boonsirin: ครั้งที่1 เสด็จพระราชดำเนินมาเททองหล่อพระบูชาจำลององค์พระประธานและรูปหล่อรูปเหมือนเจ้าประคุณสมเด็จฯ เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2514 ครั้งที่2 เสด็จพระราชดำเนินมาทรงประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษกและวางศิลาฤกษ์อาคารโรงเรียนพระปริยัติธรรมเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2515 มีพระคณาจารย์ชื่อดังในยุดนั้นทั่วฟ้าเมืองไทย
อาทิเช่น หลวงพ่อเนื่อง หลวงพ่อเต๋ หลวงปู่โต๊ะ หลวงพ่อแพ หลวงปู่เทียม หลวงพ่อเส่ง หลวงพ่อมุม และพระคณาจารย์ชื่อดังอีกกว่าร้อยรูป ร่วมพิธีปลุกเสก - พิมพ์สมเด็จพระประธานฐาน 3 ชั้น (พิมพ์ใหญ่) พิมพ์สมเด็จพระประธานฐาน
3 ชั้น (พิมพ์ใหญ่นิยม) คือ 2.พิมพ์เศียรโต B พิมพ์เศียรโต บล็อค B เป็นอีกหนึ่งในกลุ่มพิมพ์นิยมที่พบเห็นได้น้อย เค้าโครงพิมพ์คล้ายกับพิมพ์เศียรโต บล็อคแรก (ซึ่งเศียรโตทั้ง 2 พิมพ์ ต่างมีต้นแบบเดียวกัน) เพียงแต่พิมพ์เศียรโต บล็อค B จะตื้นกว่ามาก 3.พิมพ์เส้นด้าย ซึ่งเป็นพิมพ์ที่ถัดมาจาก พิมพ์เศียรโต โดยใช้แม่พิมพ์ในการกดเดียวกันแต่ว่าจะมีตำหนิในพิมพ์ตื้นกว่า พิมพ์เศียรโตเนื่องจากแม่พิมพ์เริ่มเกิดการชำรุด
แต่บางองค์อาพบตำหนิของพิมพ์เศียรโตบางจุดได้ แบ่งออกเป็น 4.พิมพ์ไข่ปลาเลือน แบ่งออกเป็น 5.พิมพ์ซุ้มซ้อน 6.พิมพ์ต้อใหญ่ พิมพ์สมเด็จพระประธานฐาน 3 ชั้น (พิมพ์ใหญ่ทั่วไป) คือ พิมพ์รูปเหมือน สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) คือ พิมพ์สมเด็จพระประธานฐาน 3 ชั้น (คะแนน) คือ สร้างแบบวิธีโบราณ
กดพิมพ์และตัดขอบข้างด้วยมือ ทำให้พระแต่ละองค์มีความแตกต่างกันไปบ้าง แม้ว่าจะมาจากบล็อคเดียวกัน ด้านข้างปรากฏรอยตัดข้างจากหน้าไปหลังอย่างชัดเจน ความแตกต่างของมวลสารมากน้อยขึ้นกับการผสมของเนื้อพระในแต่ละครกหรือแต่ละส่วน มวลสารที่ใช้ใจการจัดสร้างประกอบด้วยผงวิเศษจากพระคณาจารย์ต่าง ๆ เกสรดอกไม้ ปูนที่กะเทาะจากพระอุโบสถวัดระฆังโฆษิตาราม พระสมเด็จบางขุนพรหม พระสมเด็จวัดระฆังโฆษิตาราม พระสมเด็จปิลินทน์ที่ชำรุด ผสมกับว่านและปูนเปลือกหอย ธรรมชาติของเนื้อพระมีลักษณะอมน้ำมันเล็กน้อย
