องงงง นี่กำลังจะหยิบลิปสติกเพิ่มอีก 3-4 แท่ง แต่แฟนเบรคไว้ก่อน ฮ่าๆ

ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี

ก็นั่งเครื่องบินมา หลับตั้งแต่เครื่องบินยังไม่ขึ้นเลยค่ะ ฮ่าๆ มาถึงที่ปีนังประมาณ 4 โมงครึ่ง (ต้องปรับเวลาบวก 1 ชั่วโมงจากไทยนะคะ)

ระหว่างที่กำลังเดินตามทางไปเรื่อยๆก็เจอร้านขายซิมการ์ดเลยแวะซื้อก่อน เห็นมีค่ายสีแดงกับสีเหลือง แต่สีเหลืองคนมุงเต็มเลยขี้เกียจรอ ซื้อของค่ายสีแดงมา 26RM (RM = ริงกิต, เรทตอนที่ไปประมาณ 9 บาท/ 1 RM)

ก็เข้าแถวด่านตม. จู่ๆก็เจอผู้หญิงวัยประมาณ 30 ปีเดินมาข้างๆ เราก็หันไปมองข้างหลังก็เห็นแถวมันยาวแล้วไม่มีที่ยืน ก็เข้าใจว่าเค้าคงจะซ้อนแถวสองแล้วรอเข้าทีหลัง แต่พอแถวขยับเท่านั้นล่ะ เจ้แกรีบเดินจะแซงเข้ามาข้างหน้า นี่ก็ไม่ยอมค่ะ ยืนต่อคิวตั้งนานจะมาแซงซะงั้น เพื่อนๆเจ้ก็สะกิดนางนะบอกให้ไปเข้าคิวด้านหลัง นางทำมึนเดินไปแซงคนข้างหน้าเฉยเลย เห็นพาสปอร์ตคือคนจีนค่ะ อื้มมมม ชื่อเสีย(ง)ล่ำลือไกล

ด่านตม.ที่นี่ไม่ต้องกรอกเอกสารเหมือนที่เคยเข้าประเทศอื่น ก็สะดวกดีแฮะ

จากนั้นก็เดินออกมารอรับกระเป๋าค่ะ สนามบินที่นี่เป็นสนามบินไม่ใหญ่มาก เลยทำให้แถวที่รอคิวออกนั้นยาวเหยียดเลย เราก็ต่อคิวปกติ แต่แล้วจู่ๆก็มีผู้ชายหน้าจีนๆมาพร้อมกระเป๋าเดินมาจะแซงตรงหน้าเลย (ทำไมดวงโดนคนเอาเปรียบตลอดเลยเนี่ย - -") แต่ก็ไม่สำเร็จเพราะฝรั่งด้านหลังตัวใหญ่เค้ากระดิกนิ้วแล้วพูดว่า "Hey! Line up!" อู้วววว ตอนนั้นนี่หันไปยิ้มให้เลย เพราะเราก็ไม่กล้าพูดไล่ตรงๆ เพราะไซส์ห่างกับคนจีนนั้นเยอะเลย

ต่อไปคือการเดินทางไปยังที่พักค่ะ ตั้งใจว่าจะนั่งบัสไปละกันเพราะประหยัดดี (คนละประมาณ 4RM มั้งไม่แน่ใจ) ก็เดินลากกระเป๋าออกมาตรงที่รอรถบัส แล้วก็ไม่มาสักที คือแดดที่ปีนังร้อนมากกกกก แสบผิวขั้นแม็กซ์เลยค่ะ

ระหว่างที่ยืนรอรถอยู่นั้นก็มีคนขับแท็กซี่เดินมาถามว่าเราจะไปไหน ก็บอกไปว่าจะไป Batu Ferringhi (อยู่ติดทะเลทางตอนเหนือของปีนัง ส่วนสนามบินอยู่ทางตอนใต้) เค้าก็บอกว่า Seventeen RM ก็เลยหันไปมองหน้ากับแฟน เอ้ย!ไม่แพงหนิ งั้นนั่งแท็กซี่ละกัน ไม่ยืนรอละ มันร้อนมาก

ขณะอยู่ในรถเค้าก็ชวนเราคุยเรื่อยๆ คนขับรีบออกตัวว่าเค้าเป็นคนขับ Uber นะ แต่ไม่ต้องใช้ Application เอา Name card ไปแล้วโทรมาถ้าอยากจะไปเที่ยวไหน เค้าออกตัวแรงว่าไม่ต้องกังวลนะ แท็กซี่ที่นี่โนชีตติ้ง #ยิ้มอ่อน

