Show สังคมอยุธยา เป็นสังคมที่เต็มไปด้วยชนชั้น นับตั้งแต่การแบ่งแยกชนชั้นอย่างเด็ดขาด ระหว่างกษัตริย์กับราษฎรแล้ว พระบรมวงศานุวงศ์ ก็มีอันดับสูงต่ำลดหลั่นกันเป็นชั้นๆ ในหมู่ราษฎร ก็มีการแบ่งชนชั้นกันเป็นชนชั้นผู้ดีกับชนชั้นไพร่ ในหมู่ข้าราชการก็มี ศักดินาเป็นตัวกำหนดความสูงต่ำของข้าราชการในชนชั้นต่างๆ ซึ่งชนชั้นต่างๆ เหล่านี้ จะก่อให้เกิดมีสิทธิในสังคมอยุธยาขึ้นแตกต่างกันด้วย ชนชั้นสูงสุดในสมัยอยุธยาคือพระบรมวงศานุวงศ์ ส่วนข้าราชการหรือขุนนางนั้น ก็แบ่งเป็นชั้นๆ ลดหลั่นกันไปตามลักษณะหน้า ที่และความรับผิดชอบ พร้อมกับตำแหน่งหน้าที่แล้ว ราชการสมัยอยุธยายังมีศักดินาซึ่งมากน้อยตามตำแหน่งหน้าที่ ระบบศักดินานี้เป็น ระบอบของสังคมอยุธยาโดยแท้ เพราะศักดินานั้น ทุกคนต้องมีตั้งแต่ขุนนางชั้นผู้ใหญ่ พระบรมวงศานุวงศ์ลงไปจนถึงข้าราชการชั้นผู้น้อย และประชาชนธรรมดา จำนวนลดหลั่นลงไป ที่มาภาพ : http://konchopkid.blogspot.com/2013/ ทรงมีฐานะเป็นสมมติเทพ (ไทยได้รับแนวความคิดนี้ มาจากคติความเชื่อของศาสนาพราหมณ์ ทรงเป็นประมุขของประเทศ มีอำนาจสูงสุดในการปกครอง ทรงมีพระราชอำนาจในฐานะเป็นเจ้าชีวิตและเจ้าแผ่นดิน ทรงเป็นผู้อุปถัมภ์พระพุทธศาสนา 2. พระบรมวงศานุวงศ์ หรือเจ้านาย คือเชื้อพระวงศ์ของพระมหากษัตริย์ มีฐานะรองจากพระมหากษัตริย์ อำนาจจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับตำแหน่ง หน้าที่การงานกับความโปรดปรานของพระมหากษัตริย์ ยศของเจ้านายแบ่งได้เป็น สกุลยศ เป็นยศที่ได้รับมาตั้งแต่เกิด สืบเชื้อสายจากพระมหากษัตริย์โดยตรง มีลำดับชั้นดังนี้ เจ้าฟ้า พระองค์เจ้า หม่อมเจ้า อิสริยยศ เป็นยศที่ได้รับพระราชทานจากการได้รับราชการ เช่น พระราเมศวร พระบรมราชา เป็นต้น ยศที่ได้รับอาจมีการเลื่อนขั้นหรือลดขั้นได้แล้วแต่ความผิดที่ได้กระทำลงไปหรือความชอบ ที่ได้รับ แต่มิได้สืบทอดยศที่ได้นั้นไปถึงลูกหลาน สิทธิตามกฏหมายของเจ้านายนั้น เช่น สามารถได้รับส่วนแบ่งรายได้จากภาษีอากรของแผ่นดินจะถูกพิจารณาคดีความได้ภายใน ศาลของกรมวังเท่านั้น และจะนำไปขายเป็นทาสไม่ได้ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้มีการสถาปนาเจ้านายให้ทรงกรมมีตำแหน่งกรมพระราชวังบวรสถานมงคลเป็นตำแหน่ง ที่สำคัญที่สุดในตำแหน่งของเจ้านายทั้งหมดจะตั้งให้กับพระราชโอรสผู้หนึ่งผู้ใด เพื่อแสดงว่า ผู้นั้นสมควรจะได้ครองแผ่นดินเป็นกษัตริย์ต่อไป3. ขุนนาง มีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือพระเจ้าแผ่นดิน ในการปกครองประเทศ โดยพระเจ้าแผ่นดินพระราชทานศักดินา ให้เป็นเครื่องตอบแทนอำนาจ และฐานะของขุนนาง มีดังนี้ 1. ขุนนางเป็นชนชั้นที่มีอำนาจมากทั้งในด้านการปกครองและการควบคุมพลเมือง 2. ในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ทรงออกกฎหมายศักดินา จัดทำเนียบขันนาง ข้าราชการ ซึ่งประกอบด้วย ตำแหน่ง ยศ ราชทินนาม 3. ขุนนางที่มีไพร่พลมาก จะเป็นฐานแห่งกำลังและอำนาจที่สำคัญปัญหาความขัดแย้งในกลุ่มขุนนางและเจ้านายจึงเกิดขึ้นบ่อยครั้ง https://www.gotoknow.org/posts/431413
ข้อใดเป็นรูปแบบการปกครองในสมัยกรุงสุโขทัยการปกครองสมัยสุโขทัยเป็นการปกครองที่พระมหากษัตริย์เป็นผู้มีอานาจสูงสุดใน การปกครอง การปกครองสมัยสุโขทัยตอนต้นมีลักษณะเป็นระบบครอบครัว ผู้นามีฐานะ เป็นพ่อขุน มีความใกล้ชิดกับประชาชนเปรียบเสมือนบิดาของประชาชน ต่อมาหลังสิ้น รัชกาลพ่อขุนรามคาแหงมหาราช ความสัมพันธ์ระหว่างพระมหากษัตริย์กับประชาชนเริ่ม ห่างเหินไป เพราะพระราช ...
รูปแบบการปกครองในสมัยสุโขทัยตอนต้นคือรูปแบบการปกครองใดแบบปิตุราชาธิปไตย ในระยะแรกสุโขทัยมีการปกครองแบบพ่อปกครองลูก เรียกพระมหากษัตริย์ว่า "พ่อขุน" ซึ่งเปรียบเสมือนพ่อที่จะต้องดูแลคุ้มครองลูก ในสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช โปรดให้สร้างกระดิ่งแขวนไว้ที่หน้าประตูพระราชวัง เมื่อประชาชนมีเรื่องเดือดร้อนก็ให้ไปสั่นกระดิ่งร้องเรียน พระองค์ก็จะเสด็จมารับเรื่องราวร้องทุกข์ และโปรดให้ ...
การปกครองแบบธรรมราชาเกิดขึ้นในสมัยใดธรรมราชา เริ่มขึ้นในสมัยพระมหาธรรมราชที่ 1 (พระยาลิไท) พระมหากษัตริย์จะทรงตั้งมั่นอยู่ในทศพิธราชธรรม การ ปกครองแบบธรรมราชานี้ถูกนํามาใช้จนประทั่งสิ้นสุดสมัยสุโขทัย
รูปแบบการปกครองในสมัยสุโขทัยมีกี่รูปแบบมีลักษณะสาคัญ 4 ประการ คือ 1.รูปแบบราชาธิปไตย 2. รูปแบบบิดาปกครองบุตร มีคานาหน้าพระนามว่า พ่อขุน 3. ลักษณะลดหลั่นกันลงมาเป็นขั้น ๆ 4. การยึดหลักธรรมในพุทธศาสนาในการบริหารบ้านเมือง 2. การปกครองสมัยสุโขทัยตอนปลาย(พ.ศ. 1841-1981 )
|