ปรากฏรอยปริแยกบริเวณผิวพระให้เห็นเป็นหลุมบ่อมากบ้างน้อยบ้างเนื่องจากการเซตตัวของเนื้อพระ ผิวพระหลายองค์ปรากฏคราบสีน้ำตาลอ่อน ด้านหลังขององค์พระปรากฏตราประทับสีแดง น้ำเงิน เขียว และอมม่วงก็มีครับ รวมแล้วกว่า 10 บล็อคพิมพ์ด้วยกัน สำหรับข้อมูลเชิงลึกในการสร้างพระเนื้อผง รุ่น 100 ปี นั้นมีการบันทึกจากตำราที่มีอยู่เดิมไว้น้อยมาก การศึกษาค้นคว้าสว่นใหญ่มักจะได้จากการเล่าสู่กันฟัง สืบทอดกันมาจากผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไกล้ชิดหลายๆคน แล้วนำเฉพาะข้อมูลที่สอดคล้องกันเท่านั้น มาผนวกกับการเปรียบเทียบจำแนกแยกแม่พิมพ์ที่เป็นสากลนิยม และให้การยอมรับ พระสมเด็จรุ่น 100 ปี แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆคือ กลุ่มพิมพ์มาตรฐานสากลนิยม กับ กลุ่มพิมพ์ทั่วไป และการกดพิมพ์พระนั้น แบ่งเป็น 2 ส่วนเช่นกัน คือ มีทั้งที่กดพิมพ์ภายในวัด และส่วนที่กดเสริมมาจากโรงงาน และเพราะสาเหตุนี้จึงทำให้เกิดกระแสเข้าใจสับสนในเชิงลบ เพราะเข้าใจว่ามีการสร้างเสริม ซึ่งก็จริง แต่พระที่เสริมนั้น เนื่องจากเมื่อทำการกดพิมพ์พระจนครบตามจำนวนแล้ว ยังมีเนื้อผงมวรสารที่ผสมแล้วเหลืออยุ่ส่วนหนึ่ง ในตอนนั้นทางวัดเห็นว่าจำนวนพระที่มีอยู่เดิม ไม่เพียงพอต่อความต้องการของจำนวนผู้ที่สั่งจอง จึงได้สั่งโรงงานให้นำเนือผงที่ยังเหลืออยู่ กดเป็นพิมพ์พระจนหมด แล้วแยกลังต่างหากในวันเข้าพิธี ซึ่งจำนวนพระชุดเสริม ประมาณแบบตร่าวๆ มีราว 4000 องค์ และทางวัดได้นำตรายางมาประทับไว้ที่ด้านหลังองค์พระ บางส่วนได้นำไปบรรจุกล่อง บางส่วนก็ออกให้บูชาเลย ดังนั้นพระสมเด็จรุ่น 100 ปี ทั้งหมดนั้น จึงเป็นพระที่ล้วนแล้วแต่ได้นำเข้าร่วมพิธีพร้อมกันหมด. นี่เป็นบางส่วนที่ผมหยิบยกมาจากหนัง และความรู้ที่ผมได้ศึกษามา ได้มาพิมพ์บอกพี่น้องสมาชิกทุกท่านในบอร์ดนี้ ให้เข้าใจกันครับ เป็นเพียงแค่คำบอกกล่าวเท่านั้น ใครจะเชื่อหรือไม่ แล้วแต่ความคิดครับ ผมศึกามาแบบนี้ เลยออกความคิดเห็นไปแบบนี้ อันนี้แล้วแต่ทุกท่านจะนำไปทบทวนอีกทีนึง ตอนนี้สมเด็นรุ่น 100 ปี ก็มีปลอมกันเยอะ ต้องดูเนื้อ ดูพิมพ์ ดูการตัดขอบ เรียกง่ายๆว่า ต้องดูเหมือนสมเด็จหลักไปแล้ว ต้องส่อง ต้องดูกันให้ละเอียด เก๊เนียน เก๊เทพ มีออกมาแล้ว ระวังกันให้ดีด้วยครับ บางที กล่องแท้ พระไม่แท้ก็ยังมี กล่องแท้ๆ ยังขายกันได้ราคาหลักพัน น่ากลัวมาก pmorn: พระสมเด็จ 100 ปี ราคา 4,000 - 5,500 บาท http://forum.khonkaenlink.info/index.php?topic=17004158.msg12385979#msg12385979 pmorn: พระสมเด็จ 100 ปี ราคา 4,000 - 5,500 บาท http://forum.khonkaenlink.info/index.php?topic=17004158.msg12385979#msg12385979 |