ระหว่างที่นั่งไปเรื่อยๆนั่นแทบอยากจะอาเจียนค่ะ เพราะเค้าเลือกเส้นทางเลี่ยงรถติด จากที่จะต้องผ่านตัวเมืองก็ไปขับลัดเลาะเขาแทน คือมึนมาก โค้งอะไรจะเยอะขนาดนั้น ระหว่างทางจู่ๆก็คุยเรื่องอะไรกันสักอย่างแล้วไปสะดุดตรงที่ว่าเนี่ยยูขึ้นรถแท็กซี่มาอ่ะถูกแล้ว ถ้ารอรถบัสนะกว่าจะถึงก็อีกนานเพราะตอนนี้รถติดมาก เวลาเลิกงาน แค่ 70 RM เอง เราก็ เอ๊ะ! เดี๋ยวนะ! ตอนที่คุยตอนแรกคือย้ำแล้วนะ ถามแล้วด้วยว่า 17 RM ใช่มั้ย เค้าก็เยสๆ Seventeen พอขึ้นรถมาทำไมมันพูดชัดเป็น Seventy เลยล่ะ มีย้ำอีกที Seven-Zero ไอ้เราก็หันหน้ามองกัน เอาละไง พี่แท็กเล่นละไง ฮ่าๆๆๆๆ ขำแรง

คือก่อนมาเนี่ยมีเพื่อนของแฟนเค้าก็เตือนมาแล้วว่าแท็กซี่ที่นี่แพงนะ แล้วก็โก่งราคาสุดๆเลยโดยเฉพาะกับนักท่องเที่ยวเนี่ย แต่ตอนนี้ไม่ทันละ นั่งรถเค้ามาเป็นชั่วโมงละไง ก็จ่ายไปเลยจ้ะ 70 RM


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
จ๊ะจ๋าจองที่พักไว้ที่ Roomie's suite คือตอนแรกบอกเลยว่าไปคนละที่ ไปที่ Roomie's guesthouse มาแบบว่าหลอกหลอนมาก ด้านล่างตึกน่ากลัวสุดๆ แต่ข้างบนก็โอเคนะ แต่คือนอนรวมไง แบบเป็น Dorm อ่ะ เตียง 2 ชั้น ซึ่งไม่ใช่อย่างที่จองมา เค้าก็บอกว่ายูมาผิดที่นะ อีกที่ถัดจากตรงนี้ไปประมาณ 700 เมตร ก็เลยต้องเดินลงบันไดไป มันจะไม่อะไรเลยถ้าไม่ได้แบกกระเป๋าใบใหญ่เดินขึ้นบันไดมา 4 ชั้นน่ะ

แล้วก็มาถึง Roomie's Suite (ในรูปด้านบน) ก็ทำการเช็คอินกันไป ที่นี่ต่างกับอีกที่คนละขั้วเลยค่ะ ค่าห้องพักที่ Roomie's guesthouse จ่ายคนละประมาณ 300 กว่าบาท แต่ที่ Roomie's Suite คืนละประมาณ 1,4xx บาทรวมอาหารเช้า แต่บอกเลยว่าจองมา 3 คืน ไม่เคยทานอาหารเช้าของที่พักเลย ฮ่าๆ


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี

ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
นี่ก็มีคนไทยมาพักเยอะแยะ


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี

ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี

ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
ลืมถ่ายทางเข้าห้องพักมาค่ะ ที่นี่จะใช้คีย์การ์ดเข้าประตูรวมก่อนแล้วใช้กุญแจไขประตูห้อง ไซส์ห้องก็ไม่เล็กไม่ใหญ่ค่ะ สมราคา โอเคอยู่ ห้องยังดูใหม่ ไม่เก่า ไม่มีกลิ่นอับ หมอนกับเตียงยังนุ่มดี มีผ้าเช็ดตัว 2 ผืน ผ้าเช็ดหน้าผืนเดียวและไดร์เป่าผม คืองงว่าทำไมถึงไม่มีผ้าเช็ดหน้า 2 ผืนล่ะ


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
น้ำเปล่าและถั่วเป็น Complimentary ค่ะ


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
ก็ตั้งรกราก ฮ่าๆ


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
มีโซฟา 1 ตัว มีทีวีที่ไม่ได้เปิดดูเพราะรีโมทใช้ไม่ได้+กับขี้เกียจดูด้วยเพราะเอาโน๊ตบุคมากันคนละเครื่องเลย

ปลั๊กไฟที่นี่ไม่เหมือนบ้านเราเพราะฉะนั้นต้องใช้ Adapter ค่ะ ถ้าไม่ได้เอามาก็ไม่เป็นไรเพราะไม่ไกลจากที่พักมีขายอยู่ 14RM ถามว่าทำไมรู้ดีล่ะ ก็เพราะนี่ไปซื้อมาไงล่ะคะ ฮ่าๆๆๆ


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
มีที่แขวนผ้าพร้อมไม้แขวน 2 อัน


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
ห้องน้ำเล็กๆ เป็นเรนชาวเวอร์


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
จะเข้าตรงส่วนของล็อบบี้เนี่ยต้องถอดรองเท้าไว้ข้างนอกนะจ๊ะ


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี

ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
มื้อแรกที่ปีนังก็หาอะไรทานแบบง่ายๆใกล้ๆที่พัก เดินไปแปปเดียวก็เจอเลย ลักษณะร้านเหมือนมีคนไทย ก็ ณ ตอนนั้นขออะไรก็ได้ให้อิ่มท้องและทานได้หน่อย ก็เลยสั่งข้าวราดปลาเปรี้ยวหวานกับข้าวหมูแดง รสชาติอร่อยดีค่ะ ราคาอาหารก็ไม่แพงเท่าไหร่ จานละประมาณ 7RM จากนั้นก็เดินเล่นใกล้ๆนิดหน่อยแล้วก็ขึ้นไปจัดของบนห้องจะได้รู้ว่าต้องไปซื้ออะไรหรือป่าว ลืมเอาอะไรมามั้ย แต่จะลงมาซื้อเมื่อไหร่ก็ได้เพราะ 7-11 อยู่ใกล้มาก อิอิ


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี

ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี

ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
จากที่เพิ่งทานข้าวเย็นไปตอน 2 ทุ่มครึ่งก็เริ่มหิวตอน 4 ทุ่มละ และติดกับที่พักเลยก็มีร้านอาหารชื่อร้าน Andrew's Kampung ซึ่งมีแต่ฝรั่งทั้งนั้นเลยมานั่งทาน ก็เลยสั่งมาทานหนึ่งจานแบบเบาๆ "Fried Bee-hoon" เส้นหมี่เหมือนที่บ้านจ๊ะจ๋าเลยค่ะ (ภูเก็ต) อาหารที่ร้านนี้ทำอร่อยถูกปากมาก เป็นเส้นบีหุ้นผัดใส่ไก่ทอดชิ้นเล็กๆผัดกับซอสปรุงรสสูตรของเค้าออกรสหวานๆเผ็ดๆ ผักนี่อย่าเรียกว่ามีเลยดีกว่าเหมือนเอาไว้แค่ประดับ แต่รสชาติเด็ดเลย แต่แอบไม่ชอบตรงที่น้ำมันเยิ้มไปหน่อย จานนี้ 9RM ค่ะ


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี

วันแรกที่มาถึงนี่ไม่ได้เที่ยวเลย ได้แค่สำรวจบริเวณรอบๆที่พักเท่านั้นเนอะ เพราะเดินทางก็เหนื่อยละ แล้วเวลาก็เร็วกว่าไทยไป 1 ชั่วโมงอีก


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
ในรูปคือจะเห็นตึกสีเหลืองอ่อนนั่นคือตึกที่จ๊ะจ๋าพักอยู่ค่ะ ที่พักอยู่ด้านในตึกนั้น ข้างล่างมี KFC, ร้านสปา, ร้านอาหาร, 7-11, ฯลฯ เดินข้ามถนนมาก็เป็นป้ายรถเมล์เลย

วันที่ 2 และวันที่ 3 ช่วงเช้า จ๊ะจ๋ามีธุระก็เลยไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลยค่ะ ได้ออกมาผจญภัยก็วันที่ 3 ตอนบ่ายละ
ก็เลยจะนั่งรถเข้าไป George Town ซะหน่อย

คนปีนังจะมีมุสลิม อินเดียแล้วก็จีน คือในแต่ละโซนที่อยู่อาศัยเนี่ยก็ค่อยข้างจะชัดเจนอยู่นะ อย่างตรง Batu Ferringhi อ่ะค่ะ เป็นมุสลิมเสียส่วนใหญ่เลย ไม่เจอคนจีนแถวนี้ มีแต่มุสลิมและอินเดีย อาหารการกินก็จะหาหมูไม่ได้เลย จะมีแต่ไก่และเนื้อ

ถ้าอยากจะทานอาหารแบบอร่อยๆจีนๆหน่อยต้องเข้าไป George Town ค่ะ


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
รถเมล์ที่วิ่งมาแถว Batu Ferringhi จะเป็นเบอร์ 101 และ 102 ซึ่ง 101 จะมาถี่กว่าและคนจะเยอะกว่าค่ะ ถ้าจะไปสนามบินเนี่ยต้องเบอร์ 102 นะ


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
การขึ้นรถเมล์ที่นี่ต้องขึ้นจากทางด้านหน้า เตรียมเงินให้พร้อม ขึ้นไปก็บอกคนขับว่าเราจะไปที่ไหนแล้วเค้าก็จะฉีกตั๋วให้ เราก็หย่อนเงินลงไปในตู้ ซึ่งตู้นั้นไม่มีการทอนเงินนะจ๊ะ ถ้ามีไม่พอดีก็จ่ายเพิ่มไปแต่ไม่ให้ขาด

จ๊ะจ๋าขึ้นจาก Batu Ferringhi ไปยัง George Town ค่าโดยสารคนละ 2.70RM ค่ะ แต่ถ้าเรียกแท็กซี่ไปล่ะก็ 50RM ค่ะ

อยู่ไทยก็ไม่ขึ้นรถเมล์แต่มานี่ต้องขึ้นจ้า แทบจะไม่ได้นั่งเลย บอกเลยว่ายืนยาวๆเป็นเวลาชั่วโมงกว่าๆจนถึงที่หมายเลย ตอนแรกๆก็ดี๊ด๊าอยู่แค่ป้ายสองป้าย หลังจากนั้นคนเต็มรถเลย แล้วอินเดียอ่ะคือกลิ่นตัวเค้าเหม็น T^T นี่ก็ยืนติดกระจกแดดส่องแสบผิวสุดๆ กลิ่นก็ไม่บริสุทธิ์ โอยยยย


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
ใกล้ถึง George Town ละ เริ่มคึกคักกว่าฝั่งบาตู แต่ก็ไม่คึกคักนะเอาจริงเพราะว่าดันมาวันอาทิตย์ ที่นี่ร้านค้าเค้าปิดวันอาทิตย์กันซะเกือบหมดเลยค่ะ


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
เห็นป้ายแดงๆนั่นมั้ยคะ คือเครือข่ายซิมการ์ดที่จ๊ะจ๋าซื้อมาจากที่สนามบิน 26RM บอกเลยว่าห่วยแตกมาก สัญญาณเน่า เน็ตสุดจะห่วย คือไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนไปต่อคิวซื้อซิมสีเหลืองกัน จำไว้นะถ้ามาที่นี่ต้องเลือกเครือข่ายสีเหลืองนะคะ ชื่อ Digi


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
และแล้วก็มาถึงป้าย George Town ก็ลงเดินแบบมั่วๆชมเมืองไปเรื่อยเลยค่ะ แต่ว่าก็เริ่มหิวนิดๆแล้วค่ะ


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
เดินจากป้ายรถเมล์ตรงมาไม่ไกลจะเจอร้านนี้ คือไม่คิดอะไรมาก เดินเข้าไปเลย


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
สั่ง "Char Koay Teow" (ชาก๋วยเตี๋ยว)
อารมณ์เหมือนผัดซีอิ๊วบ้านเรา ซึ่งร้านนี้ผัดอร่อยมากกกกกกก แนะนำเลยค่ะ เพราะทริปนี้จ๊ะจ๋าไม่ได้ทานชาก๋วยเตี๋ยวแค่ร้านนี้ร้านเดียว แต่ร้านนี้ตราตรึงใจมากบอกเลย ถ้ามาแล้วจะไม่ผิดหวัง


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
ตึก Komtar เป็นห้างที่ใหญ่และเหมือนเป็นใจกลางของ George Town เลยก็ว่าได้ ถัดจากตึกนี้ไปก็จะมีห้างชื่อ Prankin Mall จะเป็นท่ารถเลยค่ะ มีรถบัสเข้าไปจอดรับแทบจะทุกสายเลยก็ว่าได้ แล้วก็มีคิวรถทัวร์ที่จะเดินทางไปยังหาดใหญ่, กัวลาลัมเปอร์, สิงคโปร์ ฯลฯ

ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
อย่าถามว่าที่นี่ที่ไหน คือเดินแบบไม่สนใจจุดหมาย เน้นดูบ้านเมืองค่ะ (หลงแบบมีฟอร์ม)


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
เนื่องจากแถวที่จ๊ะจ๋าพักอยู่นั้นเห็นเป็นมุสลิมกันเยอะ เลยไม่ค่อยกล้าแต่งตัวโป๊เท่าไหร่ นี่เลยจัดกางเกงขายาวแล้วใส่เสื้อคลุมด้วย ก็รู้สึกว่าตัดสินใจถูกมากที่ทำอย่างนั้นเพราะว่าแดดที่นี่แรงจริงๆค่ะ ไม่ต้องสนว่าคนจะมองว่าโป๊ไม่โป๊ละ ขอให้ตัวเองผิวไม่เสีย ผิวไม่คล้ำก็พอ


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
และแล้วเราก็เดินมาเจอภาพวาดบนกำแพง 1 ลวดลายที่ดังในย่าน Street Art แต่พอหลังจากนี้ก็หาภาพอื่นไม่เจอเลย ฮ่าๆๆ คือเค้าไม่ได้อยู่ติดๆกัน ต้องเดินๆตามซอกซอยไปแล้วก็จะเจอ คือนี่ก็เดินมั่วๆจนไปเจอ


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี

แล้วก็เดินมั่วมากๆจนมาเจอที่นี่เช่นกัน


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
Camera Museum หรือพิพิธภัณฑ์กล้องนั่นเอง ค่าเข้าคนละ 20RM นะคะ
ณ ตอนนั้นคืออยากได้ห้องแอร์มากเพราะเหงื่อออกแบบไม่ไหวแล้ว แล้วก็จ่ายเงินเข้าไปตากแอร์ค่ะ รู้สึกค่าแอร์จะแพงไปนะ ฮ่าๆ


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
มาแล้วก็ต้องถ่ายรูปเอาคุ้มนะ ค่าเข้าคนละประมาณ 200 บาทแน่ะ


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
กล้องนี่เหมือนเคยเห็นในสตูดิโอโบราณๆ


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
ขึ้นมาชั้น 2 ก็จะเป็นส่วนที่เก็บกล้องไว้มากมาย ตั้งแต่กล้องผลิตออกมาแรกๆเลยก็ว่าได้ ก็เดินชมกล้องกันพร้อมอู้หูอู้หากันไป เพราะอึ้งในความสามารถแบกกล้องของคนสมัยก่อน กล้องตัวใหญ่มากและคาดว่าน้ำหนักไม่เบาเลยค่ะ


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
ก็จะมีที่จับต้องได้ ลองถือมาแล้วคือหนักหมดเลย


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
พอมาเจอรูปนี้บอกเลยว่าแอบหลอน รูปคนอุ้มเด็กแต่คลุมผ้าไว้ ไม่ใช่ว่าลัทธิอะไรแปลกๆหรอกนะคะ แต่ว่านี่คือการจะถ่ายรูปเด็กของคนสมัยก่อนค่ะ เนื่องจากเด็กเนี่ยเค้าจะอยู่ไม่นิ่ง แล้วกล้องเมื่อก่อนก็ไม่ได้ลั่นชัตเตอร์ได้ไวเหมือนปัจจุบัน มันจะใช้เวลาอยู่ แล้วจะต้องอยู่นิ่งๆจริงๆ เค้าจึงใช้ผ้ามาคลุมผู้ปกครองที่อุ้มเด็กไว้ก็เท่านั้นเองค่ะ


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี

แชะ แชะ!!


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
พอออกจากห้องโชว์กล้องถ่ายรูปมาก็จะเป็นทางเดินที่มีแผ่นป้ายแปะผนังว่ากล้องนี่เริ่มต้นมาตั้งแต่ตอนไหนมาจากใคร


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี

แผ่นฟิล์มสมัยก่อน สวยดีเนอะ


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
ห้องล้างฟิล์ม บอกเลยว่าหลอนมาก ตอนแรกไม่กล้าเข้านะ แต่ก็อยากรู้ ก็เข้ากันไปแบบหลอนๆ แล้วก็ถ่ายรูปมารูปเดียวที่หลอนมากด้วย ฮ่าๆๆๆๆ


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
คือไม่รู้จะโพสท่าอะไร แต่ก็ไม่เข้าใจตัวเองว่าขำแปรง?


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
เดินลงมาด้านล่างเค้าก็มีร้านขายของที่ระลึกแล้วก็ร้านกาแฟ ขายขนมเค้กด้วย เผื่ออยากจะฮิปสเตอร์ก็โออยู่

แล้วเราก็ออกมาเดินตากแดดกันต่อ บ้านเมืองในโซนนี้เนี่ยบอกเลยว่าเหมือนแฝดเมืองเก่าภูเก็ตชัดๆ เป็นตึกชิโนโปรตุกีส
มีวัดจีนด้วย แต่ไม่ได้เข้าไปค่ะ


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
แล้วก็เจอข้างกำแพงอีกหนึ่ง ก็โพสท่าตามหน่อย


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
เดินๆมาก็มาออกถนนอะไรไม่รู้แล้วเจอร้านอาหารคนจีนมีหลายอย่างดีก็เลยแวะเข้ามาค่ะ
สั่ง Bak Kut Teh ไปก็ได้มาเป็นชุดพร้อมข้าวและปาท่องโก๋เลย


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
บักกุดเต๋อร่อย รสชาติดี


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
จ๊ะจ๋าสั่ง Wantan Mee เหมือนบะหมี่น้ำที่ภูเก็ตเลย คือใช่เลย คิดถึงบ้านอีกแล้ว ฮ่าๆ ที่นี่เค้าไม่มีเครื่องปรุง พริกป่น น้ำปลาอะไรเหมือนบ้านเรานะคะ ก็ทานแบบนี้ล่ะ ถ้าจนชอบรสจัดก็อาจจะไม่ถูกใจ

ระหว่างที่นั่งทานอยู่ก็มีคุณยายโต๊ะข้างๆเค้าก็มองมาแล้วก็ยิ้มให้พร้อมพูดภาษาจีนมารัวเลย นี่ก็งงได้แต่ยิ้มแห้งๆ พอยายเค้าทานเสร็จกำลังจะออกจากร้าน นางก็มายืนใกล้เลยค่าาา แล้วก็พูดจีนใส่รัวเลย หน้าตายิ้มแย้ม แต่ไม่รู้เลยสักนิดว่าเค้าพูดว่าอะไร แล้วคือไม่ใช่แค่ประโยคสองประโยคนะ นางพูดยาวเป็นนาทีเลย พอนางเดินไป โต๊ะข้างๆที่เป็นครอบครัวคนจีนก็หันมามองจ๊ะจ๋าหมดเลยแบบว่าทำหน้าเหมือนอยากรู้อยากเห็นอะไรสักอย่าง นี่งงว่ายายพูดอะไร ก็เลยรีบทานแล้วรีบไปเลยค่ะ


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
เพิ่งทานหมี่มาอิ่มๆก็เดินมาเจอร้านนี้ "Ban Heang"
เหมือนจะเป็นร้านขายขนมพื้นเมืองเค้านะคะ ทั้งๆที่จ๊ะจ๋าเพิ่งจะอิ่มแต่เห็นขนมนี่ไม่ได้เลย ก็เข้าร้านทันทีเลยค่ะ


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
หน้าร้านก็มีเหมือนซาลาเปาทอด ขนมเปี๊ยะที่เหมือนเต้าซ้อเลย มีขนมจีบสังขยา คือหน้าตาคุ้นเคยเหมือนที่ทานที่ภูเก็ตบ่อยๆ ฮ่าๆ


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
ผลิตภัณฑ์เค้าทำดูดีอ่ะค่ะ กล่องสวยมาก ราคาไม่แพงมาก แล้วชิมได้หมดเลย นีก็เดินชิมเลยค่ะ ยกเว้นพวกทุเรียนก็จะข้ามไป ส่วนใหญ่ขนมที่เจอเนี่ยก็อย่างที่บอกนะว่าเหมือนขนมพื้นเมืองภูเก็ตเลย แล้วรสชาติก็อร่อยด้วยค่ะ

ถ้าจะซื้อพวกขนมของฝาก จ๊ะจ๋าแนะนำร้านนี้ค่ะ ร้านนี้เค้าไม่ได้มีแค่ร้านเดียวนะ เหมือนเค้าจะเป็นร้านดังเลยล่ะ ในห้างก็มีสาขาย่อย ที่สนามบินก็มีเช่นกัน


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
กาแฟที่ขึ้นชื่อของที่นี่ค่ะ แต่จ๊ะจ๋าไปซื้อ White Coffee ที่ Chocolate Museum มา รู้สึกว่ารสชาติจะอร่อยกว่าที่นี่นะ
ราคาก็จะแพงกว่าหน่อย


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
และแน่นอนว่าเมื่อเห็นเมนูนี้แล้วไม่มีทางพลาดแน่นอน จ๊ะจ๋าชอบทานขนมมากค่ะ


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
ซื้อมาอย่างละลูกคืออยากลองว่าอร่อยมั้ย ทั้งๆที่เพิ่งทานหมี่ไปเมื่อ 10 นาทีก่อนเองนะ


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
ซื้อซาลาเปาทอดไส้หมูแดงมา 1 ชิ้น อร่อยมากกกกกกกก อยากจะซื้อกลับไปเป็นสิบลูกเลยให้ตายเถอะ แต่กลัวอยู่ได้ไม่นาน พัฟใส่ไก่ก็อร่อยมากกกกก ทาร์ตไข่เฉยๆค่ะ ส่วนพายมะพร้าวก็อร่อย เป็น Best Seller เลยค่ะ

แล้วจ๊ะจ๋าก็เดินเล่นต่อแค่แปปเดียวก็ไปขึ้นรถบัสกลับที่พักแล้วค่ะ เพราะนี่ก็ไม่รู้ว่ารถหมดกี่โมง ก็เพิ่งนึกได้ว่าทำไมไม่ถามเค้าเนอะ จะได้เดินเล่นต่อ จากในรูปนี่คือประมาณ 1 ทุ่มแล้วค่ะ แดดยังคงสะท้านอยู่เลย


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
กลับมาถึงที่พักก็เดินเล่นแถว Night Bazaar ติดหาด แล้วก็สุ่มเข้าไปทานอาหารริมทะเลสักร้าน

ดันสุ่มผิดไปหน่อย ร้านนี้เน้นอาหารปากีสถาน มีซีฟู้ดและอาหารอินเดีย คือแบบชิลๆ ก็สั่งมาทานคนละจาน (ตอน 3 ทุ่มครึ่ง) พร้อมกับดื่มเบียร์และจิบไวน์ มื้อค่ำนี่ตั้งใจว่าจะหาร้านอาหารที่แบบหรูๆแพงๆทานก่อนกลับ แต่นี่ก็ไม่แพงมาก ทานไปทั้งหมด 107RM เท่านั้น คือพันกว่าบาท


แล้วก็มาถึงวันสุดท้ายแล้วค่าาา ตื่น 8 โมงแล้วแล้วเช็คเอาท์ออกจากที่พัก 10 โมง เพื่อที่จะมีเวลาแวะไปจอร์ชทาวน์เล็กน้อย อาหารเช้าก็ไม่ได้ทานเช่นเคย มื้อเช้าวันแรกกับวันที่สองนี่ทานที่ Starbucks ตลอดเลย วันสุดท้ายนี่ล่ะที่จะทานอาหารพื้นเมืองให้ได้ และแน่นอนว่าไม่ขอทานอาหารมุสลิมแล้ว

ก็เอากระเป๋าขึ้นรถบัสไปจอร์ชทาวน์เลย แล้วคนแบบเต็มคันรถ ไม่มีที่นั่ง กระเป๋าก็ใบใหญ่ ทุลักทุเลมาก แต่มีฝรั่งใจดีที่เค้านั่งอยู่ เค้าอาสาเอาขาหนีบกระเป๋าไม่ให้ไหลไปมาให้ เพราะว่ามันจับไม่ทันจริงๆค่ะ มือต้องจับที่จับไว้ ไม่งั้นเซล้มแน่ ขนาดว่าจับยังเซจะล้มเลยค่ะ


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
แล้วระหว่างทางที่จะถึง George Town ก็เหลือบไปเห็นร้านนี้ ร้านใหญ่เชียวแล้วคนก็ทานเยอะด้วย ก็เลยลงจากรถบัสแล้วเดินย้อนกลับมาค่ะ ประมาณ 500-600 เมตรได้

ชื่อร้าน "Restoran Zim sum" คือดูจากโหงวเฮ้งแล้วต้องอร่อยแน่ๆ และจ๊ะจ๋าก็ทานติ่มซำเป็นอาหารเช้าประจำอยู่ละ ก็เดินเข้ามาในร้าน พนักงานก็จะพาไปที่โต๊ะ จากนั้นก็เดินลุกไปหยิบจานที่เราอยากทานได้เลยค่ะ


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี

ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี

ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
คือมีเยอะมาก มีในตู้อีกเพียบแต่ไม่ได้ถ่ายมาเพราะคนเยอะแล้วตอนนั้นก็หิวแล้วด้วย


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
พอนั่งที่โต๊ะเค้าก็จะถามว่ารับชาร้อนมั้ย นี่ก็เอาเพราะต้องดื่มกับชาร้อนอ่ะเนอะ แล้วเค้าก็เอาจาน ช้อน ตะเกียบใส่กะละมังมาให้เลย ใส่น้ำร้อนมาค่ะ เพื่อความสะอาดงี้


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
นี่หมายเลขโต๊ะค่ะ เวลาเราทานเสร็จก็ค่อยเรียกพนักงานมาคิดเงินแล้วนำบิลไปจ่ายที่เคาน์เตอร์หน้าร้านค่ะ


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี

ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
ติ่มซำอร่อยหมดทุกอย่าง

"Restoran Zim sum"เป็นร้านที่จ๊ะจ๋า Recommended เลยค่ะ ถ้ามาปีนังอยากจะให้มาลองทานร้านนี้จริงๆ อร๊อยอร่อยและราคาไม่แพงด้วย มือเช้าประมาณ 10 กว่าริงกิตเท่านั้น


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
เมื่ออิ่มแล้วก็เดินไปหาป้ายรถบัสฟรี คือเวลาเหลือน้อยแล้ว ไม่สามารถเดินเล่นในเมืองได้ค่ะ เดี๋ยวจะไปสนามบินไม่ทันก็เลยไปยืนรอที่ป้ายบัส รอดูคันที่มีป้ายแปะทีหน้ารถว่า Free Shuttle Bus แล้วก็ขึ้นไปเลยค่า ที่นั่งว่างเพียบ นี่ก็นั่งชมรอบเมือง คือรู้สึกเสียดายว่าทำไมเมื่อวานไม่นั่งรถชมรอบๆนะ พลาดอะไรไปตั้งเยอะแยะแน่ะ แต่ยังดีนะที่สุดท้ายแล้วก็ยังได้นั่งชมเมือง

แล้วรถก็ไปหยุดที่ท่ารถติดกับท่าเรือเลย ก็เลยออกมายืนรอข้างหน้าแล้วใช้ App Uber เรียกแท็กซี่มารับไปสนามบินค่ะ ถ้าจะนั่งบัสไปก็กลัวว่าจะตกเครื่อง ลองเรียกแล้วราคาไม่แพงเลยค่ะ แนะนำว่าถ้าอยากนั่งแท็กซี่ใช้เรียกผ่าน Uber เลยค่ะ อย่าไปโบกแท็กซี่ตามท้องถนนเพราะเค้าไม่มีมิเตอร์

พอไปถึงสนามบินก็แวะทานชาก๋วยเตี๋ยวอีกร้าน คือร้านนี้ไม่ถูกปากอ่ะค่ะ แต่ร้านนี้เน้นใส่หอยเยอะนะ

จากนั้นก็เดินเลือกซื้อของฝากอีกนิดหน่อย


ไป ปีนัง ซื้อ อะไร ดี
นี่คือขนมและของฝากที่ซื้อกลับมา ที่เป็นกาแฟนั้นคือของฝาก ส่วนขนมจ๊ะจ๋าทานเองหมดเลยค่ะ ฮ่าๆๆๆ

ซึ่งตอนนี้หมดไปหลายอย่างละ เป็นคนที่ชอบทานขนมอ่ะเนอะ แล้วดันอร่อยอีก

ทริปนี้ก็ใช้เงินไปไม่มาก คือใช้แบบไม่เซฟเลยนะคะ เข้าสตาบัคบ่อยมาก แต่อาจจะเป็นเพราะไม่มีแหล่งให้ช็อปปิ้งอะไรเลยนอกจากขนมก็เลยหมดไปไม่เยอะ แลกเงินไป 1,150RM (ประมาณ 10,000 บาท) เหลือกลับมา 400RM แน่ะ

ค่าตั๋วเครื่องบินไม่ได้จองไป-กลับทีเดียวก็เลยแพงหน่อย ค่าตั๋ว 2 คนก็หมื่นกว่าบาท ตกคนละเกือบ 6,000 บาท

คนมาเลย์ชอบซื้ออะไรในไทย

ของฝากที่คนมาเลเซียชื่นชอบ ได้แก่ ยาหม่องน้ำเซียงเพียวอิ๊ว แป้งตรางู ยาสีฟันเทพไท เหล่านี้ คือ local product ที่นักท่องเที่ยวเคยใช้มาแล้วติดใจก็กลับมาซื้อซ้ำอีก

เที่ยวปีนังช่วงไหนดีที่สุด

3. ไป เที่ยวปีนัง ช่วงไหนดีที่สุด จะบอกว่าดีมากๆ ที่เราสามารถท่อง เที่ยวปีนัง ได้ตลอดทั้งปีเลยค่ะ ภูมิอากาศโดยรวมคือ ร้อน และ ชื้น(มาก) มีฝนตกตลอดทั้งปีค่ะ โดยฤดูฝน เริ่มตั้งแต่ เดือนเมษายน – กันยายน ส่วนเดือนตุลาคมนั้น อาจสามารถเจอหางฤดูฝนได้ (ไม่ได้ตกทุกวัน) โดยที่ปีนังสามารถมีฝนตกได้ตลอดปีค่ะ

ไปปีนังต้องกินอะไร

กินไรดี...
CHENDUL – แชนเดิล (3.5 RM) ... .
LOK LOK – ลวกลวก (5.6 RM) ... .
ICE BALL – น้ำแข็งไส (1.7 RM) ... .
ASSAM LAKSA – อาซัม ลักซา (4.8 RM) ... .
PUFF DURIAN – พัฟทุเรียน ร้าน Taste Better (3 ชิ้น 5.7 RM) ... .
CHEE CHEONG FUN ( 5 RM ) ... .
ROJAK – โรจ๊ะก์ ... .
SATAY – สะเต๊ะ ( 12 RM).

ไปปีนัง ต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง

การเตรียมตัวก่อนไปเที่ยวปีนัง มาเลเซีย.
พาสปอร์ตที่มีอายุใช้งานคงเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน.
วัคซีนพาสปอร์ต ... .
ไม่ต้องมีประกันโควิด.
แลกเงิน ... .
ภาษา ... .
เสื้อผ้าชุดแต่งกาย ... .
เวลาที่มาเลเซียจะเร็วกว่าบ้านเรา 1 ชั่วโมงค่ะ.